ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic TS9] Risk with me | เสี่ยงกับฉันมั๊ย ? [AonTum]

    ลำดับตอนที่ #3 : CHAPTER 2. มีฉันอยู่

    • อัปเดตล่าสุด 1 ต.ค. 56



    ғιвιι









    อ้นรีบเดินทางกลับบ้าน เขาไม่อยากจะปล่อยอีกคนไว้ตามลำพังเท่าไหร่นัก รู้ดีว่าอันตรายนั้นอยู่รอบตัว คนของท่านภาคินมีอยู่มากมายเต้มไปหมด อาจมีคนเห็นได้ และเมื่อถึงวันนั้น เขาอาจจะช่วยอะไรตั้มไม่ได้อีกเลย

    แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้อ้นโล่งใจก็คือ ที่ที่อันตรายที่สุด คือที่ที่ปลอดภัยที่สุด คงยังไม่มีใครสงสัยเป็นแน่

    ร่างสูงก้าวเข้ามาภายในบ้านหลังเล็ก เขาไม่ลืมที่จะปิดประตูล็อกกลอนให้เรียบร้อย ทั้งบ้านเงียบเชียบ นี่ก็เป็นปกติของเขา ชีวิตเขาอยู่กับความเงียบงันมาโดยตลอด ตั้งแต่จำความได้ เขาถูกเลี้ยงให้เติบโตขึ้นมาพร้อมๆกับภาคินที่มีศักดิ์เป็นเจ้านาย การคุยกัน ไม่ใช่การคุยเล่นของเด็กผู้ชายทั่วไป แต่เป็นการคุยกันในเรื่อง ปืน การต่อสู้  บ้านหลังนี้เขาก็อยู่คนเดียวมาโดยตลอด ไม่แปลกเลยที่ทำให้เขากลายเป็นคนเย็นชา เพราะว่าเขา ไม่รู้จักคำว่า ความรัก

    “เฮ้ พี่อ้น กลับมาแล้วเหรอครับ”  อยู่ๆ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมา พร้อมกับเจ้าของร่างที่วิ่งเข้ามาหาด้วยท่าทีร่าเริง ใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ทำให้อ้นแทบจะยิ้มตามออกมา แต่ก็ต้องเก็บมันเอาไว้

    “อื้อ แล้วนี่เป็นไงบ้าง”  ร่างสูงถามกลับ พร้อมกับทรุดตัวนั่งลงบนโซฟา ร่างเพรียวเห็นดังนั้นจึงนั่งลงตาม

    “ก็ ไม่เป็นไรแล้ว แต่ปวดขานิดหน่อย เมื่อคืนวิ่งหนักไปหน่อย”  ตั้มตอบ

    “อื้อ ดีแล้วแหละ นายอยู่ที่นี่ ห้ามออกไปไหนนะ ต้องอยู่แต่ในนี้เท่านั้น”  เมื่ได้ยินดังนั้น ตั้มก็เบ้หน้าอย่างไม่พอใจ ก็ใครมันจะไปพอใจกันล่ะ เล่นบังคับให้อยู่แต่ในบ้าน อย่างนี้ก็เบื่อแย่น่ะสิ

    “ทำไมล่ะพี่อ้น ให้อยู่แต่ในนี้เดี๋ยวก็เฉาตายกันพอดีเลย”  ตั้มบ่น

    “ข้างนอกยังมีอันตรายอีกมากมาย ถ้ายังไม่อยากตาย ก็อยู่ในนี้แก่อน เข้าใจมั๊ย”  อ้นดุเสียงเข้ม ตั้มหน้าเจื่อนลง แล้วพยักหน้ารับช้าๆ

    “ค้าบ ก็ได้ครับ”

    “ดีมาก อยู่ที่นี่ต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจมั๊ย”  ตั้มพยักหน้ารับรัวๆ

    “เอ้อ นี่พี่อ้น ผมอยาก ผมอยากไปที่ตรงที่พ่อผมโดนยิง พี่ พาผมไปหน่อยได้มั๊ย”  ตั้มเอ่ยขอร้อง เขาอยากจะไปหาพ่อ อยากจะไปดูให้เห็นกับตา

