คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : CHAPTER 1. การพบเจอ
ғιвιι ★
เฮือก!!!
ร่างบางของเด็กหนุ่มสะดุ้งเฮือกขึ้นมากะทันหัน ตาเรียวเบิกโพลง เหงื่อไหลโทรมกาย เด็กหนุ่มหันมองรอบๆห้องที่เขานอนอยู่ นี่มันไม่ใช่บ้านเขานี่ แล้วที่นี่ที่ไหน เกิดอะไรขึ้น จำได้ว่าเมื่อวานเขาถูกไล่ฆ่า และเสียงปืนที่ดังก้องอยู่ในหู หรือว่า เราจะตายไปแล้วนะ ที่นี่คงเป็นสวรรค์สินะ
ขาเรียวก้าวลงจากเตียงนอนสีขาวสะอาดช้าๆ ยังมีความรู้สึกปวดขาจากการวิ่งอย่างหนักมา คนตายเขามีความรู้สึกกันด้วยเหรอเนี่ย?
แกร๊ก
เสียงเปิดประตูห้องดังขึ้น ทำเอาคนที่เพิ่งลุกจากเตียงสะดุ้ง ตาหวานหันไปมองตามต้นเสียง ก็พบกับร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ที่หน้าประตู ใบหน้าหล่อเหลานั้นเรียบเฉย ไม่ฉายแววความรู้สึกอะไรออกมาเลยแม้แต่น้อย เด็กหนุ่มมองหน้าผู้มาใหม่อย่างฉงนในใจ
“เอ่อ… คุณเป็น เทวดาเหรอฮะ” แทบหลุดขำกับคำถามนั้น ร่างสูงต้องพยายามซ่อนมันเอาไว้ภายใต้สีหน้านิ่งๆ คำถามใสซื่อจากเด็กหนุ่มนั่นทำให้เขาอยากจะยิ้มออกมา นี่คิดว่าตัวเองตายไปแล้วใช่ไหมเนี่ย
“ฉันหล่อขนาดที่จะเป็นเทวดาเลยเหรอ” ร่างสูงจึงถามคำถามกลับไป คิ้วเรียวของเด็กหนุ่มขมวดกันเป็นปมด้วยความสงสัย
“อ้าวก็ที่นี่ไม่ใช่สวรรค์เหรอครับ ก็เมื่อคืน ผมจำได้ว่า ผม..ตายแล้ว” ในที่สุดก็ทนความไร้เดียงสาของร่างบางไม่ไหว ชายหนุ่มยกยิ้มขึ้นมาเล้กน้อย ก่อนที่จะก้าวขายาวเข้าไปใกล้ๆร่างบางที่ตัวเล็กกว่าเขานิดหน่อย มือหนาถูกส่งไปจับไหล่บาง ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อย
“นี่ เห็นหรือยัง นายยังไม่ตาย และฉันก็ไม่ใช่เทวดาด้วย” ร่างสูงเอ่ย นั่นยิ่งทำให้ร่างบางงงเข้าไปใหญ่ จะเป็นไปได้ยังไง ที่เขาจะยังไม่ตาย
“เป็นไปไม่ได้ ก็เมื่อคืน ผมถูกยิง” เด็กหนุ่มเถียง ร่างสูงมองหน้าคนดื้อรั้น นี่ยังไม่ทันไรก็รู้ได้แล้วว่าเด็กคนนี้ดื้อรั้น
“นายไม่ได้ถูกยิง นายยังไม่ตาย โอเคมั๊ย” ร่างสูงย้ำ
“อ้าว แล้วถ้างั้น เกิดอะไรขึ้นครับ ทำไมผมถึงไม่ถูกยิง แล้วทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ แล้ว คุณเป็นใครครับ” คำถามถูกยิงรัวเข้ามาใส่ ร่างสูงดันร่างบางให้นั่งลงบนเตียง ก่อนที่จะเริ่มอธิบายทีละคำถาม
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันไปเจอนายนอนไม่ได้สติอยู่ แถวนั้นไม่มีใครผ่านมาเลย ก็เลย พานายมาอยู่ที่นี่” ชายหนุ่มอธิบาย ถึงแม้จะยังไม่ค่อยเข้าใจอะไรเท่าไหร่ แต่เด็กหนุ่มก็ดีใจที่ตัวเองยังไม่ตาย
“งั้นเหรอครับ ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยผม” ร่างบางไม่ลืมขอบคุณผู้มีพระคุณที่ช่วยเขามา ร่างสูงยิ้มบาง ในแววตาฉายความสบสัน แต่เพียงเล็กน้อย แล้วก็หายไป
“ไม่เป็นไรหรอก เรื่องแค่นี้เอง”
“แล้ว คุณชื่ออะไรเหรอครับ ผมชื่อ ตั้ม นะ อายุ 19 ปีแล้ว” เด็กหนุ่มนามว่า ตั้ม แนะนำตัวเองให้กับร่างสูงฟัง พร้อมทั้งส่งรอยยิ้มสดใสไปให้
