คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 ตระกูลผู้ดีเก่า 1-1
ตอนที่ 1
ตระกูลผู้ดีเก่า
ณ คฤหาสน์หลังใหญ่สีขาวหรูหราราวกับวังที่สร้างจากหินอ่อนทั้งหลัง
ด้านหน้ามีประตูรั้วอัลลอยสีขาวสลับทองสร้างความสง่างามให้ตัวบ้านมากยิ่งขึ้น
ภายในบริเวณบ้านกำลังมีงานเลี้ยงฉลองวันเกิดอายุครบหกสิบปีของ ‘คุณหญิงวราภา’
ผู้เป็นประมุขหญิงคนเดียวของตระกูล ‘เชิดชูวงศ์’
ซึ่งเป็นตระกูลผู้ดีเก่าแก่เชื้อสายจีนที่ย้ายมาตั้งรกรากที่เมืองไทย
และเริ่มทำธุรกิจตั้งแต่สมัยคุณปู่คุณย่า
แต่หลังจาก ‘เจ้าสัวนพพล’ ผู้เลื่องชื่อในแวดวงธุรกิจเสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน
ยามว่างของแม่ม่ายสูงวัยก็มักจะไปปฏิบัติธรรมตามวัด และไปเป็นประธานมูลนิธิ
เพื่อคอยช่วยเหลือเด็กยากจนผู้ด้อยโอกาส บ้างก็หันหน้าเข้าธรรมะตามวัย
และชอบไปพบปะสังสรรค์กับสมาคมผู้ดีตามสังคมไฮโซของเหล่าคุณหญิงคุณนายทั้งหลาย
วราภาตั้งใจจะหาคู่ครองที่เหมาะสมให้ลูกด้วยตัวเอง
เพราะ
เธออาบน้ำร้อนมาก่อน
จึงรู้ดีว่าความรักไม่นานก็ร่วงโรยเหมือนคู่
ของเธอกับเจ้าสัวนพพล
ขนาดจะแก่ตายลงโลงแต่สามีสูงวัยยังเอาแต่ละเมอเพ้อฝันถึงเมียคนใช้ที่ถูกเธอเฉดหัวออกไปจากบ้าน
สองคนนั้นแอบลักลอบคบกันและสร้างความทุกข์ใจให้วราภายิ่งนัก
เพราะตั้งแต่แต่งงานกันมาวราภาต้องคอยจัดการกับบรรดาเมียน้อยของสามีอย่างเหน็ดเหนื่อย
แต่เธอก็ต้องทนเพื่อครอบครัว เพราะการแต่งงานของเธอกับเขาคือธุรกิจตั้งแต่แรก
เธอจึงไม่อยากให้ลูกแต่ละคนได้คู่ครองที่ไม่เหมาะสมเพราะหากวันหนึ่งหมดรักกันไปแล้วจะได้ไม่ต้องเสียใจทีหลัง
หากอีกฝ่ายร่ำรวยอย่างน้อยก็ฟ้องหย่าแบ่งเอาสมบัติได้
+----------+
ค่ำวันนี้นอกจากบรรดาแขกเหรื่อที่มางาน
ยังมีนักข่าวมาขอสัมภาษณ์ทำข่าวอีกด้วย
เพราะไม่บ่อยนักที่คุณหญิงวราภาจะเปิดบ้านสุดหรูให้ใครเข้ามาเยี่ยมชม
นักข่าวหลายคนล้วนอยากมาถ่ายรูปสวยๆ ไปลงข่าวของตัวเอง
เพราะใครต่างก็รู้ว่าพื้นที่โดยรอบของคฤหาสน์กินที่ดินแถบนี้ไปหลายร้อยไร่
และยังมีรถยนต์ราคาแพงจอดเรียงรายอยู่เต็มโรงรถ
แค่ทำข่าวเรื่องรถยนต์นำเข้าที่มีไม่กี่คันในประเทศไทย
ก็คงเรียกความสนใจจากคนทั่วไปได้ไม่น้อย
คุณหญิงวราภามีลูกทั้งหมดสี่คน ‘ฟ้าพร่างดาว[1]’
เป็นลูกสาวคนโตที่แต่งงานออกเรือนไปตั้งแต่หลายปีก่อน
จนตอนนี้มีลูกชายตัวน้อยอยู่ชั้นประถมศึกษาตอนต้น
หญิงสาวทำธุรกิจไร่องุ่นและรีสอร์ต อยู่กับสามีชื่อ ‘อชิระ’
ที่เชียงใหม่
แต่กว่าคู่นั้นจะได้ลงเอยกันก็ทำเอาคนเป็นมารดาหนักใจไม่น้อย
จนเกิดเรื่องราวเสียน้ำตามากมายที่
วราภามาคิดแล้วก็เสียใจกับการกระทำของตัวเองยิ่งนัก
เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ต้องอยู่บ้านโดดเดี่ยวเป็นคนแก่ที่เหงาๆ แบบนี้
โดยมีแต่ลูกทำตัวห่างเหิน
‘พิรภพ’ ลูกชายคนรอง เขาทำธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์รายใหญ่ของประเทศ
และได้แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาคนแรกของบรรดาลูกทั้งหมด ตอนนี้ชายหนุ่มได้ขอแยกตัวออกไปสร้างครอบครัว
โดยมีบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่แถบชานเมืองอยู่กันสามคนพ่อแม่ลูก
เพราะวราภาไม่ค่อยปลื้มภรรยาของลูกชายสักเท่าไร
เนื่องจากหล่อนเป็นเพียงพนักงานบริษัทธรรมดา
แต่เธอก็ต้องปล่อยเลยตามเลยเมื่อได้เห็นหน้าหลานชาย
ทำให้วราภานั้นแอบตั้งความหวังลึกๆ
ไว้กับลูกชายที่เหลืออีกสองคนคือ ‘จิรายุทธ’ และ
‘อนาคิน[2]’ เธอหวังว่าคนที่เหลือจะได้คู่ครองที่เหมาะสมกว่านี้
เพื่อขยายกิจการและทำธุรกิจของครอบครัวให้เป็นปึกแผ่น
ตอนนี้จิรายุทธนั้นเป็นประธานโรงแรมพริ้นเซสพาราไดซ์และมีกิจการบริษัทโฆษณาในเครืออีกหลายแห่ง
ส่วนอนาคินลูกชายคนสุดท้อง หลังจากเรียนจบแพทย์แล้ว
ก็ไปต่อปริญญาโทที่อเมริกาในสาขาแพทย์ทางเลือกและไม่ยอมกลับบ้านเลย
ตั้งแต่ได้ข่าวพี่ชายคนโตกับพี่สาวถูกมารดาจับคลุมถุงชน
เขาก็ยิ่งห่างเหินมารดามากขึ้น
ลูกทั้งสี่คนของวราภานั้นหน้าตาดี
ขนาดไม่ค่อยได้ออกงานยังมีข่าวลงหนังสือพิมพ์คอลัมน์ไฮโซบ่อยๆ
เพราะมีเชื้อสายลูกเสี้ยว ทั้งเชื้อสายไทย จีน อังกฤษผสมผสานกัน
โดยที่ได้เชื้อไทยจีนมาจากทางบิดา และเชื้อชาติอังกฤษจากฝั่งมารดาซึ่งก็คือคุณตา
ส่งผลให้แต่ละคนมีใบหน้าหล่อเหลา และสวยยิ่งกว่าดารานายแบบนางแบบ
ผสมผสานกันทั้งสายเลือดเอเชียและตะวันตกกลมกลืนกันอย่างลงตัว
คืนนี้ตรงบริเวณห้องโถงใหญ่ของตัวบ้านเริ่มเงียบเสียงลง
หลังจากลูกสาวลูกชายที่มาร่วมอวยพรวันเกิด พากันแยกย้ายขึ้นไปนอนกับครอบครัวแล้ว
วราภาก็เตรียมตัวจะขึ้นไปอาบน้ำนอนเช่นกันเพราะอ่อนเพลียตามประสาคนวัยหกสิบ
เพราะวันนี้เธอต้องรับแขกด้วยตัวเองอยู่นาน
แขกที่มาล้วนเป็นไฮโซและคนใหญ่คนโตในแวดวงสังคม
ทำให้วราภาต้องคอยต้อนรับเพื่อให้งานราบรื่นเป็นอย่างดี
จะขาดก็แต่ลูกชายคนที่สาม
เธอเห็นเขาแวบเดียวก็หายตัวไปเลย พอมองหาไม่เจอก็ยิ่งโมโห
สงสัยคงกลัวว่าเธอจะแนะนำลูกคุณหนูตระกูลดังสักคนให้อีก
ตอนนี้จิรายุทธก็อายุสามสิบสามปีแล้ว สมควรที่จะลองคบใครจริงจังสักที
ไม่ใช่ทำตัวเพลย์บอยลอยชายไปวันๆ แบบนี้
“เจมส์หายไปไหนล่ะ
ฉันเห็นอยู่ในงานไปตามมาสิ”
วราภาหันไปถาม ‘นวลตอง’ คนรับใช้วัยสี่สิบกว่าปีของบ้านที่มีนิสัยปากมากช่างพูดช่างคุย
จนบางทีทำเอาวราภาปวดหัวไม่น้อย