    “ไม่ต้องไปหรอก ฉันได้ยินข่าวมาว่ามีคนมาพบศพแล้วนำไปประกอบพิธีที่วัดแล้ว นายไม่ต้องเป็นห่วง ห่วงตัวเองก่อนเถอะ ถ้าคนที่จะฆ่านายมาเจอนาย นายจะได้ตามไปพบพ่อจริงๆ”  อ้นเอ่ยตอบ เขาหันไปเห็นตั้มพยายามกลั้นน้ำใสที่คลอหน่วยอยู่ที่ดวงตา เขาไม่เข้าใจหรอกว่า ความรักของพ่อกับลูกมันเป็นยังไง

    “พี่อ้น ได้โปรดเถอะนะครับ พาผมไปหาพ่อหน่อย ผมอยากเจอเค้า”  เสียงสั่นเครือกับแววตาขอร้องนั่นกำลังจะทำให้คนใจแข็งอย่างอ้น ใจอ่อนอีกครั้ง ร่างสูงมองใบหน้าหวานนิ่งอย่างชั่งใจ

    “ก็ได้ แต่ต้องไปตอนกลางคืนนะ”  ในที่สุด เขาก็แพ้ทางให้คนคนนี้อีกครั้ง  ตั้มเผยยิ้มออกมาด้วยความดีใจ

    “ขอบคุณพี่มากนะ ขอบคุณจริงๆครับ”  สองมือเรียวยกขึ้นไหว้คนอายุมากกว่าเพื่อเป็นการขอบคุณ อ้นพยักหน้ารับเล็กน้อย ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง

    “ไปอาบน้ำอาบท่าซะไป อยู่ชุดนี้มาตั้งแต่เมื่อวานแล้วนี่ เน่าหมดแล้วมั้งน่ะ”  อ้นพูด คนตัวเล็กก้มดูสภาพตัวเองทันที นี่ลืมไปแล้วนะเนี่ยว่าเขายังไม่ได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า

    “เออใช่ จริงด้วย แหะๆ” ตั้มหัวเราะแห้งๆ

    “มาตามมานี่”  ร่างสูงเดินนำเข้าไปในห้อง ตรงไปที่ตู้เสื้อผ้า เขาจัดการค้นเสื้อผ้าที่คิดว่าเด็กหนุ่มน่าจะใส่ได้ออกมา แล้วยื่นให้

    “เอาไปใส่ก่อนแล้วกัน เดี๋ยวฉันค่อยพาไปซื้ออีกที”  อ้นบอก ตั้มรีบยกมือไหว้ขอบคุณก่อนที่จะเอื้อมมือไปรับเสื้อผ้าพวกนั้นมา

    “ขอบคุณมากนะครับ เอ่อ จริงๆแล้วไม่ต้องซื้อให้ผมใหม่ก็ได้นะครับ กลับไปเอาที่บ้านผมก็ได้นี่”  ตั้มบอก เขาไม่อยากรบกวน
    อ้นไปมากกว่านี้แล้ว แค่นี้ก็มากพอแล้วสำหรับการช่วยเหลือ


    “ไม่ได้ ฉันจะไม่ให้นายกลับไปทางเดิมอีกแล้ว ชีวิตนายไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ เพิ่งโดนตามฆ่ามา ไม่เข็ดหรือไง”  อ้นทำเสียงเข้ม ตั้มก้มหน้าลงเล็กน้อย ไม่เห็นจะต้องดุขนาดนี้เลยนี่นา

    “ครับๆ ดุจังเลย”  คนตัวเล็กบ่นออกมาเบาๆ  อ้นส่ายหัวเล็กน้อยให้กับอาการหงอยๆของตั้ม ริมผีปากก็เผยรอยยิ้มบางออกมา อีกแล้วสินะ เด็กคนนี้ทำให้เขายิ้มได้อีกแล้ว

    “ไปวะ รีบไปอาบ”  ร่างสูงพูดเสียงเรียบ เด้กหนุ่มพยักหน้าแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำจัดการอาบน้ำอาบท่าทันที อ้นมองตามแผ่นหลังเล็กจนเข้าห้องน้ำไป  เขาก็ถอนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ไม่รู้ว่าจะรักษาชีวิตเด็กคนนี้ไว้ได้นานเท่าไหร่ แต่เขาก็จะพยายาม จนสุดความสามารถ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องทำ แค่ภายในใจไม่อยากเห็นเด็กคนนี้เป็นอะไรไป ก็เท่านั้นเอง ..

