ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ความสามัคคี
เรื่องของคนอีกกลุ่ม
ชื่อเรื่อง: เรื่องเซวิลเรีย ฉบับ คนปกติ
เรื่องราว::
บทเรียนของเรื่องนี้ :: แสดงให้รู้ถึงความสามัคคีของหมู่พ้องเพื่อน
ชื่อเรื่อง: เรื่องเซวิลเรีย ฉบับ คนปกติ
เรื่องราว::
เพล้ง~
เสียงแก้วแตกเอกลักษณ์นักเลงไทยดังขึ้นกลางบาร์เหล้าของเมืองอนาเทลีนเมืองศูนย์กลางการค้าที่ใหญ่ที่สุดในทวีปและยังเป็นที่ตั้งของโรงเรียนเวทย์เซวิลเรียที่โด่งดังอีกด้วย
“แกรู้ไหมว่าพวกข้าเป็นใคร” ชายหนุ่มร่างยักษ์ห้าคนถามกับหญิงสาวผมชมพูหน้าหวานที่เผชิญหน้าอยู่
“กลับไปถามป๊ะป๋าไป๊ หรือจะไปถามตอนดูดนมมารดาก็ย่อมได้” หญิงสาวตอบทันทีในขณะที่นักเลงโตหันหลังออกไป (ดูท่ามันจะไปจริงๆ) “นี่ ยังไม่มีเรื่องกันเลย” หญิงสาวเรียก
“แกกล้าด่าข้าเรอะตายซะ” ดาบเหล็กยักษ์เหวี่ยงออกจากมือคนเป็นหัวหน้าตามด้วยลูกน้องห้าคนที่เข้ามารุมตื้บ หญิงสาวเรียกธนูสีขาวออกมาปัดป้องอย่างรวดเร็ว
“พวกแกไม่ละอายใจกันรึไงรังแกเด็กผู้หญิง (มันหันมาส่ายหน้า) ดี งั้นข้าคาเรน โมกาดอนจะลงทัณฑ์แกเอง” ดาบสลับคมชักออกจากฝักร่างสูงกระโดดเหยียบโต๊ะพุ่งเข้าหาอริศัตรู
“รีบเฟ้ยไม่ไม่เกี่ยวหลีก” แอ๊ฟ~ เสียงกบโดนทับคาที่สมชื่อ ร่างสูงเหยียบไหล่นักเลงโตเป็นฐานแล้วก็วิ่งผ่านไป “มุงไรนักหนาคนกำลังรีบ” เหล่านักเลงหันไปมองในขณะที่หญิงสาวผมชมพูง้างสายธนู7ดอกขึ้นแล้วยิงไปที่เหล่าหมียักษ์ (?) สลบเหมือดทันทีส่วนอีก2ดอกดอกหนึ่งปักเฉียดหัวเถ้าแก่ร้านที่หลบได้หวุดหวิดส่วนอีกดอกปักกลางหัวคนที่จะเข้ามาช่วยแต่จมดินอีกแผล
“ใครทำร้ายเพื่อนชั้น” รังสีอำมหื่นแผ่ซ่าน พร้อมกับการก้าวเข้ามาของหญิงสาวที่ดูไม่สาวผมยาวที่จ้องมายังหญิงสาวผมชมพูอย่างเอาเรื่อง ในขณะที่หญิงสาวชี้ไปทางพวกนักเลงเรียบร้อยแล้ว “อ้อ พวกนี้เองรึ” มีดสั้นสีเลือดสะบัดพลิ้วเลือดสาดจากร่างที่นอนกองอยู่แล้ว โดยมีหญิงสาวอีกคนมาช่วยแงะร่างที่จูบดินเล่นอย่างเมามัน
“สวัสดีจ๊ะ ฉันซีเวียร์ เนไวน์ เรียกไวน์ก็ได้จ๊ะ กำลังจะมาสอบที่เซวิลเรียน่ะ” หญิงผมชมพูกล่าว
“สวัสดีวินเมล คาย่าเป็นนักดาบเวทย์ยินดีที่ได้รู้จัก” หญิงสาวผมดำที่ช่วยแงะซากพูดบ้าง
“สวัสดีฉันหรือซีนะ กำลังจะไปเซวิลเรียเหมือนกัน ส่วนที่นอนเล่นนั่นคาเรน โมกาดอน เขาไม่ค่อยเต็มน่ะ” เจ้าร่างรังสีอำมหื่นตอบด้วยรอยยิ้มแต่ขาขวากลับกระทืบหน้านักเลงเล่น
“ว่าใครไม่เต็ม ยัยวิตามิน” คาเรนคนจูบพื้นนานแสนนานสบถยับเมื่อขึ้นมาได้”แล้วรอยรองเท้าบาทาเบอร์สามเก้าเนี่ยของใคร” คาเรนชี้รอยที่หัวอย่างเอาเรื่อง ตาใครมันจะบ้าไปรับ “แล้วฉันก็ไม่บ้าไปโรงเรียนเซๆนั่นด้วย”
