ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (exo) - Risk - {Kristao}

    ลำดับตอนที่ #1 : RISK : 00

    • อัปเดตล่าสุด 3 เม.ย. 57


    CRY .q



                ท่ามกลางความมืดมิด ของซอยเปลี่ยว ปรากฏร่างสูงร่างหนึ่งยืนหลบอยู่ในมุมที่ไม่มีใครมองเห็นได้ อาศัยความมืดอำพรางตัว เพื่อที่จะทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายมาให้สำเร็จลุล่วงไป

    ห่างออกไปเพียงไม่กี่เมตร มีคนสองกลุ่มใหญ่กำลังเจรจาอะไรบางอย่างอยู่ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องสนใจ สิ่งที่เขาต้องสนใจคือการ “ยิง” ปืนให้แม่นที่สุดเท่านั้น

    ชายสองคนซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นหัวหน้าใหญ่ของทั้งสองกลุ่มมีการแลกเปลี่ยนกระเป๋าใบใหญ่กัน และทำการแยกย้ายกัน และ ณ ตอนนี้ งานของเขาเริ่มขึ้นแล้ว

    มือหนากระชับปืนที่เหน็บไว้ข้างหลังแน่นก่อนจะดึงมันออกมา เล็งไปที่เป้าหมาย ก่อนที่จะลั่นไก เมื่อมั่นใจแล้วว่า มันจะตัดขั้วหัวใจพอดี

    ปัง!!!

    ทันทีที่เสียงปืนดังขึ้น ร่างของเป้าหมายก็ล้มลงขาดใจตายทันที เพราะกระสุนเพียงนัดเดียว พวกชายฉกรรจ์ที่ติดตามมาต่างก็ตกใจ ยังไม่ทันที่จะตั้งตัว ก็ถูกยิงถล่มจากอีกพวกหนึ่ง จนไม่มีใครรอดชีวิตไปเลยสักคน

    ร่างสูง เจ้าของลูกกระสุนปืนที่เป็นคนปลิดชีวิตชายคนนั้นเดินออกมาจากความมืด เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีผู้รอดชีวิตอยู่แล้ว  ร่างสูงเดินไปสมทบกับอีกฝ่ายหนึ่ง  ด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย ไม่มีความรู้สึกอะไร เขาทำมันแบบนี้จนชินเสียแล้ว

    “ทำงานได้ดีมากนะ ไอ้ลูกชาย ไม่เสียแรงที่เลี้ยงดูแกมา”  ชายรูปร่างสูง ดีมีราศีเดินมาตบบ่าร่างสูงเบาๆอย่างพอใจกับผลงาน  อู๋จิ่นเหิง มาเฟียที่ทรงอิทธิพลของประเทศไทย ผู้ซึ่งไม่มีผู้ใดอยากจะยุ่งด้วยเพราะเกรงกลัวในอำนาจของเขา อี้ฟาน หันมอง ผู้ที่เป็น พ่อบุญธรรมด้วยสายตาเรียบเฉย แล้วยกยิ้มเล็กน้อย

    “ไม่มีอะไรแล้วใช่มั๊ยครับ งั้นผมขอตัวก่อน” ร่างสูงพูดตัดบท ก่อนที่จะเดินออกมาจากตรงนั้น กลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งไปทั่วทั้งบริเวณ ทำให้เขารู้สึกดี การฆ่าคนจริงๆนี่มันสนุกนะ สนุกยิ่งกว่าเกมส์ที่เคยเล่นตอนเด็กๆเสียอีก เพราะมันได้เห็นเลือดจริง ได้กลิ่นเลือดจริงๆ ได้ลั่นไกปืนจริงๆ และได้เห็น คนคนหนึ่ง หมดลมหายใจไปจริงๆ อาจจะดูว่าเขาบ้า หรือเป็นโรคจิต ที่ต้องเป็นแบบนี้ก็เพราะ เขาถูกเลี้ยงดูมาให้อยู่กับเสียงปืน กลิ่นคาวเลือด และความตาย ไอ้เด็กกำพร้าคนหนึ่งถูกเก็บมาเลี้ยง ถูกสอนมาให้รู้จักบุญคุณคนที่อุปการะ ถูกสั่งสอนให้แข็งแกร่ง   เด็กที่เป็นเหมือผ้าขาวที่ถูกชุบด้วยสีดำ!!!

