ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทพบุตรร้อยล้าน

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอน 5

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 722
      5
      16 ก.ย. 54

    น้องโทรศัพท์เข้ามือถือตั้งแต่ยังไม่เก้าโมงเช้า สุชนาไม่อยากรับสายนักหรอก แต่ก็ตัดใจทิ้งน้องไม่ลงอยู่ดี

    เที่ยงนี้เจอกันนะพี่ชนา ร้านข้าวข้างโรงเรียน

    มีอะไรนักหนา พี่พักแค่ชั่วโมงเดียวนะ

    น่า ออกมาเจอหน่อย เดี๋ยวสิริเลี้ยงข้าวเองโอเคไหม

    มีอะไรทำไมไม่ไว้ไปพูดกันที่บ้าน

    เย็นนี้ไม่อยู่ จะไปดูหนังกับพี่พุทธ

    งั้นก็รอไว้ก่อน

    ไม่ได้ นภาสิริร้องเสียงดัง สิริจะมาทวง คุณสมบัติผู้ชายในฝัน พี่ชนาเขียนรึยัง

    คนเป็นพี่ได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอา น้องสาวเลยดักคอ

    ยังไม่ได้เขียนใช่ไหม ดีเลย สิรีรู้ว่าเช้านี้พี่ชนามีชั่วโมงว่าง เขียนมาเลย แล้วเที่ยงนี้สิริจะไปเอา

    เฮ้ย นี่เธอจะบ้าหรอ

    ไม่รู้แหละ ถ้าพี่ชนาไม่ยอมเขียน สิรีจะฟ้องคุณยายว่าหมอนัดคิวพี่ชนาไปทำเลสิกให้ตั้งนานแล้ว แต่พี่ชนาไม่ยอมไป

    สุชนายิ้มแหยใส่โทรศัพท์ ใช่ว่าหล่อนกลัวในสิ่งที่น้องสาวขู่ แต่ไม่อยากให้รู้ถึงหูคุณยายเข้าจริงๆ เพราะถ้ารู้ก็หมายถึงกำหนดการทำเลสิกคงจะเลื่อนเข้ามาในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน

    หล่อนเคยชินกับการใส่แว่นตา และไม่คิดว่าจะต้องเอาตัวเองไปเจ็บตัวทำไม ในเมื่อแค่หยิบแว่นตามาใส่หล่อนก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติแล้ว

    ปลายสายเหมือนจะรู้ว่าขู่ได้ถูกจุดถึงได้รีบตัดบท

    เท่านี้นะพี่ชนา แล้วเจอกัน

    หล่อนไม่รู้หรอกว่านภาสิริรู้ได้อย่างไรว่าหล่อนมีชั่วโมงว่างในช่วงเช้าวันนี้ แต่มันควรจะหมดไปกับการตรวจข้อสอบให้เด็กนักเรียนไม่ใช่หรือ...

    คำขู่ของนภาสิริวนเวียนอยู่ในหัวสมองหลายสิบรอบจนคุณครูแทบไม่มีสมาธิจะตรวจข้อสอบขึ้นมา กระดาษคำตอบแผ่นล่าสุดเป็นของเด็กชายเทพไท ซึ่งดูจะมีแววกับวิชาภาษาอังกฤษ แต่กลับอาการหนักในวิชาคณิตศาสตร์อย่างน่าใจหาย

    สุดท้ายหล่อนก็วางปากกาสีแดงลงก่อนจะเปลี่ยนใจหยิบสมุดเปล่าเล่มบางๆ ขึ้นมาแทน

    จะให้เขียนใส่เศษกระดาษอย่างที่นภาสิริแนะหล่อนคงไม่กล้า เกรงว่าใครจะมาเห็นเสียก่อน ทั้งที่ห้องพักครูว่างเปล่านั่นล่ะ

    หล่อนเคาะด้ามปากกาลงบนโต๊ะทำงาน ใช้ความคิดอย่างหนักทั้งที่ไม่น่าจะต้องคิดอะไรให้มากมายเลย

    สุดท้ายก็ค่อยขยับปากกาเขียนลงไปทีละข้อ

    ในเมื่อน้องสาวต้องการให้ทำ หล่อนก็จะทำให้ เขียนไปก็นึกสนุกไปด้วย อยากรู้นักว่านภาสิริได้อ่านแล้วจะว่าอย่างไร...

