คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บ ท ที่ 5. พ นั น กั น มั๊ ย ?
[Tum : Part]
ทันทีที่จบประโยค ผมก็ดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วรีบสาวเท้าไปหาเสื้อผ้าในห้องนอนให้ไอ้พี่อ้น พี่อ้นเดินตามเข้ามาอย่างยิ้มๆแล้วเข้าห้องน้ำไป อยากจะร้องไห้จริงๆเลย ผมค้นหาเสื้อผ้าที่คิดว่าพี่อ้นมันจะใส่ได้มาวางไว้ให้ที่เตียงนอน ชีวิตผมแลวุ่นวายมากเลยเพราะมีไอ้พี่อ้นนี่เข้ามาเนี่ย
“ตั้ม เอาผ้าเช็ดตัวให้ด้วย” เสียงของพี่อ้นตะโกนออกมาจากห้องน้ำ
“แล้วทำไมไม่หยิบไปตั้งแต่ทีแรกล่ะห๊ะ” ผมตะโกนกลับออก
“ไปหยิบมาให้เร็วๆ ไม่ต้องมาพูดมาก ไม่งั้นฉันจะออกไปทั้งอย่างนี้แหละ”
“เออๆ ก็ได้ รอแปปนึง” ผมตะโกนกลับแล้วเดินไปหยิบผ้าขนหนูออกมาให้ เสร็จแล้วผมก็เดินไปเคาะประตูห้องน้ำ เพื่อเรียกไอ้คนที่อยู่ข้างในออกมา
“นี่คุณ ได้แล้ว” ผมเรียก
“ขอบใจ” พี่อ้นแง้มประตูออกมารับผ้าขนหนูไป ผมจึงเดินไปเตรียมผ้า เพื่อที่จะเข้าไปอาบต่อ ไม่นานนัก พี่อ้นก็ออกมาจากห้องน้ำ ด้วยสภาพผ้าขนหนูผืนเดียวพันกายด้านล่างอยู่ ผมเสมองไปทางอื่น ถึงจะเป็นผู้ชายเหมือนกันก็เหอะ แต่มันไม่อายบ้างหรือไงนะ เราไม่ได้สนิทกันมากขนาดนั้นด้วย
“ไหนอ่ะ เสื้อผ้าฉัน” เจ้าของร่างสูงเอ่ยถาม ผมจึงชี้ไปที่เสื้อผ้าที่เตรียมไว้ให้ แล้วลุกขึ้นจะเดินไปเข้าห้องน้ำบ้าง แต่ก็ต้องชะงักเล็กน้อยเมื่อถูกดึงแขนเอาไว้
“จะอาบน้ำเหรอ” พี่อ้นถาม
“ก็ใช่อ่ะดิ จะทำไม”
“ฉันอาบให้เอามั๊ย” ผมหันขวับ ก็พบกับใบหน้าหล่อทำหน้ากวนใส่ผมอยู่
“ไม่ต้องยุ่ง” ผมสะบัดแขนออกจากมือใหญ่ แล้วจ้ำเข้าห้องน้ำทันที และก็ยังได้ยินเสียงหัวเราะตามหลังมา ไอ้โรคจิตเอ๊ย!
ผมจัดการอาบน้ำชำระร่างกายจนเรียบร้อย สดชื่นจริงๆเวลาได้อาบน้ำเนี่ย แต่แล้วผมก็นึกอะไรบางอย่างได้ ตายละ ลืมเอาเสื้อผ้าเข้ามา ไอ้พี่อ้นนี่ยังอยู่ในห้องหรือเปล่านะ ไม่เอานะเว้ยเฮ้ย ออกไปสภาพแบบนี้เนี่ย
ผมโผล่หน้าออกไปสำรวจ สายตาสอดส่องไปทั่วห้อง ก็ไม่พบกับสิ่งมีชีวิตอยู่ ฮู่ววว ค่อยยังชั่ว เดินออกไปได้อย่างสบายใจหน่อย ผมเดินออกมาใส่เสื้อผ้าจนเรียบร้อย ว่าแต่ว่า ไอ้พี่อ้นโรคจิตมันหายไปไหนเนี่ย
ผมเดินออกจากห้องมา มองสำรวจหา ก็พบร่างสูงนั่งกระดิกเท้าดูทีวีอย่างสบายใจ ผมไม่สนใจ เดินไปเสียบปลั๊กกาน้ำร้อน จะทำมาม่ากินซักหน่อย
“ทำไรอ่ะ” เสียงทุ้มดังขึ้นข้างหลังผม เล่นเอาสะดุ้งเล็กน้อย เล่นมาไม่ให้สุ้มให้เสียง
