คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : ตอนที่ 4 อดีตที่ผูกพัน 4-2
มาอัปต่อแล้วค่ะ ฝากกดแอดแฟน
สั่งซื้อหนังสือทำมือเรื่องอื่นๆทางแฟนเพจ
E-book ทุกเว็บ
MEB คลิก!!! Get it now
ookbee
วันต่อมาภายในโรงพยาบาลรัฐขนาดเล็กของอำเภอที่ห่างไกลจากเมืองใหญ่
อุปกรณ์ทางการแพทย์และสถานที่ไม่ได้มีการอำนวยความสะดวกให้มากแบบโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังเหมือนในกรุงเทพมหานคร
โรงพยาบาลนี้ใกล้สุดเท่าที่จะหาได้ เพราะถ้าจิรายุทธจะขับรถพาเด็กหญิงไปรักษาตัวในเมืองของจังหวัดที่โรงพยาบาลใหญ่กว่านี้เห็นทีว่าเธอคงจะไม่ปลอดภัย
แต่เขาก็พยายามเลือกห้องพักวีไอพีและเรียกร้องแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่สุดมารักษาให้เธอ
หลังจากเข้าห้องฉุกเฉินไปเมื่อวาน
นอกจากเด็กหญิงวัยแปดขวบจะมีร่องรอยฟกช้ำ ผลเอกซเรย์ยังตรวจวินิจฉัยพบว่ากระดูกหัก
เพราะกลิ้งตกจากที่สูงและถูกรถชน
ตอนที่ได้เห็นสภาพเธอหลังเกิดเหตุ ชายหนุ่มตัวชาวาบกับสิ่งที่เห็น
ใจหายวูบหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม เพราะเด็กหญิงบาดเจ็บกว่าที่คิดไว้มาก
คงเพราะเธอตัวเล็กและยังเด็กอยู่ แม่หนูน้อยล้มกองอยู่บนพื้นในสภาพนอนคว่ำ
ศีรษะแตกเลือดไหลอาบ และตามลำตัวมีรอยฟกช้ำโดยเฉพาะขา
ส่วนจักรยานพังยับเยินหมดสภาพอยู่ข้างๆ ไม่ต่างกับเจ้าของ
ที่สำคัญแพทย์บอกว่าต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่ากระดูกขาจะกลับมาติดกันอีกครั้ง
แต่สิ่งที่ทำให้เขาเศร้าลึกอยู่ในใจเพราะแพทย์ให้เขาเผื่อใจเอาไว้ว่าถ้ากระดูกไม่กลับมาประสานกันอีกเธออาจจะต้องใส่เหล็กดามหรืออาจจะเดินไม่ปกติไปตลอดชีวิต
จิรายุทธนั่งหน้าเครียดอยู่บนโซฟาภายในห้องพักฟื้นของคนไข้
พลางมองไปยังเตียงคนป่วยด้วยความกังวล
ขอบตาสองข้างคล้ำลึกเพราะไม่ได้นอนหลับมาทั้งคืน
“เจมส์” วราภาเปิดประตูห้องเข้ามาเรียก
พอเห็นลูกชายหน้าตาหมองเศร้าเป็นกังวลก็ชักเป็นห่วง
นี่เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มเจอเรื่องช็อกสะเทือนใจ
เพราะตั้งแต่บุตรชายคนโตของเธอเกิดอุบัติเหตุ
เธอก็ไม่กล้าให้ลูกคนไหนขับรถเองอีกเลยมาร่วมหลายปี
“เดี๋ยวอีกหนึ่งชั่วโมงเฮลิคอปเตอร์จะมารับเราที่ดาดฟ้าของโรงพยาบาลนะ
แม่โทร.บอกที่บ้านแล้ว”
“อะไรนะครับ” เขาหันมามองมารดางงๆ
ที่อีกฝ่ายทำเฉยดูไม่ทุกข์ร้อน
“คืนนี้มีงานเลี้ยงวันเกิดคุณพ่อที่โรงแรม
เราต้องรีบกลับ มีนักข่าวมาทำข่าว ไหนจะแขกวีไอพีอีกตั้งเยอะ”
“แล้วเด็กคนนี้ล่ะครับ” จิรายุทธเอ่ยถาม
พลางมองไปยังเตียงที่มีสายน้ำเกลือ สายเลือด และสายให้ยาสารพัดชนิดอยู่ข้างๆ
เด็กหญิงตื่นขึ้นมาเป็นครั้งคราวแต่ยังไม่ได้สติมากนักเพราะศีรษะบาดเจ็บ
เขาเกรงว่าจะกระทบกระเทือนทางสมอง แต่แพทย์แจ้งว่าไม่รุนแรงถึงขั้นนั้น
“เดี๋ยวแม่จะส่งทนายความมาจัดการให้”
“โธ่ คุณแม่ครับ ผมต้องรับผิดชอบดูแลเธอ”
“เด็กคนนี้แม่ก็จะมารับอุปการะอยู่แล้วไง แต่ถ้าพิการขึ้นมานี่อาจต้องส่งไปสถานสงเคราะห์ดีๆ
สักแห่ง” วราภาทำหน้าครุ่นคิด เหมือนกำลังเลือกที่ส่งตัวเด็ก
ทำเอาคนฟังเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง
“คนนี้เหรอครับ” เขาทำหน้าประหลาดใจ
“แม่ไปดูทะเบียนประวัติคนไข้มาแล้ว เธอชื่อพลอยน้ำเพชร
คนเดียวกับที่เราจะมาหานี่แหละ”
“แล้วญาติเด็กล่ะครับ เขาว่ายังไงบ้างเรื่องอุบัติเหตุ
เขาไม่เอาเรื่องเราหรือไง”
“ไม่หรอก แม่ยัยพลอยตายไปแล้ว
ไม่มีใครมาเอาเรื่องลูกแน่ ทางผู้ใหญ่บ้านเขาก็ยกให้เราจัดการเอง เพราะถือว่ายัยเด็กนี่เป็นคนของเราแล้ว”
คุณหญิงผู้มีอันจะกินบอกอย่างมั่นใจ
พลางปรายตามองคนบนเตียงเหมือนเห็นอากาศธาตุ
ด้วยแววตารังเกียจไร้ซึ่งความโอบอ้อมอารีดั่งที่เจตนาจะมาอุปการะเด็กกำพร้า
“เราจะพาเด็กไปรักษาต่อที่กรุงเทพฯ ใช่ไหมครับ”
จิรายุทธถามด้วยสีหน้ามีความหวังขึ้นมา
เพราะเขาคงไม่สบายใจแน่หากต้องกลับบ้านไปทั้งที่เธอยังอาการหนักแบบนี้
“ไม่! โรงพยาบาลนี้ก็รักษาได้เหมือนกัน”
“แต่ผมว่า...”