    ไม่ถึงชั่วโมง รายการ คุณสมบัติของผู้ชายในฝันก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ด้วยนิสัยคุณครูทำให้สุชนาอดไม่ได้ที่จะจัดประเภทแยกหมวดหมู่ให้เสร็จสรรพจะได้อ่านง่ายสบายตา และไม่ช็อกไปเสียก่อน

    หล่อนเขียนไปก็หัวเราะ นึกอยากเห็นหน้าน้องสาวตอนที่เห็นรายการในสมุดเล่มนี้จับใจ...

     

    ล้อเล่นกันใช่ไหม นภาสิริถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง นี่มันไม่ตลกเลยนะพี่ชนา

    แล้วเธอเห็นพี่ขำรึไง หล่อนย้อนถามน้องทั้งที่ยังอมยิ้มอยู่

    แกล้งกันชัดๆ เขียนมาได้ยังไงเนี่ย

    คนรู้สึกเหมือนโดนแกล้งโวยวายเสียงดังลั่นจนคนอื่นในร้านหันมามอง แต่นภาสิริไม่ใส่ใจเพราะเอาแต่จ้องหน้าพี่สาวอย่างคาดคั้น

    ไอ้ข้อแรกๆ นี่ก็พอจะเข้าใจอยู่หรอกนะ หล่อ รวย หรู มีรถขับ มีบ้านเป็นของตัวเอง แต่เล่นระบุว่าเป็นรถยุโรปป้ายแดงราคาไม่ต่ำว่าสองล้าน แถมต้องมีบ้านพักตากอากาศริมทะเลอีกนี่สิ เขียนมาได้ยังไง

    อ้าว เธอก็รู้นี่ว่าพี่ชอบเที่ยวทะเล ถ้ามีบ้านพักริมทะเลก็คงจะวิเศษไปเลย

    น้องสาวนิ่วหน้าใส่แทนคำตอบ รู้อยู่หรอกว่าแกล้งเขียน คนอย่างสุชนาเคยสนใจสิ่งเหล่านี้เสียที่ไหน แล้วอยู่ๆ กลับกลายเป็นคุณสมบัติข้อสำคัญขึ้นมาได้อย่างไร

    มีบัตรเครดิตระดับแพลตตินัมไม่ต่ำกว่าสามใบ วงเงินไม่เคยเต็ม ไม่มีหนี้สินแม้แต่บาทเดียว พี่จะบ้ารึเปล่า ขนาดนายแบงธ์ ยังมีหนี้ตัวแดงให้เพียบ

    ใครจะอยากเริ่มต้นชีวิตกับผู้ชายที่มีแต่หนี้สินกันล่ะ

    มันไม่เกินไปหน่อยหรอพี่ชนา จบปริญญาเอกในไทย หรือปริญญาโทจากเมืองนอกเป็นอย่างน้อย แถมยังต้องได้เกียรตินิยมด้วย เฮ้ย มีใบอนุญาตขับเครื่องบิน หรือใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ หรือใบกอวอ นภาสิริอ่านตามโพยทุกตัวอักษรด้วยน้ำเสยงทึ่งจัดก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองพี่สาวอย่างค้นหา

    ตกลงพี่ชนาอยากได้กัปตัน หมอ หรือวิศวกรกันแน่

    แหมพี่อุตส่าห์มีให้เลือกตั้งหลายอย่างแล้วนะ

    อ้อ เยอะมากเลยนะเนี่ย ชายไทยยังโสดในสามอาชีพนี้ มีให้เลือกมากมายจนแทบจะเหยียบกันตายจริงๆ เลย

    สุชนาอยากหัวเราะใจจะขาด แต่ยังต้องตีหน้าเคร่งขรึมใส่น้องสาว ก่อนที่จะเสียความนับถือต่อกันมากไปกว่านี้

    ก็เธอให้พี่เขียนคุณสมบัติของชายในฝันไม่ใช่หรอสิรี พี่ก็เขียนให้แล้วไง

    พี่ชนาแกล้งเขียน ไม่ได้อยากได้แบบนี้จริงๆ ซะหน่อย

    รู้ได้ยังไง หล่อนย้อนทันที ชีวิตพี่ทั้งชีวิตเชียวนะสิรี จะให้เลือกผู้ชายสั่วๆ มาได้ยังไง

