ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมียเก็บพรหมจรรย์ Reup 2018 [หนังสือวางจำหน่ายร้านนายอินทร์]

    ลำดับตอนที่ #12 : ตอนที่ 3 ผิดหวัง 3-4

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.06K
      38
      11 ส.ค. 61

           มาอัปต่อแล้วค่ะ ฝากกดแอดแฟน 

    และกดถูกแฟนเพจไว้ด้วย
    เพื่อจะได้ติดตามนิยายทุกเรื่อง
    ได้แบบไม่พลาดข่าวสาร

     


    สั่งซื้อหนังสือทำมือเรื่องอื่นๆทางแฟนเพจ




    E-book ทุกเว็บ

    MEB คลิก!!! Get it now

    ดอกโบตั๋นสีขาว
    “เราอยู่ด้วยกันไม่ได้จริงเหรอคะ” เธอถามเสียงสะอื้นเหมือนใกล้จะขาดใจ อยากให้เรื่องนี้คือเรื่องโกหกที่จิรายุทธแต่งเรื่องขึ้นมามากกว่า “ถ้าเธอยอมเอ...




    ookbee

    เมียเก็บพรหมจรรย์

    ดอกโบตั๋นสีขาว

    www.ookbee.com

    0 Ratings

    ซื้อเลย  




    play.google


    ebooks.in.th

    https://bit.ly/2M2flA4


    ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ


    ภายในห้องสี่เหลี่ยมของแพทย์ชื่อดัง แผนกจิตเวชโซนผู้ป่วยวีไอพีที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง มีกลิ่นยาหลายชนิด รวมถึงกลิ่นยาฆ่าเชื้อคละคลุ้งไปทั่วบริเวณโรงพยาบาลตามปกติ  

    จิรายุทธนั่งอยู่บนเก้าอี้โซฟาเบาะหนานุ่มสีขาวด้วยใบหน้านิ่วคิ้วขมวด พลางก้มดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือเรือนแพง แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้ทำให้ความหล่อเหลาถูกลดทอนลงแม้แต่น้อย

            ขอโทษที่มาช้านะครับคุณเจมส์ ผมขอโทษจริงๆ 

    ดร.เกรียงไกรพูดเสียงร้อนรน หลังจากเปิดประตูห้องทำงานตัวเองเข้ามาก็พบคนไข้วีไอพีนั่งรออยู่ก่อนแล้ว คนสูงวัยกว่าทำตัวพินอบพิเทาอย่างให้เกียรติคนหนุ่ม ก่อนจะรีบเดินไปนั่งที่โซฟาฝั่งตรงข้ามเขา แทนที่จะเรียกให้อีกฝ่ายไปนั่งคุยที่โต๊ะทำงานเหมือนคนไข้รายอื่น

            คุณหมอมาสายสิบนาที 

    จิรายุทธกล่าวเสียงแข็ง เพียงแค่นี้ก็ทำให้คุณหมอแทบจะต้องหยิบกระดาษทิชชูมาซับเหงื่อที่ซึมตามขมับเพราะความกริ่งเกรง เขารู้ว่าถึงจิรายุทธจะไม่ใช่ผู้บริหารของโรงพยาบาลนี้ แต่ยังไงครอบครัวของอีกฝ่ายก็มีหุ้นส่วนเป็นอันดับสองของโรงพยาบาล  

    ดังนั้นต่อให้คุณหมออยู่ไกลหรือยุ่งมากแค่ไหน ถึงคนไข้วีไอพีรายนี้ไม่ได้นัดก่อนล่วงหน้าเขาก็ต้องกลับมาให้ทัน อย่างเมื่อวานเขาติดบรรยายอยู่ที่เชียงใหม่ แต่พอจิรายุทธโทร.มาว่าจะแวะเข้ามาในเช้าวันนี้ เขาก็ต้องรีบจองตั๋วเครื่องบินเที่ยวเช้าสุดเพื่อมาพบตามที่คนไข้ต้องการ