    จำเอาไว้นะ อี้ฟาน ความรักที่แท้จริงมันไม่มีในโลก แกต้องเข้มแข็ง ห้ามมีความรักเด็ดขาด เพราะความรักมันจะทำให้แกอ่อนแอ แกต้องเชื่อฟัง และทำตามคำสั่งพ่อเท่านั้น เข้าใจมั๊ย

    เข้าใจครับ ผมจะไม่มีความรัก ผมจะทำตามคำสั่งพ่อทุกอย่าง


     

     

    “พ่อครับ เห็นกระเป๋าตังค์จื่อเทามั๊ย”  เสียงใสตะโกนถามผู้เป็นพ่อดังลั่นบ้าน ร่างโปร่งบางของ จื่อเทา กำลังง่วงอยู่กับการหากระเป๋าสตางค์อยู่

    “พ่อเห็นมันวางอยู่บนโต๊ะหนังสือเราน่ะลูก เห็นมั๊ย”  ผู้เป็นพ่อตะโกนกลับขึ้นมา  จื่อเทาหันไปหาโต๊ะหนังสือของเขาทันที สายตามองหาสอดส่องกระเป๋าสตางค์ใบโปรดของตนเอง และก็พบว่ามันวางอยู่บนกองหนังสือจริงๆด้วย ริมฝีปากบางระบายยิ้มออกมาอย่างโล่งอก นึกว่าจะหายไปเสียแล้ว

    “เจอหรือยังลูก”  พ่อถามซ้ำ

    “เจอแล้วครับพ่อ”  จื่อเทาตะโกนตอบกลับไป มือเรียวเอื้อมไปคว้ากระเป๋าเป้สีดำใบเก่งขึ้นมาสะพาย แล้ววิ่งลงมาจากห้องนอนอย่างรวดเร็ว  ก็พบพ่อแม่นั่งประจำที่อยู่ที่โต๊ะรับประทานอาหารแล้วเรียบร้อย ตัวเองจึงเดินไปนั่งประจำที่บ้าง

    “ไงเรา ตื่นสายอีกแล้วนะ”  ผู้เป็นแม่แซวลูกชายยิ้มๆ จื่อเทายิ้มตอบกลับน้อยๆ

    “นิดหน่อยเองครับแม่ ผมแค่เผลอนอนดึกไปนิดเดียวเอง”  ร่างโปร่งพูดติดตลก เรียกรอยยิ้มจากทุกคนได้

    “เอาเถอะๆ รีบกินข้าวกันเร็ว เดี๋ยวก็ไปเรียนสายหรอก”  ผู้เป็นพ่อเอ่ยขัด ก่อนที่ทั้งสามคนจะลงมือรับประทานอาหารกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา พ่อ แม่ ลูก ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้มีเงินทองมากมาย แต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่ากับความรักที่พวกเขามีให้แก่กัน มันตีมูลค่าเป็นเงินไม่ได้เลยจริงๆ

    อาหารมื้อนี้ก็เป็นอีกมื้อที่ผ่านไปด้วยดี  ร่างเล็กเดินออกมานอกบ้านโดยที่มีพ่อกับแม่เดินมาพร้อมๆกัน

    “แม่ครับ ผมไปเรียนก่อนนะ เจอกันตอนเย็นนะครับ รักแม่นะ”  จื่อเทาโผเข้ากอดผู้เป็นแม่แน่นเหมือนที่เคยทำอยู่ทุกวัน และก็กดจมูกโด่งลงไปบนแก้มนิ่มของผู้เป็นแม่

