คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : บ ท ที่ 8. เ ม า บ่ อ ย ๆ ก็ ดี เ ห มื อ น กั น
[Aon : Part]
ผมรีบเดินตรงมาที่รถของตัวเองทันที คนที่อยู่บนบ่าก็เอาแต่ร้องแหกปากแล้วก็ดิ้นไปมาไม่หยุด ผมเปิดประตูรถฝั่งที่นั่งข้างคนขับ แล้วจัดการยัดเด็กดื้อเข้าไป ก่อนที่จะรีบวิ่งมาขึ้นอีกฝั่ง แล้วกดล็อกรถอย่างรวดเร็ว
“โว้ยย อะไรเนี่ย จะออก เปิด” ตั้มร้องโวยวาย พยายามที่จะเปิดประตูรถ แต่ก็ทำไม่ได้
“หยุดดิ้น หยุดโวยวายเดี๋ยวนี้นะ” ผมทำเสียงดุ แต่เหมือนมันจะให้ไม่ได้ผลกับไอ้คนดื้อ
“เป็นใครมาสั่งห๊ะ เปิดเดี๋ยวนี้” ตั้มทุบประตูรถผมอย่างแรง ใบหน้าแดงด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์เหวี่ยงใส่ผมด้วยความโมโหที่ไม่ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ผมกระชากตัวตั้มเข้ามาหาตัวเองอย่างแรง จนใบหน้าของเราห่างกันเพียงไม่กี่เซน ตั้มมีสีหน้าตกใจ ตาหวานเบิกโพลง
“ถ้ายังไม่หยุดดิ้นหยุดโวยวาย จะโดนดี” ผมเน้นทีละคำเพื่อให้เขารู้ว่าผมเอาจริง ตั้มปัดมือผมออกอย่างขัดใจ ก่อนที่จะเบือนหน้าหนีมองออกไปนอกหน้าต่างแทน ผมจึงขับรถออกจากตรงนั้น
“ต่อไปนี้ฉันขอสั่งห้ามนาย ไม่ให้ออกมาเที่ยวแบบนี้อีก” ผมเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ ตั้มหันขวับมามองผมด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งโวยวายทันที
“คุณมีสิทธ์อะไรมาสั่งผม ผมจะเที่ยวไหน ทำอะไรมันก็เรื่องของผม”
“ฉันบอกว่าไม่ ก็คือว่าไม่” ผมตอบเสียงเรียบ
“แล้วคุณคิดว่าคุณจะห้ามผมได้เหรอ ไม่มีทาง” ตั้มตอบกลับมา ผมหันมองใบหน้าหวานที่เชิดขึ้นเล็กน้อยเหมือนกับจะบอกว่าตัวเองเป็นต่อ ทำไมถึงดื้อขนาดนี้นะเด็กคนนี้
“ถ้าฉันเจอนายในที่แบบนี้อีก อย่าหาว่าฉันไม่เตือน” ผมยังยืนยันคำเดิม โดยไม่คิดจะบอกเหตุผลให้ตั้มฟัง ร่างเล็กเบะปาก ไม่เถียงกลับเพราะรู้ว่าเถียงไปก็ไม่ชนะผมได้
“ไม่เถียงตั้งแต่แรกก็จบ” ผมพูดต่อ ตั้มทำเป็นไม่สนใจ ผมจึงขับรถต่อไปโดยไม่ได้พูดอะไรขึ้นมาอีก
ผมขับรถมาเรื่อยๆจนถึงคอนโดของตั้ม ผมเลี้ยวรถเข้าไปจอดที่ลานจอดรถของคอนโด เมื่อจัดการเสร็จเรียบร้อยผมก็หันมองเด็กดื้อที่นั่งอยู่เบาะข้างๆ ก็พบว่าหลับไปแล้วเสียนี่
“หมดฤทธิ์แล้วสินะ ไอ้เด็กแสบ” ผมเอื้อมมือไปขยี้หัวของร่างเล็กด้วยความหมั่นเขี้ยว คนตัวเล็กครางฮือ ขยับตัวก่อนที่จะหรี่ตาขึ้นมามองผม ใบหน้าก็ยังคงเหวี่ยงใส่อยู่เช่นเดิม
“ทำไร” ไม่ใช่แค่หน้าที่เหวี่ยง เสียงก็เหวี่ยงใส่ สงสัยยังคงเคืองกับเรื่องที่ผมบังคับอยู่
“ไม่ได้ทำไร ถึงแล้ว จะลงมั๊ย หรือต้องให้อุ้มลง” ผมแกล้งถาม
