ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    TS6 SHORT FICTION | ALL GUN

    ลำดับตอนที่ #1 : NOGUN | ได้แต่ฝากความคิดของฉันเอาไว้ เผื่อวันไหนเธอผ่านมา...

    • อัปเดตล่าสุด 23 ต.ค. 55


    THE★ FARRY
     





     

    Title : ได้แต่ฝากความคิดของฉันเอาไว้ เผื่อวันไหนเธอผ่านมา...

    Couple : TONOxGUN

    Writer : Lee pupae

    Rate : PG15



               คำเตือน  1. ฟิคเรื่องนี้เป็นจินตนาการของผู้แต่ง ไม่มเรื่องจริงสักกะติ๊ด หากมีอะไรผิดพลาด กราบขออภัย
                             2.ไม่เกี่ยวข้องกับศิลปินด้วยนะ
                             3. เปิดเพลงไปด้วย เพื่อให้ได้อารมณ์ยิ่งขึ้น



    -------------------------------------------------------------------------------------------





     







          ทำไมมันต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นด้วย


             
               ทำ
    ไมต้องเป็นผมด้วยที่ต้องเสียใจ



                ทำไมโชคชะตาใจร้ายกับผมนัก


                ทำไม


               

     

     

    ยังเดินผ่านทุกวันที่ที่เราพบกัน   เมื่อก่อน

    ยังจำซ้ำๆได้ทุกตอน ราวกับมีใครมาหมุน ย้อนเวลา


     

                ผมทิ้งตัวลงนั่งบนพื้นทรายละเอียด เบื้องหน้าผมเป็นทะเลสีคราม มันช่างสวยงาม แต่ก็เงียบเหงาเสียจนน่าใจหาย เมื่อผมมานั่งมองมันอยู่เพียงคนเดียว ในเวลาเย็นๆแบบนี้


               

    ----------------------------------------------------------------------------------




     

                ฮัลโหล ไอ้ตามเหรอ ฝากบอกแม่ด้วยนะ ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน เดี๋ยวฉันดีขึ้นแล้วจะกลับไป”  ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าหล่อเหลา กรอกเสียงลงโทรศัพท์มือถือราคาแพง



                เออๆ เดี๋ยวบอกแม่ให้ แล้วนี่พี่คิดยังไง หนีรักไปทะเล ทำตัวเป็นพระเอกละครไปได้ ปลายสายแซวเล่น



                “ไม่ต้องยุ่งหรอก แค่นี้นะ”  ไม่ทันให้ปลายสายได้ตอบอะไรกลับมา ร่างสูงก็จัดการกดตัดสาย แล้วเก็บโทรศัพท์มือถือลงกระเป๋า  สายตาคมภายใต้แว่นดำทอดมองไปที่ทะเลกว้าง



                ร่างสูงแค่นยิ้มให้ตัวเอง เมื่อคิดถึงคำพูดของน้องชายเมื่อสักครู่ หนีรักมาทะเล ทำตัวเป็นพระเอกละคร ก็จริงอยู่ว่าการที่เขามาทะเลในคราวนี้ เพราะหนีความเจ็บช้ำเรื่องรักมา มันก็เป็นธรรมดาของคนเรา ที่เวลาเจ็บใจ เวลาเสียใจ ชอบที่จะมาหาที่อยู่คนเดียว เงียบๆ คิดอะไรคนเดียวไปเรื่อยๆ และเขาก็เป็นอีกคนที่ชอบมาทะเล เพื่อปลดปล่อยความทุกข์ไปกับท้องทะเล


                ที่นี่เป็นรีสอร์ทสุดหรูของครอบครัวเขาเอง และตรงนี้ก็เป็นมุมสงบ ที่ไม่ค่อยมีคนเดินผ่านไปมามากนัก ร่างสูงจึงเลือกที่ตรงนี้เพื่อมานั่งคิดอะไรเพลินๆ



                “โอ๊ยยย เสร็จงานสักที เมื่อยจะแย่”  แต่จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นใกล้ๆ ร่างสูงหันมองไปตามเสียง ก็พบกับ ชายหนุ่มร่างเล็ก ผิวสีน้ำผึ้ง กำลังยืนบิดขี้เกียจ เพื่อคลายความเมื่อยล้าอยู่ ดูจากเสื้อผ้าที่ใส่ ก็พอจะเดาได้ว่านี่คงเป็นพนักงานของรีสอร์ทเป็นแน่



                และดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะรู้สึกว่ากำลังถูกมอง ตาหวานจับจ้องไปที่ชายหนุ่มแปลกหน้า วินาทีแรกที่ได้สบกับตาหวานนั่น ทำให้ร่างสูงใจเต้นแรงผิดปกติ แต่ก็พยายามควบคุมความรู้สึก



                “เอ่อคุณเป็นนักท่องเที่ยวหรือเปล่าครับ”  ร่างเล็กเอ่ยถามขึ้น



                “ครับ”  ชายหนุ่มร่างสูงพยักหน้ารับ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องโกหก รู้แต่ว่าถ้าบอกความจริงไป คนตัวเล็กไม่กล้าคุยกับเขาแน่



                “คุณพักที่นี่เหรอครับ



                “ครับ คุณ ทำงานที่นี่เหรอ”  ร่างสูงถามกลับบ้าง ร่างเล็กยิ้มกว้าง พร้อมทั้งพยักหน้ารัวๆ




                “ใช่ครับ เพิ่งเข้ามาใหม่ กันเป็นแค่เด็กยกกระเป๋าเท่านั้นแหละครับ” 


                “ชื่อกัน” 



                “ใช่ครับ ผมชื่อกัน แล้วคุณล่ะ



                “ผมโตโน่ครับ”  ปกติแล้ว เขาไม่ได้ชอบที่จะบอกชื่อตัวเองให้ใคร แต่กับคนนี้ เขากลับรู้สึก อยากคุย อยากรู้จัก



                “อ่อ ดูแล้วคุณน่าจะอายุมากกว่าผมนะ งั้นขอเรียกพี่โตโน่ได้ไหมครับ”  ร่างเล็กถามพลางยิ้มกว้าง มันชวนให้ผู้ที่ได้มองอดยิ้มตามไม่ได้ ร่างสูงเผลอยิ้มตามร่างเล็กอย่างไม่รู้ตัว



                “ได้สิครับ



     

    ----------------------------------------------------------------------------------

     

     

                นี่คือครั้งแรกที่เราเจอกัน ได้คุยกัน ได้รู้จักกัน  ด้วยความน่ารัก และมีเสน่ห์ของเด็กผู้ชายธรรมดาๆ ทำให้ผมลืมความเจ็บปวดจากรักครั้งเก่า แล้วต้อนรับเขาเข้ามาอยู่ในหัวใจ ทำให้ผมรู้ว่า รักแรกพบ มีอยู่จริง


     

     

               

    ยังจำซ้ำๆได้ทุกตอน ราวกับมีใครมาหมุน ย้อนเวลา

     
     

    ----------------------------------------------------------------------------------

     

     

                “พี่โน่ดูทะเลนี่สิ มันเปรียบเหมือนพี่เลยรู้มั๊ย”  เสียงหวานเอ่ยเจื้อยแจ้ว ในขณะที่ศีรษะทุยกำลังซบไหล่ของร่างสูงอยู่ ร่างสูงเลิกคิ้วเล็กน้อย แล้วถามกลับ



                “หือ? ทะเลมัน เหมือนพี่ยังไง เค็มอ่ะเหรอ ฮ่าๆ”  ร่างสูงแกล้งพูดขำๆ แต่ก็ได้รับสายตาเหวี่ยงๆกลับมา



                “ไม่ใช่สักหน่อย ฟังให้จบก่อนสิ”  ร่างเล็กเหวี่ยงเล็กๆ กำลังจะโรแมนติคแท้ๆ ดันมาทำให้เสียบรรยากาศหมด



                “อ่ะๆ พี่ขอโทษครับ ไหนกันลองบอกพี่สิ ว่าพี่เหมือนทะเลยังไงร่างสูงปรับเข้าโหมดจริงจัง กัน ทอดสายตาออกไปที่ทะเลกว้าง สุดลูกหูลูกตา



