คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Intro
บทนำ
คณิตศาสตร์
บุคคลต่างๆ ทั้งในและนอกวงการคณิตศาสตร์ ได้นิยามคำว่า “คณิตศาสตร์” ไว้ต่างกัน แต่ก็ไม่มีผู้ใดประสบ
ความสำเร็จจนเป็นที่ยอมรับกันทั่วไป นั่นอาจเป็นเพราะคณิตศาสตร์มีเนื้อหาและขอบเขตที่กว้างมาก จึงเป็นเรื่องยากที่จะอธิบายความหมายของคณิตศาสตร์ให้ครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมดได้
คาบภาษาต่างประเทศ ชั้นเรียนที่ 6 ห้อง B โรงเรียนมัธยมพรีเวทยส์
“เอาละ เสียเวลามามากพอแล้วเรามาเริ่มเรียนกันดีกว่า วันนี้ครูจะสอนเรื่องPhrasal verbs อ่า…มีใครรู้บ้าง
ว่าเจ้าPhrasal verbs ที่เราจะเรียนกันวันนี้เนี่ยคืออะไร”สิ้นสำเนียงเสียงใสชวนฟังของอาจารย์สอนวิชาภาษาอังกฤษจบลง บรรดานักเรียนทั้งหญิงและชายต่างเงียบกันเป็นแถวๆ รวมถึงเธอ เพทาย หญิงสาวผู้ที่ 24 ชั่วโมงในวันหนึ่งของเธอแทบไม่มีประโยชน์เลยแม้แต่น้อย ใช้ชีวิตธรรมดาๆเรื่อยๆ เหมือนอย่างคนปรกติทั่วไป
“ครูครับ”
“จ๋า ว่าไง?”
“ไอ้พายรู้ครับ”นักเรียนชายคนหนึ่งในห้องยกมือขึ้นเพื่อขออนุญาตแสดงความคิดเห็น แล้วใช้นิ้วเรียวชี้ไปทาง
เพทาย
“ว่าไงจ้ะพาย” อาจารย์สาวยิ้มอย่างเป็นมิตรให้เพทาย
“กริยาวลีค่ะ” เธอมองตาขวางไปทางเมตร สมาชิกในห้องที่เสนอชื่อเธอก่อนจะลุกขึ้นยืนตอบเสียงขุ่น คิดหรอว่า
คนอย่างเพทายจะยอมเสียหน้าฟรีๆ
“ตอบมือให้พายด้วยนะคะ”
แปะ แปะ แปะ
“เข้าเรื่องเลยดีกว่า Phrasal verbs ถ้าแปลตามตัวจะแปลว่ากริยาวลีอย่างที่พายตอบนะคะ แต่ถ้าเจาะ
เข้าไปเนื้อในของมันเนี่ยPhrasal verbs ที่เราพูดถึงเมื่อกี้ คือการใช้คำกริยาปกติแล้วมันดันไปมีความหมายเป็นอีกอย่างหนึ่งซึ่งนั่นอาจทำให้เกิดความหมายใหม่ขึ้นมาและอาจจะไม่มีเค้าความหมายของคำกริยาเดิมเลยก็ได้” อาจารย์สาวอธิบายคร่าวๆพอเป็นพิธีให้แก่นักเรียนในห้อง
“ครูมีคำถามค่ะ ประเภทของPhrasal verbsมีกี่ประเภท” สิ้นสุดคำถาม นักเรียนทั้งห้องแทบจะยกมือตอบแข่ง
กันเลยก็ว่าได้
“มี 4 ประเภทครับ” แต่แล้วก็มีนักเรียนหัวดี ปากไวตอบตัดหน้าไปซ่ะก่อน เสียงโห่แทบดังลั่นห้อง เพราะทุกคนรู้ดี
ว่าเวลาที่อาจารย์สอนภาษาอังกฤษมีคำถามทีไร มักจะมีขนมตอบแทนคำตอบเสมอ
“เป็นคำตอบที่ถูกต้องนะคะ แล้ว 4 ประเภทที่เราพูดถึงกันได้แก่ Inseparable Verbs with no objects,