“ไม่ต้องยุ่ง ลงเองได้ ปิดประตูเส่” พูดจากับผู้ใหญ่แบบนี้นะไอ้เด็กดื้อ สงสัยต้องสั่งสอนซะหน่อยแล้ว
“เป็นเด็กเป็นเล็ก ทำไมพูดกับผู้ใหญ่แบบนี้” ผมถาม
“ผมไม่ใช่เด็ก ! แล้วคุณก็ไม่ใช่ผู้ใหญ่อะไรที่ผมต้องมาพูดดีด้วย เปิดประตูรถเดี๋ยวนี้นะ” ตั้มพูดเสียงดัง นั่นยิ่งทำให้ผมไม่ยอมแพ้ จะต้องปราบได้เด็กดื้อนี่ให้ได้ ผมยื่นมือไปจับใบหน้าเรียวให้หันมาเผชิญหน้ากับตัวเอง ออกแรงบีบเบาๆให้คนดื้อรู้สึกเจ็บ ตั้มใช้มือทั้งสองข้างพยายามแกะมือผมออก แต่ยิ่งพยายาม ผมก็ยิ่งบีบแรงขึ้น
“โอ๊ยย ปล่อยนะ มันเจ็บ” ตั้มร้องโวยวาย
“พูดกับฉัน พูดให้เพราะๆสิ” ผมบอก
“ไม่ ผมจะไม่พูดเพราะกับคุณ” ก็ตามฟอร์ม ตั้มปฏิเสธทันที ผมจึงยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ร่างเล็กพยายามถอยหนีแต่ก็โดนมือผมดึงเข้ามาใกล้ ตั้มมองผมด้วยสีหน้าหวาดๆ เพราะตอนนี้ใบหน้าของเรา อยู่ใกล้กันมาก
“ไหน ลองพูดเพราะๆกับพี่สิครับ น้องตั้ม” ผมแกล้งยื่นหน้าเข้าไปจนปากผมเกือบจะแตะกับเรียวปากบาง ตั้มรีบเบือนหน้าหนี ก่อนจะกัดฟันพูด
“คุณพี่อ้นครับ เปิดประตูรถให้ผมหน่อยครับ” ผมหัวเราะเบาๆให้กับคำพูดที่ดูประชดประชันของตั้ม ก่อนที่จะใช้มือทั้งสองข้างจับใบหน้าเรียวให้หันมาหา
“เป็นเด็กน่ารักแบบนี้ ต้องให้รางวัล” พูดจบไม่ทันให้ร่างเล็กได้เอ่ยอะไรตอบ ผมก็รีบประกบริมฝีปากตัวเองลงบนริมฝีปากเรียวสีสดนั่นอย่างรวดเร็ว ตั้มพยายามผลักผมออกแต่ก็ไม่ได้ผล มือผมเริ่มทำงานด้วยการเลิกชายเสื้อเชิ้ตของคนตัวเล็กขึ้น แล้วสอดมือเข้าไปสัมผัสเนื้อเนียนด้านใน
“อื้อ” ตั้มครางฮือในลำคอ มือของผมลูบไล้แผ่นหลังของเขาอย่างสะเปะสะปะ ริมฝีปากก็ยังคงทำหน้าที่ต่อไป ผมอาศัยจังหวะช่วงเผลอ สอดลิ้นเข้าไปในโพลงปากอีกคน แล้วจัดการกวาดลิ้มความหวานทั่วทั้งปาก
ผมสัมผัสได้ถึงกลิ่นแอลกอฮอล์ที่ตั้มกินเข้าไป นั่นยิ่งทำให้รสชาติยิ่งหวานหอมยิ่งขึ้น คนตัวเล็กก็เหมือนจะเคลิ้มไปกับสัมผัสของผม มือเรียวกำชายเสื้อผมแน่น ตาหลับพริ้ม ใบหน้าแดงซ่านยิ่งกว่าเก่า จูบตอบกลับมาอย่างไม่ประสีประสา ทำแบบนี้ระวังจะไม่รอดนะครับน้อง ผมต้องหักห้ามใจตัวเอง เมื่อคิดขึ้นได้ว่า นี่มันในรถ ผมผละออกจากริมฝีปากแดงสดอย่างอ้อยอิ่ง แล้วเลื่อนมากระซิบข้างหูคนตัวเล็ก
“ไปต่อที่ห้องกันดีกว่า” เหมือนตั้มจะได้สติ มือเรียวทั้งสองผักผมออกห่างจากตัวอย่างแรง
“เปิด เปิดประตูรถเดี๋ยวนี้”
“อยากรีบไปต่อที่ห้องขนาดนั้นเชียว ฮ่าๆ” ผมแซว มือก็เลื่อนไปปลดล็อกประตูรถ เมื่อปลดล็อก ตั้มก็รีบเปิดประตูและเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ผมมองตามแล้วกระตุกยิ้มนิดๆ ก่อนที่จะเดินตามลงไป จะว่าไปให้ไอ้เด็กดื้อเมาบ่อยๆ ก็ดีเหมือนกันนะ
