คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บ ท ที่ 2. จู บ ที่ ส อ ง
[Aon : Part]
ผมมองตามตั้มที่ลากพี่ชายออกไปจากห้องอย่างรวดเร็วพลางหันมองผมด้วยสายตาหวาดๆ เห็นท่าทางมันแล้วก็อดจะยิ้มตามไม่ได้ ฮ่าๆ ใบหน้าเหวอๆของตั้ม ดูไปก็น่ารักดี …
นี่ผมชมผู้ชายว่าน่ารักเหรอ … บ้าไปแล้วไอ้อ้น
ผมเดินไปปิดประตูห้องแล้วเดินกลับมานั่งลงที่โซฟา ภายในหัวก็คิดถึงเรื่องของตั้มอยู่
“เราได้เจอกันอีกแน่ ตั้ม”
[Tum : Part]
ผมลากพี่ดิวออกมาอย่างไม่หันหลังกลับ พอออกมาพ้นจากคอนโดไอ้บ้านั่นแล้ว พี่ดิวก็ขืนตัวเอง ไม่ให้ผมลากต่อ ผมหันมองหน้าพี่ดิว
“บอกพี่ได้หรือยัง ว่าเป็นอะไร” พี่ดิวถาม แล้วผมจะบอกยังไงวะเนี่ย ให้ตายยังไงก็บอกไม่ได้เด็ดขาดเลย ถ้าพี่ดิวรู้นี่ จินตนาการหน้าพี่ดิวไม่ออกเลย
“เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร แค่ได้ของแล้ว ก็กลับกันได้แล้ว” ผมตอบกลับไปอย่างมั่วซั่ว คิดอะไรไม่ออกแล้วตอนนี้
“แน่ใจนะว่าไม่ได้มีอะไร” พี่ดิวถามย้ำ ผมรีบพยักหน้ารับรัวๆ
“แน่ใจครับแน่ใจ ผมว่าเรารีบกลับดีกว่า ง่วงนอนจะแย่แล้ว” ผมตัดบทแล้วออกเดินนำพี่ดิวกลับคอนโดทันที
ผมแยกกับพี่ดิวเมื่อกลับมาถึงคอนโดตัวเอง ผมเดินเข้ามาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างหมดแรง เรื่องของไอ้พี่อ้นบ้านั่นยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของผม ภาพยังติดตา สัมผัสบังคงติดอยู่ที่ปาก ผมสะบัดหัวแรงๆให้เลิกคิด พลางใช้มือขยี้ปากตัวเองแรงๆ ไม่คิดไม่ฝันว่าเกิดมาจะต้องมาเสียจูบให้ผู้ชาย รู้ไปถึงไหนอายเค้าไปถึงนั่น โอ๊ยยย วราวุธอยากตาย -0-
….. ♬ ♩♭ …………. ♬ ♩♭
เสียงไอโฟนดังขึ้นขัดความคิดของผม ผมหยิบมันออกมาจากกระเป๋า ก็พบว่าเป็นเบอร์ที่ไม่ได้เมมไว้ และก็ไม่คุ้นเอาซะเลย ผมจึงกดรับไป
“ฮัลโหลครับ”
[ฮัลโหล เป็นไงบ้างครับ ตั้ม] เสียงยียวนกวนประสาทดังขึ้นจากปลายสาย และผมจำได้ดีว่ามันเป็นเสียงของใคร !!! ไอ้พี่อ้น
“ไอ้โรคจิต!!” ผมตะโกนเสียงดัง
[เฮ้ พี่มีชื่อนะครับ และชื่อพี่ก็ออกจะไพเราะ มาเปลี่ยนให้พี่ทำไม] ปลายสายเอ่ยด้วยน้ำเสียงกวนประสาทที่สุดในโลก
“แกมันโรคจิต วิปริต นิสัยไม่ดี” ผมพ่นคำด่าที่พอจะนึกออกใส่มัน
[ด่าเสร็จหรือยัง เสร็จแล้วบอกนะ]
“ไม่บอกอะไรทั้งนั้น ผมจะวางแล้วไม่ต้องโทรมาอีกนะ”
[เดี๋ยวสิเดี๋ยว อย่าเพิ่งวาง เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะไปรับนายที่มหาลัยนะ แล้วก็ห้ามหลบหน้าฉัน ห้ามหนีไปไหน แล้วก็คืนนี้ ฝันดีนะ ว่าที่ “แฟน”] พูดจบมันก็ตัดสายไปทันที ผมก็ได้แต่อ้าปากค้าง
ว่าที่แฟน พ่องสิ!!!!!!!!!!!!!!