    ต้องขอโทษคุณเจมส์มากๆ นะครับ ตรงหน้าสนามบินรถติดมากเลย วันนี้รู้สึกจะมีนักร้องเกาหลีมา คนแห่มารอกันเพียบ

    เข้าเรื่องเถอะหมอ เพราะผมไม่มีเวลามาก

    จิรายุทธบอกเสียงขรึม เพราะเบื่อหน่ายที่ต้องแวะมาโรงพยาบาลด้วยเรื่องบ้าบอของตัวเอง

    นับสิบปีแล้วอาการประหลาดของเขาก็ยังไม่หายสนิท เวลาแวะมาโรงพยาบาลแต่ละครั้งเขาก็ต้องปลอมตัวเพื่อหลบหลีกผู้คนและนักข่าวโดยไม่ให้ถูกจับตามองราวกับตัวเองเป็นนักโทษหนีคดีอย่างเช่นวันนี้เขาต้องอยู่ในมาดหนุ่มเซอร์ ขับบิ๊กไบค์มาพร้อมสวมหมวกแก๊ปกับแว่นกันแดดสีดำ แทนที่จะเป็นชายหนุ่มนักธุรกิจมาดเข้มสุดหรูตามปกติ เพราะหากข่าวเรื่องความผิดปกติทางจิตของเขาหลุดออกไปจนคนตามขุดคุ้ยต้นเหตุว่าชายหนุ่มเคยขับรถชนเด็กคนหนึ่งจนเฉียดตายและไร้ความรับผิดชอบ คงได้มีคนออกมาต่อต้าน โดยเฉพาะกลุ่มดราม่าตามอินเทอร์เน็ต พวกโซเชียลเน็ตเวิร์กที่แชร์กันอย่างรวดเร็ว หรือเว็บบอร์ดต่างๆ ที่ขอได้ด่าไว้ก่อนไม่ว่าเรื่องอะไรก็อาจจะหันมาเพ่งเล็งเขาแทน

    แต่ความจริงเขาไม่ได้สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น นอกจากเม็ดเงินจำนวนมหาศาลเพราะหุ้นบริษัทจะตก และความน่าเชื่อถือในตัวผู้บริหารลดลง เพราะอาจมีพวกจ้องรอโอกาสนี้มาชิงตำแหน่งเขา

    คุณยังฝันถึงเรื่องนั้นอยู่เหรอครับ

    คุณหมอวัยกลางคนถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล เขาจำได้ว่าจิรายุทธมารักษาตัวครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน แล้วอาการเกือบดีขึ้นมาช่วงหนึ่งก่อนจะหายไปนาน ชายหนุ่มขอให้ปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ และไม่ยอมบอกแม้แต่มารดาของตัวเอง

    ผมได้อีเมลจากเธออีกครั้งในรอบหลายปี

    จิรายุทธเอ่ยเสียงเครียดด้วยความอึดอัด เพราะเหตุนี้ทำให้เขาฝันถึงเหตุการณ์วันนั้นอีกแล้ว ความฝันและภาพมโนในสมองของเขามันเริ่มตั้งแต่หลายปีก่อน ตอนเกิดอุบัติเหตุที่เขาขับรถไปชนเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่เซ่อซ่าขี่จักรยานมาตัดหน้ารถ

    เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เธอไม่สามารถกลับมาเดินได้ปกติเหมือนเดิมและต้องทำกายภาพบำบัด เขาอยากรับผิดชอบที่ต้องทำให้เด็กผู้หญิงพิการ แต่ก็มีคนมารับเธอไปดูแลตัดหน้าเขาก่อนแล้ว ทำให้เขารู้เรื่องเธอเพียงแค่นั้น

    ชายหนุ่มไม่อยากยอมรับสักนิดว่าตัวเองต้องกลายมาเป็นผู้ป่วยจิตเวชได้ แต่หลังจากวันนั้นเขาก็มีอาการโรคจิตเฉียบพลันขึ้นมา มักจะรู้สึกนึกถึงเหตุการณ์นั้นอยู่ซ้ำๆ บ่อยๆ จนหยุดไม่ได้