                “เวลาทะเลสงบ มันดูสวยงาม น่าเล่น น่าอยู่ใกล้ๆ ก็เหมือนพี่ตอนนี้ เวลาพี่อารมณ์ดี กันอยากจะอยู่กับพี่ทุกที่ ทุกเวลา แต่พอทะเลเกิดพายุ มีมรสุม ทุกคนก็จะกลัวมัน ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ เหมือนเวลาที่พี่โมโห กันไม่อยากจะอยู่ใกล้พี่ กันกลัว”   ร่างเล็กสาธยายออกมาตามความรู้สึกของตัวเอง โตโน่ หันมองใบหน้าหวานที่เห็นเพียงครึ่งเสี้ยว แล้วระบายยิ้มออกมาเบา  มือหนาเอื้อมไปจับมือเรียวขึ้นมา



                “ถ้าพี่เป็นทะเล กันก็เป็นหาดทรายที่คอยโอบกอดทะเลเอาไว้ ไม่ว่าทะเลจะมีพายุเข้า ดูโหดร้ายพร้อมที่จะคร่าชีวิตผู้คนมากแค่ไหน แต่หาดทรายก็ไม่เคยคิดที่จะหนีทะเลไปไหน รอจนทะเลสงบ ก็จะได้กลับมาเคียงคู่กันอย่างสวยงาม”  ตาคมมองสบกับตาหวาน และก็เป็นร่างเล็กที่เบือนหน้าหนีออกก่อน



                “จะว่าไป พี่โน่นี่ก็แอบเน่านะ ฮ่าๆ ใครทิ้งขยะลงทะเลเนี่ย”  ร่างเล็กพูดกลบเกลื่อนความเขิน



                “ไม่ต้องมาพูดดี เรานั่นแหละเริ่มก่อน นี่แน่ะ”  ร่างสูงบีบจมูกโด่งของคนตัวเล็กอย่างหมั่นไส้



                “โอ๊ย มันเจ็บนะเนี่ยพี่โน่ ไปดีกว่า แน่จริงก็จับให้ได้ดิ”  ร่างเล็กผลิกตัวลุกขึ้นวิ่งหนีร่างสูงเข้าไปในรีสอร์ท



                “ยังไงก็หนีพี่ไม่พ้นหรอก อย่าให้พี่จับได้นะ เสร็จแน่”  ร่างสูงออกวิ่งตามจับคนดื้อมาลงโทษ


     

     

    ----------------------------------------------------------------------------------

     

     

     

                ความสุขของผมคือการที่ได้อยู่กับกัน ได้กอด ได้หอม ได้จูบ ได้คุย ได้เล่น แต่ความสุขมันมักจะผ่านไปเร็วเสมอ

     

     

    ----------------------------------------------------------------------------------

     

     

     

                “ฮัลโหลครับแม่”  ร่างสูงรับโทรศัพท์เมื่อเห็นว่าผู้เป็นแม่โทรมาหา



                โน่ เมื่อไหร่ลูกจะกลับบ้านเสียที นี่มันก็ตั้งกี่เดือนเข้าไปแล้ว



                “ผมขอเวลาอีกสักพักนะครับแม่ เดี๋ยวผมจะกลับไป



                ไม่ได้ แม่ขอสั่งให้ลูกกลับมาเดี๋ยวนี้



                “แต่แม่ครับ



                ‘ไม่มีแต่ อย่าคิดว่าแม่ไม่รู้นะว่าทำไมลูกไม่กลับมา รีบกลับมาซะ แม่หาผู้หญิงดีๆที่จะให้ลูกแต่งงานด้วยได้แล้ว



                “อะไรนะครับ ไม่แต่ง ผมไม่แต่งงานกับใครทั้งนั้น



                แต่ลูกต้องแต่ง รีบกลับมา อย่าให้แม่ต้องลงไปตามด้วยตัวเอง แค่นี้นะ



                “แม่ๆ เดี๋ยวก่อนสิครับปลายสายตัดไปโดยที่ไม่ฟังคำอธิบายของคนเป็นลูกชาย ร่างสูงโยนโทรศัพท์ลงบนที่นอนแล้วทิ้งตัวลงนั่ง



                “พี่โน่กลับไปเถอะ กลับไปโลกแห่งความจริง”  กันเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ เขาได้ยินมาตลอดว่าคนรักกำลังคุยอะไรกับผู้เป็นแม่



