ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมียเก็บพรหมจรรย์ Reup 2018 [หนังสือวางจำหน่ายร้านนายอินทร์]

    ลำดับตอนที่ #15 : ตอนที่ 4 อดีตที่ผูกพัน 4-1

    • อัปเดตล่าสุด 13 ส.ค. 61


    มาอัปต่อแล้วค่ะ ฝากกดแอดแฟน 
    และกดถูกแฟนเพจไว้ด้วย
    เพื่อจะได้ติดตามนิยายทุกเรื่อง
    ได้แบบไม่พลาดข่าวสาร

     

    สั่งซื้อหนังสือทำมือเรื่องอื่นๆทางแฟนเพจ




    E-book ทุกเว็บ

    MEB คลิก!!! Get it now

    ดอกโบตั๋นสีขาว
    “เราอยู่ด้วยกันไม่ได้จริงเหรอคะ” เธอถามเสียงสะอื้นเหมือนใกล้จะขาดใจ อยากให้เรื่องนี้คือเรื่องโกหกที่จิรายุทธแต่งเรื่องขึ้นมามากกว่า “ถ้าเธอยอมเอ...




    ookbee

    เมียเก็บพรหมจรรย์

    ดอกโบตั๋นสีขาว

    www.ookbee.com

    0 Ratings

    ซื้อเลย  




    play.google


    ebooks.in.th

    https://bit.ly/2M2flA4


    ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ



    ตอนที่ 4

    อดีตที่ผูกพัน

     

    หลายปีก่อนรถยนต์สีดำสุดหรูรุ่นใหม่ล่าสุดขับหักเลี้ยวซ้ายจากถนนใหญ่ลาดยางเข้ามาในซอยแคบๆ ที่เป็นดินลูกรังผิวถนนขรุขระ ทำเอารถยนต์ราคาแพงที่เคยเงาวับในตอนแรกจับไปด้วยฝุ่นสีแดงขุ่นรอบคัน

    ทั้งสองฝั่งริมทางของถนนบรรยากาศเต็มไปด้วยต้นไม้ใบหนาเขียวชอุ่ม มีแปลงนาของชาวนา และปลูกพืชสวนพืชไร่ติดกันเป็นแนวยาว นอกจากปลูกผักก็ยังมีเลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ไข่ทั้งกินเองและค้าขายเป็นอาชีพหลัก รวมถึงทำประมงจับปลาน้ำจืดเพราะอยู่ติดกับแม่น้ำใหญ่ ตามวิถีชีวิตการเกษตรแบบผสมผสานและอยู่แบบพอเพียงของคนต่างจังหวัดในอำเภอเล็กๆ ที่ห่างไกลจากเมืองหลวงแต่อากาศดีและเงียบสงบ  

           หลังจากขับรถลึกเข้ามาตามทางเรื่อยๆ เจ้าของรถเริ่มหัวเสียสบถคำหยาบออกมาหลายครั้ง เพราะกังวลว่ารถคันโปรดที่เหมือนลูกรักจะพังก่อนเวลาอันควร และตัวเองก็เคยชินแต่ขับอยู่ในเมืองกรุงศิวิไลซ์ที่มีแต่ถนนคอนกรีตลาดยาง จนผู้โดยสารสูงวัยกว่าที่ติดรถมาด้วยถึงกับต้องห้ามปรามหลายรอบ

           แม่งเอ๊ย! เทศบาลแถวนี้มันไม่มาทำห่าอะไรเลยหรือไงวะจิรายุทธบ่นตามประสาชายหนุ่มเลือดร้อนวัยยี่สิบเอ็ดปี คิ้วเข้มหงุดหงิดที่ น้องเจไดรถยนต์สุดที่รักที่มารดาซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดต้องมาลำบากลำบนในถิ่นทุรกันดาร ถ้ากลับบ้านไปเขาคงต้องเอาไปล้างรถดูดฝุ่นรอบคันพร้อมกับเช็กสภาพเครื่อง

           ชายหนุ่มเพิ่งเรียนจบจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี สาขาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ จากมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของประเทศได้หมาดๆ จากนั้นเขาก็เริ่มเข้ามาเรียนรู้งานของโรงแรมซึ่งเป็นกิจการหนึ่งของครอบครัว ตั้งใจว่าจะลองทำงานสักสองปีเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ก่อนบินไปเรียนต่อปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษ

    วันนี้เขาอยากอาสาขับรถพามารดามาทำธุระที่ต่างจังหวัดด้วยตัวเอง แม้ตอนแรกคุณหญิงวราภาทำท่าจะไม่ยอมนั่งรถมาด้วยเพราะเขาขับรถเร็วและเพิ่งขับเป็นได้ไม่กี่เดือน เนื่องจากปกติชายหนุ่มจะมีคนขับรถคอยไปรับไปส่งเสมอ แต่ในที่สุดแม่ก็ไม่อาจต่อต้านความเอาแต่ใจของจิรายุทธได้ จนคนเป็นแม่ต้องยอมให้ลูกชายขับเอง