ที่มหาลัย
“เฮ้ย ตั้มทำไมทำหน้ากังวลขนาดนั้นวะ เป็นไรเปล่า” ไอ้คริส เพื่อนสนิทชาวต่างชาติถามขึ้น มันเป็นชาวต่างชาติร้อยเปอร์เซ็นต์เลยนะ แต่แม่มพูดไทยชัดกว่าคนไทยบางคนอีก ผมล่ะนับถือมันเลยจริงๆ
“เปล่า ไม่ได้เป็นไร” ผมปฏิเสธไป หน้าผมมันออกกังวลมากขนาดนั้นเลยเหรอวะ ก็ตั้งแต่เช้าผมก็เอาแต่คิดเรื่องไอ้โรคจิตใส่เหล็กดัดฟันนั่น
“แน่เหรอวะ” คริสหรี่ตาถาม
“แน่ดิวะ”
“เออๆ แน่ก็แน่ กินเสร็จยังเนี่ย กินเสร็จแล้วก็ไปเข้าเรียนเร็ว”
และแล้วในที่สุดเวลาเลิกเรียนของผมก็มาถึง ผมนั่งนิ่งอยู่ที่เดิมในขณะที่คนอื่นๆต่างก็ถยอยกันออกจากห้องไปแล้ว ไอ้คริสที่นั่งข้างๆผมก็กำลังเก็บข้าวเก็บของลงกระเป๋า เหลือแต่ผมที่ของยังไม่ได้เก็บ ยังไม่มีความคิดที่จะเก็บ
“อ้าว ตั้มไม่เก็บของวะ ไปเร็ว อยากกลับบ้านใจจะขาด” ไอ้คริสว่า ผมก็ยังนั่งนิ่ง ใช้ความคิดอยู่ ไอ้โรคจิตใส่เหล็กดัดฟันนั่นคงไม่ทำอย่างที่พูดหรอกมั้ง มันจะรู้ได้ไงว่าผมอยู่มหาลัยไหน เราเพิ่งเจอกันครั้งแรก เอ้อ ผมนี่ก็คิดมากมาได้ตั้งนาน ไอ้ตั้ม ไอ้โง่เอ๊ย
“เออๆ เก็บแล้วๆ ใจเย็นสิวะ” ผมว่า พลางโกยของทั้งหมดลงกระเป๋าอย่างรวดเร็ว
ผมกับคริสเดินคู่กันออกมาหน้าคณะ ผู้คนก็ยังเดินไปมากันขวั่กไขว่ ผมว่าจะโทรหาพี่ดิว แล้วชวนไปกินข้าวเย็นสักหน่อย แต่ยังไม่ได้ทำอย่างที่ใจคิด ไอ้คริสก็สะกิดผมยิกๆ
“สะกิดทำไมวะคริส” ผมหันไปถามมัน แต่สายตามันไม่ได้มองที่ผมแม้แต่นิดเดียว สายตามันจับจ้องไปที่ที่หนึ่ง ผมจึงหันไปมองตาม และทุกสายตารอบข้างก็จับจ้องไปที่เดียวกัน
ผมหันไปเห็นรถสปอร์ตคันหรู หรูมากอ่ะพูดได้คำเดียว ละดูสีของรถ เหลืองซะ มันก็ต้องตกเป็นเป้าสายตาอยู่แล้ว เอแต่จะว่าไป ผมไม่เคยเห็นรถคันนี้เลยนะ ตั้งแต่มาเรียนที่นี่ รถของใครกัน ผมหันมองรอบข้างก็พบสาวๆกระซิบกระซาบ ทำสายตาปิ๊งๆไปทางรถคันนั้น อะไรกันวะ
และทันทีที่ผมหันไปมองบ้าง ก็ต้องตกใจจนแทบอยากมุดแผ่นดินหนี? นะ นั่นมัน ไอ้โรคจิตใส่เหล็กดัดฟัน ไอ้พี่อ้น
!!!!! ร่างสูงเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาฉีกยิ้มโปรยเสน่ห์ใส่สาวๆที่มองเขา ผมรีบสะกิดไอ้คริสทันที
“คริส กูว่าเราไปอ้อมไปออกข้างหลังกันเถอะ” ผมบอก คริสมองหน้าผมอย่างงงๆ
“ทำไมวะ ก็เดินออกไปดิเนี่ย”
