ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic TS9] The Game เกมส์นี้ นายเป็นของฉัน [AonTum]

    ลำดับตอนที่ #8 : บ ท ที่ 7. ผ ม ห ว ง ?

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ย. 56





    [Tum : Part]

                    อาทิตย์หน้าผมได้หยุดตั้งหนึ่งอาทิตย์แหน่ะ เพื่อหยุดทำงานโปรเจคใหญ่ อันที่จริงผมก็ทำเกือบเสร็จแล้วแหละ หยุดสบายเลยทีเดียวเชียว

                    “ตั้ม หยุดหนึ่งอาทิตย์นี่ ทำไรดีวะ”  คริสเอ่ยถามขึ้น ขณะที่เรากำลังนั่งเล่นกันอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่

                    “ไม่รู้ว่ะ คงจะเที่ยว เที่ยว เที่ยว แล้วก็เที่ยวแหละ”  ผมตอบมันไป

                    “เที่ยวอย่างเดียวเลยนะมึง”

                    “เอ้า แล้วจะให้กูนอนหง่าวอยู่ห้องเหรอครับมึงงง มันไม่มีทางงง”  ผมตอบมันกลับไป ผมมันเป็นคนอยู่นิ่งไม่ค่อยได้หรอก ต้องหาอะไรทำตลอดๆ

                    “เออครับ ตามสบายเลย กูว่ากลับห้องกันเถอะ อยากกลับไปอาบน้ำนอนละ”  คริสพูดพร้อมทั้งลุกขึ้นยืนเต็มความสูง มันทำให้ผมดูเตี้ยไปเลย -..- จริงๆแล้วผมก็ไม่ได้เตี้ยเท่าไหร่หรอกนะ ก็สูงเท่ามาตรฐานชายไทย แต่พอมาอยู่กับไอ้คริส กับพี่ดิวนี่ผม เตี้ยไปเลยอ่ะ คิดแล้วก็เศร้า ;__;

                    “เออๆ ก็ได้วะ วันนี้กะจะไปเที่ยวซะหน่อย”  ผมบอก

                    “เที่ยวไรอีก คราวที่แล้วเกือบโดนกระทืบ ไม่เข็ดหรือไง”

                    “กลัวไรวะ มีพี่ดิวทั้งคน” 

                    “ตามใจเหอะ กูไม่ไปนะ”  คริสปฏิเสธ

                    “เอ้า ไรวะ ไปเที่ยวสนุกจะตาย”

                    “สนุกไปคนเดียวเถอะ ไปๆ กลับละ กูไปก่อนนะ”   คริสพูดจบก็เดินแยกจากผมไป เอ้า ไอ้นี่ แปลกคนเว้ย ผมเบิกสนใจไอ้คริสที่เดินห่างออกไปอีกทาง ผมจึงเดินมุ่งหน้าที่จะกับคอนโดบ้าง แต่ก่อนอื่น ต้องโทรนัดพี่ดิวก่อน

                    ผมหยิบมือถือขึ้นมากดเบอร์โทรพี่ดิวทันที เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา

                    “ฮัลโหลพี่ดิว”

                    ว่าไง มีไรตั้ม

                    “คืนนี้ไปเที่ยวกันนะ”  ผมพูดตรงเข้าประเด็นทันที

                    หือ  คราวที่แล้วยังไม่เข็ดอีกเหรอ

                    “มีพี่ดิว กลัวอะไรล่ะ นะๆๆๆๆๆๆๆ ผมอยากไปอ่ะ”  ผมต้องงัดลูกอ้อนนิดๆมาใช้

                    โธ่เอ๊ย   อ่ะๆ ก็ได้ๆ
     

                    “เย่ งั้นเดี๋ยวคืนนี้เจอกันนะพี่ ผมขอกลับไปงีบแปปนึงก่อน”

                    อ่าๆ โอเค

                    ผมวางสายจากพี่ดิว ก่อนจะยัดมือถือลงกระเป๋ากางเกง แล้วออกเดินผิวปากไปอย่างอารมณ์ดี อย่างนี้แหละ ได้ทำอะไรตามใจอยาก ก็มักจะอารมณ์ดีแบบนี้