    เขาจำแต่ภาพโหดร้ายได้ติดตาว่าเห็นร่างของเด็กผู้หญิงนอนหมดสติเนื้อตัวฟกช้ำจมกองเลือดอยู่บนพื้น และเขามักฝันร้าย ย้ำคิดแต่เรื่องเดิมๆ จนถึงขั้นท้อแท้ตำหนิตัวเองที่ไม่สามารถรับผิดชอบแค่เด็กเพียงคนเดียว

    พอผ่านมาหลายปีอาการทางจิตที่มีความคิดฝังใจถึงแต่เรื่องนั้นก็เริ่มหายสนิท เพราะเขาไม่ยอมเข้าไปอ่านอีเมลที่เธอส่งมาอีก เขาต้องใช้ความพยายามอย่างหนักในการตัดสินใจตั้งรหัสผ่านที่แน่ใจว่าตัวเองจะจำไม่ได้

    แต่ไม่กี่วันก่อนไม่รู้อะไรดลใจให้เขาเข้าไปกู้บัญชีคืน ราวกับอยากลองอ่านอีเมลที่เธอส่งมาในปัจจุบัน และทำให้เรื่องพรรค์นั้นกลับมาหลอกหลอนเขาอีกครั้ง เธอบอกว่าตอนนี้อยู่กรุงเทพมหานครและอยากเจอเขา 

    จิรายุทธยอมรับว่าตัวเองในตอนนั้นขี้ขลาดและเห็นแก่ตัว เพราะกลัวประวัติจะด่างพร้อย เมื่อรู้ว่าเธอมีคนมารับไปดูแลเขาก็ปัดความรับผิดชอบด้วยการปิดเบอร์มือถือทิ้ง จนทำให้เหลือเพียงช่องทางเดียวที่จะติดต่อได้

    แต่สาเหตุที่เขายังไม่ปิดบัญชีอีเมลนั้นทิ้งไป เพราะเขายังชอบอ่านข้อความที่เธอส่งมาถามไถ่อยู่เรื่อยๆ และเธอก็ช่างดีเหลือเกินที่ไม่พูดถึงอาการของตัวเองเลยสักนิด ทั้งที่เขาอยากรู้แทบคลั่งตายว่าเธอกลับมาเดินอีกได้ไหม

    ก็ดีเลยสิครับ คุณก็ติดต่อขอพบเธอคุณหมอทำหน้าดีใจแทน เพราะเขาเชื่อว่าอาการของชายหนุ่มควรรักษาที่ต้นเหตุ หากจิรายุทธได้ช่วยเหลือเด็กหญิงผู้น่าสงสารตามที่เคยตั้งใจไว้ ความกลัวในจิตใจที่เป็นปมมานานอาจจะดีขึ้นมา

    ถ้าเธอเป็นอย่างที่ผมคิดขึ้นมาล่ะ

    คุณต้องยอมรับความจริง

    ผมนึกถึงเธอในสภาพนั้น มันทำผมหงุดหงิดแทบบ้าตาย!” เสียงห้าวคำรามอย่างระบายอารมณ์ พลางยกมือขึ้นมาทึ้งผมตัวเองแบบที่ไม่เคยทำให้ใครเห็นมาก่อน

    เขารู้ว่าตัวเองหลีกหนีความจริงอย่างน่าละอาย และมโนภาพอยู่ทุกวันว่าเธอคงสบายดี หากเขาไปพบว่าเธอใช้ชีวิตน่าสงสารอย่างคนพิการเพราะเขาคือสาเหตุ เขาก็ไม่แน่ใจว่าความคลุ้มคลั่งโทษตัวเองของเขาจะอยู่ระดับไหน

    เรื่องมันอาจไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่คิดนะครับ

    แต่เท่าที่จำได้ผมอยู่กับเธอเป็นเดือน แต่เธอก็ยังนอนเป็นผักเน่าอยู่บนเตียง ต้องพึ่งรถเข็นตลอด

    คนป่วยทุกคนอาการย่อมดีขึ้นครับ เด็กย่อมฟื้นตัวเร็ว

    ผมเกือบฆ่าคนตาย!