    “แม่ก็รักลูกจ่ะ” คนเป็นแม่ก็หอมแก้มลูกชายกลับ ส่วนผู้เป็นพ่อเดินมาลูบศีรษะลูกชายเบาๆ

    “พ่อก็รักจื่อเทานะลูก”

    “ผมก็รักพ่อครับ”  จื่อเทาผละจากแม่เข้าไปกอดผู้เป็นพ่อแน่น ส่วนผู้เป็นแม่ก็เข้ามากอดพ่อลูกทั้งสองแน่น ทั้งสามกอดกันแน่น ราวกับว่า นี่มันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้กอดกันแบบนี้

    “ผมไปเรียนก่อนนะครับ ตอนเย็นเจอกันนะ”  จื่อเทาโบกมือลาบุพการีทั้งสอง ก่อนที่จะเดินออกจากบ้านไป เพื่อไปเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยชื่อดังที่เขามุมานะจนสอบเข้ามาเรียนที่นี่ได้

    “พ่อ แม่กลัว กลัวว่าจะไม่ได้เจอหน้าลูกอีก”  ผู้เป็นแม่เอ่ยขึ้น เมื่อลูกชายเดินลับหายไป ผู้ที่เป็นเสาหลักของครอบครัวโอบร่างของภรรยาเอาไว้ เป็นเชิงปลอบ

    “ไม่เป็นไรนะแม่ ไม่เป็นไรนะ”  ด้วยความที่เป็นบุรุษ เขาจึงต้องเข้มแข็ง แม้ว่าในใจจะหวั่นมากขนาดไหนก็ตาม

    ถึงแม้พ่อจะต้องตาย พ่อก็จะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายลูกเด็ดขาด!

     

     

    “จื่อเทา รายงานกันเสร็จหรือยัง”  เสียงสดใสของเพื่อนรัก อย่าง แบคฮยอน ชายหนุ่มร่างเล็กหน้าหวานเอ่ยถามจื่อเทา ในขณะที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่

    “เสร็จแล้ว ทำไมวะแบคฮยอน อย่าบอกนะว่านายยังทำไม่เสร็จ”  จื่อเทาเอ่ยดักคอเพื่อน เพราะรู้ว่าถ้ามันมาถามแบบนี้ แสดงว่าไอ้เพื่อนตัวเล็กคนนี้มันต้องให้ช่วยทำงานอีกแล้วเป็นแน่

    “แฮ่ๆ ก็ใช่น่ะสิ ช่วยฉันทำหน่อยได้ม้า นะๆๆๆ”  แบคฮยอนใช้กลยุทธ์ในการอ้อนเพื่อนให้ช่วยทำการบ้าน จื่อเทาส่ายศีรษะอย่างเอือมๆ

    “ทำเอง”  จื่อเทาปฏิเสธแบคฮยอนอย่างไม่ใยดี  คนตัวเล็กจึงตัดสินใจใช้ไม้ตายโดยการเบะปากทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ พยายามบีบน้ำตาให้ออกมาเพื่อให้เพื่อนเห็นใจ

    “นะเทา ช่วยฉันหน่อยนะ นะๆๆๆ เทาเพื่อนที่น่ารักที่สุด นะๆๆๆๆ” 

    “เฮ้อ ก็ได้วะ ช่วยก็ช่วย แต่แบคฮยอนก็ต้องไปทำกับฉันนะ เดี๋ยวเย็นนี้เราไปห้องสมุดกัน”  ในที่สุดก็ใจอ่อนจนได้ ทำไมถึงไม่เคยจะปฏิเสธอะไรได้เลยนะ จื่อเทาเอ้ย