    นี่ยิ่งกว่าสวยเลือกได้อีกนะ

    นภาสิริพูดพลางเอานิ้วไล่ไปตามรายการที่พี่สาวจัดมาอย่างคิดหนัก ไล่เรียงที่ละตัวอักษรกันเลยทีเดียว

    นี่อะไร รู้ใจผู้หญิง พูดเก่ง เอาใจเก่ง แต่อีกข้อเขียนว่าไม่เจ้าชู้เนี่ยนะ มันมีด้วยหรอผู้ชายแบบนี้ ผู้ชายที่รู้ใจผู้หญิง เอาใจเก่ง แล้วไม่เจ้าชู้น่ะก็มีแต่กะเทยเท่านั้นล่ะ

    มีผู้หญิงที่ไหนบ้างชอบผู้ชายเจ้าชู้ล่ะสิรี

    สุชนาพยายามให้เหตุผลต่อ ไม่สนใจว่าน้องสาวจะไม่พอใจขนาดไหน

    นิ้วมือเรียวยังไล่บนกระดาษที่ละข้อ ละเอียดยิ่งกว่าตรวจข้อสอบเด็ก ผิดวิสัยคนไม่ชอบหนังสือของนภาสิริลิบลับ

    แล้วนี่ล่ะไม่ขี้หึง แต่จะไปไหนต้องไม่เบื่อจะโทรรายงานตัว เหมือนว่าแต่เขาตัวเองยังทำไม่ได้เลยนะ

    ตกลงเธอจะช่วยพี่หาแฟน รึจะวิจารณ์ พี่กันแน่ หล่อนถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง ทั้งที่ในใจนั้นรู้คำตอบดี

    ใครกันจะมีคุณสมบัติไร้สาระมากมายขนาดนี้ได้ ถ้านภาสิริหาได้จริงหล่อนก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว

    คนวิจารณ์ไม่ตอบ แต่ใช้มือปิดหน้าสมุดลงดังปัง สองตามองพี่สาวอย่างขัดเคืองเป็นที่สุด

    ทำไมพี่ชนาเป็นคนแบบนี้ หล่อนเสียงต่อว่าห้วนจัด ยังจ้องพี่ไม่วางตา ไม่อยากมีแฟน ไม่อยากแต่งงานก็บอกกันดีๆ ก็ได้ ไม่เห็นจะต้องแกล้งกันเลย ใจร้ายที่สุด พี่ชนาไม่อยากให้สิรีแต่งงานใช่ไหม

    สุชนามองน้องสาวอย่างใจเย็น คงเพราะเคยชินกับอารมณ์โกรธของน้องเลยยังพอจะยิ้มออกและตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

    แล้วที่เธอทำอยู่คิดว่าทำถูกแล้วหรอสิรี เธอมากดดันพี่ให้ทำอะไรก็ไม่รู้ ไม่ถามสักคำว่าพี่อยากทำไหม

    อ๋อ ก็เลยต้องเขียนอะไรพวกนี้ขึ้นมาใช่ไหม เป็นความผิดของสิรีอีกใช่ไหม

    คราวนี้เสียงร้องถามกึ่งประชดออกจะสั่นเล็กน้อย ดวงตาที่จ้องมาอย่างเอาเป็นเอาตายก็คล้ายจะมีน้ำตาหล่อเลี้ยง

    นภาสิริเป็นอย่างนี้แทบทุกครั้งเวลาไม่ได้ดั่งอะไรขึ้นมา ต่อมน้ำตาทำงานไวกว่าใคร จนถึงกับบางครั้งป้าทิวายังเปรยบ่อยๆ ว่าน่าจะส่งหลานสาวคนเล็กไปเรียนการละครดูท่าจะก้าวหน้าไม่น้อย

    แต่นภาสิริกลับถือเป็นคำชม...