With objects, Separable verbsและThree-Word Phrasal Verbs นะคะ วันนี้เราจะมาเรียนประเภทที่ 1 ก่อนเลย” อาจารย์สาวเอ่ยพร้อมกับมือที่ลากเส้นปากกาไวท์บอร์ดลงบนกระดานให้นักเรียนจดตาม
“Inseparable Verbs with no objects คือ กริยาวลีที่ต้องติดกัน ไม่สามารถแยกจากกันได้ และไม่จำเป็นต้องมี
กรรมมาร่วม เช่น Set off, Speed up, Wake up, Stand up นั่นเอง ครูจะให้นักเรียนไปหาประโยคที่เป็นInseparable Verbs with no objects มาคนละ 1 ประโยคเป็นการบ้าน แล้วพรุ่งนี้ออกมารายงานหน้าห้องนะคะ”
ติ้งงงงงง ต่องงงงงง ติ้งงงงงง ต่องงงงง
“เสียงสวรรค์><!” เมตร กระซิบเบาๆกับเพื่อนข้างๆเขา
“นั่นไง…เวลาแห่งความสุขจบลงอีกแล้ว วันพรุ่งนี้เจอกันนะคะ” อาจารย์ก้มมองนาฬิกาข้อมือที่เธอใส่ติดมาด้วย
น่าเสียดายที่คาบเรียนสุดท้ายหมดลงแล้ว เธอไม่น่าเผลอคุยกับเด็กๆครึ่งชั่วโมงแรกเลย เพราะเวลาที่เสียไปมันอาจทำให้เธอได้สอนพวกเขาอย่างเต็มที่
“Please stand up”
“Thank you”
ครืดดดดดดดดด
เสียงเก้าอี้ที่ถูกเลื่อนเข้าหาโต๊ะดังแสบแก้วหู นักเรียนแทบครึ่งห้องถ้าประมาณด้วยสายตาล้วนแล้วแต่เดินตรงไป
ทางประตูทางออกของห้องทันทีที่ทำความเคารพเสร็จเรียบร้อย
“อ้าว พายไม่กลับบ้านหรอจ้ะ?” อาจารย์สาวเก็บหนังสือแล้วเดินมาหาเพทาย
“คนมันเยอะน่ะค่ะ พายไม่ค่อยชอบเท่าไหร่” เธอตอบอาจารย์ยิ้มๆ
“หืม…” อาจารย์ขมวดคิ้วกับคำตอบที่เธอได้ เพราะปรกติวัยรุ่นส่วนใหญ่จะอยู่กันเป็นกลุ่มๆ ติดเพื่อน แถมยังใช้
ชีวิตอย่างสนุกสนาน แต่ทำไมเพทายถึงบอกว่าไม่ค่อยชอบละ
“มันอึดอัดแล้วก็วุ่นวายด้วยน่ะค่ะ” เธออธิบายเสียงใสให้กับผู้ที่ตั้งคำถาม
“อ๋อ แล้วไม่อยู่กับแฟนหรอจ้ะ?” อาจารย์สาวเอ่ยถามพร้อมกับลากเก้าอี้มานั่งข้างๆเพทาย
“ไม่มีต่างหาก” เพตายตอบแล้วเบ้ปาก
“หืม…สวยๆแบบนี้เนี้ยนะ โกหกครูหรือเปล่า?”
“ไม่มีจริงๆคะ แล้วก็ไม่สวยด้วย สู้ครูปลายไม่ได้หรอก^^” เพทายปฏิเสธยิ้มๆ
“แหม…ครูเป็นพวกบ้ายออยู่ด้วย ฮ่าๆ ไม่คุยกับคนโสดแล้ว เอาเวลาไปหาหนุ่มๆดีกว่า ฮ่าๆ ครูไปก่อนนะ แล้ว
เจอกันพรุ่งนี้จ้า^^” อาจารย์สาวลากเก้าอี้เข้าที่เดิม แล้วโบกมือให้เพทายสองสามครั้งก่อนจะเดินออกไป
ห้องคณิตศาสตร์
“วศิน” เสียงเข้มของอาจารย์ที่ขึ้นชื่อว่าดุที่สุดในหมวดคณิตศาสตร์ดังขึ้นจากลำคอเพื่อเรียกนักเรียนชายคนหนึ่ง
“ครับ?” เขาที่ถูกเรียกเดินจ้ำเท้ามาหาอาจารย์อย่างรวดเร็ว
“งานที่ครูให้ทำเสร็จหรือยัง?”
