คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 3 ไม่รักกันฉันจะไป part 2
(ต่อจาก part ที่แล้ว)
หลังจากที่แตงกวาหายออกไปจากห้องครัวแล้ว ชายหนุ่มก็หันมาจ้อง
หน้าคนที่อยู่ในอ้อมแขนด้วยใบหน้าถมึงทึง ระหว่างที่เขาไม่อยู่บ้าน รมิดาคงจะทำตัวเป็นเจ้านาย แล้วคอยเสี้ยมสอนสาวใช้ให้แข็งข้อกับเขาสินะ พวกคนใช้ทั้งหลายถึงกลายไปเป็นพวกเธอหมด วันก่อนคนขับรถก็พูดจาแปลกๆให้เขาหงุดหงิดใจ บอกว่าภรรยาเขาน่าสงสาร พวกนี้มันกล้าดีกันมากเกินไปแล้ว เขาจะตัดเงินเดือนเสียให้เข็ด
“ถ้าทำไหวก็ดี เพราะวันนี้หลังจากขัดห้องน้ำทุกห้องแล้ว เธอก็ออกไปตัดหญ้าหน้าบ้านด้วย อย่าเอาแต่นั่งชูคออยู่เฉยๆ แล้ววันๆไม่ทำอะไรแบบน้าของเธอล่ะ ห้ามให้แตงกวาช่วยเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นเธอเจอดีแน่” เตชินท์สั่งและข่มขู่ลอดไรฟัน ก่อนจะเหลือบมองไปยังจานอาหารเช้า
“อาหารพวกนั้นแต่งกวาเป็นคนทำใช่ไหม?” เสียงถามเข้มเยือกเย็น จนคนฟังเกือบหยุดหายใจเลยทีเดียว
“ค่ะ” เธอตอบเสียงสั่น
“ทำใหม่ซะ ให้เสร็จภายในสิบห้านาที!”
“แล้วของที่ทำแล้วล่ะคะ?” รมิดาหน้าเหวอ
“เททิ้งลงถังขยะไป!”
“เวียร์คะ เวียร์สุดที่รักของเฟิร์น อยู่ที่ไหนเอ่ย ดาลิงค์ขา”
เสียงหวานดังกังวานราวกับระฆังแก้วของชนิกานต์ ดังมาจากนอกห้องครัว ทำให้ชายหนุ่มรีบปล่อยคนในอ้อมแขนทิ้งอย่างรวดเร็ว ราวกับกลัวว่าใครจะมาเห็น จนร่างบางเซถลาไปกองอยู่กับพื้น
รมิดาหน้าเสียงลง พลางคลำแขนตัวเองปอยๆ เพราะเมื่อกี้นี้ล้มแล้วข้อศอกกระแทกกับพื้นกระเบื้องเต็มแรง เธอช้อนสายตามองเขาอย่างตัดพ้อต่อว่าด้วยความปวดร้าว เตชินท์สบตาเธอพอดี ก่อนจะขมวดคิ้วหงุดหงิด เพราะรู้สึกอึดอัดทุกครั้งที่ถูก รมิดามองแบบนั้น มันทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองชั่วร้ายมากเหลือเกิน
“เลิกมองฉันด้วยสายตาง่อยๆแบบนั้นได้แล้ว เห็นแล้วคลื่นไส้ชวนอ้วก รีบลุกขึ้นไปทำอาหารเช้าซะ ไม่ได้ยินหรือไงว่าผู้หญิงของฉันตื่นแล้ว เธอต้องคอยปรนนิบัติเขา”
ชายหนุ่มตวาดเสียงดัง
รมิดาจึงจำเป็นต้องลุกขึ้นมาอย่าช้าๆ แล้วหมุนตัวเดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อหากับข้าวมาทำให้เขาใหม่ตามคำสั่ง ดวงตากลมโตมีน้ำตาคลอหน่วย เพราะเสียใจกับสิ่งที่ได้ยินเต็มหูสองข้าง ว่าเขาเรียกผู้หญิงคนนั้นว่าผู้หญิงของเขาเต็มปากเต็มคำ
“อยู่นี่เองเหรอคะ เฟิร์นหาตั้งนานแน่ะ ว้าว! มีอะไรทานมั่งคะวันนี้”
ชนิกานต์ทักเสียงหวาน แล้วเดินเข้าไปควงแขนชายหนุ่มพลางเบิกตาสดใสมองจานอาหารตรงหน้า เธออยู่ในชุดกระโปรงเดรสสบายๆ สีสดใสลายดอกกุหลาบส่งผลให้ดูสวยสง่าราวกับพญามากขึ้น
รมิดาอดใจไม่ได้ที่จะแอบหันไปมองผู้หญิงของเตชินท์ ด้วยความชื่นชมกับความงดงามของหล่อน แต่ก็ชะงักกึกเมื่อเห็นริมฝีปากของชนิกานต์ยื่นไปจุมพิตที่มุมคางของชายหนุ่ม ทั้งที่เธอเคยเตรียมใจเอาไว้แล้ว ว่าอาจจะเห็นพวกเขาแสดงบทรักกันซึ่งหน้าเวลาไหนก็ตามในบ้านสักวัน แต่พอเอาเข้าจริงๆเธอก็ยังทำใจไม่ได้อยู่ดี
เพล้ง!