    “เย่ๆ เทาเทาน่ารักที่สุดเลย งั้นเดี๋ยวตอนเย็นเจอกันนะ ฉันไปก่อนนะ บ๊ายบาย”  พูดยังไม่ทันจบประโยคดีไอ้เพื่อนตัวดีก็วิ่งฉิวไปเสียแล้ว ตาคมเฉี่ยวมองตามร่างเล็กของแบคฮยอนแล้วยิ้มบางๆ ให้มันได้อย่างนี้สิ


     

     

    “อี้ฟาน พ่อมีงานให้แกทำ”  จิ่นเหิงเดินเข้ามาหาร่างสูงที่นั่งเช็ดปืน อาวุธคู่กายอยู่ที่หน้าบ้านหลังใหญ่  อี้ฟานวางปืนลงแล้วหันไปสนใจผู้เป็นพ่อ

    “งานอะไรครับ”

    “ไปจัดการเก็บพวกมันให้หมด พ่อว่า มันชักจะรู้เรื่องของเรามากไปแล้ว”  จิ่นเหิง ยื่นรูปถ่ายใบหนึ่งให้กับลูกชาย อี้ฟานรับมันมาแล้วพิจารณาดูภาพถ่ายภาพนั้น

    “ขอให้สนุกนะ ไอ้ลูกชาย”  จิ่นเหิงตบบ่าอี้ฟานแล้วเดินกลับเข้าบ้านไป ปล่อยให้ร่างสูงนั่งดูรูปถ่ายของคนที่เขาต้องไปจัดการเพียงลำพัง

    มันเป็นรูปถ่ายของครอบครัวหนึ่ง มีพ่อแม่ลูกกันพร้อมหน้าพร้อมตา แลดูอบอุ่น แต่ร่างสูงไม่ได้สนใจในรายละเอียดตรงนั้น เขาสนใจตรงเด็กหนุ่มตาคมเฉี่ยว  ที่ฉีกยิ้มกว้างอย่างมีความสุข รอยยิ้มและแววตาที่เขาไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน มันมีแรงดึงดูดอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาละสายตาไปไม่ได้

    แต่ยังไงซะ ถ้าถูกสั่งมาให้ฆ่า เขาก็ต้องฆ่า อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง

     

    นี่ก็เป็นเวลาเกือบสามทุ่มแล้ว จื่อเทาเพิ่งกลับถึงบ้าน  ก็เพราะว่าไอ้เพื่อนสุดที่รักนี่แหละ ให้ช่วยทำรายงานจนเสร็จ ข้าวก็ยังไม่ได้กิน หิวแทบตายอยู่แล้ว ร่างโปร่งบางกดออดหน้าบ้านเหมือนทุกครั้งที่เคยทำ แต่ครั้งนี้มันผิดปกติไป เพราะว่าเขากดออดไปเป็นสิบๆรอบแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววของพ่อหรือแม่ที่จะออกมาเปิดประตูบ้านให้เลย

    “พ่อกับแม่ไปไหนนะ รถก็อยู่นี่นา”  จื่อเทาพูดกับตัวเอง มือเรียวลองไปจับๆกุญแจ ก็ปรากฏว่ามันไม่ได้ล็อกเอาไว้ น่าแปลก เพราะถ้าเวลามันล่วงเลยมาถึงขนาดนี้แล้ว แม่ของเขาจะล็อกบ้านไว้ทุกครั้ง แต่ทำไมวันนี้ไม่ล็อก

    ร่างโปร่งเดินเข้ามาในบ้านด้วยความสงสัย เมื่อเข้ามาถึงภายในตัวบ้าน  ภาพที่เห็นตรงหน้าทำเอาหัวใจของจื่อเทาแทบหยุดเต้น น้ำตาไหลออกมาอย่างไมทันได้ตั้งตัว นี่มันอะไรกัน เกิดอะไรขึ้น

    “พ่อ แม่”  ร่างเล็กเอ่ยเรียกพ่อแม่เสียงสั่น ก่อนที่จะถลาเข้าไปหาทั้งสองคนที่นอนราบอยู่กับพื้น เนื้อตัวเต็มไปด้วย เลือด!