“แม่จะให้เด็กอยู่ที่โรงเรียนประจำแถวนี้แหละ
ที่แม่ต้องมาช่วยเพราะได้รับการติดต่อมา ผู้ใหญ่บ้านเขาเลี้ยงไม่ไหว แค่นี้ก็บุญหัวมันมากแล้วยังดีกว่าเร่ร่อน”
วราภาบอกเสียงเข้ม พลางมองผ่านๆ อย่างไม่แยแสมากนัก
ยิ่งเห็นคนบนเตียงที่ดูมีใบหน้าถอดพิมพ์เดียวมาเหมือนกับคนในอดีตที่เธอเกลียดนักหนา
ก็ทำให้อยากแช่งให้มันตายไปซะเลย แต่เธอก็มีส่วนที่ต้องรับผิดชอบเด็กคนนี้
เลยจะมารับเลี้ยงเอาไว้ตามมีตามเกิด
“ถ้าอย่างนั้นคุณแม่กลับไปก่อนเถอะครับ” จิรายุทธพูดเรียบๆ พลางถอนใจด้วยความผิดหวัง
อีกใจก็งุนงงสับสนที่มารดาต้องดั้นด้นมารับอุปการะเด็กผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ต่างจังหวัดห่างไกลแต่กลับปล่อยปละละเลยแบบนี้
ถึงเขาจะไม่ได้เป็นคนดีพ่อพระมากนัก เพราะทุกวันนี้ยังมั่วอบายมุขทำตัวเหลวไหลบ้าง
แต่เรื่องแบบนี้เขาก็ควรรับผิดชอบในเมื่อขับรถชนคนอื่น
“เอ๊ะ! ตาเจมส์
จะมาวุ่นวายให้เสียเวลาไปทำไม กลับบ้านกับแม่นะ!” วราภาตวาดเสียงดังพลางเดินเข้าไปกระชากแขนลูกชายที่ทำตัวไม่ได้ดั่งใจ
ส่งผลให้คนป่วยบนเตียงเริ่มขยับตัวเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถูกรบกวน
“ผมเป็นคนขับรถชนเธอก็อยากรอดูอาการ
ถ้าเกิดเด็กพิการหรือเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไงครับ”
“หมอบอกแล้วไง
แค่ใส่เฝือกรอให้กลับมาเดินได้” วราภาพูดแล้วนึกถึงแผนการที่คิดเอาไว้เป็นฉากๆ
ว่าจะไม่มีทางให้เด็กนี่มาสร้างความเดือดร้อนให้เธอและลูกชายแน่
พอดีกับโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้น
คุณหญิงกดรับสายจากลูกน้องที่แจ้งว่าเอาเฮลิคอปเตอร์มาจอดรับแล้วบนดาดฟ้าของโรงพยาบาล
“ไปเร็วตาเจมส์ ถ้ามันพิการจริงก็ส่งไปสถานสงเคราะห์นู่น
เดี๋ยวแม่บริจาคเงิน”
มารดาเอ่ยเร่งหลังจากวางสาย
ทำเอาชายหนุ่มขมวดคิ้วเป็นปมมองแม่อย่างไม่อยากเชื่อสายตา ตั้งแต่เกิดมาพอรู้ความ
เขารู้มาตลอดว่าครอบครัวเขามักจะทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของคนในครอบครัวเป็นหลัก
หลายสิ่งที่ทำนั้นก็มีบ้างที่ไม่ใช่เรื่องขาวสะอาด
แต่เขาก็มองผ่านเพราะโลกนี้ย่อมมีทั้งขาวและดำถึงรวมเป็นสีเทา
แต่การละทิ้งคนที่เราทำเขาบาดเจ็บจิรายุทธมองว่ามันไร้ศีลธรรม
“ผมไม่ไป”
“เจมส์!”
“แม่กลับไปก่อนเถอะครับ
ผมจะอยู่ที่นี่จนกว่าจะรู้ว่าเธอปลอดภัยแล้ว” จิรายุทธยืนยันหนักแน่นและนั่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับตัวไปไหน
จนคนเป็นมารดามองตาวาวโรจน์ โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ก่อนหมุนตัวเดินกระแทกเท้าจากไปพร้อมปิดประตูเสียงดังปัง
+---------+
ความคิดเห็น