“ตามีก็มองดูเอาเองสิครับ” ผมตอบกลับ จริงๆก็ไม่อยากกวนมันหรอก แต่หมั่นไส้อ่ะ มันอดไม่ได้จริงๆ
“ปากอย่างนี้นี่ มันน่านัก”
“มันน่าอะไร” ผมหันขวับไปถาม พี่อ้นขยับเข้าประชิดตัวผม แล้วทำหน้าหื่นใส่ มันน่าต่อยจริงๆ
“น่า … จูบ”
“จูบพ่องสิ” ผมโพล่งคำหยาบออกไปโดยไม่ทันได้คิด ก็ดูมันดิ น่าด่าไหมล่ะ
“ทำมาให้ฉันด้วยแล้วกัน เร็วๆนะ” พูดจบมันก็เดินไปนั่งดูทีวีเฉย เอ้าไอ้บ้านี่ สั่งๆๆๆอย่างเดียวเลย ผมจึงได้แต่ส่งสายตาอาฆาตแล้วหันไปทำเผื่อมันอีกถ้วยหนึ่ง ชีวิตผมนี่แลดูวุ่นวายจังเลย
ผมยกถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป สองถ้วยไปเสิร์ฟให้ไอ้พี่อ้นถึงที่ พี่อ้นรับไปนั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย ผมส่ายหัวให้อย่างเอือมๆแล้วลงมือกินของตัวเองบ้าง
“นายมีแฟนหรือยัง” อยู่ดีๆ ไอ้คนที่นั่งอยู่ข้างๆก็ถามขึ้นมา
“ยังอ่ะ” ผมตอบไปตามความเป็นจริง ตั้งแต่ผู้หญิงโดนหักอกมาเมื่อปีที่แล้ว ผมก็ครองตัวเป็นโสด จริงๆแล้วไม่ได้อยากเป็นหรอกนะ แต่กลัวจะเจ็บอีก และก็ยังคงไม่เจอคนที่ใช่ด้วยแหละมั้ง
“ทำไมล่ะ หน้าตานายก็ไม่ได้ว่าจะแย่นะ” พี่อ้นถามต่อ
“หน้าอย่างผมไม่เรียกว่าไม่น่าแย่ เค้าเรียกว่าหล่อมากครับ” ผมหันไปเถียง พี่อ้นยิ้มขำเล็กๆ
“โอเคๆ หล่อก็หล่อ แล้วนายชอบคนแบบไหน” พี่อ้นถามต่อ ชอบคนแบบไหนเหรอ
“ผมชอบผู้หญิง ตาหวานๆ ยมยาว ประมาณนั้นแหละ”
“แล้วถ้าเป็นผู้ชายล่ะ”
พรวด
เส้นบะหมี่ที่กำลังจะถูกกลืนลงคอ ถูกพ่นออกมาทันทีที่ได้ยินคำถาม ไอ้บ้าเอ๊ย ถามอะไรของเขาวะนั่นน่ะ
“แค่กๆ” ผมไอเพราะสำลักเส้นมาม่า พี่อ้นเข้ามาลูบหลังให้
“เห้ย เป็นไรวะเนี่ย พ่นออกมาทำไม” ยังจะมีหน้ามาถาม ก็คุณนั่นแหละเป็นคนทำ
“คุณนั่นแหละ ถามอะไรออกมา”
“เอ้า ฉันถามอะไรผิดตรงไหนวะ ก็แค่ถามว่า นายชอบผู้ชายแบบไหนเท่านั้นเอง” พี่อ้นยังจะมาถามย้ำอีก
“ผมไม่ชอบผู้ชาย”
“… แต่เดี๋ยวนายต้องชอบฉัน” พี่อ้นพูดออกมา แววตาที่มองมาทำเอาผมเถียงอะไรไม่ออก แววตาของเขามันดูจริงจังแปลกๆ จนผมต้องหลบสายตา ลุกขึ้นไปรินน้ำมาดื่ม
“เอ๊ะ หรือว่านายจะชอบฉันแล้ว” เสียงพี่อ้นตามหลังมา
พรวด
และก็เป็นอีกรอบที่ผมพ่นน้ำออกมา ไอ้บ้าเอ๊ย
“ไม่ได้ชอบเว้ย” ผมตะโกนกลับ
“อ้าวเหรอ โธ่เอ๊ย ไม่เป็นไร ไม่ชอบวันนี้ ก็ต้องชอบวันหน้าอยู่ดี” ไอ้พี่อ้นนี่มันเป็นคนยังไงของมันวะเนี่ย บอกว่าไม่ชอบก็ไม่ชอบดิวะ