                    ปิ๊ดๆๆ

                    เสียงบีบแตรรถดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งบริเวณ  ผมหันไปมองทางต้นเสียง ก็พบกับรถยนต์หรูที่คุ้นตาแล่นมาขนาบข้าง เจ้าของรถลดกระจกลง ทำให้มั่นใจว่าเป็นใคร

                    “จะไปไหน”  พี่อ้นถามห้วนๆ อยากจะตอบกลับไปว่า จะไปไหนก็เรื่องของผม แต่เกรงว่าจะได้โดนทำอะไรมิดีมิร้ายต่อหน้าสาธารณชน ผมจึงต้องเก็บมันเอาไว้ข้างใน

                    “จะกลับห้อง”  ผมตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ห้วนพอกัน

                    “ขึ้นรถ”  เหมือนเป็นคำพูดธรรมดา แต่ก็แฝงไปด้วยน้ำเสียงที่บังคับ

                    “ไม่ขึ้นอ่ะ” 

                    “จะขึ้นดีๆ หรือว่าจะต้องให้ไปอุ้มขึ้นมา”  มันถาม อีกละ แบบนี้ทุกที ไม่ได้ดั่งใจ ขู่ตลอด โว๊ะ

                    “เอออๆ ขึ้นก็ได้วะ”  ผมเดินอ้อมไปขึ้นรถหรู แล้วแกล้งปิดประตูแรงๆ ถ้ามันพัง พี่อ้นมันมีตังค์ซ่อมอยู่แล้วแหละ -..- สายตาคมจ้องมาที่ผมที่นั่งเงียบ

                    “แล้วทำไมไม่ขับไปสักทีล่ะ”  ผมหันไปถาม พี่อ้นละสายตาจากผม แล้วออกรถอย่างรวดเร็ว เล่นเอาหน้าผมคะมำไปเลย ไอ้บ้าเอ๊ย เบาๆหน่อยก็ไม่ได้

                    ใช้เวลาเพียงไม่นาน ผมและพี่อ้นก็มาถึงคอนโดของผม เมื่อผมเปิดห้อง พี่อ้นก็ชิงเบียดผม ผลักประตูเดินเข้าห้องไปหน้าตาเฉย เห้ยมันใช่ปะเนี่ย นี่ห้องผมนะเนี่ย

                    พี่อ้นเดินตรงไปที่ตู้เย็นหยิบน้ำขึ้นมาดื่ม ผมก็เดินตรงไปทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟา เปิดทีวีดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย ไม่นานนัก ร่างสูงกว่าผมนิดหน่อย ก็เดินมานั่งลงข้างๆ

                    “นี่ ฉันไปเอาเหล็กดัดฟันออกละ เป็นไงบ้าง”  เสียงทุ้มเอ่ยถาม ผมหันไปมองพี่อ้นที่ยิ้มยิงฟันให้ผมอยู่ ก็อดหลุดขำออกมาไม่ได้ ฮ่าๆๆๆ ทำหน้าตลกเชียว อืมมม แต่พอเอาเหล็กออกแล้ว ก็แลหล่อขึ้นนะ  เอ๊ะแล้วทำไมผมชมมันว่าหล่อล่ะเนี่ยยย

                    “ก็งั้นๆอ่ะ ไม่หล่อ ไม่อะไรเลย ผมหล่อกว่าตั้งเยอะ”  ผมบอกออกไปตามสไตล์ผม

                    “อะไรวะ คนอุตส่าห์ไม่ดัดต่อละ”  พี่อ้นบ่น

                    “แล้วไปเอาออกทำไมอ่ะ”  ผมถาม แต่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ทีวี

                    “ก็เวลาจูบนายจะได้จูบถนัดๆไง แล้วเหล็กจะได้ไม่ทิ่มปากนายด้วย”  สิ้นสุดประโยค ผมก็ฟาดหมอนพิงหลังลงบนหัวพี่อ้นเรียบร้อย ใครใช้ให้พูดอย่างนี้วะ ไอ้โรคจิตถอดเหล็กแล้ว  ผมไม่รู้ว่าตอนนี้สภาพใบหน้าของผมเป็นยังไง แต่ที่รู้ๆ ตอนนี้มันร้อนผ่าวไปหมด