“ฉันมีของแลกเปลี่ยน ถ้านายสอบเข้าได้ฉันมีภาพลับฉบับพี่วินให้ด้วย” ซีส่ายภาพไปมา หัวคาเรนก็ส่ายตาม ซึ่งคำตอบคงพอเดาออก
โรงเรียนเซวิลเรีย
“อะแฮ่มๆ นี่คือโรงเรียนเซวิลเรียการสอบคัดเลือกเราจะเลือกผู้ที่เก่งที่สุดเข้ามา โดยการเข้าไปในประตูบานที่อยู่ข้างหลังผอ.แบบนี้”ผอ.เดินเข้าไปในประตูและ กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดด~
ไปที่ชอบๆเถิด อาเมน
“ท่าจะไม่เต็มแฮะ ผอ.นั่น” ชายหนุ่มร่างสูงผมดำแบบไทยแท้กล่าวขึ้นเนือยๆในขณะที่คนข้างๆยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“ฉันซีนะ ส่วนนั่นคาเรนนี่ ไวน์นี่ กับวินนี่จ๊ะ”
“ให้คนอื่นแนะนำตัวเองสิ...อุ๊บ” คาเรนแย้งแต่ก็หุบปากเนื่องจากมีดเงินเล่มงามถูกชักออกมาแกว่งเล่น
“เรเวน วอสเซลส์คนที่หล่อที่สุดในโรงเรียน” ชายผมดำแนะนำตัว ในขณะที่คนอื่นอ้วกอย่างอิจฉา
“สวัสดีค่ะ ฉันเอลเด้ ดีดีทีเลขานะคะหากประกาศชื่อใครขอให้ออกมาบนเวทีแล้วเข้าประตูคัดเลือกนะคะ อ้อ ใครออกมาหลังพระอาทิตย์ตกดินเราไม่มีพากลับนะคะ” คนที่น่าเชื่อถือกว่าผอ.พูด ในขณะที่ผู้เข้าสอบทุกตนตั้งใจรออย่างจดจ่อ
10นาทีต่อมา
“Holy Light” แสงศักดิ์สิทธิ์แผ่กระจายกลืนร่างผีดิบไปอย่างรวดเร็ว
“เฮ้อ เหนื่อยจังพระขอฮิลหน่อย” คาเรนทรุดนั่งลงกับพื้นหลังจากซัดกับพวกผีดิบมานาน
“ไม่มี” เรเวนหันมาตอบง่ายๆ
“หมายความว่าไง” นักดาบหันมาถามอีกที
“ไม่ได้ฝึกไงโง่จริง” ชายผมดำตอบ “นั่งรอเวทย์ไปซะ อย่าบ่น”
10นาทีผ่านไป
“ทำไมนานงี้ฟระ หลับในหรือไงหา” คาเรนกระชากคอเสื้อพระหนุ่มที่มองหน้ายิ้มๆขึ้น
“ไม่มีSp recoveryนี่นา นั่งเล่นมันก็เพิ่มนี่ โมโหมากแก่ไวน้า” พระหนุ่มส่ายหน้าน้อยๆ
“เหมือนโดนล้อมเลยแฮะ” นักดาบที่เริ่มหายโกรธมองไปรอบๆ ก็เห็นกลุ่มไม่ใช่คนล้อมอยู่
“นักรบเกราะนี่นา หายาก ศิลปกรรมชิ้นเอกเลยนะเนี่ย” เรเวนสำรวจเกราะนักรบปีศาจอย่างสนใจแต่ก็โดนนักดาบหนุ่มหิ้วออกไปแล้ว
“Jupiter Thunder” สายฟ้าผ่าระเบิดร่างนักรบเกราะตัวสุดท้ายทันที
“เฮ้อ ถ้ามีพวกนักบวชมาด้วยคงจะดีไม่น้อยเลยนะ” นักเวทย์สาวนามวินเมลเอ่ย
“นั่นสิคะแต่พวกเราเก่งกันขนาดนี้ รอดแน่นะคะ” นักธนูสาวผมชมพูกล่าว
“ใช่ค่ะ คุณน้องขา”
จึ๋งๆ~
“อย่าดึงผ้าคลุมสิเสียมารยาทนะรู้ไหม” นักเวทย์สาวหันไปมองด้านหลัง ซอมบี้หื่นกามนับสิบมองพวกเธออย่างหื่นกระหาย
เหอๆ ผู้หญิงขาวๆ อวบๆ~
“กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด หนูไม่อยากสู้ตัวพวกนี้”
“โดดเดี่ยวเดียวดายในท้องเล ลมพัดลมเพไปตามกระแส~” ซีกระชับพัดคู่ของตนแน่นขณะเดินอย่างระมัดระวัง “ระวังตัวด้วยที่แบบนี้มักมีกับ...”