[Tum : Part]
เมื่อกี้ผมทำอะไรลงไปเนี่ย ไปเคลิ้มกับไอ้บ้านั่นได้ยังไง โอ๊ยย อยากจะบ้า ไอ้ตั้มเอ๊ยย ผมยกมือขยี้ริมฝีปาก พยายามต่อต้านความรู้สึกภายในว่า มัน รู้สึกดี … รู้สึกดีบ้าอะไรล่ะโว๊ะ เลิกคิดเดี๋ยวนี้นะไอ้ตั้ม ผมสะบัดแรงๆไล่ความคิดนั้นออกไป ก่อนจะเปิดประตูห้องเข้าไป ในขณะที่กำลังจะดึงประตูปิด ก็มีมือหนายันประตูเอาไว้ ผมเงยหน้ามอง ก็พบกับไอ้พี่อ้นยืนฉีกยิ้มอยู่ตรงหน้า
“พี่ยังไม่ได้เข้าเลย รีบปิดทำไมล่ะ หืม” นอกจากจะยิ้มกวนประสาทแล้วยังพูดจากวนประสาทใส่อีก
“แล้วทำไมผมต้องให้เข้า กลับบ้านคุณไปนู่น” ผมตอบกลับ พร้อมทั้งออกแรงปิดประตู แต่ก็โดนแรงของพี่อ้นดันเอาไว้ให้ไม่สามารถปิดได้
“ดึกขนาดนี้แล้ว ขับรถตอนนี้มันอันตราย ถ้าฉันเป็นอะไรไป นายจะเสียใจเอาได้นะ”
“รู้ได้ไงว่าผมจะเสียใจ ผมจะดีใจด้วยซ้ำ”
“ปากดีแบบนี้ต้องสั่งสอนหน่อยแล้วมั้งไอ้เด็กดื้อ” พี่อ้นผลักประตูแล้วรีบแทรกตัวเข้ามาอย่างรวดเร็ว แล้วก็จัดการปิดประตูล็อก ผมทำอะไรไม่ได้จึงต้องเดินถอยหนีออกให้ห่างจากไอ้โรคจิตนี่
“จะหนีพี่ไปไหนล่ะน้องตั้ม”
“ไปให้พ้นๆ” ผมก้าวถอยหลังหนี มันก็ก้าวเดินหน้าเข้ามาหา ก่อนที่จะเข้ามาประชิดตัวผมแล้วรวบเอวผมไว้ ผมดิ้นอย่างแรงเพื่อให้หลุดจากการเกาะกุท แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล
“นายหนีฉันไม่พ้นอยู่แล้ว จำไว้นะ ยิ่งนายพยายามหนี ฉันก็จะตามนาย”
“แล้ว แล้วถ้าผมไม่หนีคุณล่ะ”
“ฉันก็จะหยุดตามนายเอง” คำตอบที่ได้มาทำเอาใจผมกระตุกเล็กน้อย หยุดตามในวันที่ผมหยุดหนีเค้าอย่างนั้นเหรอ เหอะ ผมจะไม่มีวันหยุดหนีเขาแน่นอน
“ปล่อยผม ผมจะไปนอน” ผมดันร่างสูงให้ออกห่างจากตัว
“เดี๋ยวฉันพาไปเอง” พูดจบมันก็ช้อนตัวผมยกขึ้น ผมตาโตด้วยความตกใจ
“ห้ามดิ้น ถ้าตกลงไปเจ็บ แล้วจะมาโทษฉันไม่ได้นะ ตัวนายก็ไม่ใช่เบาๆ” พี่อ้นพูดต่อ ผมจึงจำเป็นต้องอยานิ่งๆ เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับร่างกาย พี่อ้นเดินเข้ามาในห้องนอน ก่อนที่จะวางผมลงบนเตียงเบาๆ
“ผมนอนแล้ว คุณจะไปไหนก็ไป” ผมไล่ แต่ก็รู้ดีว่ามันไม่เป็นผล
“จะนอนทั้งอย่างนี้เลยเนี่ยนะ ไปอาบน้ำก่อนสิ” พี่อ้นเปลี่ยนเรื่อง
“ไม่เอา จะนอนแล้ว ง่วง” ผมปฏิเสธก่อนจะดึงผ้าห่มมาคลุมร่างตัวเอง และคว้าหมอนข้างมากอด พลางหลับตาลง
“ก็ตามใจ” พี่อ้นพูดทิ้งไว้ก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป ผมหรี่ตามองร่างสูงที่เดินออกไปง่ายๆอย่างแปลกใจ วันนี้ทำไมยอมง่ายจริง แต่ก็ดีแล้วแหละ ผมกลับมาหลับตาลงอีกครั้ง
[Writer : Part]