     

    เวลาล่วงเลยมาจนถึงสี่ทุ่มกว่าๆ ร่างเล็กของตั้มนั่งรออ้นที่บอกว่าจะพาไปหาพ่ออย่างใจจดใจจ่อ ทันทีที่เห็นร่างสูงก้าวออกมาจากห้องนอน คนตัวเล้กก็ลุกขึ้นพรวดทันที

    “ไปกันได้แล้วใช่มั๊ยครับ”  ตั้มยิงคำถามทันที

    “อื้อ”  ตอบรับเพียงเท่านั้น ตั้มก็รีบวิ่งออกไปนอกบ้านทันที ร่างสูงเดินตามไปอย่างไม่รีบร้อนนัก

    “พี่อ้นเร็วๆสิครับ”  ตั้มกวักมือเรียกพร้อมเร่งให้คนตัวสูงเดินมาเร็วๆ แต่อ้นก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร

    “จะรีบทำไมล่ะ”

    “ก็ผมอยากไปหาพ่อเร็วๆ”  ตั้มตอบเสียงอ่อย อ้นจึงยอมรีบเดินไปที่รถของตัวเอง กดปลดล็อกรถ ก่อนจะหันไปเรียกตั้มให้มาขึ้น

    “รีบมาขึ้นสิ”  ได้ยินดังนั้น ริมฝีปากบางก็ยิ้มออกด้วยความดีใจ ก่อนที่จะรีบวิ่งมาขึ้นรถทันที

                    อ้นขับรถออกจากบ้านไป สองข้างทางนั้นค่อนข้างมืดและไม่ค่อยมีบ้าน คนอาศัยอยู่ คนตัวเล็กนั่งมองออกไปนอกหน้าต่างก็ต้องแปลกใจจึงอดถามออกมาไม่ได้

                    “ทำไมทางเข้าบ้านพี่มันเปลี่ยวจังหล่ะครับ ไม่กลัวเหรอ”  ตั้มถาม

                    “ไม่กลัวหรอก ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัว”  อ้นตอบเรียบๆ และยังคงทำหน้าที่ขับรถของตัวเองไป

                    “มีนะ โจรไรงี้ไง เผื่อมันมาดักปล้น พี่ไม่กลัวเหรอ”  คนขี้สงสัยก็ยังคงถามต่อไป

                    “บางที ฉันอาจจะน่ากลัวกว่าโจรพวกนั้นก็ได้นะ”  ตั้มเลิกคิ้วให้กับคำตอบของอ้นอย่างงงๆ อะไรกัน อย่างพี่อ้นเนี่ยนะน่ากลัวกว่าโจร

                    “หือ พี่เนี่ยนะน่ากลัวกว่าโจร”

                    “อื้อใช่”  อ้นก็ยังยืนยันคำเดิม

                    “ไม่เชื่อหรอก พี่ออกจะใจดี พี่ช่วยชีวิตผม พี่ให้ผมอยู่กับพี่ พี่ไม่เห็นจะน่ากลัวเลย”  คนตัวเล้กตอบไปตามความจริงที่ตัวเองรู้สึก ในสายตาของเขา อ้นเป็นคนดี เป็นคนดีมาก อ้นช่วยชีวิตเขา นี่จะเป็นพระคุณที่เขาจะไม่มีวันลืม คำพูดใสซื่อพวกนั้นที่ตั้มได้พูดขึ้นมา กระตุกใจร่างสูงอย่างยิ่ง เขาไม่ใช่คนดี และยังเป็นคนที่ตามล่าฆ่าตั้มอีกด้วย อ้นเม้มปากแน่น ไม่อยากจะคิดเลย ถ้าวันนึงตั้มรู้ความจริงขึ้นมา คนตัวเล็กจะเกลียดเค้ามากแค่ไหน