กริ๊ก~
“ดัก” ร่างไม่บางร่วงลงไปในหลุมทันที จนกระแทกพื้นอย่างแรง “บอกแล้วว่าให้ระวังๆ” “แกแหละที่เหยียบอ่ะ” (คุยกับตัวเองได้) หญิงสาวลุกขึ้นสำรวจไปรอบๆช้าๆจนพบกับเสาต้นหนึ่ง
“Light” แสงสว่างอาบไล้หัวคทาด้ามงามเสาที่จับปรากฏแก่สายตา มันคือร่างยักษ์สูง5เมตรเศษตัวเป็นกระดูก(บรรยาย บลาๆๆ)
“เฮือก” ผลลัพธ์ก็รู้ๆกันอยู่ วิ่ง!
“อ๊ะนั่น คาเรนนี่มีพระด้วยเรารอดแล้ว” ไวน์พูดขณะวิ่งอย่างดีใจ
“ไวน์กับวินนี่เรารอดแล้ว” นักดาบหนุ่มพูดอย่างดีใจ
“ทางนั้นก็ด้วยเรอะ!” สอดประสานเสียงซิมโฟนี่เมื่อเห็นเหล่าปีศาจที่ตามมา “สลับกันชน!” 2หนุ่มหันไปปะทะกับผีหื่นกาม ส่วน2สาวไปสู้กับนักรบเกราะแทน อีกร่างหนึ่งก็วิ่งเข้ามาหาทั้ง4อย่างเร็วชนิดหมายังตามไม่ทัน
“คาเรนลากรถเข็นนี่เร็ว” ซีหยิบรถเข็นจากไหนไม่รู้ส่งให้คาเรนที่ทำท่าไม่รับแต่ซีขึ้นรถเอาไม้ผูกเชือกกับภาพลับใส่ถุงล่อไว้หน้ารถ คาเรนวิ่งเข้ามาลากทันที
“วิ่งให้ไวอย่าได้เหลียวหลัง” คนอื่นๆหันไปมองพร้อมกัน
“ราชานักรบทมิฬนี่เพิ่งเห็นตัวเป็นๆ” พระหนุ่มพูดลอยๆขณะที่โดนอุ้มอยู่ ส่วนคนอื่นรึ วิ่งไปแล้ว
“ข้างหน้าทางขาดทำไงดี” สารถีรถเข็นบอกมือกำรูปพี่วินเก็บทันที
“คาเรนมานี่ วินร่ายเวทย์ปราการน้ำแข็งเร็วเข้า ไวน์ยื้อพวกมันไว้” ซีสั่งหลังลงจากรถ
“จะทำไรก็ทำ Ice max” เวทย์น้ำแข็งถูกร่ายซีกับคาเรนฟันกำแพงน้ำแข็งจนแตกพาดไปฝั่งตรงข้าม ร่างทั้ง4วิ่งข้ามสะพานน้ำแข็งไป
“คาเรนเร็วเข้า จะยื้อไม่ไหวแล้วนะ” ไวน์หันมาเร่งคาเรนที่ลากรถอยู่จนข้ามมาได้
“ทำไมรถมันหนักๆฟระ” คาเรนหันไปทางรถ เรเวนที่นั่งอยู่หันมายิ้มให้ “แกจะขึ้นมานั่งทำไมฟระ”
“ไม่เมื่อยดี” พระหนุ่มตอบยิ้มๆ
“แกตาย” นักดาบหนุ่มพูดพลางวิ่งไล่ไปรอบๆ
ซีหันมามองอย่างระอาก่อนจะเดินไปที่ประตูไม้ผุๆด้านหน้า “แล้วเจอกันที่เซวิลเรีย” แล้วร่างก็โปร่งแสงหายไปตามด้วยร่างของคนทั้ง4
“เอาล่ะ นักเรียนที่รักยินดีที่สอบผ่านกันมาได้นะคะ การทดสอบประตูใจเมื่อครู่คงสอนให้ทุกท่านรู้แล้วว่าการประเมินสถานการณ์เป็นสิ่งสำคัญพอๆกับกำลัง บัดนี้ทุกคนได้เป็นนักเรียนแห่งเซวิลเรียแล้ว” ผอ.สาวที่ไม่รู้กลับมาได้ยังไงเอ่ย ก่อนลงจากเวทีไปปล่อยให้คนอื่นมาพูดต่อ (มีบทแค่นี้)
“เรามารวมกลุ่มกันไหม” ซีเนียเสนอ
“ภาพมือพี่วินนี่มันลับตรงหนายยยยย~”เสียงปีศาจโหยหวนช่างมันเถิด
“ชื่อกลุ่มว่าอะไรดีล่ะ” เรเวนถาม
“Fyryes ดีไหม?” วินเมลตอบ
“แปลว่าอะไร?”
“ไม่รู้สิ”
เสียงหัวเราะสะท้านก้องห้องโถงสู่จุดเริ่มต้นแห่งFyryes
บทเรียนของเรื่องนี้ :: แสดงให้รู้ถึงความสามัคคีของหมู่พ้องเพื่อน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น