    คุณไม่ได้ตั้งใจ ไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้น และตอนนี้แสดงว่าเธอยังสบายดีถึงติดต่อคุณได้ดร.เกรียงไกรออกความเห็น พลางเอื้อมมือมาแตะแขนเขาเบาๆ เพื่อให้ระงับสติ เขารู้ดีว่าจิรายุทธคงคิดว่าทำแบบนั้นแล้วจะทำให้อาการรู้สึกผิดของตนเจือจางลงและจะลืมเธอได้ แต่เปล่าเลยมันกลับทำให้อาการชายหนุ่มแย่กว่าเดิมจนต้องหันมาพึ่งยา

    ผมก็หวังอย่างนั้น อย่าให้ฝันร้ายนั้นคือความจริงเลยจิรายุทธถอนใจพลางเอนตัวพิงพนักโซฟาแล้วหลับตาลง ถึงเขาจะจำภาพเป็นสิบๆ ปีได้ไม่ชัดเจน จนเหมือนความทรงจำสีจางที่เลือนราง แต่เวลาที่เจอเหตุการณ์คล้ายกันเขาก็มักจะนึกถึงเสมอว่าตอนนี้เด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นตายร้ายดีอย่างไร อยู่ไหนหรือทำอะไรอยู่

    อย่างวันก่อน มูลนิธิเด็กพิการแห่งหนึ่งได้ส่งคนเข้ามาขอทุนการศึกษาเพื่อให้เขามอบทุนเด็กเรียนดี ก็ทำให้จิรายุทธเฝ้าโทษตัวเองอีกครั้งว่าเด็กพวกนี้พิการโดยกำเนิด แต่เด็กผู้หญิงคนนั้นต้องเดินไม่ได้เพราะเขา แม้จะทำทุกวิถีทางถึงขนาดรับอุปการะเด็กผู้หญิงคนอื่นที่เจอเรื่องใกล้เคียงกันเพื่อลดความรู้สึกผิด แต่มันกลับช่วยไม่ได้เลยเมื่อมันไม่ใช่เธอ

    คุณอยากให้หมอจ่ายยานอนหลับ หรือยาระงับประสาทเพื่อช่วยผ่อนคลายอีกไหมคุณหมอถามความต้องการของคนไข้ เพราะจิรายุทธเลิกยาพวกนี้มานานเกินห้าปีได้แล้ว   

    ไม่ เขาปฏิเสธเสียงแข็ง เพราะรู้ดีว่ายาพวกนี้ก็แค่ช่วยให้เขาผ่อนคลายชั่วคราวเท่านั้น

    คุณเจมส์ครับ เกรียงไกรเอ่ยเสียงเรียบ หมอว่าบางทีเด็กคนนั้นอาจจะสุขสบายดี ครอบครัวชาวต่างชาติที่รับเธอไปอุปการะ อาจจะรักเธอยิ่งกว่าที่คุณอยากจะดูแลเธอในตอนแรกก็ได้นะจากการวิเคราะห์จิรายุทธก็แค่อยากมาระบายความอึดอัดให้แพทย์ฟังมากกว่า มันก็เหมือนเรื่องบางเรื่องที่บางคนเคยเจอในวัยเด็ก เช่นทะเลาะกับเพื่อน หรือเลิกคบกับแฟนคนแรกที่รักมากแต่ต้องมีเหตุให้เลิกรากันไป ทุกวันนี้ก็ยังคงฝันถึงคนนั้นเพราะรู้สึกผิดหรือคิดถึง หากแต่เรื่องของจิรายุทธอาจจะหนักหนาสาหัส เพราะถึงขั้นทำให้ชีวิตคนหนึ่งต้องมีตำหนิ

    +----------+

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×