                    “หือ ถึงแล้วเหรอพี่อ้น”  ตั้มถามขึ้นเมื่อเห็นว่าอ้นจอดรถที่ข้างกำแพงวัดแห่งหนึ่ง

                    “ถึงแล้ว ลงกัน”  ร่างสูงปลดเข็มขัดนิรภัย แล้วออกจากรถมา ตั้มตามลงมาทีหลัง เมื่อลงมามองเข้าไปในวัด ใจก็หาย ไม่คิดเลยว่างานศพที่ตัดขึ้นภายในวัด จะเป็นของพ่อเขา ตั้มมองเข้าไปแล้วนิ่งเงียบ

                    “เข้าไปกัน”  อ้นเอ่ยขึ้น ทำท่าจะเดินเข้าไป แต่กลับรู้สึกได้ว่าคนตัวเล็กไม่ได้เดินตามเขามา ร่างสูงหันไปมองร่างเล็กที่ยืนค้างอยู่กับที่  เขาจึงเดินกลับมากุมมือเรียวที่เย็นเฉียบ แล้วออกแรงดึงเบาๆให้คนตัวเล็กรู้สึกตัว ตั้มสะดุ้งเล็กน้อยก่อนที่จะเดินตามร่างสูงเข้าไป

                    อ้นพาตั้มเดินเลียบเข้ามาจนใกล้กับศาลาสวดศพ เขาพยายามพาตั้มไปที่มุมมืด ที่จะไม่มีใครมองเห็น ช่วงนี้ห้ามไม่ให้ใครเห็นคนตัวเล้กจะเป็นการปลอดภัยกว่า

                    เมื่อได้เข้ามาใกล้มากขึ้น ทำให้ตั้มเห็นอะไรได้ชัดเจนขึ้น เขาเห็นญาติสนิทอยู่ในงาน เห็นคุณปู่คุณย่าหน้าตาเศร้าหมอง สายตาหวานมองไปที่โลงศพที่ตั้งอยู่ น้ำตาใสก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ การที่ต้องสูญเสียคนที่เรารักที่สุด โดยที่เขาไม่มีวันกลับมา มันช่างเจ็บปวดทรมานเหมือนใจจะขาด

                    “ฮึก พ่อ..”  ตั้มร้องเรียกพ่อเบาๆ กัดริมฝีปากแน่นกลั้นเสียงสะอื้น อ้นหันมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของคนตัวเล็ก แสงไฟรำไรทำให้เห็นใบหน้าหวานที่อาบไปด้วยคราบน้ำตาที่ไม่มีท่าทีว่าจะหยุด มือหนาถูกส่งไปบีบไล่บางเบาๆเป็นเชิงให้ปลอบใจ เขาไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ทำได้ดีที่สุดก็เท่านี้

                    “พี่อ้น ผม ฮึก ผมไม่เหลือใครแล้ว”  ร่างเล็กโผเข้ากอดร่างสูงแน่น อ้นชะงักไปเล็กน้อย ก่อนที่จะกอดตอบ ร่างในอ้อมแขนเขาร้องไห้จนตัวสั่น อ้นกระชับอ้อมกอดให้แนบแน่นยิ่งกว่าเดิม หวังว่าคนตัวเล็กจะรู้สึกดีขึ้น ไม่มากก็น้อย

                    “นายก็ยังมีฉันไง”  เสียงทุ้มกระซิบเบาที่ข้างหู ไม่รู้ว่าตั้มได้ยินหรือเปล่า เพราะคนตัวเล็กเอาแต่ร้องไห้ อ้นปล่อยให้ตั้มร้องไห้ให้พอใจ เป็นเวลานานกว่าคนตัวเล็กจะสั่งน้ำตาให้หยุดลงได้ ร่างเล็กค่อยๆผละออกมาจากอ้อนแขนแกร่ง มือเรียวยกขึ้นเช็ดน้ำตา