    แม่บอกให้พูดเพราะๆ ไงตาเจมส์ เดี๋ยวก็ติดเป็นนิสัยหรอก

    วราภาดุลูกชายเสียงเข้ม เพราะกลัวชายหนุ่มไปเผลอพูดแบบนี้ต่อหน้าผู้ใหญ่ที่เป็นคนในแวดวงสังคม อีกฝ่ายโตจนเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วแต่ก็ยังใจร้อนเอาแต่ใจ อย่างล่าสุดยังไปมีเรื่องมีราวตอนไปเที่ยวกลางคืน หาเรื่องเตะต่อยกับชาวบ้านแบบพวกเด็กไม่รู้จักโต จนเธอต้องไปเคลียร์ให้เพราะคู่กรณีก็เป็นผู้มีอิทธิพลไม่ต่างกัน  

           ทำไมไม่บอกว่ามาที่กันดารขนาดนี้ครับ ผมจะได้เอารถกระบะมาแทนลูกชายบ่น พลางเปลี่ยนเรื่องด้วยความไม่สบอารมณ์ ตั้งแต่ขับรถมายังไม่มีแหล่งน่าเที่ยว นอกจากป่าเขาลำเนาไพรกับวัด คนที่ชอบอยู่กับแสงสีและชอบเที่ยวต่างประเทศมาตลอดแอบเซ็งไม่น้อย เพราะเมืองนี้ไม่ใช่อำเภอใหญ่โตที่มีสถานที่เที่ยวดังๆ

           แม่ก็เพิ่งเคยมาครั้งแรกเหมือนกัน

           แบบนี้ก็วนหากันตายเลยสิครับ

    เจมส์นั่นแหละดื้อไม่ฟังแม่เลย แทนที่จะให้ลุงชาติชายขับมาส่ง แกขับรถมาหลายสิบปีคงชินทางมากกว่าวราภาพูดถึงคนขับรถที่บ้าน ก่อนเอ่ยต่ออย่างไม่เห็นเป็นเรื่องแปลกตามประสานักธุรกิจที่ไม่ค่อยคิดถึงส่วนรวม

    ต่างจังหวัดก็แบบนี้แหละลูก งบน้อย เขาต้องเอาเงินไปพัฒนาประเทศด้านอื่นที่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจสิ จะเอามาสร้างแถวนี้ให้เปลืองเงินทำไม  

    แล้วไหนครับบ้านเด็กกำพร้าที่ว่านั่น เข้ามาซะลึกเชียวจิรายุทธมองไปรอบด้านก็เห็นแต่บ้านไม้เก่าๆ หลังคาสังกะสีเต็มไปด้วยสนิม ซึ่งน่าจะเป็นบ้านพักอาศัยของชาวบ้านแถวนี้

    เด็กมันอาศัยอยู่กับผู้ใหญ่บ้าน แม่ว่าน่าจะอยู่แถวนี้นะ บ้านคงหลังใหญ่กว่าเพื่อนหน่อยวราภาพึมพำพลางหยิบซองจดหมายในกระเป๋าที่ได้รับมาเมื่อเดือนก่อนออกมาดู แล้วกดโทร.ออกตามเบอร์ที่ระบุไว้แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับจากปลายสาย   

           ผมว่าแม่โทร.เรียกใครให้ออกมานำทางไปดีกว่า

           แถวนี้สัญญาณโทรศัพท์ไม่ค่อยดี แม่ว่าเราต้องค้างสักคืนนะ ถ้าขับรถกลับดึกๆ ทั้งที่ถนนเป็นแบบนี้มันอันตราย ตั้งแต่ขับมายังไม่เห็นมีไฟทางเลย ตอนกลางคืนคงมืดน่าดูวราภาบอกด้วยสีหน้าเป็นกังวล ทั้งที่ความจริงกลัวการขับรถเร็วของลูกชายมากกว่า ขับซิ่งเร็วขนาดนั้นคนแก่หัวใจวายพอดี

           แต่พรุ่งนี้วันเกิดพ่อนะครับ ตอนเช้าทุกปีเราต้องออกไปตักบาตรกันจิรายุทธเอ่ยเตือนพลางเหลือบมองมารดาผ่านกระจกหลังแวบหนึ่ง ก่อนหันกลับมาทำสมาธิขับรถต่อเพราะไม่อยากวอกแวกขับรถตกหลุมที่มีน้ำขัง

    แต่เมื่อสักครู่เขาแน่ใจว่าเห็นแววตาเสียใจปนโกรธเคืองของมารดา หรือว่าพ่อกับแม่จะทะเลาะกันอีกแล้ว ชายหนุ่มคิดด้วยความกังวล แต่มันไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับเขาเพราะเขาชินชาแล้ว แต่พักหลังตั้งแต่เจ้าสัวนพพลป่วยด้วยโรคหัวใจ และหมอบอกว่าอาจอยู่ได้อีกไม่กี่ปี มารดาก็พยายามเลิกหาเรื่องทะเลาะมานานแล้ว

    หรือว่าจะเป็นเรื่องนั้น...