    สิริผิดหรอพี่ชนา ที่สิรีอยากแต่งงาน สิรีพบคนที่อยากใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตแล้วก็ไม่อยากจะรอ อยากจะลงเอยกับเขา

    พี่ก็ไม่ได้ว่าผิดนี่ คราวนี้พี่สาวกลับเสียงอ่อนเสียเอง

    แล้วทำไมสิรีต้องมาเจอกับอะไรพวกนี้ด้วยล่ะ จะแต่งานก็ไม่ได้ สิรีไม่อยากให้คุณยายโกรธ จะช่วยพี่ชนาหาแฟนก็ไม่ได้ เพราะพี่ชนาไม่ได้อยากมีแฟน แต่อยากได้เทพบุตรสักคนมากกว่า แล้วจะให้สิรีทำยังไงได้อีก ช่วยบอกทีได้ไหม

    นภาสิริถามเสียงสั่นเครือ ดวงตาเริ่มแดงก่ำ แม้จะยังไม่มีหยาดน้ำตาไกลรินเลยแม้สักหยด

    สิรีทำผิดคิดร้ายอะไรนักหนา แค่อยากแต่งงานกับคนที่สิรีรักแค่นี้ยังทำไม่ได้ ทำไมทุกคนถึงใจร้ายกับสิรีอย่างนี้

    พี่สาวเห็นแล้วก็อดใจอ่อนไม่ได้อีกตามเคย หล่อนเอื้อมมือมาจับมือน้องสาวไว้เบาๆ อย่างปลอบประโลม เห็นใจอยู่ไม่น้อยกับสิ่งที่คุณยายยื่นคำขาด แต่ครั้นจะให้หล่อนมีแฟนภายในเวลาอันรวดเร็วเพื่อแก้ปัญหานี้ก็ไม่ใช่ทางออกอยู่ดี

    คิดมากเกินรึเปล่าสิรี ไม่มีใครใจร้ายกับเธอสักคน

    แล้วที่พี่ชนาทำอยู่นี่เรียกอะไร ถ้าไม่ใช่ใจร้ายแล้วอะไร ใจคอพี่จะให้สิรีหาพ่อเทพบุตรใส่พานมาถวายให้ใช่ไหมถึงจะพอใจ

    โธ่สิรี พี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นซะหน่อย

    ไม่ใช่แล้วอะไร พี่ชนาไม่อยากให้สิรีแต่งงาน ใช่สิ พี่ชนาเป็นหลานคนโปรดนี่ คุณยายไม่เคยว่าอะไรพี่ชนาสักคำ

    ไปกันใหญ่แล้วนะ ทำไมเธอถึงพูดแบบนี้

    รึมันไม่จริง ทุกคนพากันกลั่นแกล้งสิรีทั้งนั้น

    สุชนามองหน้าน้องสาวอย่างจดปัญญานึกอยากจะปลอบใจ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยได้อย่างไร สุดท้ายเลยได้แต่จับมือน้องไว้ไม่ยอมปล่อยแล้วอยู่ๆ นภาสิริก็เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้น

    พี่ชนาแน่ใจนะว่าอยากได้พ่อเทพบุตรอย่างที่เขียนมานี่จริงๆ

    หล่อนมองหน้าน้องสาวด้วยอาการงง แต่พอเห็นดวงตาแดงก่ำแล้วก็ไม่รู้จะตอบอย่างไรได้อีก

    ใช่

    งั้นก็แปลว่าถ้าสิรีหาผู้ชายที่มีคุณสมบัติครบทุกข้อทั้งหมดนี่มาได้จริง พี่ชนาจะโอเคกับเขาอย่างแน่นอน

    พี่ไม่รู้ ของแบบนี้คงต้องใช้เวลา... หล่อนพูดไม่ทันน้องสาวก็เอ่ยสวนทันที

    อะไรกัน ไหนว่าไม่ได้แกล้งกันไง นภาสิริโวยวายเสียงดัง ถ้าไม่ได้แกล้งทำไมต้องเสียเวลาคิดอีก

    ก็ได้ หล่อนตอบกลับทันที ถ้าเธอหามาได้ พี่ก็ไม่ขัดข้องจะลองคบหาเป็นแฟนกับเขาดู

    ไม่พอ นภาสิริค้านเสียงแข็ง พี่ชนาเล่นเขียนมาเยอะขนาดนี้ กว่าจะหาได้เลือดตาแทบกระเด็น แค่จะลองเป็นแฟนเองหรอ ถ้าสิรีหาได้ พี่ชนาต้องตกลงแต่งงานกับเขาแล้วไม่ใช่แค่แฟน