เสียงจานหล่นแตก ทำให้ทุกคนหันมามองยังจุดเดียวกัน รมิดาเองก็ตกใจมากเช่นกันที่ตัวเองซุ่มซ่าม จนเผลอทำชามในมือหล่นแตก เธอรีบก้มลงเก็บทันที อย่างไม่กล้าหันไปมองหน้าตากรุ่นโกรธของเตชินท์เลย แต่เพราะความรีบร้อน จึงทำให้ฝ่าเท้าเผลอเหยียบเศษแก้วชิ้นโตบนพื้นเข้าอีก
“โอ๊ย!” เสียงอุทานเบาๆด้วยสีหน้าเหยเก น้ำตาเล็ดด้วยความเจ็บ
“ซุ่มซ่าม โง่จริงๆ สรุปต้องให้เจ้าของบ้านอย่างฉันช่วยใช่ไหม!?”
ชายหนุ่มเอ่ยเสียงขุ่นพลางขมวดคิ้วขัดใจ ก่อนจะก้าวเท้ายาวๆเข้าไปหาร่างบางเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงตัวเธอ พอเห็นเลือดสีแดงไหลอาบที่ฝ่าเท้าตัดกับผิวขาวๆ ดวงตาคมก็เบิกกว้างตกใจทันที ก่อนจะมองซ้ายมองขวาเพื่อหากระดาษทิชชู่หรืออะไรสักอย่างมาซับแผล พอไม่เจอเขาเลยหันไปบอกชนิกานต์
“หยิบกระดาษในตู้มาให้ผมสิ”
ชนิกานต์ที่ถูกสั่งทำหน้าเหวอ แล้วมองเขาอย่างงุนงง แต่ก็ยอมหันไปเปิดตู้หยิบให้แต่โดยดี ด้วยความที่เธอเป็นคนตัวไม่สูงมาก และจัดอยู่ในกลุ่มตัวเล็กกะทัดรัด ทำให้ต้องหาเก้าอี้มาปีนด้วยความยากลำบาก
“เดี๋ยวเรนจัดการเองค่ะ” รมิดาขยับตัวจะเดิน
“ยังมาอวดเก่งอีก เลือดไหลขนาดนี้ทำไมไม่บอกฮะ ปากมีทำไมไม่พูด อมอะไรอยู่!” ชายหนุ่มตวาดด้วยความโมโห ก่อนจะก้มลงนั่งชันเข่าแล้วประคองข้อเท้าเธอขึ้นมา เพื่อดึงเศษแก้วเล็กๆบางส่วนที่ฝังอยู่ในเนื้อออกไปให้ จนคนเจ็บตัวต้องสูดปาก น้ำตาคลอทั้งเจ็บทั้งกลัวเขา
“เรนไม่เป็นอะไรค่ะ พี่เวียร์กับผู้หญิงของพี่ออกไปข้างนอกเถอะ”
รมิดาบอกแล้วพยายามจะขยับตัวออกจากเขาอย่างรักษาระยะห่าง แต่ชายหนุ่มไม่สนใจ ก่อนจะอุ้มร่างบางลอยหวือเข้ามาไว้ในอ้อมแขนอย่างรวดเร็ว ทำเอาคนถูกอุ้มได้แต่ก้มหน้างุดอยู่กับแผงอกกว้างอย่างพูดอะไรไม่ออก
