พ่อจ๋า...หนูรักพ่อ
เรื่องราวนี้เป็นเรื่องที่ส่งนิยายประกวดในโครงการของเด็กดี อยากให้ได้อ่านกัน
ผู้เข้าชมรวม
391
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ในวันที่หลายๆคนกำลังหัวเราะ กำลังยิ้ม กำลังมีความสุข
ใครคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่...
ในมุมหนึ่งของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพ
เธอกำลังนั่งรอ...
รอคอยคนๆหนึ่ง
คนที่เธอไม่คิดว่า... เขาจะไปอยู่ในนั้น
ห้องไอซียู
ชายวัยกลางคนกำลังนอนอยู่บนเตียงสีขาวบริสุทธิ์ภายในห้องสีขาวดุจชั้นสรวงสวรรค์
รอบๆตัวของชายคนนั้นเต็มไปด้วยสายที่ห้อยระโยงระยางเต็มไปหมด ทั้งสายน้ำเกลือ ทั้งสายออกซิเจนและสายอีกสารพัดที่เธอไม่รู้
เครื่องมือแพทย์มากมายภายในห้อง...
และมันทำให้ความรู้สึกที่โหยหาถึงคนในนั้น ความรู้สึกกลัวแล่นเข้ามาในจิตใจของเธอ
อย่าเพิ่งพาเขาไปนะ...ได้โปรดอย่าเพิ่งพาเขาไป...ฉันยังไม่ได้บอกเขาเลยนะ
เธอนั่งภาวนาอยู่ข้างนอกคนเดียว
ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาก็เริ่มบางตาลง
ดึกแล้วสินะ... นี่ฉันกำลังทำอะไรอยู่...ทำไมฉันไม่เข้าไป
เธอเดินเข้ามาในแผนกไอซียูอีกครั้ง
“ห้องที่สามทางซ้ายมือสินะ” เธอคิดอยู่ในใจ
เมื่อเธอเดินมาใกล้จะถึงประตู สายตาเธอก็พลันมองไปยังกระจกใสที่สามารถมองเห็นคนในห้องได้
ร่างกายที่ดูผ่ายผอมกับสีหน้าที่ดูเจ็บปวดของคนข้างในแสดงออกมาอย่างชัดเจน
และเธอก็แข็งใจไม่เดินเข้าไป
เธอยืนมองอยู่ข้างนอกด้วยสายตาที่เจ็บปวดเช่นกัน
เจ็บปวดที่ไม่ใจแข็งพอที่จะเข้าไปข้างใน
ในยามนี้สติของชายกลางคนพลันลางเลือน
เขาไม่สามารถเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งขึ้นมาได้
เขาเฝ้ารอการมาของใครคนหนึ่ง
ผู้คนมากมายต่างมาเยี่ยมเยียนเขาคนแล้วคนเล่า
เขาก็ยิ้มสู้กับอาการป่วยของเขา เพียงเพราะเขาไม่อยากให้คนอื่นรับรู้ว่าเขาอ่อนแอเพียงใด
เขาพยายามมองหาเธอคนนั้น แต่...เขากลับไม่เห็นแม้แต่เงาของเธอ
คนที่เปรียบเสมือนดวงใจของเขา
เธออยากจะเจ็บแทนเขา
เธออยากจะให้เขารับรู้เหลือเกินว่า เธอรักเขาเพียงใด
แต่เธอทำได้แค่เพียง...มองอยู่ตรงนี้
เพียงแค่กระจกบางๆเท่านั้นที่กั้นคนสองคนเอาไว้
ทำไมนะ...ทำไม
ทำไมเราไม่กล้าเข้าไป
เธอเฝ้ามองด้วยสายตาเปี่ยมรักและตัดใจเดินออกมานั่งอยู่หน้าเคาเตอร์อีกครั้ง
ชายกลางคนกำลังต่อสู้กับความเจ็บปวดนี้อีกครั้ง
เขาต่อสู้ เพื่อที่จะรอเพียงแค่ได้เห็นหน้าใครคนหนึ่ง
แค่ได้รับรู้ว่าเธอมาหาเขาแล้ว
แค่นั้น...
รอแล้ว...รอเล่าเธอก็ยังไม่มา
ลมหายใจเริ่มแผ่วเบาลงเรื่อยๆ
จังหวะการเต้นของหัวใจค่อยๆอ่อนลงทีละน้อย
ปี๊ปปปปปปปปปปปปปปปป
เครื่องตรวจวัดจังหวะการเต้นของหัวใจกรีดเสียงร้องออกมา
แปล๊บบบบบบ
อยู่ดีๆเธอก็รู้สึกเจ็บแปลบในอก...โดยเฉพาะตรงหัวใจเธอ
ราวกับว่าเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น
เรื่องไม่ดี...