“ไม่เอา ไปเร็ว” ผมว่าพลางดึงแขนไอ้คริสให้เดินกลับหลัง แต่ยังไม่ทันที่จะเดินไปไหน แขนของผมก็ถูกดึงรั้งเอาไว้ และเมื่อผมหันกลับมา ก็อยากจะหายตัวหนีไปเสียจริงๆ
“เดี๋ยวสิครับ น้องตั้ม จะรีบไปไหน พี่อุตส่าห์มารับ” มันพูดพร้อมฉีกยิ้มกว้างจนจะถึงรูหูมาให้ผม ผมไม่ตอบ แต่กลับมองหน้าไอ้คริสเป็นเชิงขอให้มันช่วยเหลือ แต่แลเหมือนไอ้ฝรั่งนี่จะไม่เข้าใจผมเลย มันมองผมกับไอ้โรคจิตอย่างงงๆ
“กูไม่เป็นกับมึง” ผมใส่คำหยาบเต็มที่ ไม่พูดดีด้วยแล้วเว้ย
“พูดไม่เพราะเลยนะครับ เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับเยาวชนนะ” มันทำหน้าตากวนประสาทใส่ เห็นแล้วอยากจะประทับหมัดลงบนหน้าซะเหลือเกิน
“ปล่อยกู” ผมสะบัดแขนออกอย่างสุดแรงเกิด แต่ก็ไม่หลุด นี่มันอะไรกันเนี่ย
“ไม่ปล่อย ไปกับฉันเดี๋ยวนี้” พูดจบมันก็ลากผม แต่มีหรือที่ผมจะอยู่เฉยๆให้มันลาก ผมขืนตัวเอาไว้อย่างสุดแรง จนมันรำคาญ โน้มมากระซิบข้างหูผม
“ไปกับฉันดีๆ อย่าให้ต้องจูบโชว์” คำขู่ของมันได้ผลชะงัก ผมยอมไม่ขืนตัวเอง ปล่อยให้มันลากไป แต่ก็ยังหันกลับไปมองไอ้คริสด้วยสายตาขอความช่วยเหลือสุดๆ แต่ไอ้คริสก็เหมือนยังไม่เข้าใจอะไร มันทำหน้าเอ๋อๆงงๆ แม่ง ไอ้เพื่อนเวรเอ๊ย
ผมโดนยัดใส่รถตรงที่นั่งข้างคนขับ ส่วนไอ้โรคจิตใส่เหล็กดัดฟันเดินอ้อมไปนั่งประจำที่คนขับ แล้วก็ขับพุ่งออกไปอย่างเร็ว แบบไม่ทันให้ผมได้ตั้งตัว หน้าหงายเลยมั๊ยล่ะ
“จะขับไปตามควายที่ไหนเนี่ย” ผมตะโกนด่า มันก็ได้แต่ยิ้มๆ นี่ด่านะไม่ได้ชม จะยิ้มทำไม
“รัดเข็มขัดด้วย เพื่อความปลอดภัย” มันพูดนิ่งๆ แล้วขับต่อไม่สนใจผม ผมก็ไม่รู้จะทำไง เลยต้องดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดตัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
….. ♬ ♩♭ …………. ♬ ♩♭
เสียงริงโทนเรียกข้าวของผมดังขึ้น ผมรีบหยิบมันขึ้นมาดู ก็ต้องใจชื้นเมื่อพบว่าคนที่โทรมาคือพี่ดิว ไอ้ตั้ม รอดแล้วมึง
“ห้ามรับ อยู่กับฉันห้ามคุยกับใครทั้งนั้น” มันพูดพร้อมแย่งโทรศัพท์ไปจากมือผม แล้วยัดเข้ากระเป๋าตัวเอง เฮ้ย มันจะมากไปแล้วนะเนี่ย
“เฮ้ย คุณมันจะมากไปแล้วนะ เราเพิ่งจะรู้จักกันนะ คุณมาทำแบบนี้กับผมทำไม คุณต้องการอะไรจากผมเนี่ย” ผมรัวคำถาม อยากรู้จริงๆว่ามันทำแบบนี้ทำไม ต้องการอะไร