                “พี่ไม่กลับ พี่จะกลับได้ยังไง ในเมื่อหัวใจพี่อยู่ที่นี่ร่างสูงหันมองร่างเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆ



                “แต่กันไม่คู่ควรกับพี่หรอก กันมันก็แค่เด็กจนๆคนหนึ่ง พี่กลับไปพบกับชีวิตที่ดีเถอะร่างเล็กก้มหน้าพด ไม่อยากให้อีกคนเห็นน้ำตาของตัวเอง



                มือหนาประคองใบหน้าหวานให้สบตากับตน ใช้นิ้วเกลี่ยน้ำตาที่ไหลเป็นทางยาวออก



                “ชีวิตพี่จะดี พี่ต้องได้อยู่กับกัน”  พูดจบใบหน้าหล่อก็โน้มลงประกบริมฝีปากหนากับริมฝีปากบาง กันปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา แต่ก็ไม่คิดที่จะผลักไสคนตรงหน้าออก เขาก็แค่อยากทำตามหัวใจตัวเองบ้าง เพราะเวลาของเขา มันเหลือน้อยเต็มที



     

               

    ----------------------------------------------------------------------------------

     

    แต่ก็คงจะหมุนย้อนได้แค่ในความคิด ในชีวิตจริงคงไม่เจอกันอีกแล้ว

    ยืนอยู่ตรงที่เดิม แต่ไม่มีวี่แวว

    เธอจากไปแล้ว และคงไม่ย้อนคืนมาหา….



     

                วันนี้ผมกลับมายืนที่เก่า เวลาเดิม ที่ที่เราสองคนพบกันครั้งแรก หวังเพียงว่า เขาจะคิดถึงผม เขาจะกลับมาหาผม เขาจะกลับมาโอบกอดผม ไม่ให้ผมต้องเดินต่อไปตามลำพัง แต่มันก็เป็นได้แค่ ความหวังลมๆแล้งๆที่ไม่มีวันเป็นจริง


     

    ----------------------------------------------------------------------------------



     

                “ผมทำทุกอย่างตามที่คุณแม่ต้องการแล้ว ผมไปหากันได้แล้วใช่มั๊ยครับ”  ร่างสูงยืนประจันหน้ากับผู้เป็นแม่ ชีวิตจริงมันไม่เหมือนในหนังเสมอไป เขาต้องกลับมาทำงาน กลับมาแต่งงาน โดยที่ทิ้งคนคนนั้นเอาไว้ จากมาโดยไม่บอกสักคำ



                “แกจะกลับไปหามันอีกทำไม ชีวิตแกกับมันเหมือนเส้นขนาน ไม่มีวันบรรจบกันได้หรอก



                “ถึงจะไม่มีวันบรรจบกันได้ แต่ผมกับกันก็จะเคียงคู่กันตลอดไป ผมรักกันคนเดียว หัวใจของผมอยู่ที่กันคนเดียว



                “แกอยากจะไปก็เชิญ แต่จะได้เจอมันหรือเปล่า ฉันไม่รู้หรอกนะ”  คำพดกำกวมของผู้เป็นแม่ เรียกร้องความสนใจจากร่างสูงได้อย่างมาก



                “ทำไม ทำไมผมจะไม่เจอกัน


                “ฉันไม่รู้”  พูดจบ ผู้เป็นแม่ก็เดินออกไป ปล่อยให้ร่างสูงยังค้างคาใจอยู่ แต่โตโน่ก็ไม่ปล่อยให้ค้างใจ ร่างสูงคว้ากุญแจรถยนต์คันหรูของตนเอง แล้วรีบออกไปหาหัวใจทันที



                รอพี่หน่อยนะกัน พี่กำลังจะไปหา



     

              โตโน่ วิ่งเข้ามาในรีสอร์ทของตนเอง สายตากวาดมองหาร่างเล็กที่คุ้นเคย แต่ก็ไม่พบ



                “อ้าว คุณภาคิน สวัสดีค่ะ จะมาทำไมไม่บอกคะเนี่ย จะได้เตรียมห้องเอาไว้ให้”  พนักงานสาวสวยเอ่ยทักเจ้านาย