    ฟังคำพูดหักคอของน้องสาวแล้วสุชนาชักจะยิ้มไม่ออก ได้แต่ทอดถอนใจ

    ก็พี่ชนาเล่นเขียนมาเป็นร้อยๆ ข้อขนาดนี้ ใครที่ไหนจะไปทำได้กันล่ะ อย่าว่าแต่ผู้ชายหล่อ หรู รวย ที่ไหนเลย แบบนี้ต้องเรียกว่ามิสเตอร์เพอเฟคกาย เทพบุตรจำแลงมาชัดๆ

    ไม่ถึงร้อยข้อซะหน่อย หล่อนแก้ตัวเสียงอ่อน

    นภาสิริเหลือบมองพี่สาวอีกครั้งด้วยหางตา ก่อนจะใช้ปลายนิ้ว เขี่ยหน้ากระดาษให้เปิดออกอีกครั้งราวกับรังเกียจเสียเหลือเกิน

    หล่อนลากนิ้วไปตามหัวข้อต่างๆ และใช้เวลาไม่นานเลยก็นับเสร็จ

    เก้าสิบเก้าข้อ บ้ารึเปล่าเนี่ยหล่อนถามย้ำคำเดิม

    บ้าสิ... หล่อนนึกตอบอยู่ในใจ แต่ใครจะยอมรับออกมากันล่ะ

    ก็ได้ ถ้าพี่ได้พบใครสักคนที่มีคุณสมบัติครบตามที่พี่เขียนจริงๆ พี่สัญญากับสิรีเลยว่าพี่จะไม่มีวันยอมปล่อยให้เขาหลุดมือไปเป็นอันขาด หล่อนยืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ทีนี้เธอคงไม่คิดว่าพี่แกล้งเขียนอะไรเล่นแล้วใช่ไหม

    แน่ใจนะ

    อะไร

    ถ้าเจอผู้ชายอย่างนี้จริงๆ จะยอมแต่งงานกับเขาทันที น้องสาวถามเสียงเป็นจริงเป็นจัง โดยไม่มีเงื่อนไขหรือข้อแม้อะไรทั้งนั้น แล้วก็จะไม่ยื้อเวลาไว้ด้วย

    เจ้าของโพยหางว่าวอยากจะถอนหายใจเสียอีกเฮือก แต่ก็ยอมตอบรับง่ายดาย

    ถ้ามีใครอย่างที่ว่านี่นะ พี่ก็แน่ใจ

    ไม่เปลี่ยนใจทีหลังนะ

    ถ้าเขาอยากแต่งกับพี่นะ หล่อนว่าเสียงกลั้วหัวเราะ

    ใช่

    งั้นก็ชัวร์

    นภาสิริปรายตามองพี่สาวอย่างไม่สบอารมณ์ ดึงมือออกแล้วเสไปยกน้ำขึ้นมาจิบ ก่อนจะพูดต่อหน้าตาเฉย

    ดีนะพี่วรุณเป็นวิศวกร ถือว่าสอบผ่านล่ะ หล่อ รวย มีบ้านมีรถเป็นของตัวเองก็คงพอจะถือว่าสอบผ่านอยู่หรอก ถ้าไม่ใช่รถป้ายแดง ยังไงก็รถยุโรปเหมือนกัน

    นี่เธอว่าอะไรนะ เจ้าของโพยถามอย่างไม่อยากจะเชื่อหู เมื่อไม่กี่วินาทีก่อนนภาสิริยังทำหน้าเหมือนเบื่อคนทั้งโลก น้ำตาจะหยดมิหยดแหล่อยู่เลย มาตอนนี้กลับมุ่งมั่นอย่างประหลาด

    อ้าว ก็พี่วรุณที่เจอวันนั้นจำได้ใช่ไหม เขาเป็นวิศวกร มีบริษัทเป็นของตัวเองด้วย ถึงจะเป็นกิจการครอบครัวก็เถอะ แถมยังมีบ้าน มีรถ แบบนี้ก็ถือว่าสอบผ่านหลายข้อเลยนะ

    นี่เธอจะบอกพี่ว่าเธอจะจับคู่ให้พี่ให้ได้ใช่ไหม

    น้องสาวอมยิ้มไม่ตอบ แต่ย้อนถามเสียงรื่นรมย์

    ไม่รู้พี่วรุณพูดได้สามภาษาอย่างที่พี่ชนาอยากได้ไหม แต่ที่แน่พูดไทยกับอังกฤษได้ ถือว่าสอบผ่านไหมข้อนี้