“มันไม่สำคัญหรอกว่าเราจะเพิ่งรู้จักกันมานานหรือเพิ่งรู้จักกัน มันสำคัญที่ว่า ฉันสนใจนาย และฉันจะทำทุกวิถีทางให้นาย มาเป็นแฟนฉัน” มันตอบหน้าระรื่น ผมก็ได้แต่อ้าปากค้างอีกแล้วครับท่าน มันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆเลย
“คุณต้องบ้าไปแล้วแน่ๆเลย เราเพิ่งรู้จักกัน จะมาเป็นแฟนกันได้ยังไง และที่สำคัญ ผมเป็นผู้ชาย” ผมเน้นหนักตรงคำว่าผู้ชาย
“ก็เพราะว่าเป็นผู้ชายยังไงล่ะ”
“คุณว่าอะไรนะ” ผมถาม มันเหยียบเบรก หลังจากที่ขับมาจอดที่ร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง แล้วหันมามองหน้าผมอย่างถนัด
“ฉันบอกว่า ก็เพราะว่านายเป็นผู้ชายไงล่ะ ฉันถึงอยากได้มาเป็นแฟน” มันพูดให้ฟังชัดขึ้น
“ห๊ะ คุณเป็นเกย์งั้นเหรอ” ผมถาม หน้าตาก็ดี ไม่น่าเป็นเลย
“ไม่ใช่ ฉันไม่ได้เป็นเกย์” มันรีบปฏิเสธ
“ก็ชอบผู้ชาย ไม่เรียกว่าเกย์แล้วจะเรียกว่าอะไร”
“เกย์น่ะ เขาจะชอบเฉพาะเพศชาย แต่สำหรับฉัน ฉันชอบแค่นาย” มันพูด พร้อมทั้งเอานิ้วชี้มาจิ้มที่อกผม พลางยกยิ้มให้ ผมรีบปัดมือมันออก
“แต่ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย ผมชอบผู้หญิง และผมก็จะไม่มีวันชอบคุณ” ผมเน้นชัดทุกคำที่เอ่ยออกไป มันก็ได้แต่ยิ้ม แล้วส่ายศีรษะเบาๆ
“แน่ใจนะว่าจะไม่มีวันชอบฉัน” มันยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ทำให้ผมต้องขยับหนีจนติดกับประตูรถ
“แน่ใจ แล้วก็เอาหน้าของคุณออกไปด้วย ไม่งั้นหมัดผมจะไปกระแทกมัน” ผมขู่ พร้อมทั้งชูกำปั้นขึ้น
“หึ … เก่งจริงนะ” มันยิ้มมุมปาก
“ไอ้เรื่องชกต่อยน่ะ ผมถะ…อุบส์” พูดยังไม่ทันจบประโยค มันก็อาศัยช่วงที่ผมเผลอ จู่โจมเข้าที่ริมฝีปากผมอย่างที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัว และคราวนี้ไม่ใช่แบบครางนั้น ที่มันแค่เอาริมฝีปากมาประกบเฉยๆ คราวนี้ลิ้นร้อนของมันแทรกเข้ามาเกี่ยวกระหวัดกับลิ้มผม ผมพยายามหดหนี พร้อมทั้งดิ้นอย่างสุดแรงเกิด แต่เหมือนแรงของผมจะถูกดูดออกไปจากจูบนี้ เรี่ยวแรงที่คิดว่าสามารถผลักคนคนนี้ออกไปได้กลับไม่เป็นเช่นนั้น
มันจูบผมจนพอใจแล้วก็ผละออกไป ผมหอบหายใจถี่ เมื่อถูกปล่อยให้เป็นอิสระ
“รู้สึกดีใช่มั๊ยล่ะ”
“รู้สึกดีพ่องสิ เหล็กดัดฟันเกี่ยวปากกู!”
--------------------------------------------------------------------
เอ่อ เรื่องนี้จะเอาฮาหรืออะไร 55555555
อ่านแล้วเม้นท์เส่ เม้นท์ยาวๆเลยก็ได้ เค้าชอบอ่านง่ะ
ความคิดเห็น