“ฉันชื่อ อ้น อายุมากกว่านาย” ชายหนุ่มที่ชื่อ อ้น แนะนำตัวบ้าง ตั้มพยักหน้ารับรัวๆ และจดใบชื่อนี้ลงสมองอย่างรวดเร็ว ชื่อที่เขาจะไม่มีวันลืม ชื่อของผู้มีพระคุณกับเขา อ้น
“งั้น ผมเรียกคุณว่าพี่ได้มั๊ย?” ร่างบางเอ่ยถาม อ้นพยักหน้าเล็กน้อย
“ตามสบาย อยากเรียกอะไรก็เรียก ว่าแต่ นายหิวหรือยัง ฉันซื้อกับข้าวไว้ให้แล้ว อยู่ข้างนอกน่ะ ไปกินสิ” ร่างสูงบอก เขาคาดว่าเด็กหนุ่มคงจะหิวเป็นแน่ จากการที่เมื่อวานนี้ใช้พลังงานไปเยอะ แล้วนี่ก็เที่ยงวันเข้าไปแล้ว เมื่อได้ยินร่างสูงพูดแบบนั้น ความหิวก็แล่นเข้ามาทันที มือเรียวถูกยกขึ้นมาลูบหน้าท้องเบาๆ
“จริงๆด้วย หิวมากเลยครับ”
“มา งั้นตามมา” ร่างสูงหมุนตัวเดินนำออกมา ตั้มเดินตามอ้นออกมาจากห้อง ดวงตาเรียวมองสำรวจไปทั่วบริเวณ บ้านนี้เป็นบ้านที่ไม่ใหญ่มากนัก เป็นบ้านชั้นเดียว มีห้องครัว ห้องนั่งเล่น ข้าวของเครื่องใช้ดูสะอาดสะอ้านดี แต่ไม่ได้มีมากนัก ด้วยความเป็นคนขี้สงสัย จึงอดถามออกมาไม่ได้
“พี่อ้น อยู่ที่นี่คนเดียวเหรอครับ”
“อื้อ ใช่อยู่คนเดียว” ร่างสูงตอบแบบนิ่งๆ
“แล้วพ่อแม่พี่ล่ะครับ” เอ่ยถามไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ร่างสูงเงียบนิ่ง แววตาฉายความแข็งกระด้างออกมา ถึงแม้จะไม่ได้จ้องมองมาที่ตั้มโดยตรง แต่รังสีความอึดอัดนั้นก็ทำให้เขารู้สึกได้
“เอ่อ ผมขอโทษนะครับ” ตั้มหน้าเสีย รีบเอ่ยขอโทษขอโพยอ้นเป็นการใหญ่ ร่างสูงถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ
“ช่างมันเถอะ มากินข้าวนี่เร็ว” อ้นบอก ตั้มรีบเดินไปนั่งที่โต๊ะทานข้าวทันที ร่างสูงหันไปตักข้าวใส่จานแล้วส่งให้ร่างบาง ตั้มรับมาอย่างรวดเร็ว
“กินให้อิ่มซะนะ เดี๋ยวฉันจะออกไปทำธุระข้างนอกก่อน แล้วก็อยู่ในนี้ ห้ามออกไปไหน” อ้นกำชับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ตั้มพยักหน้ารับ
“ครับๆ ผมจะไม่ออกไปไหน” ร่างบางตกปากรับคำ
“ดีมาก” พูดจบ ร่างสูงก็ก้าวขาออกไปทันที ตั้มมองตามร่างนั้นจนลับสายตาไป ก่อนที่เขาจะลงมือจัดการกับอาหารด้วยความหิว แต่ในหัวก็ยังย้อนคิดไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับชีวิตเขา เป็นคืนเดียวที่เปลี่ยนชีวิต
รถยนต์คันสวยถูกเหยียบคันเร่งจนมิด ส่งผลให้รถคันนั้นวิ่งอย่างรวดเร็ว แต่ก็ถูกตามมาติดๆ ด้วยรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ ที่มีชายหนุ่มสวมหมวกกันน็อกปกปิดใบหน้าเป็นผู้บังคับมา
“พ่อครับ นี่มันเกิดอะไรขึ้น” ตั้มถามด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก ผู้เป็นพ่อบังคับรถไปด้วยความหวั่นวิตก เหงื่อไหลออกมาเป็นทาง
“อย่าเพิ่งถามพ่อตอนนี้เลยตั้ม จำไว้นะ ลูกต้องรอดออกไปให้ได้”
“ไม่นะพ่อ ถ้าตายเราก็ต้องตายด้วยกัน” ถึงแม้จะกลัวความตายที่คืบคลานเข้ามาสักเพียงใด แต่ด้วยความที่เป็นคนอ่อนนอกแข็งใน เพราะถูกเลี้ยงให้เข้มแข็ง ตั้มจึงปฏิเสธที่จะเอาตัวรอดคนเดียวทันที
“ตั้ม ห้ามขัดคำสั่งพอ เราต้องรอด รู้มั๊ย”
“แต่พ่อ…”
ปัง!!