                    “พ่อคงไม่สบายใจที่เห็นผมร้องไห้แบบนี้ ผมจะเข้มแข็ง ผมจะเอาคนผิดมาลงโทษให้ได้”  น้ำเสียงหนักแน่นนั่นทำเอาอ้นใจหายได้เหมือนกัน ดวงตาคมวูบไหว

                    “อะ อื้อ กลับได้หรือยัง”  อ้นเอ่ยถาม

                    “ขอยืนมองอีกสักพักนะ”  ตั้มตอบ สายตามองเข้าไปที่ข้างในศาลา อ้นปล่อยให้ตั้มทำตามใจเมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรที่จะเป็นอันตราย ตั้มยืนมองจนพอใจแล้วจึงหันมาหาอ้น

                    “กลับกันเถอะพี่อ้น”  อ้นพยักหน้ารับ แล้วเดินนำตั้มกลับไปที่รถ ร่างสูงเข้าไปนั่งประจำที่ ร่างเล็กเองก็เช่นกัน เมื่อได้เข้ามานั่งบนรถแล้ว ตั้มก็หลับตาลงช้าๆ เพราะรู้สึกปวดตาจากการร้องไห้เมื่อสักครู่ อ้นก็ออกรถไปโดยไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา

                    ร่างสูงขับรถกลับถึงบ้านพัก คนข้างๆก็ยังไม่ตื่น เขาจึงเขย่าเรียกเบาๆ

                    “ตั้ม ตั้ม ตื่นได้แล้ว”  แต่ก็ไม่มีท่าทีที่คนตัวเล็กจะตื่นขึ้นมา อ้นจึงตัดสินใจเรียกอีกรอบ

                    “ตั้ม ตื่น ถึงบ้านแล้ว”  และก็เป็นอีกเช่นเคย เขาจึงตัดสินใจ เดินลงจากรถอ้อมไปฝั่งคนขับ แล้วช้อนตัวคนตัวเล็กขึ้นมา ก่อนที่จะเดินไปวางลงบนเตียงนอนนุ่ม

                    อ้นดึงผ้าห่มคลุมตัวตั้ม ร่างสูงทรุดลงนั่งบนเตียงข้างๆร่างเล็กที่หลับตาพริ้ม ลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ ร่างสูงมองหน้าคนตัวเล้กอย่างชั่งใจ เขาทำถูกหรือเปล่าที่ปล่อยให้เด็กคนนี้ทีชีวิตรอด เขาชัดคำสั่งภาคินที่เป็นเจ้านาย  รู้ว่าเรื่องราวต่อจากนี้ไปคงจะมีแต่ความวุ่นวายตามมา แต่ในเมื่อตัดสินใจทำไปแล้ว ตัดสินใจรักษาชีวิตนี้ไว้แล้ว ก็จะรักษาไว้ให้ดีที่สุด ตราบเท่าที่กำลังจะมี

                    “ฉันไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร”

                    “

                    “แค่ แค่เห็นหน้านายในเวลานั้น ก็ทำให้ลั่นไกไม่ลง”

                    “

                    “แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ ฉันจะดูแลนายเอง ของอย่างเดียว อย่าเกลียด อย่าเกลียดกันก็พอ”


     

                    ไม่รู้ว่าคำขอนี้จะเป็นดั่งใจหรือเปล่า ถ้าหากถึงเวลานั้นจริงๆ เขาก็คงต้องยอมรับมัน


    --------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ทำไมพี่กฏอบอุ่นกับน้องจังคะ กรี๊ดดดดดดดด แต่งเองกรี๊ดเอง
    จะบอกว่าแต่งเรื่องนี้ยาก หาจุดจบไม่เจอ อาจจบแบบดราม่า
    โศกนาฏกรรม หรือแฮปปี้ ยังไม่สามารถสรุปได้ โปรดติดตาม
    ขอไรอย่างดิ เม้นท์หน่อยนะๆๆๆ มันไม่มีกำลังใจแต่งนะเอออ
    ตามมาคุยกันได้น้า @pupaepa เปลี่ยนทวิตอีกละ 555555
    เจอกันเมื่อมีคอมเม้ทน์กระตุ้น 555555555555555



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×