เวลาผ่านไปนานพอสมควร ร่างสูงออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ที่ระเบียงของห้อง เขาอยากปล่อยให้คนตัวเล็กได้นอนสบายๆ จึงไม่อยากจะไปรบกวน ร่างสูงหันหน้ามองทัศนียภาพของเมืองกรุง แสงสีท่ามกลางความมืดดูสวยงาม แต่บนฟ้ากลับไม่มีดาวเลยสักดวง นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้เห็นดาวบนฟ้า มองไปมองมาก็เกิดความคิดดีๆขึ้นอย่างนึง ร่างสูงระบายยิ้มออกมา ก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปในห้องนอน ก็พบว่าคนตัวเล็กหลับสนิทไปเสียแล้ว
คิดย้อนไปถึงเรื่องวันนี้แล้วก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ตั้มเคยบอกว่าไม่แตะแอลกอฮอล์ แล้วคนที่ไม่เคยกินไปกิน ก็จะยิ่งเมาง่ายขึ้น แล้วถ้าโดนใครมาทำอะไร จะเป็นอย่างไรนะ
อ้นล้มตัวลงนอนข้างๆเด็กดื้อของเขา ตาคมมองสำรวจไปทั่วใบหน้าหวานที่หลับพริ้มดูไม่มีพิษมีภัย ตอนนอนดูไม่มีพิษมีภัย แต่ถ้าตื่นเมื่อไหร่นี่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้าเลยทีเดียว
ร่างสูงก้มลงจรดริมฝีปากลงบนหน้าผากมนเบาๆ เขายอมรับเลยว่าเด็กคนนี้มีเสน่ห์ เสน่ห์ที่มาจากข้างในโดยแท้ ไม่ใช่แค่เพียงหน้าตา ตั้มไม่เหมือนผู้หญิงสวยที่เขาผ่านมา แต่นี่ไม่ใช่เลย ยิ่งดื้อเขายิ่งอยากปราบให้อยู่หมัด และจะทำมันให้ได้
“ฝันดีนะ ไอ้เด็กแสบ”
[Tum : Part]
ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมา อาการปวดหัวก็แทรกเข้ามาทันที ผมยกมือขึ้นกุมหัว นี่เหรออาการแฮงค์ หลังจากดื่มของมึนเมา ผมพยายามยันตัวขึ้นนั่ง แล้วมองสำรวจรอบๆห้อง อาการปวดหัวยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น
“โอ๊ย ปวดหัวชะมัด” ผมร้องออกมาคิดว่ามันคงจะบรรเทาความปวดลงไปได้บ้าง
“อื้อ ตื่นแล้วเหรอ” เสียงทักดังขึ้น ผมหันมองต้นเสีงที่อยู่ข้างๆตัว ก็พบกับร่างสูงของพี่อ้นที่ขยับตัวลุกขึ้น อีกแล้วเหรอเนี่ย ไอ้พี่บ้านี่มานอนเตียงผมอีกแล้ว
“ตื่นแล้ว แล้วใครใช้ให้นายมานอนเตียงฉัน” ผมโวยทันที
“อย่ามาทำเป็นซ่า เดี๋ยวจะโดนหนัก ไปอาบน้ำอาบท่าซะ แล้วเดี๋ยวไปกินยา ปวดหัวไม่ใช่หรือไง” พี่อ้นพูด ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงผม
“เออ” ผมตอบไปอย่างห้วนๆ ก่อนจะลุกขึ้นบ้าง
ผมเดินเข้าไปจัดการอาบน้ำชำระร่างกาย เมื่อสายน้ำไหลผ่านร่างกาย ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาก อาการปวดหัวก็ทุเลาลง ผมเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับใช้ผ้าขยี้ผมที่เปียกจากการสระ แล้วก็พลางคิดถึงเรื่องเมื่อคืน
ผมว่าผมลืมอะไรไปบางอย่างนะ …
ลืมอะไรนะ …
…..