เสียงปืนที่ดังขึ้นหนึ่งนัด เจาะเข้าพอดิบพอดีที่ยางรถยนต์ ทำให้รถเสียการควบคุม ผู้เป็นพ่อพยายามควบคุมรถที่ปาดซ้ายปาดขวาด้วยความยากลำบาก และไม่นาน รถยนต์ที่ถูกใช้เป็นพาหนะในการเอาชีวิตรอด ก็เสียหลักพุ่งลงข้างทางชนกับต้นไม้จนหยุดนิ่งไป
“พ่อ พ่อครับ” เมื่อตั้งสติได้ เด็กหนุ่มรีบหันดูผู้เป็นพ่อทันที
“ตั้ม ไปซะ หนีไป” ผู้เป็นพ่อเอ่ยไล่ให้หนีไป แต่คนตัวเล็กส่ายหน้าพรืด ไม่ยอมไปไหน น้ำใสไหลอาบแก้มด้วยความกลัว กลัวว่าเขาจะโดนพรากจากพ่อไป
“ไม่อ่ะไม่ ผมไม่ไป ฮึก”
“ไปนะตั้ม พ่อขอร้อง ถ้ารักพ่อ ให้รักษาชีวิตตัวเองไว้” ตั้มเม้มปากแน่น ก่อนจะพยักหน้ารับ
“ครับพ่อ”
“ดีมากลุก พ่อรักลูกนะ”
“ผมก็รักพ่อ” พ่อลูกโผเข้ากอดกันเป็นคครั้งสุดท้าย ก่อนที่ผู้เป็นพ่อจะผลักให้ลูกชายออกไป ตั้มเปิดประตูรถแล้ววิ่งออกไป แต่ก็ยังคงหันหลังมามองข้างหลังอยู่เสมอๆ น้ำตาไหลรินอย่างห้ามไม่อยู่
ปัง!!
เสียงปืนดังขึ้นอีกหนึ่งนัด เขารู้ทันทีว่าพ่อได้จากเขาไปแล้ว
“พ่อ!!!” ตั้มทรุดลงนั่งอย่างหมดแรง ตามองกลับไปที่รถ ก็พบร่างสูงก้าวย่างช้าๆมาหาเขา ผู้เป็นเพชฌฆาตที่จะมาปลิดชีวิตเขา ในตอนแรก เขาคิดว่าจะนั่งอยู่ตรงนั้นไม่หนีไปไหนแล้ว ชีวิตเขาไม่เหลืออะไรแล้ว แต่คำพูดของผู้เป็นพ่อก็ลอยเข้ามาภายในห้วงความคิด ถ้ารักพ่อ ต้องหนีให้รอด คิดได้ดังนั้น ร่างเพรียวรีบตะเกียกตะกายลุกขึ้นแล้วออกวิ่งอย่างรวดเร็ว วิ่งตรงไปในเส้นทางที่มืดมน โดยไม่รู้จะไปทางไหนต่อ จนในที่สุด ก็หมดแรงที่จะหนีอีกต่อไป
กระบอกปืนจ่อที่ตรงหน้าแล้ว…
พ่อครับ ผมขอโทษ
พ่อครับ แม่ครับมารับผมไปอยู่ด้วย
….