“ยังเลยครับ ผมไม่เข้าใจบางอย่างน่ะครับ” เขาตอบเต็มเสียง
“อ๋อ…งั้นไม่เป็นไร ครูไม่รีบไว้ทำเสร็จเมื่อไหร่เอามาส่งทันทีเลยนะ” อาจารย์ออกคำสั่งเสียงแข็งและเต็มไปด้วย
ความหนักแน่น
“ครับ ได้ครับ” เขาพยักหน้าเบาๆสองสามครั้ง พร้อมคำตอบ
“วันนี้พอก่อน ไปได้แล้ว”
“ครับ” เขายกมือไหว้อาจารย์ก่อนจะเดินออกมาจากห้องคณิตศาสตร์
“เฮ้ย…แกๆ ดูพี่ซีสิ น่ารักที่สุดเลย >//<” กลุ่มนักเรียนที่นั่งอยู่บนระเบียงข้างบันไดที่เขากำลังเดินลง เขย่าแขนกัน
แถมยังบิดไปบิดมาพร้อมกับพูดเรื่องของเขาแล้วส่งเสียงดังๆ เขาไม่ได้หันกลับไปมองหรอก เพียงแต่ไม่ชอบพฤติกรรมแบบนั้น ซีนอน เป็นคนรักสงบ ชอบอยู่คนเดียวมากกว่าการคบเพื่อนเป็นกลุ่มเขาเดินทางตรงลงมาจากข้างบน ขณะที่เขากำลังเดินลงบันได ไม่รู้ว่าอะไรที่อยู่ดีๆก็มาดลใจ ให้เขาหยุด และ …
“….”ซีนอนมองผู้หญิงคนหนึ่งที่ตอนนี้อยู่บันไดชั้นล่าง เขามองเธอได้ไม่นานนัก เธอก็หันกลับมามองเขาทันที
ทั้งสองสบตากัน ซีนอนและเพทาย ซีนอน เพทาย ซีนอน เพทาย ซีนอน เพทาย …
ซีนอนเป็นฝ่ายหลบตาก่อน เขาเปลี่ยนเส้นทางจากที่จะลง กลับกลายเป็นขึ้นแทน ซีนอนก้าวเท้าขึ้นบันไดอย่าง
รวดเร็ว ระหว่างที่เท้ากำลังขยับไปมาในใจก็คิดถึงเรื่องที่ผ่านมาไม่นาน ทำไม? ทำไมเขาต้องมองเธอด้วย? ทำไมเขาต้องหลบตาเธอ? แล้วทำไมเขาต้องเดินหนีเธอด้วยละ? ยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจตัวเอง ปรกติเขาเองก็ไม่ใช่คนแบบนี้ เรียกได้ว่าไม่สนใจพวกผู้หญิงเลยด้วยซ้ำ เว้นแต่ …
เพทายที่ยืนมองซีนอนอยู่ข้างล่างก็ได้แต่งงๆ เธอไม่ค่อยเข้าใจในเหตุการณ์เมื่อกี้เท่าไหร่นัก จะว่าไปผู้ชายที่เธอ
เห็นก็ไม่ได้หน้าตาแย่เท่าไหร่นัก ต้องบอกว่าหล่อด้วยซ้ำไป นัยน์ตาสีฟ้าคราม แทนที่จะทำให้ดูลึกลับ น่าค้นหา แต่แปลกที่มันกลับดูเย็นชา และดูแข็งกระด้างมากกว่า ตัดกับผมสีคาราเมลธรรมชาติ มันทำให้ดูไม่จืดเลย เขาจัดว่าเป็นพวกหน้าตาดีอันดับต้นๆของโรงเรียนด้วยซ้ำ แต่มันขาดอะไรบางอย่างไป แค่บางอย่างเท่านั้น
ความคิดเห็น