                    “เฮ้ยๆ อะไรวะ มาตีฉันทำไม”  พี่อ้นแย่งหมอนไปจากมือผมไป ผมหันหน้าหลบไปทางอื่น กลัวเขาจะเห็นสภาพหน้าผมตอนนี้

                    “อืม จะว่าไปแล้ว ขอลองหน่อยเลยแล้วกัน”  พูดจบ ยังไม่ทันให้ตั้งตัว พี่อ้นก็ขยับเข้ามาประชิดตัวผม ก่อนจะจับหน้าผมหันไปประกบริมฝีปากอย่างรวดเร็ว ผมดิ้นสุดชีวิต แต่พี่อ้นใช้มือของตัวเองกดท้ายทอยผมไว้ไม่ให้ขยับหนีไปไหนได้ ผมจึงเลือกที่จะเม้มปากตัวเองแน่น พยายามป้องกันการลุกล้ำของเขา แต่พี่อ้นก็ใช้มืออีกข้างบีบแก้มผมจนผมต้องเผยอปากออกด้วยความเจ็บ ร่างสูงอาศัยจังหวะนั้นแทรกลิ้นร้อนเข้ามาทันที  ผมพยายามดันลิ้นหนาออก แต่ก็ไม่ได้ผล ต้องปล่อยเลยตามเลย จนเขาพอใจแล้วจึงผละออกไปเอง

                    “อื้มมม ไม่คิดว่าจะรู้สึกดีขนาดนี้แหะ”  พี่อ้นพูดออกมา

                    “ไอ้ ไอ้โรคจิต!!”  ผมไม่รู้จะทำยังไง ก็ได้แต่ด่ามัน

                    “รู้งี้ถอดตั้งนานละ”  แต่ดูเหมือนเค้าจะไม่สนใจกับคำด่าของผมเลย

                    “โว๊ะ กลับไปได้แล้วไป”  ผมไล่

                    “ไปก็ได้ วันนี้มีธุระพอดี ไม่ต้องเสียใจนะที่วันนี้ฉันไม่ได้อยู่นอนกอด เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมานอนกอดให้สมใจเลย”  พี่อ้นพูดเองเออเอง เห้ย ผมบอกตอนไหนวะเนี่ย แม่ง มั่วชิบ

                    “ไม่ได้ต้องการเลยเว้ย ไม่ต้องมาแหละดีแล้ว”

                    “ไม่เจอฉันแล้วนายจะคิดถึง ไปดีกว่า คิดถึงก็โทรมานะ”  พี่อ้นลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
     

                    “ไม่มีทางหรอก”

                    “หึหึ โอเค ไปก่อนละ” 

                    “ไปเลย ชิ่ว”  ผมไล่ พี่อ้นยิ้มมุมปากเล็กๆ แล้วเดินออกจากห้องไป ผมเบ้ปากใส่ไอ้คนหลงตัวเอง คนอย่างผมเนี่ยนะจะคิดถึงมัน ไม่มีทางซะหรอก ผมเหลือบมองดูนาฬิกา ก็พบว่ามันเริ่มเย็นแล้ว สมควรแก่เวลา ผมจึงลุกขึ้นไปอาบน้ำเตรียมรอไปเที่ยวคืนนี้

     

                    [Aon : Part]

                    ผมออกมาทำธุระเล็กน้อย วันนี้กะว่าจะไม่เข้าไปกวนใจตั้มซะหน่อย ปล่อยให้มันได้พักหายใจหายคอบ้าง ผมเลยกะว่าจะไปเที่ยวสักหน่อยนัดพี่บูรณ์ไว้แล้วเรียบร้อย

                    ผมเลี้ยวรถเข้าไปจอดที่ลานจอดรถของสถานบันเทิงแห่งหนึ่งใจกลางกรุง แล้วเดินเข้าไปภายในอย่างอารมณ์ดี ผมเดินตรงไปที่ประจำของผมกับพี่บูรณ์ที่ชอบมานั่งเล่นกัน ก็พบพี่บูรณ์นั่งอยู่ก่อนแล้ว

                    “ไง อ้น ไม่เจอกันนานเลย เป็นไงบ้าง”  พี่บูรณ์อ่ยทัก

                    “สบายดีพี่ ก็มีความสุขดี”  ผมทิ้งตัวลงนั่ง

                    “แลจะอารมณ์ดีจริงๆ ยิ้มไม่หุบเลยนะ”  พี่บูรณ์แซว นี่ผมยิ้มเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ

                    “ก็คงงั้น ฮ่าๆ” 

                    “นี่แสดงว่าแกจีบน้องคนนั้นเค้าติดแล้วเหรอวะ”

                    “ยังหรอก ไอ้เด็กนั่นมันแข็งจะตาย คงต้องใช้เวลา แต่พี่น่ะ เตรียมเลี้ยงข้าวผมได้เลย”  ผมพูด พลางยกยิ้มเล็กๆ เพราะผมมั่นใจว่า มันจะต้องสำเร็จ ไอ้เด็กแสบจะต้องตกลงเป็นแฟนผมแน่ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง

                    “มั่นใจไปนะ โอเค พี่จะคอยดู” ผมยิ้มแล้วหยิบแก้วเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขึ้นมากระดกดื่มสายตาก็พลางสอดส่องไปทั่วบริเวณ

                    “เฮ้ยๆอ้น”   อยู่ดีๆพี่บูรณ์ก็สะกิดผมยิกๆ

                    “มีอะไรพี่”

                    “นั่นมันเด็กแกปะวะ”  ผมมองตามที่พี่บูรณ์ชี้  ก็พบกับร่างโปร่งบางที่คุ้นเคย กำลังเต้นแบบสุดเหวี่ยง ผมเพ่งมองเพื่อความแน่ใจ ก็พบว่า มันคือตั้ม จริงๆด้วย

                    “เห้ย! ตั้ม”  ผมร้องออกมาด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าจะมาเจอมันที่นี่ ไอ้เด็กนี่มาได้ยังไง แล้วใครอนุญาตให้มา ดูเหมือนมันจะเมาด้วย แล้วสายตาจากคนรอบข้างที่มองมันนี่แบบอย่างกับจะกินมันเข้าไปทั้งตัวนั่นแหละ จากที่ผมอารมณ์ดีๆ กลับเป็นอารมณ์เสียขึ้นมาทันที

                    “เห้ย อ้น  จะไปไหน”  พี่บูรณ์ทักขึ้น เมื่อเห็นผมลุกขึ้นยืน

                    “ผมกลับก่อนนะพี่ แล้วเจอกัน”  ผมพูดจบก็เดินมุ่งหน้าไปหาไอ้เด็กแสบที่เต้นไม่ลืมหูลืมตา ผมกระชากแขนตั้มอย่างแรง ตั้มหันมองผมด้วยสายตาสงสัย

                    “หืออ อารายยย ปล่อยย”  มันเมาจริงๆด้วย

                    “ใครให้นายมาที่นี่”   ผมตะโกนถามแข่งกับเสียงเพลง

                    “ก็ฉันอยากมา ยุ่งไรด้วย ปล่อยจะเต้นแล้ว”  ตั้มพยายามสะบัดแขนออกจากผม แต่ยิ่งสะบัด ผมก็ยิ่งจับแน่นขึ้น

                    “กลับห้องเดี๋ยวนี้”  ผมกดเสียงลงต่ำ ระงับความโกรธของตัวเอง ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องโกรธอะไรมากมายขนาดนี้ แค่พียงแต่ไม่ชอบที่เห็นคนอื่นมองมันด้วยสายตาแบบนี้ ผมหวง

                    “ม่ายอาววว”  ไอ้เด็กแสบงอแง

                    “ไม่ไปใช่มั๊ย ได้”  ผมแบกร่างบางขึ้นบ่า ตั้มก็เอาแต่ดิ้นร้องให้ปล่อย คนรอบข้างเริ่มมองมาทางผม ผมจึงรีบเดินออกมาจากที่นั่นอย่างรวดเร็ว  



    ----------------------------------------------------------------------------------------
    บอกเลยว่า ไม่ได้แต่งนานแล้วลืม ' '
    ผิดพลาดตรงไหนอย่าว่ากันเน้อ คือก็ยังมึนๆตัวเองอยู่ 55555
    มาฟอลกันเถอะๆๆ @heartless_pp มาดูเค้าชงอ้นตั้มกันนะ 555

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×