ปัง…
ตั้มดึงตัวเองกลับมาสู่ปัจจุบัน คำถามมากมายถูกตั้งขึ้น ทำไมพ่อกับเขาถึงต้องถูกตามฆ่า แล้วทำไมมือปืนคนนั้นถึงไม่ฆ่าเขาให้ตาย ทำไมเขาถึงรอดมาได้ แล้วพี่อ้นคือใคร
ทุกคำถามที่ตั้งขึ้นมาต่างก็ไม่สามารถหาคำตอบให้มันได้ ตั้มสะบัดศีรษะไล่ความคิดนั้นทิ้งไป สักวันนึง เขาจะต้องหาคำตอบทั้งหมดให้ได้
และสักวันนึง จะต้องแก้แค้นคนที่ฆ่าพ่อให้ได้!
หลังจากที่จัดการให้เด็กหนุ่มที่ตัวเองช่วยชีวิตเอาไว้ได้รับประทานอาหารเรียบร้อยแล้ว อ้นจึงขึ้นรถขับออกไปที่คฤหาสน์หลังใหญ่หลังหนึ่ง ร่างสูงรีบก้าวเข้าไปพบผู้เป็นเจ้านายทันที
“มาแล้วเหรอ เรื่องที่ให้ไปจัดการเป็นยังไงบ้าง” เสียงทุ้มของผู้มีอำนาจถามขึ้น
“เรียบร้อยแล้วครับ”
“ดีมาก เก็บหมดทั้งพ่อทั้งลูกแล้วใช่มั๊ย” ผู้เป็นเจ้านายถามต่อ
“…ครับผม” ร่างสูงเลือกที่จะโกหกไป ถ้าเจ้านายรู้ว่าเขายังไม่ได้จัดการกับผู้เป็นลูกชาย ทั้งตั้มและตัวเขาเองนี่แหละ ที่จะเป็นอันตราย
“ดีมาก นายทำงานได้ดีมาก”
“ขอบคุณครับ นายภาคิน” อ้นเอ่ยขอบคุณสำหรับคำชม
“นายทำให้ฉันไม่ผิดหวังจริงๆ หึ มันชักจะรู้เรื่องเยอะไปแล้ว ก็เลยต้องเก็บมันสักหน่อย” ภาคินเอ่ยขึ้นมา
“แต่ผมว่า เด็กคนนั้นเค้าไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลยนะครับนาย”
“นายรู้ได้ยังไงว่ามันไม่รู้เรื่อง ถ้ามันรู้เรื่องขึ้นมา แล้วมาเปิดโปงพวกเรา ไม่ซวยกันหมดหรือไง กันไว้ดีกว่าแก้” ภาคินตอบ ใบหน้าหล่อมองลูกน้องคนสนิทด้วยแววตาสงสัย
“แล้วทำไมอยู่ๆนายถึงพูดแบบนี้ อ้น ปกตินายไม่เคยมาสนใจอะไรเล็กน้อยแบบนี้นี่” ผู้เป็นเจ้านายเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“เอ่อ… ไม่มีอะไรครับนาย” อ้นรีบปฏิเสธทันที
“ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว กลับไปได้แล้ว ตอนนี้ให้นายพักได้เต็มที่ เดี๋ยวมีงานให้ทำแล้วฉันจะเรียกกลับมา” ภาคินสั่ง อ้นพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะหันเดินออกจากห้องไป
ร่างสูงเดินออกมาด้วยความกังวลใจ ต่อจากนี้ไป ชีวิตของเขาคงไม่สามารถอยู่อย่างสงบสุขอีกแล้ว การพบเจอของเขากับเด็นั่นนำความยุ่งยากวุ่นวายเข้ามาในชีวิต เขาขัดคำสั่งเจ้านาย ไม่ฆ่าเด็กนั่น แต่ในเมื่อเลืกที่จะทำแบบนั้นแล้ว ก็คงต้องยอม
-------------------------------------------------------------------------------------------
เฮ้ มาเร็วเคลมไว เม้นทืน้อยมากเลยจีจี ;___;
แต่ชอบเรื่องนี้ก็เลยมาแต่งอ่ะ
ได้ท่านภาคินมารับเชิญ
ชีวิตของกรกฏจะต้องพบเจออะไร ติดตามกันต่อไป
สุดท้ายนี้ เม้นท์หน่อยเหอะะะะ
ขขขขขขขขขขขขขขขขขขข----------รับมัน
ความคิดเห็น