…
..
.
“เห้ย พี่ดิว!” เมื่อนึกขึ้นได้ว่าลืมพี่ดิวไว้เมื่อคืนนี้ ผมก็รีบกระโจนเข้าหาโทรศัพท์มือถือก่อนจะกดเบอร์โทรออกหาพี่ดิวทันที
‘ฮัลโหล’ ปลายสายเอ่ยทักขึ้นมา ทำให้ผมรู้สึกผิด
“เอ่อ พี่ดิวอยู่ไหนอ่ะครับ”
‘พี่ก็อยู่ห้องน่ะสิ ถามได้’ พี่ดิวตอบกลับมาอย่างอารมณ์ดี
“ผมขอโทษนะพี่ ที่เมื่อวานกลับไม่บอก คือ พอดีมีเรื่องนิดหน่อย” ผมตอบกลับไปอ่างกระอักกระอ่วนใจ
‘มีเรื่องอะไร แล้วเราเป็นอะไรหรือเปล่า’ พี่ดิวถามกลับมาด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง ยิ่งทำให้ผมรู้สึกผิดมากขึ้นกว่าเดิม ไอ้ตั้มเอ๊ยยย
“เปล่าครับๆ ไม่ได้มีเรื่องอะไรแบบนั้น ผมไม่เป็นอะไรด้วย พี่พักผ่อนไปเถอะครับ”
‘อ้อ อื้อ ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว’
“ครับผม แค่นี้นะครับ ขอโทษอีกครั้งนะพี่”
‘ไม่เป็นไรน่า อย่าคิดมาก’
“ครับ” ผมวางสายจากพี่ดิว แล้วถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก นี่กี่ครั้งแล้วนะที่ผมทิ้งพี่ดิวเนี่ย ทั้งที่เป็นคนบังคับให้พี่ดิวพาไปแท้ๆ และที่ผมกล้าดื่มแอลกอฮอล์ก็เพราะมีพี่ดิวอยู่ด้วยนี่แหละ คิดแล้วก็รู้สึกผิดจริงๆเลย เพราะไอ้พี่อ้นโรคจิตนั่นคนเดียวเลย
“เมื่อไหร่จะเสร็จห๊ะ” นั่นไง มาละ ตายยากจริงๆ เพิ่งจะด่าในใจไป
“ยุ่งไรเล่า”
“ทำไมทีพูดกับไอ้นั่นจริง แต่ทำไมพูดกับฉันไม่ดีเลย”
“ก็นายมันน่าพูดดีด้วยซะที่ไหนล่ะ” ผมโต้กลับ ไม่รู้เป็นอะไร ผมถึงต้องเถียงผู้ชายคนนี้ตลอดๆ
“ปากดีแบบนี้ ต้องจูบปราบใช่มั๊ย”
“ไอ้พี่อ้น ไม่ต้องเข้ามาเลยนะ ไม่งั้นเจอถีบแน่” ผมขู่เมื่อพี่อ้นมีท่าทีว่าจะเดินเข้ามา
“เหอะ คิดหรือไงว่าจะทำไรฉันได้ รีบออกมากินข้าวกินยา จะได้ไปกันสักที” พี่อ้นว่า ไปกันสักที ? ไปไหน ?
“ไปไหน ?”
“ไปเที่ยว”
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ฮูเร่ ' ' / คือจะบอกว่าแต่งได้วกไปวนมามาก ไม่ได้แต่งนานแล้วหนูลืมว่าเคยแต่งไรไปบ้าง ฮือออ
รู้สึกพี่อ้นมันจะจับจูบทุกตอนเลยแหะ -.,-
เอาเป็นว่าเดี๋ยวจะลองมารีไรท์ทีหลังนะจ๊ะ อ่านแล้วเม้นท์ให้เค้าด้วยนะจุ้บๆ <3
ตามมาเมาท์มอยกันที่ทวิตเตอร์ @pupaepa นะจ๊ะ
ความคิดเห็น