“ได้แล้วค่ะเวียร์” ชนิกานต์ที่เพิ่งหมุนตัวกลับมา แล้วถือม้วนกระดาษทิชชู่อยู่ในมือได้แต่ยืนอึ้งอยู่กับที่ เมื่อเห็นเตชินท์อุ้มรมิดา แถมสายตากับท่าทางที่ดูห่วงใยของเขา มันทำให้หญิงสาวรู้สึกร้อนรุ่ม เธอไม่อยากจะคิดในแง่ร้ายว่าชายหนุ่มคิดอะไรเกินเลยกับแม่สาวใช้ของตัวเอง
“มัวยืนทำอะไรอยู่ เอากระดาษมาให้ผมสิ” เตชินท์สั่งห้วนๆอีกรอบ
ชนิกานต์ได้สติจึงรีบวิ่งแจ้นมายื่นส่งให้ แต่คำบอกกล่าวในประโยคถัดมาของ ชายหนุ่มก็ทำให้เธอหน้าชา ตัวเกือบสั่นเทิ้ม
“เอาทิชชู่พันฝ่าเท้าให้เรนหน่อย ซับเลือดไว้ก่อน เลือดเธอไหลไม่หยุดเลย”
“เอ่อ...อะไรนะคะ ให้เฟิร์นเป็นคนทำเหรอ”
ชนิกานต์ถามด้วยเสียงแปร่งปร่า พลางมองเขาตาโตแบบคาดไม่ถึง นี่เขากำลังสั่งให้เธอเอากระดาษทิชชู่พันฝ่าเท้าให้สาวใช้ของเขา ซึ่งหญิงสาวเกิดมาแม้แต่ตัดเล็บเท้าให้คนอื่นยังไม่เคย แต่นี่เขากำลังอุ้มผู้หญิงคนนั้นด้วยความเป็นห่วงแล้วยื่นเท้า อีกฝ่ายส่งมาตรงหน้าเธอ
“ไม่ต้องหรอกพี่เวียร์ เดี๋ยวเรนทำเองได้ ส่งมาให้เรนเถอะค่ะ” รมิดาบอกด้วยความเกรงใจ
“เร็วๆสิ ผมจะพาเรนไปโรงพยาบาล”
เสียงห้าวเอ่ยเร่งอย่างฉุนๆ จนชนิกานต์ต้องรีบทำให้
“เวียร์จะกลับมากี่โมงคะ เฟิร์นจะรอทานอาหารเช้า”
ชนิกานต์ร้องถาม ขณะมองเขากับผู้หญิงในอ้อมแขนสลับกันไปมาด้วยความสงสัย ดวงตาวาวโรจน์ขึ้นทันที พลางกำมือแน่นเข้าหากันอย่างไม่พอใจ เพราะคำเรียกขานที่ดูสนิทสนมแบบนั้นมันแทบทำให้ชนิกานต์แทบยืนไม่ติดพื้น
“กินไปเลยไม่ต้องรอ ผมมีธุระ”
พูดจบเตชินท์ก็พารมิดาหายตัวออกไปจากห้องครัว ทิ้งให้ชนิกานต์ได้แต่ยืนมองตามหลังด้วยความอึ้ง
***รูปแบบ E-book***
***มีวางจำหน่ายที่ร้าน <span style="font-size: 22pt;" browallia="" "times="" new="" roman";color:red"="">se-ed ทุกสาขา***
(หาไม่เจอสอบถาม)
สั่งได้ที่นี่กับนักเขียน 3 ช่องทาง (พร้อมส่ง)
1. แฟนเพจ ดอกโบตั๋นสีขาว นักเขียน
2. เมล์ funny_angel1995@hotmail.com
3. http://writerbabybow.lnwshop.com/
กด ADD แฟนเพจ
ฝากนิยายเรื่องใหม่ล่าสุดปี 2559 ด้วยค่ะ
ความคิดเห็น