    “พ่อ ฮือ แม่ เกิดอะไรขึ้น ฮึก ทำทำไมถึงเป็นแบบนี้”  จื่อเทาร้องไห้อย่างเสียขวัญ มือเรียวเอื้อมไปเขย่าตัวผู้เป็นพ่อ ด้วยหวังว่าผู้เป็นพ่อจะฟื้นขึ้นมาตอบคำถามเขา

    ผู้เป็นพ่อ ที่ยังไม่หมดลมหายใจลืมตามองคนเป็นลูกชาย

    “เทา นะ..หนีไป ลูก หนีไป”  คนเป็นพ่อพยายามที่จะผลักลูกชายหนีออกไป แต่จื่อเทาไม่ยอมทำตามที่พ่อบอก เขายังคงนั่งร้องไห้อยู่ที่เดิม

    “ไม่พ่อ ผมไม่ไป พ่อรอเดี๋ยวนะ ผมจะโทรเรียกรถพยาบาล ฮึก”  มือเรียวความหาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงก่อนที่จะหยิบมันออกมากดเบอร์โทรศัพท์ของโรงพยาบาลด้วยมือที่สั่นระริก

    “เรียกทำไมรถพยาบาล เรียกรถมูลนิธิเลยสิ”  เสียงทุ้มเย็นดังขึ้นด้านหลังของจื่อเทา ร่างโปร่งตกใจ ทำโทรศัพท์หลุดมือ หันไปมองต้นเสียง ก็พบกับร่างสูงของชายหนุ่ม หน้าตาหล่อเหลา ในมือถือปืนพกอยู่หนึ่งกระบอก นั่นก็ชัดเจนแล้วว่า คนที่เป็นคนฆ่าพ่อกับแม่ของเขาคือใคร

    “นะ..ฮึก นายเป็นใคร แล้วทำไมต้องฆ่าพ่อแม่ฉันด้วย”  จื่อเทาถามชายหนุ่มตรงหน้า ม่านน้ำตาที่บดบังการมองเห็นของเขา ทำให้จื่อเทามองหน้าอีกคนไม่ชัดเจนไหร่นัก ร่างโปร่งปาดน้ำตาออก เพื่อมองหน้าคนใจร้ายให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

    “ฉันเป็นใคร นายไม่จำเป็นต้องรู้หรอก และก็ไม่ต้องห่วงนะ ฉันไม่แค่ฆ่าพ่อแม่นายหรอก แต่ฉันก็จำเป็นที่ต้องฆ่านายด้วย”  ร่างสูงพูดเสียงเรียบ มือหนายกปืนสั้นขึ้นเล็งที่เด็กหนุ่ม แววตาของจื่อเทาสั่นระริก ฉายแววความกลัวออกมาชัดเจน แต่ถึงอย่างนั้นเด็กหนุ่มก็ยังคงพูดคำท้าทายออกไป

    “ฆ่าฉันเลยสิ ฆ่าฉันเลย ฉันจะไปอยู่กับพ่อแม่ พ่อครับ แม่ครับ รอผมนะ กันกำลังจะไปหา ฮึก”  ร่างโปร่ง เอ่ยท้าทาย ในเมื่อไม่มีพ่อกับแม่อยู่แล้ว เขาก็ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป

    แกร๊ก

    ตาคมสวยหลับลง พร้อมจะยอมรับความตายที่จะถูกหยิบยื่นให้จากคนที่ไม่รู้จัก ถ้าชาติหน้ามีจริง ขอให้ได้เกิดมาเป็นลูกของพ่อกับแม่อีก ขอให้ได้อยู่ทดแทนบุญคุณพ่อกับแม่ ขอให้กันได้ทำตามความฝันที่อยากจะทำ ลาก่อนชาตินี้









    ปัง!!!

     



     




     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×