                “กันล่ะ กันอยู่ไหน”   ร่างสูงไม่สนใจที่เธอพูดเลยแม้แต่นิดเดียว



                “กันน้องกัน ที่เป็นเด็กยกกระเป๋าน่ะเหรอคะ



                “ใช่ๆ เขาอยู่ไหน”  ร่างสูงถามอย่างเร่งรีบ



                “คือ….ตอนนี้เขาไม่ได้ทำงานกับเราแล้วค่ะ”  คำตอบของหญิงสาวทำเอาร่างสูงตกใจไม่ใช่น้อย




                “แล้วเค้าไปไหน



                “คือเมื่อหลายอาทิตย์ที่ผ่านมา เราได้รับคำสั่งจากคุณหญิง ให้เชิญเขาออกค่ะเมือได้รับคำตอบ ร่างสูงก็ขบกรามแน่น มือหนากำแน่น



                “ผมขอประวัติหน่อย เอาที่อยู่เขามาให้ผม”  ร่างสูงสั่งเสียงเข้ม อารมณ์ตอนนี้พร้อมที่จะปะทุได้ทุกเมื่อ



                “เอ่อ..ได้ค่ะๆ เดี๋ยวดิฉันจะรีบหามาให้”  หญิงสาวรีบค้นหาข้อมูลที่เจ้านายอยากได้ ทันที เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มกำลังโมโห ไม่นานนัก ก็ได้ข้อมูลมาส่งให้เจ้านาย



                “นี่ค่ะคุณภาคิน ประวัติและที่อยู่ของน้องกัน”  ร่างสูงรีบฉวยมาดูทันที และเมื่อเห็นที่อยู่แล้ว เขาก็ไม่รอช้าที่จะไปตามหาร่างเล็กผู้เป็นเจ้าของหัวใจ


     

                ร่างสูงยืนอยู่หน้าบ้านทาวน์เฮาส์หลังหนึ่ง หลังจากที่ขับรถตระเวนหามาเป็นเวลานาน ในที่สุด ก็พบเสียที ที่อยู่ของกัน



                โตโน่เดินไปกดออดหน้าประตูบ้านด้วยรอยยิ้มแห่งความหวัง เขาจะได้เจอหัวใจของเขาแล้ว ไม่นานนักก็มีหญิงสาวสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมา



                “สวัสดีค่ะ มาหาใครเหรอคะ”  เธอถามชายหนุ่มที่ไม่คุ้นหน้าคุ้นตา



                “ผมมาหากันน่ะครับ”  โตโน่บอกจุดประสงค์ของตนเอง



                “มาหากัน คุณคือคุณภาคินใช่มั๊ยเธอถามต่อ ร่างสูงรีบพยักหน้า



                “ครับๆ ผมภาคินครับ



                “ถ้าคุณอยากเจอน้องกัน ก็ตามมานี่ค่ะ”  หญิงสูงอายุคนนั้นเปิดบ้านให้ร่างสูงเข้ามา แล้วเดินนำหน้าเขาไปภายในตัวบ้าน บ้านหลังนี้เล็กมาก ถ้าเทียบกับบ้านของเขา



                หญิงสาวสูงวัยเดินนำมาที่หน้าห้องนอนห้องหนึ่ง ซึ่งร่างสูงเดาว่าน่าจะเป็นห้องของกัน เธอเปิดประตูเข้าไปภายใน ข้าวของเครื่องใช้วางเต็มห้อง ถูกจัดเรียงอย่างดี แต่กลับไม่มีคนอยู่



                “กันอยู่ไหนล่ะครับ”   โตโน่ถามอีกรอบ



                “อยู่นั่นไงล่ะ”  หญิงคนนั้นพูดเสียงสั่น มองขึ้นไปบนหิ้งที่ติดอยู่ที่ฝาผนังห้อง โตโน่มองตามขึ้นไป ภาพที่เขาเห็นทำเอาแข้งขาหมดแรงไปเสียดื้อๆ อยากจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่กลับไม่มีแรง ร่างสูงทรุดลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง ในขณะที่สายตาคมจับจ้องอยู่ที่รูปภาพของคนรัก ที่วางคู่อยู่กับโกศเก็บกระดูก