“จะวันไหนผมก็ไม่มีวันชอบคุณหรอกน่า” ผมตอบกลับไป พี่อ้นหันมามองหน้าผม แล้วลุกขึ้นยืนเดินเข้ามาหาผมที่ดื่มน้ำอยู่ตรงตู้เย็น ผมถอยจนติดตู้เย็น พี่อ้นประชิดตัวผม ใช้มืออีกข้างท้าวตู้เย็นไว้
“แน่ใจเหรอ” พี่อ้นถาม ใบหน้าของเขาโน้มลงมาจนจะชิดหน้าผม
“นะ…แน่ใจสิ”
“ทำไมตอบไม่เต็มเสียงเลยล่ะ”
“แน่ใจ เต็มพอยัง” ผมข่มตัวเองให้พูดออกมาอย่างชัดเจน
“โอเค งั้นพนันกันไหม”
“พนันอะไร”
“ถ้าเกิดวันนึง นายบอกชอบฉันขึ้นมา นายจะต้องให้อะไรฉันอย่างนึง” พูดจบพี่อ้นก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา ผมเริ่มจะกลัวกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเขาแล้วนะเนี่ย
“ให้อะไร” ผมถามต่อ
“ถ้าเมื่อไหร่ที่นายบอกชอบฉัน ฉันขอ… ตัวนาย” ไอ้พี่อ้นพูดจบก็ใช้นิ้วชี้จิ้มๆที่อกผม ส่วนผมก็ได้แต่อ้าปากค้าง ห๊ะ !! อะไรนะ ขอ ขอตัวผม ขอตัวผมทำมายยยยยยย
“ตัวผม ขะ…ขอไปทำอะไร” ผมถามจบ พี่อ้นก็ฉีกบิ้มกว้างส่งมาให้ ก่อนที่จะโน้มหน้ามากระซิบที่ข้างหูของผม
“…ทำเมีย” ห๊ะ ห๊ะ ห๊า ไอ้โรคจิตใส่เหล็กดัดฟันนี่มัน ….. คิดจะฟันผมมมมมม
“เมียบ้าอะไรล่ะ” ผมออกแรงผลักพี่อ้นออกอย่างเต็มแรง พี่อ้นยอมถอยออกจากตัวผม
“ก็บอกเองไม่ใช่เหรอ ยังไงก็ไม่มีวันชอบฉันน่ะ จะกลัวทำไม” พี่อ้นพูดกวนๆ
“ไม่ได้กลัวเว้ย แต่… โว้ ไปนอนแล่ว” ผมเดินเลี่ยงออกมาจากตรงนั้น
“อะไร จะไปนอนรอฉันแล้วเหรอ รีบไปหรือเปล่า” เสียงที่ไล่ตามหลังมาทำให้ผมอยากจะกลับไปกระทืบไอ้คนพูดเสียจริง ผมมองซ้ายมองขวาเห็นหมอนที่วางอยู่ตรงโซฟา ก็หยิบขว้างไปทันที
“อย่ามาทะลึ่ง”
“เปล่าทะลึ่งเลยนะ” พี่อ้นไม่สะทกสะท้าน ทำไมกวนเท้าอย่างนี้วะครับ ร่างสูงหมุนตัวเปิดตู้เย็น แล้วทำท่าหาอะไรบางอย่าง
“นี่ตู้เย็นนายไม่มีเบียร์เลยเหรอ” พี่อ้นถามทั้งๆที่ตัวก็ยังคงหาของในตู้เย็นอยู่
“ไม่มีหรอก พอดีผมคนดี ไม่แตะแอลกอฮอล์น่ะ”
“เด็กอ่อนหัดเอ๊ย แล้วถ้ามีคนมามอมเหล้านี่จะทำยังไง” ร่างสูงละออกจากตู้เย็นแล้วเดินออกมา
“ใครเค้าจะมามอมเหล้าผมครับ”
“ก็เผื่อไว้”
“ไม่มีหรอก เดี่ยวคืนนี้พี่นอนโซฟานะ ผมเอาหมอนกับผ้าห่มมาให้” ผมบอกเขาแล้วก็กำลังจะเดินไปเอาหมอนและผ้าห่มมาให้พี่อ้น
“เรื่องอะไรให้ฉันนอนโซฟาล่ะ ไม่เอา ไม่นอน” พี่อ้นโวยวายกลับทันที ว่าแล้วไง
“ก็มันไม่มีที่นอนแล้ว หรือพี่จะนอนพื้น”
“แล้วเตียงนายล่ะ มีไว้ทำอะไร”
“เตียงผม ผมก็นอนของผมสิ”
“ไม่ ฉันจะนอนเตียง”
“เตียงผม ผมจะนอน”
