ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมียเก็บพรหมจรรย์ Reup 2018 [หนังสือวางจำหน่ายร้านนายอินทร์]

    ลำดับตอนที่ #16 : ตอนที่ 4 อดีตที่ผูกพัน 4-2

    • อัปเดตล่าสุด 13 ส.ค. 61


        มาอัปต่อแล้วค่ะ ฝากกดแอดแฟน 

    และกดถูกแฟนเพจไว้ด้วย
    เพื่อจะได้ติดตามนิยายทุกเรื่อง
    ได้แบบไม่พลาดข่าวสาร

     



    สั่งซื้อหนังสือทำมือเรื่องอื่นๆทางแฟนเพจ




    E-book ทุกเว็บ

    MEB คลิก!!! Get it now

    ดอกโบตั๋นสีขาว
    “เราอยู่ด้วยกันไม่ได้จริงเหรอคะ” เธอถามเสียงสะอื้นเหมือนใกล้จะขาดใจ อยากให้เรื่องนี้คือเรื่องโกหกที่จิรายุทธแต่งเรื่องขึ้นมามากกว่า “ถ้าเธอยอมเอ...




    ookbee

    เมียเก็บพรหมจรรย์

    ดอกโบตั๋นสีขาว

    www.ookbee.com

    0 Ratings

    ซื้อเลย  




    play.google


    ebooks.in.th

    https://bit.ly/2M2flA4


    ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ


       วันต่อมาภายในโรงพยาบาลรัฐขนาดเล็กของอำเภอที่ห่างไกลจากเมืองใหญ่ อุปกรณ์ทางการแพทย์และสถานที่ไม่ได้มีการอำนวยความสะดวกให้มากแบบโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังเหมือนในกรุงเทพมหานคร

    โรงพยาบาลนี้ใกล้สุดเท่าที่จะหาได้ เพราะถ้าจิรายุทธจะขับรถพาเด็กหญิงไปรักษาตัวในเมืองของจังหวัดที่โรงพยาบาลใหญ่กว่านี้เห็นทีว่าเธอคงจะไม่ปลอดภัย แต่เขาก็พยายามเลือกห้องพักวีไอพีและเรียกร้องแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่สุดมารักษาให้เธอ

           หลังจากเข้าห้องฉุกเฉินไปเมื่อวาน นอกจากเด็กหญิงวัยแปดขวบจะมีร่องรอยฟกช้ำ ผลเอกซเรย์ยังตรวจวินิจฉัยพบว่ากระดูกหัก เพราะกลิ้งตกจากที่สูงและถูกรถชน

    ตอนที่ได้เห็นสภาพเธอหลังเกิดเหตุ ชายหนุ่มตัวชาวาบกับสิ่งที่เห็น ใจหายวูบหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม เพราะเด็กหญิงบาดเจ็บกว่าที่คิดไว้มาก คงเพราะเธอตัวเล็กและยังเด็กอยู่ แม่หนูน้อยล้มกองอยู่บนพื้นในสภาพนอนคว่ำ ศีรษะแตกเลือดไหลอาบ และตามลำตัวมีรอยฟกช้ำโดยเฉพาะขา

    ส่วนจักรยานพังยับเยินหมดสภาพอยู่ข้างๆ ไม่ต่างกับเจ้าของ ที่สำคัญแพทย์บอกว่าต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่ากระดูกขาจะกลับมาติดกันอีกครั้ง แต่สิ่งที่ทำให้เขาเศร้าลึกอยู่ในใจเพราะแพทย์ให้เขาเผื่อใจเอาไว้ว่าถ้ากระดูกไม่กลับมาประสานกันอีกเธออาจจะต้องใส่เหล็กดามหรืออาจจะเดินไม่ปกติไปตลอดชีวิต

    จิรายุทธนั่งหน้าเครียดอยู่บนโซฟาภายในห้องพักฟื้นของคนไข้ พลางมองไปยังเตียงคนป่วยด้วยความกังวล ขอบตาสองข้างคล้ำลึกเพราะไม่ได้นอนหลับมาทั้งคืน

