คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เรื่องวุ่นๆในโซล
ณ เมืองเซวิลเรีย
ตลาดใหญ่ใจกลางเมือง...
"เฮ้อ!!!ร้อนๆทำไมมันร้อนอย่างนี้เนี่ยพี่เเซท"สาวน้อยผิวขาวไม่คล้ำมากนัก ดวงตาสีนิลกาลฉายแววหน่ายๆ ผมสีเปลือกไม้นาม คาเรนเดีย คาเซฟฟาย แห่งตระกูลนักฆ่าของเซวิลเรียที่โด่งดังพอควร ผ้าโพกหัวสีน้ำเงินคาดหัวเอาไว้กับถุงเท้าสีดำ(ไว้อาลัยคนตาย)ประจำตัวและเสื้อคลุมสีเขียวมรกตที่ดูรุ่มร่ามในสายตาของคนอื่นกับกระโปรงลายสก๊อตสีแดง หญิงสาวพูดพลางถอนหายใจ
"คาเรน ก่อนจะพูดนะดูรอบๆตัวก่อนได้ไหม"พี่แซท หรือแซทซิก้า คาเซฟฟาย ลูกสาวคนโตสุดของ ตระกูลคาเซฟฟายหรี่ตาสีน้ำทะเลเพื่อพยายามมองไปรอบๆตัวขณะอีกมือหนึ่งหยิบหนังยางมามัดผมสีเลือดหมูที่ยาวสยายถึงกลางหลังทำให้กำไลสีดำสลับขาว(ไว้อาลัย)หล่นไปอยู่ต้นแขน
"ยัยเอลนะยัยเอลนัดที่ไหนไม่นัดดันนัดสวนน้ำพุกลางโซล(ตลาดนั่นและ)"หญิงสาวบ่นอย่างอารมณ์เสียเพราะที่นี่ทั้งร้อนทั้งอึดอัดพลางกวาดตามองรอบตัวที่แน่นเอี๊ยดไปบรรดาแม่ค้าและคนจำนวนมากมายที่มาจับจ่ายใช้สอยของในโซลแห่งนี้พลางสายตาไปสะดุดที่ผู้หญิงอายุน้อยกว่าเธอซักปีสองปีได้รู้สึกว่าจ้องนานไปนิด(เหม่อ)(ก้อเหนื่อยอ่ะ/คาเรน)ทำให้เจ้าของผมสีทองดวงตาสีน้ำทะเลลึกเบนมาสบด้วยก่อนดวงตาว่างปล่าวนั้นจะพราวระยับ เจ้าของดวงตาสีน้ำทะเลลุกขึ้นก่อนจะวิ่งมาทางพวกเธอด้วยความรวดเร็วจนทำให้..
"โป๊ก"หญิงสาววิ่งชนกับเสาที่ตั้งตระหง่านอยู่เต็มๆ(ลูเซีย:แก้แค้นเอล ทำให้เราชนกำแพง -*-) หญิงสาวคลำหน้าผากที่ปูดเป็นลูกมะนาวก่อนที่พี่สาวสองคนจะเดินมาและร่ายเวทรักษาให้แบบลวกๆ
"พี่แซท พี่คาเรน หาอยู่ตั้งนาน"เจ้าของดวงตาสีน้ำทะเลพูดอย่างอารมณ์ดีลืมความเจ็บปวดที่เพิ่งชนเสาไปเมื่อกี้หมดสิ้น ใช่แล้ว!!ผู้หญิงคนนี้คือน้องคนสุดท้องของตระกูลคาเซฟฟาย หรือ เอลริเนีย คาเซฟฟาย คาเรนตั้งท่าจะบ่นเอลริเนีย แต่ก็มีเสียงๆหนึ่งมาขัดไว้ซะก่อน
"นี่ๆสามคนนั้นน่ะ"หญิงสาวที่ดูน่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเอลพูดขึ้นมา สามพี่น้องตระกูลคาเซฟฟายหันไปมอง เด็กผู้หญิงคนนี้ออกจะตัวเล็กและผอมพอควร ผมสีแดงถักเป็นเปียสองข้าง นัยน์ตาสีดำฉายแววระริก หญิงสาววิ่งมาอย่างรวดเร็วยังสามพี่น้องตระกูลคาเซฟฟายก่อนที่..