“งั้นก็นอนมันด้วยกันทั้งคู่นี่แหละ” พูดจบพี่อ้นก็ตรงดิ่งมาหาผม จับตัวผมอุ้นขึ้นพาดบ่าแล้วเดินเข้าห้องนอน เห้ย!! อยู่ดีๆมาอุ้มผมเฉย ผมดิ้นไปตามสัญชาตญาณ
“ปล่อย ปล่อยผม”
“จะดิ้นทำไมเนี่ยห๊ะ ตัวก็ไม่ใช่จะเบาๆเลยนะเว้ย” พี่อ้นบ่นแล้วก็ทุ่มผมลงบนเตียงนุ่ม ตามมาด้วยร่างสูงที่กระโจนลงมานอนตาม
“ลงไป นี่เตียงผม” ผมพยายามผลัก ถีบ ดันพี่อ้นลงเตียง แต่มันก็ไม่ยอมลง
“เตียงก็ออกจะกว้าง นอนด้วยไม่ได้หรือไง”
“ไม่ได้ ผมนอนดิ้น”
“เค้าว่า คนนอนดิ้นน่ะ แค่มีอีกคนนอนกอดไว้ ก็ไม่ดิ้นแล้ว”
“ผม.. ผมดิ้นมาก เอายังไงก็ไม่อยู่หรอก ผมอาจจะถีบคุณตกเตียงได้นะ” ผมยกข้ออ้างมา
“ฉันเชื่อว่าฉันกอดนายไม่ให้นายดิ้นได้น่า นอนเร็ว หรือว่าจะต้องให้กด”
“กดบ้าอะไรเล่า เออ นอนก็ได้ ไปแปรงฟันก่อน” ผมลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
“เอ้อ มีแปรงสีฟันอันใหม่มั๊ย เตรียมไว้ให้ด้วย” พี่อ้นสั่ง สั่งอีกแล้ว อย่าให้ถึงตาผมบ้างนะ
“เออ สั่งจริง” ผมตอบรับแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปจัดการแปรงฟันล้างหน้า เตรียมจะนอน เมื่อผมเดินออกมาจากห้องน้ำ ก็พบร่างสูงนอนหลับตาอยู่ ไม่รู้ว่าหลับจริงหรือว่าอะไร
“คุณ ผมเตรียมไว้ให้แล้ว ไปแปรงได้แล้ว” ผมไปเขย่าตัวพี่อ้นเบาๆ เขาลืมตาขึ้น ไม่ได้พูดอะไร ลุกขึ้นแล้วเกินไปที่ห้องน้ำ ผมมองตามไป พอพี่อ้นเข้าห้องน้ำไป ผมก็ทิ้งตัวนอนบนเตียงนุ่ม หลับตาลงเบาๆ และด้วยความเหนื่อยล้าก็ทำให้สติผมเริ่มเลือนรางไปทันทีที่หัวถึงหมอน
สติที่กำลังจะหลุดลอยไป กลับรู้สึกอีกครั้ง เมื่อผมรู้สึกเหมือนมีอะไรมานอนซ้อนหลังผม พร้อมทั้งยังมีอะไรหนักๆพาดผ่านลำตัวผม และยังลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดอยู่ที่ต้นคอ
ผมลืมตาขึ้นมาก็ตกใจจนแทบจะเด้งตัวขึ้นมา แต่ติดอยู่ตรงที่โดนกอดแน่นอยู่ ผมพยายามดิ้นออกจากอ้อนกอดของอีกคน แต่ก็ไม่ออก
“คุณ ปล่อยผม”
“อื้อ… อะไร นอนไป ฉันง่วงจะตายแล้ว” พี่อ้นพูดออกมาทั้งๆที่ตายังปิดอยู่
“ปล่อยผมเส่ มากอดทำไม”
“ฉันบอกให้นายนอน” น้ำเสียงริ่มเพิ่มระดับความรุนแรง ทำเอาผมต้องนิ่งไป แล้วจะนอนหลับได้ยังไงวะเนี่ย เกิดมาไม่เคยมีผู้ชายมานอนกอดอย่างนี้เลย นอกจากพ่อน่ะนะ และไอ้ใจที่มันเต้นตึกตักๆนี่มันคืออะไรอีก โอยยยย วราวุธเครียด -*-
---------------------------------------------------------
เม้นท์หน่อยนะตัวเอง จุ้บๆ <3
ความคิดเห็น