ตั้งแต่กิ่งจันทร์คนสนิทไม่อยู่เธอก็เริ่มเหงา
เพราะไม่มีใครรู้ใจสักคน อีกฝ่ายย้ายไปอยู่กับหลานชายตัวเอง
ซึ่งเป็นสามีของฟ้าพร่างดาวที่เชียงใหม่
เพื่อคอยดูแลลูกชายตัวน้อยของหลานชายที่ตอนนี้เข้าโรงเรียนชั้นประถมแล้ว นางเป็นแม่บ้านที่เคยเลี้ยงดูลูกๆ
ของเธอมาตั้งแต่เด็ก
อีกทั้งยังอยู่ตระกูลนี้มานานตั้งแต่วราภายังไม่ได้แต่งงานกับเจ้าสัวนพพล
“อูย! ขืนไปยุ่งตอนนี้นวลคอขาดสิคะ”
นวลตองทำหน้าสยองเกินเหตุ จนคนฟังขมวดคิ้ว
“มีอะไร”
“เอ่อ...นวลเห็นว่าคุยอยู่กับสาวๆ
กลุ่มใหญ่ตรงริมสระว่ายน้ำ แล้วอยู่ๆ ก็หายตัวไปเลย หรือว่า...จะไป...” นวลตวงพูดเพียงแค่นั้นก็หน้าแดงด้วยความเขิน
พลางยกมือปิดปากตัวเองแล้วส่งเสียงหัวเราะคิกคักแบบไม่กล้าพูดอะไรต่อ
วราภามองครู่เดียวก็พอเดาออกว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่
จึงขมวดคิ้วดุใส่
“จะบ้าเหรอ! ตาเจมส์ไม่ทำอะไรแบบนี้หรอก ลูกชายฉันรู้กาลเทศะดี นี่วันเกิดแม่ทั้งคนนะ” คุณหญิงสูงวัยว่าเสียงแหว
จนนวลตองทำหน้าแหยแต่ก็ไม่อาจหยุดพูดได้ตามนิสัย
“คืนนี้คุณเจมส์ทั้งกอดทั้งจูบกับสาวๆ
กลางงานเลยนะคะ”
“…”
“คงพากันไปต่อหลังบ้านแล้ว
คนอะไรห้องนอนก็มี ไม่ยอมขึ้นไป”
สาวใช้ช่างพูดวิจารณ์อย่างออกรสแบบลืมสถานะตัวเองไปสนิท
“โอ๊ย! พอแล้ว! ไม่ต้องพูดต่อ เจ้าลูกเลว!”
วราภากล่าวเสียงเข้มด้วยความโมโหกับความเจ้าชู้ของลูกชาย
ที่น่ากลัวคือลูกเธอจะไปหักอกลูกสาวของคนมีอำนาจรายไหนอีกแบบคราวก่อน
ตอนนั้นสมัยวัยรุ่นจิรายุทธดันไปทำหมาหยอกไก่กับลูกสาวของท่านนายพลเข้า
จนเธอเกือบจะช่วยไว้ไม่ได้
“พาฉันขึ้นนอนเดี๋ยวนี้เลย
ปล่อยมัน จะไปไหนก็ไป!”
“ให้นวลไปตามยัยพลอยมานวดให้ไหมคะ
น่าจะเก็บของอยู่ในครัว” นวลตองเอ่ยถึงสาวใช้อีกคน
ที่คุณหญิงเพิ่งเรียกมาช่วยงานเกือบสามเดือนแล้ว ทำให้เธอเบาแรงไปได้มากโข
แต่เสียดายที่หญิงสาวยังต้องเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยไปด้วย
ไม่อย่างนั้นเธอจะได้ให้มารับหน้าคุณหญิงวราภาแทนบ่อยๆ
เพราะคนแก่เจ้าอารมณ์ขนาดนี้ไม่รู้สมัยก่อนป้ากิ่งจันทร์ทนไปได้ยังไงตั้งหลายปี
“ไม่ต้องหรอก วันนี้ยัยพลอยคงทำงานมาทั้งวันแล้ว
เดี๋ยวฉันจะนอนเลย” คนสูงวัยกว่ากล่าวด้วยเสียงอ่อนโยนลงเล็กน้อย
เมื่อนึกถึงเด็กหญิงที่ได้อุปการะมาตั้งแต่เด็ก
วันนี้หล่อนเติบโตมาเป็นหญิงสาวที่ขยันเอาการเอางานและกตัญญู
แต่ความรู้สึกทั้งเอ็นดูทั้งชิงชังก็มีอยู่มาก
มันคงเพราะสายเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในตัวของอีกฝ่ายรวมถึงใบหน้าสวยสดงดงามที่ละม้ายคล้ายกัน
ทำให้เธอนึกถึงใครบางคนอยู่เสมอ
+----------+
ความคิดเห็น