                หมายความว่า กันตายแล้ว งั้นเหรอ



                ความสับสน ไม่เข้าใจ ตกใจ เสียงใจ ผสมปนเปไปหมด โตโน่หันไปมองหญิงสาวสูงอายุ ก่อนที่จะเอ่ยถามออกไปด้วยความยากลำบาก



                “กะกัน กัน เสียแล้วเหรอครับ


                “ใช่ กันเสียแล้ว” 


                “เมื่อไหร่ครับ



                “เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว



                “เขา เป็นอะไร



                “อุบัติเหตุ รถชน”  พูดได้เพียงเท่านั้น หญิงสูงอายุก็น้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่


                “ไม่จริง”  โตโน่ยังไม่อยากจะเชื่อกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน ได้ฟังมา ไม่อยากจะเชื่อว่า กัน ไม่ได้อยู่บนโลกนี้กับเขาแล้ว



                “เชิญคุณตามสบายนะ ฉันออกไปรอด้านนอกหญิงสูงอายุเดินออกจากห้องไป ร่างสูงก้มหน้าร้องไห้ออกมาอย่างไม่แคร์อะไรทั้งสิ้น ใครจะไปเชื่อว่าตอนนี้ คนอย่างนาย ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ จะมานั่งคุกเข่าร้องไห้อยู่ตรงนี้ ตอนนี้เขาไม่สนใจอะไรอีกแล้ว รู้แต่ว่าเสียใจ เสียใจมากเกินกว่าที่จะทนได้



                ร่างสูงลุกขึ้นยืน เดินสำรวจไปรอบห้อง ผ้าปูที่นอนสีฟ้าสดใส ยังคงถูกปูอยู่บนเตียงนอน โตโน่ทรุดตัวลงนั่งบนที่นอนสำหรับนอนคนเดียว มือหนาลูบไล้ไปทั่ว เตียงนอนนี้กันเคยนอนสินะ หมอนใบนี้ กันเคยหนุนสินะ หมอนข้างใบนี้กันเคยกอดสินะ



                “ทำไมกันไม่รอพี่ ฮึก ทำไม”  ร่างสูงร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายใคร มือหนาหยิบหมอนนุ่มขึ้นมากอดเอาไว้อย่างหวงแหน ประหนึ่งว่ามันคือเจ้าของหัวใจของเขา



                “ทำไมทิ้งพี่ไป ฮึก”  ใบหน้าหล่อซุกลงกับหมอนแล้วร้องไห้ นี่เป็นการสูญเสียที่เจ็บปวดที่สุดสำหรับเขา ไม่มีการบอกลา ไม่มีประโยคสุดท้ายที่ได้คุย ไม่มีอะไรเลย


     

                …..  ♩♭ ………….  ♩♭ 



                เสียงริงโทนโทรศัพท์ดังขึ้น ร่างสูงหยิบมันออกมาก่อนที่จะกดรับ เมื่อเห็นชื่อแสดงว่าเป็นมารดาของตน



                ฮัลโหล เป็นยังไงบ้างลูก ไม่เจอมันแล้วใช่มั๊ย ไม่เจอแล้วก็กลับมาได้แล้วคำพูดของมารดาทำให้โตโน่สงสัยเป็นอย่างมาก



                “แม่รู้ได้ยังไงว่าผมไม่เจอกัน ก็ในเมื่อตอนนี้ผมอยู่กับกัน”  โตโน่แกล้งพูดออกไป



                จะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อมันตายไปแล้ว’  และก็หลุดพูดออกมาจนได้



                “แม่รู้ได้ยังไง”  ร่างสูงถามเสียงเย็น



                เอ่อคือแม่แม่นี่แหละ เป็นคนทำให้มันตายเอง”  ไหนๆเรื่องมันก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ผู้เป็นแม่ยอมบอก นั่นยิ่งทำให้โตโน่เสียใจขึ้นอีกหลายร้อยเท่า คนที่ทำให้กันตาย คือแม่ของเขาเอง!!!