    เจมส์ วราภาเปิดประตูห้องเข้ามาเรียก พอเห็นลูกชายหน้าตาหมองเศร้าเป็นกังวลก็ชักเป็นห่วง นี่เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มเจอเรื่องช็อกสะเทือนใจ เพราะตั้งแต่บุตรชายคนโตของเธอเกิดอุบัติเหตุ เธอก็ไม่กล้าให้ลูกคนไหนขับรถเองอีกเลยมาร่วมหลายปี

    เดี๋ยวอีกหนึ่งชั่วโมงเฮลิคอปเตอร์จะมารับเราที่ดาดฟ้าของโรงพยาบาลนะ แม่โทร.บอกที่บ้านแล้ว

    อะไรนะครับเขาหันมามองมารดางงๆ ที่อีกฝ่ายทำเฉยดูไม่ทุกข์ร้อน

    คืนนี้มีงานเลี้ยงวันเกิดคุณพ่อที่โรงแรม เราต้องรีบกลับ มีนักข่าวมาทำข่าว ไหนจะแขกวีไอพีอีกตั้งเยอะ

    แล้วเด็กคนนี้ล่ะครับจิรายุทธเอ่ยถาม พลางมองไปยังเตียงที่มีสายน้ำเกลือ สายเลือด และสายให้ยาสารพัดชนิดอยู่ข้างๆ เด็กหญิงตื่นขึ้นมาเป็นครั้งคราวแต่ยังไม่ได้สติมากนักเพราะศีรษะบาดเจ็บ เขาเกรงว่าจะกระทบกระเทือนทางสมอง แต่แพทย์แจ้งว่าไม่รุนแรงถึงขั้นนั้น

    เดี๋ยวแม่จะส่งทนายความมาจัดการให้

    โธ่ คุณแม่ครับ ผมต้องรับผิดชอบดูแลเธอ

    เด็กคนนี้แม่ก็จะมารับอุปการะอยู่แล้วไง แต่ถ้าพิการขึ้นมานี่อาจต้องส่งไปสถานสงเคราะห์ดีๆ สักแห่ง วราภาทำหน้าครุ่นคิด เหมือนกำลังเลือกที่ส่งตัวเด็ก ทำเอาคนฟังเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง

    คนนี้เหรอครับเขาทำหน้าประหลาดใจ

    แม่ไปดูทะเบียนประวัติคนไข้มาแล้ว เธอชื่อพลอยน้ำเพชร คนเดียวกับที่เราจะมาหานี่แหละ

    แล้วญาติเด็กล่ะครับ เขาว่ายังไงบ้างเรื่องอุบัติเหตุ เขาไม่เอาเรื่องเราหรือไง

    ไม่หรอก แม่ยัยพลอยตายไปแล้ว ไม่มีใครมาเอาเรื่องลูกแน่ ทางผู้ใหญ่บ้านเขาก็ยกให้เราจัดการเอง เพราะถือว่ายัยเด็กนี่เป็นคนของเราแล้วคุณหญิงผู้มีอันจะกินบอกอย่างมั่นใจ พลางปรายตามองคนบนเตียงเหมือนเห็นอากาศธาตุ ด้วยแววตารังเกียจไร้ซึ่งความโอบอ้อมอารีดั่งที่เจตนาจะมาอุปการะเด็กกำพร้า 

    เราจะพาเด็กไปรักษาต่อที่กรุงเทพฯ ใช่ไหมครับ

    จิรายุทธถามด้วยสีหน้ามีความหวังขึ้นมา เพราะเขาคงไม่สบายใจแน่หากต้องกลับบ้านไปทั้งที่เธอยังอาการหนักแบบนี้

    ไม่! โรงพยาบาลนี้ก็รักษาได้เหมือนกัน

    แต่ผมว่า...