    เขานึกถึงข่าวซุบซิบของคนใช้ภายในบ้าน ที่แอบพูดกันปากต่อปากว่าบิดาแอบมีบ้านเล็ก มีเมียน้อยเป็นสาวใช้จำนวนมาก ทำให้มารดาต้องคอยจัดการขับไล่พวกนั้นออกไปจากบ้าน จับได้สักคนก็ไล่ไปอีกคน วนเวียนแบบนี้ไม่มีจบสิ้น ทำให้ตอนนี้ส่วนใหญ่คนใช้ในบ้านเลยเหลือผู้หญิงน้อยลงทุกวัน เพราะพักหลังเริ่มรับเข้ามาทำงานแต่ผู้ชาย

    เอี๊ยด!

    โครม!

    เสียงรถยนต์เหยียบเบรกมิดล้อเพราะชนกับอะไรบางอย่าง ก่อนจะหักหลบเลี้ยวไปชนต้นไม้ข้างทางเต็มแรง เพราะไม่ทันได้มองรถจักรยานของใครบางคนที่พุ่งมาตัดหน้า จนถูกเขาชนตกถนนไปยังเนินเขาเตี้ยๆ ข้างล่าง

    ส่งผลให้รถยนต์คันหรูของจิรายุทธก็พังเสียหายเช่นกัน หลังจากได้สติขึ้นมาจิรายุทธพยายามขยับตัวจากถุงลมนิรภัยที่ทำงานเป็นอย่างดีสมราคารถ ก่อนรีบหันไปดูความเรียบร้อยข้างหลังพลันถอนใจโล่งอกเพราะโชคดีที่มารดาก็คาดเข็มขัดนิรภัยเอาไว้และปลอดภัยดี

    คุณแม่ไม่เป็นอะไรนะครับเขาถามเสียงร้อนรน ก่อนรีบลงจากรถมาเปิดประตูด้านหลังสอบถาม เมื่อประเมินด้วยตาเปล่าอีกฝ่ายอาจจะแค่เคล็ดขัดยอกเล็กน้อย แต่ยังไงเขาก็ต้องพาแม่ไปเช็กร่างกายที่โรงพยาบาลอีกครั้ง

     แม่ปลอดภัยดี นี่มันเกิดอะไรขึ้นตาเจมส์ เมื่อกี้ขับชนใครหรือเปล่า

    วราภาถามด้วยสีหน้าตื่นตระหนก เพราะกลัวลูกชายจะพลาดไปขับรถชนใครตายเข้าแล้วจะเป็นเรื่องใหญ่

    น่าจะเป็นเด็กแถวนี้ เดี๋ยวผมไปดูก่อน คงต้องพาไปโรงพยาบาล

    ไม่ต้องห่วงนะลูก ถ้าตายก็ปล่อยมันไว้อย่างนั้นแหละ เดี๋ยวแม่ให้คนมาจัดการเอง วราภาบอกเสียงเรียบ เข้าข้างคนของตัวเองเต็มที่ด้วยความเลือดเย็น ทำเอาลูกชายอ้าปากค้าง พลางมองมารดาหน้าเหลอหลาก่อนส่ายหน้าไปมาอย่างตกใจ

    ถึงเขาอยากจะลงไปด่าเด็กเปรตรายนั้นที่มันขี่จักรยานออกมาไม่ดูตาม้าตาเรือก็ตาม แต่ถ้าถึงขั้นทำให้ชีวิตของคนคนหนึ่งต้องสูญสิ้น เขายินดีจะรับผิดชอบกับความผิดตัวเอง

    ถ้ามีใครเป็นอะไร ผมรับผิดชอบเอง ชายหนุ่มบอกหน้าเครียดๆ ด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ ก่อนเดินไปปีนลงตรงเนินเขาเพื่อไปข้างล่างที่เป็นป่ารกชัฏด้วยความยากลำบากทุลักทุเล กว่าคุณชายเจ้าสำอางอย่างเขาจะสามารถปีนลงไปได้ก็นานหลายนาที แต่แถวนี้ห่างไกลผู้คนมากนัก ถ้าเรียกให้คนมาช่วยก็เกรงว่าจะนานเกินไปอีก วันนี้เขาดวงไม่ดีจริงๆ ถึงมาเจอเรื่องซวยแบบนี้

    วราภามองตามหลังลูกชายไป ภาวนาให้คนที่ถูกชนรอดปลอดภัยดี แต่เธอก็ยังไม่กล้าหยิบโทรศัพท์มากดโทร.เรียกรถพยาบาล เพราะอีกใจหนึ่งก็กลัวว่าถ้าจิรายุทธขับรถชนคนตายจริงๆ แล้วจะทำให้ประวัติเขาด่างพร้อย

    สิ่งที่เธอทำคือกดเบอร์ติดต่อหาทนายความชื่อดังประจำตระกูล เพื่อให้เตรียมรับมือกับเรื่องนี้เอาไว้ ไม่ว่ายังไงลูกชายเธอต้องไม่ใช่คนผิด

    +----------+

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×