ตูม!!!(ลูเซีย:เสียงยังกะระเบิด ชนกำแพงนะเนี่ย - -;)
ดูเหมือนเด็กผู้หญิงคนนั้นจะออกแรงวิ่งเร็วไปหน่อยทำให้หยุดตัวเองไม่ได้และวิ่งไปชนกำแพงอย่างจัง ทั้งๆที่ความจริงๆควรจะวิ่งชนเอลไปด้วยซ้ำแต่ว่าด้วยสันชาตญานนักฆ่าและการฝึก(หลบคาเรนเดียที่ชอบวิ่งเข้ามาหาแบบนี้)(ลูเซีย:แต่ที่เมื่อกี้ชนเสาเพราะคนแต่งต้องการให้มันเป็นไปตามนั้น หุๆ)ทำให้เอลหลบทันก่อนเด็กผู้หญิงคนนี้จะวิ่งมาถึงตัว
"โอ้ย!!เจ็บๆ"หญิงสาวพูดพร้อมกุมหัวที่โดนกำแพงอย่างจังก่อน ปากพึมพำร่ายเวทย์เบา แล้วก็มีมือหนึ่งในสามยื่นออกมา เธอเอื้อมมือไปจับมือของคนๆนั้นก่อนจะดึงตัวเองขึ้นจากพื้น
"เอ่อ ขอโทษนะ"หญิงสาวพูดอย่างสำนึกผิดเล็กน้อย ก่อนที่หญิงสาวผู้ชนกำแพงจะเอ่ยตอบกลับ
"ไม่เป็นหรอก เธอชื่ออ่ะไรหรอ ฉันลูเซีย โมกาดอน ยินดีที่ได้รู้จักนะ เรียกสั้นๆว่าลูก็ได้"ลูเซียฉีกยิ้มกว้าง ทำให้เอลใจชื้นขึ้นไปกอง(ก็เมื่อกี้ไปทำเค้าหัวโขกอ่ะ)
"อื้อ ฉัน เอลริเนีย คาเซฟฟาย ยินดีที่ได้รู้จัก เรียกฉันว่าเอลก็ได้"เอลพูดอย่างร่าเริงที่หาเพื่อนใหม่ได้
"เอ่อ แล้วพวกเธอล่ะชื่ออะไรบ้างหรอ?"ลูเซียหันไปทางคาเรนและแซทพร้อมถาม
"อ๋อ ฉันชื่อคาเรน คาเรนเดีย คาเซฟฟาย พี่คนรอง ส่วนนี่ แซท แซทซิก้า คาเซฟฟาย พี่คนโตน่ะ"คาเรนพูดพร้อมเดินไปหาแซทซิก้า
และก็ทำให้เธอไปเหยียบเท้าฝูงชนที่เดินกันขวักไขว่อยู่แถวนั้นคนนึง(ใคร?)
"อ๊ะ!!ขอโทษนะ"คาเรนพูดพร้อมลากผู้ชาย(ผู้โชคร้าย)คนนั้นมาเข้ากลุ่มด้วยแรงอัน(ไม่น้อย)น้อยนิดทำให้คาเรนลากผู้ชายคนนั้นมาได้อย่างง่ายดายโดยไม่สนว่าฝ่ายเจ้าตัวจะไม่สบอารมณ์ขนาดไหน สังเกตได้จากหน้าอันบูดบึ้ง เนื่องจากเมื่อกี้เหยียบเท้า แล้วขอโทษ แล้วจู่ๆก็ลากเค้ามาเฉยเลย
"อ๊ะ พี่คาเรนลากใครมาน่ะ อ้าว!!!ซิล"ใช่! ผู้ชายคนนี้ชื่อซิล หรือ ซีเวียร์ เคสซิล ลูกชายคนเดียวของตระกูลนักฆ่าตระกูลใหญ่อีกหนึ่งตระกูลของเซวิลเรีย แน่นอนเพราะเป็นนักฆ่าและพ่อของพวกเธอก็ไปมาหาสูู่่ตระกูลนี้บ่อยทำให้เธอและพี่ๆรู้จักตระกูลนี้อย่างดี
"อ่าว เอลหรอ แล้วนั่นใครน่ะ"ซิลเอ่ยถามเอลถึงผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆ
"เอ๋!!ใครอะไรหรอซิล"เอลเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงยียวนก่อนคาเรนจะรับมุกอย่างรู้กัน
"อือ นั่นสิ อะไรใครหรอ ซิล นี่ก็ไม่เห็นมีใครซักหน่อย"ระหว่างที่คาเรนพูดดึงความสนใจทำให้เอลได้เตรียมการอะไรบางอย่างก่อนจะขยิบตาให้คาเรนและแซทซิก้า
เป๊าะ!!!(ทั้งสามคนดีดนิ้วพร้อมกัน)
ความร้อนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆขึ้นเรื่อยๆใต้เท้าของ...
"เฮ้ยย!!!!"ชายหนุ่มหนึ่งเดียวในกลุ่มร้องก่อนจะกระโดดออกมาบริเวณนั้นก่อนจะหันไปทางคาเรนด้วยสายตาเคืองๆ
"ยัยคาเรนเธอทำอะไร"คาเรนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้สุดฤทธิ์สุดเดชก่อนจะพูดว่า
"เปล่าทำซะหน่อย"ซึงถ้าให้คะแนนวิชาหน้ากากฟาโรว์แล้วเจ้าตัวคงได้เต็มแน่ๆ หากแต่ซิลยังมองคาเรนด้วยสายตาแคลงเคลือง
"ไม่จริงไม่งั้นเธอจะดีดนิ้วทำไม"ซิลท้วง มือก็จับที่ปลายขากางเกงซึ่งไหม้ไปเล็กน้อย และเรื่องราวของคนทั้งห้านี้ ก็ได้บอกให้เรารู้ว่า มิตรภาพ...สามารถก่อตัวได้ จากสิ่งเล็กๆที่เรียกว่า'เพื่อน' :) ...จบ... |
ความคิดเห็น