    แม่จะให้เด็กอยู่ที่โรงเรียนประจำแถวนี้แหละ ที่แม่ต้องมาช่วยเพราะได้รับการติดต่อมา ผู้ใหญ่บ้านเขาเลี้ยงไม่ไหว แค่นี้ก็บุญหัวมันมากแล้วยังดีกว่าเร่ร่อน

    วราภาบอกเสียงเข้ม พลางมองผ่านๆ อย่างไม่แยแสมากนัก ยิ่งเห็นคนบนเตียงที่ดูมีใบหน้าถอดพิมพ์เดียวมาเหมือนกับคนในอดีตที่เธอเกลียดนักหนา ก็ทำให้อยากแช่งให้มันตายไปซะเลย แต่เธอก็มีส่วนที่ต้องรับผิดชอบเด็กคนนี้ เลยจะมารับเลี้ยงเอาไว้ตามมีตามเกิด

    ถ้าอย่างนั้นคุณแม่กลับไปก่อนเถอะครับจิรายุทธพูดเรียบๆ พลางถอนใจด้วยความผิดหวัง อีกใจก็งุนงงสับสนที่มารดาต้องดั้นด้นมารับอุปการะเด็กผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ต่างจังหวัดห่างไกลแต่กลับปล่อยปละละเลยแบบนี้

    ถึงเขาจะไม่ได้เป็นคนดีพ่อพระมากนัก เพราะทุกวันนี้ยังมั่วอบายมุขทำตัวเหลวไหลบ้าง แต่เรื่องแบบนี้เขาก็ควรรับผิดชอบในเมื่อขับรถชนคนอื่น

    เอ๊ะ! ตาเจมส์ จะมาวุ่นวายให้เสียเวลาไปทำไม กลับบ้านกับแม่นะ!” วราภาตวาดเสียงดังพลางเดินเข้าไปกระชากแขนลูกชายที่ทำตัวไม่ได้ดั่งใจ ส่งผลให้คนป่วยบนเตียงเริ่มขยับตัวเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถูกรบกวน

    ผมเป็นคนขับรถชนเธอก็อยากรอดูอาการ ถ้าเกิดเด็กพิการหรือเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไงครับ

           หมอบอกแล้วไง แค่ใส่เฝือกรอให้กลับมาเดินได้วราภาพูดแล้วนึกถึงแผนการที่คิดเอาไว้เป็นฉากๆ ว่าจะไม่มีทางให้เด็กนี่มาสร้างความเดือดร้อนให้เธอและลูกชายแน่

    พอดีกับโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้น คุณหญิงกดรับสายจากลูกน้องที่แจ้งว่าเอาเฮลิคอปเตอร์มาจอดรับแล้วบนดาดฟ้าของโรงพยาบาล   

           ไปเร็วตาเจมส์ ถ้ามันพิการจริงก็ส่งไปสถานสงเคราะห์นู่น เดี๋ยวแม่บริจาคเงิน

    มารดาเอ่ยเร่งหลังจากวางสาย ทำเอาชายหนุ่มขมวดคิ้วเป็นปมมองแม่อย่างไม่อยากเชื่อสายตา ตั้งแต่เกิดมาพอรู้ความ เขารู้มาตลอดว่าครอบครัวเขามักจะทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของคนในครอบครัวเป็นหลัก หลายสิ่งที่ทำนั้นก็มีบ้างที่ไม่ใช่เรื่องขาวสะอาด แต่เขาก็มองผ่านเพราะโลกนี้ย่อมมีทั้งขาวและดำถึงรวมเป็นสีเทา แต่การละทิ้งคนที่เราทำเขาบาดเจ็บจิรายุทธมองว่ามันไร้ศีลธรรม 

    ผมไม่ไป

    เจมส์!”

    แม่กลับไปก่อนเถอะครับ ผมจะอยู่ที่นี่จนกว่าจะรู้ว่าเธอปลอดภัยแล้วจิรายุทธยืนยันหนักแน่นและนั่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับตัวไปไหน จนคนเป็นมารดามองตาวาวโรจน์ โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ก่อนหมุนตัวเดินกระแทกเท้าจากไปพร้อมปิดประตูเสียงดังปัง 

    +---------+

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×