                “แม่ทำแบบนี้ได้ยังไง แม่ทำแบบนี้ทำไม!”   ร่างสูงตะคอกกลับไปอย่างลืมตัว ตอนนี้มันตื้อไปหมด



                ก็ถ้าไม่ทำอย่างนี้ แกก็ไม่เลิกยุ่งกับมันสักทีน่ะสิ


                “พอสักที แม่เลิกบงการชีวิตผมสักที”  ร่างสูงตัดสายโทรศัพท์ทิ้ง ก่อนที่จะเงยหน้ามองรูปถ่ายนั้นอีกครั้ง ใบหน้าหวานในรูปถ่ายกำลังยิ้มให้เขา


                “รอพี่นะกัน พี่กำลังจะไปหา” 

     

     

    ----------------------------------------------------------------------------------

     

    ได้แต่ฝากความคิดของฉันเอาไว้ เผื่อวันไหนเธอผ่านมา

    เห็นที่เดียวกันนี้ เธอจะนึกขึ้นได้ว่า

    เคยมีคนหนึ่งยืนข้างเธอ อยู่ตรงนี้เสมอ ตลอดมา

     

                เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในเวลาเพียงไม่ถึงปี ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมกำลังจะทำต่อไปนี้ มันผิดถูกขนาดไหน แต่ผมจะทำ เพื่อชดใช้กับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น



                “กัน กันอยู่แถวนี้หรือเปล่า กันคิดว่าสิ่งที่พี่ทำ มันจะดีหรือเปล่า

     

                “แต่ไม่ว่าจะยังไงพี่ก็จะทำนะ พี่ขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง

     

                “ขอโทษที่ไปโดยไม่บอกกล่าว


     

                “ขอโทษ ที่ทำให้ชีวิตของคนดีๆต้องพินาศลง

     
     

                “ขอโทษที่พี่ช่วยอะไรกันไม่ได้เลย

     

     

                ผมปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาให้พอใจ และต่อไปนี้ มันจะไม่มีอีก ผมจะไม่เสียใจอีกแล้ว ผมลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก้าวขาเดินไปข้างหน้าช้าๆ อีกไม่นานหรอกกัน เราก็จะได้พบกันแล้ว รอพี่หน่อยนะคนดี มารับพี่ไปอยู่ด้วยนะ


     

    ให้เธอสัมผัสความคิดที่ฉันทิ้งไว้

    อาจไม่เห็นได้ด้วยตา

    ฉันจะฝากเอาไว้ อยู่ในพื้นดินและท้องฟ้า

    มันเป็นความคิดที่กระซิบว่า

     

     

    ฉันยังรักเธอ

     



     

                            ภายใต้แสงจันทร์สีนวล  สถานที่แห่งนี้ช่างเงียบสงบ ดูเหงาและเศร้าสร้อย 
      
                            แต่ทว่าเมื่อมองดีๆแล้ว ก็จะพบเงาของสองร่างที่โอบกอดกันอยู่

                           พวกเขาไม่เหงาอีกต่อไป

                           พวกเขาจะมีกันและกัน ตลอดไป

                           แม้จะไม่มีผู้ใดเห็น แต่มีกันและกัน แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว






    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    อั๊ยย่ะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับข้าพเจ้า 55555555555
    ฟิคเรื่องนี้มันมาได้ยังไงวะ สงสัยตัวเอง
    มาเรื่องแรกก็จัดดราม่าเต็มๆ 
    ด้วยเหตุที่ชอบเพลงนี้มากเกินไป มันเป็นเพลงของแฟนเค้าเองแหละ #โดนโบก
    ทอล์กข้างล่างช่างไร้สาระอะไรเช่นนี้ 55555
    ขออภัยกับความผิดผลาดของฟิคด้วยนะ แต่งไปแบบไม่ได้แก้ไขอะไรเลย
    หลุดพล็อตลอยทะเลไปไกล
    ไม่ขออะไรมาก อยากได้คอมเม้ท์แบบยาวๆๆๆ คุณรู้สึกอะไร คุณบอกมาให้หมด
    จะด่าเค้าก็ได้นะ 55555555555
    ตามมาเวิ่นกันที่นี่เถอะ ทวิตตะเตอร์ @pupaepa
    บ๊ายบาย จุ๊บๆ เจอกันใหม่นะจ๊ะ

     

     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×