    เธอนี่มัน หล่อนทำเสียงขึ้นจมูกนึกอยากต่อว่าน้องสาวมากกว่านี้แต่ก็จนปัญญา เธอคิดออกแต่แรกแล้วว่าจะจับคู่ให้พี่กับใคร แต่ยังแกล้งบีบิน้ำตาใส่พี่อีก น่าตีจริงๆ เลย

    โอ๊ยอย่าๆ นภาสิริร้องเสียงร่าเริง แกล้งเอียงตัวหลบฝ่ามือของคุณครูสาว สิรีไม่ใช่เด็กห้องปอห้าทับสองนะ ห้ามตี ไม่งั้นจะฟ้องพี่วรุณ ไม่ยอมดูแลกันให้ดี

    เด็กบ้าเพี้ยนใหญ่แล้ว หล่อนโวยวายบ้าง เอื้อมมือจะตีแขนน้องแต่เจ้าตัวหลบได้ก่อน ไม่เอาพี่ไม่อยากคุยกับเธอแล้ว

    อ๋อ อยากคุยกับพี่วรุณต่อใช่ไหม สิรีเห็นนะคืนนั้นมองกันตาหวานเชื่อมเชียว

    จะบ้าหรอ พี่ไปมองเขาตอนไหน

    ตอนไหนไม่รู้ รู้แต่ว่างานนี้พี่ชนาไม่ต้องห่วง เชื่อมือแม่สื่อคนนี้เถอะ

    หล่อนมองแม่สื่อด้วยหางตา ส่ายหน้าเล็กน้อยอย่างระอา แต่เจ้าตัวไม่ใส่ใจยังคงยิ้มร่ากับแผนการจับคู่จนน่าหมั่นไส้

    นี่เธอจะจับคู่พี่กับเพื่อนแฟนเธอจริงๆ หรอสิรี

    ก็แล้วสิรีมีทางเลือกอื่นอีกหรอ น้องสาวย้อนเสียงขุ่น ไม่รู้แหละ เดี๋ยวเสาร์นี้สิรีจะนัดให้แล้วกัน ไปดูหนังกันเป็นไง น่าสนุกดี มีหนังดังเข้าตั้งหลายเรื่อง

    ฟังโปรแกรมวันหยุดแล้วคุณครูสาวก็แทบสำลักน้ำ ไอโขกใส่น้องอีกหลายหนก่อนจะรีบบอก

    พี่ยังไม่ได้บอกสักคำว่าจะไป

    ถ้าพี่ชนาไม่ไป สิรีจะนัดพี่วรุณไปทานข้าวที่บ้านเราดีไหม จะได้เจอคุณยายด้วยหล่อนบอกด้วยน้ำเสียงรื่นเริง คุณยายต้องชอบแน่ๆ เลยพี่วรุณเข้ากับผู้ใหญ่ได้ดี งานนี้ไฟเขียวผ่านตลอด

    สิรี... หล่อนเรียกชื่อน้องลากเสียงยาวยืด แต่เจ้าของชื่อกลับไม่สะทกสะท้านยังคงวาดฝันต่อ

    คบหาดูใจกันสักสามเดือนก็พอ สิรีกับพี่พุทธวางแผนงานแต่งเสร็จพอดี เราก็แต่งพร้อมกันสองคู่เลยคุณยายคงจะมีความสุขมาก

    สิรี เธอจะวางแผนชีวิตคู่ให้พี่แบบนี้ไม่ได้นะ พี่ยังไม่ได้พูดสักคำว่า... หล่อนจะค้านแต่น้องสาวพูดแทรกขึ้นเสียก่อน

    จะบ่ายโมงแล้วสิรีไปก่อนนะ มีอะไรต้องทำอีกเลยเยอะเลย จบคำนภาสิริก็คว้าเจ้าสมุดลายไทยยัดใส่กระเป๋าสะพายตัวเองแล้วเดินจากไปเลย ทิ้งให้พี่สาวนั่งปวดหัวอยู่คนเดียว

    สิรีกลับมาพูดกันให้รู้เรื่องก่อน

    มีอะไรไว้คุยกันที่บ้านแล้วกัน สิรีจะรีบไปหาพี่พุทธน้องย้อนกลับมาเสียงใสทีเดียว

    

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×