เธอรีบเดินเข้าไปยังแผนกไอซียู
พยาบาลกำลังวิ่งวุ่น เข้า-ออก ห้องที่สามทางซ้ายมือ... ห้องของเขาคนนั้น
“คนไข้หัวใจหยุดเต้นแล้ว ตามหมอด่วน” เสียงพยาบาลคนหึ่งตะโกนออกมา
หัวใจของคนไข้หยุดเต้น...
ทันทีที่ได้ยินหัวใจของฉันก็พลันจะหยุดเต้นตาม
ไม่จริงใช่ไหม...
เขากำลังจะทิ้งฉันไป
สติของฉันล่องลอยไปไกล
พลันนึกถึงสิ่งที่ผ่านมา ที่ฉันและเขาอยู่ด้วยกัน
ภาพของครอบครัวที่มาเที่ยวกันอย่างหนาแน่นในวันพ่อแห่งชาติ ทำให้ผู้คนที่มองอยู่รู้สึกมีความสุขกันถ้วนหน้า
ครอบครัวของฉันก็เช่นกัน...พ่อ แม่ น้องชายและฉัน ต่างก็ออกมาเที่ยวด้วยกัน
หลังจากที่ครอบครัวเราไม่ได้ไปไหนพร้อมหน้าพร้อมตาด้วยกันมานานขนาดนี้
ฉันไปเที่ยวทุ่งทานตะวันและเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์...ที่ที่จะเป็นความทรงจำที่ฉันไม่มีวันลืมเลือน
ภาพของพ่อฉันที่ทำให้ฉันประทับใจและมองเห็นถึงความรักเขาที่มีให้กับฉันมากที่สุด
ฉันจะไม่มีวันลืมเลือนมันไปจากใจของฉันเลย
ภาพของพ่อฉันที่เดินเข้ามาพร้อมกับยื่นถุงกระดาษหนังสือพิมพ์ที่มีบางสิ่งบรรจุอยู่ข้างใน
“นี่ ซื้อมาให้แล้ว เอาไป” น้ำเสียงที่ห้วนๆแต่ฉันก็สัมผัสได้ถึงความรักของพ่อ
ฉันรับถุงมาแล้วมองดูว่าข้างในมีอะไร
เมื่อฉันมองเห็นสิ่งนั้น ฉันถึงกับตะลึงแล้วมองหน้าพ่อด้วยความงุนงง สายตาฉันมองพ่ออย่างชื่นชม
พ่อคงจะรู้ว่าฉันมอง จึงบอกว่า “ไปเข้าห้องน้ำซะทีสิ”
ฉันรับรู้ได้เลยว่า พ่อเขิน
จะเพราะอะไรซะอีกล่ะ ก็ไอ้ของที่มันอยู่ในถุงน่ะ มันคือ “ผ้าอนามัย”
แล้วลองนึกดูสิ แม่ฉันออกไปซื้อมาให้แต่ซื้อมาให้ไม่ได้
แล้วนี่พ่อนะ พ่อเป็นผู้ชาย เขาจะเขินขนาดไหนที่ต้องมาซื้อของใช้ส่วนตัวของผู้หญิง
ฉันรู้สึกทึ่งอย่างมาก ฉันไม่เคยรู้สึกรักพ่อมากขนาดนี้มาก่อน
วันนี้คือวันที่ฉันมีความสุขที่สุดในโลก
ว่ากันว่า...ความสุขเป็นที่มาของการสูญเสีย
ฉันรู้สึกถึงคำนั้นได้ดีเลยทีเดียว
ฉันนั่งยิ้มเหมือนคนบ้าเมื่อนึกถึงเรื่องของพ่อ
พ่อฉันอยู่ข้างในนั้น
พ่อ...
ฉันรวบรวมความกล้าครั้งสุดท้าย
คราวนี้ฉันจะไม่รออีกแล้ว
ฉันเดินตรงไปยังห้องที่มีร่างของชายคนนั้นทันที
ทั้งหมอและพยาบาลช่วยกันปั๊มหัวใจพ่ออีกครั้ง
ฉันพยายามภาวนาให้หัวใจพ่อกลับมาเต้นอีกครั้งหนึ่ง
ฉันจ้องมองเครื่องอย่างใจจดใจจ่อ
แล้วคำภาวนาของฉันก็สัมฤทธิ์ผล
ฉันเห็นเส้นกราฟเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง
คงเหมือนกับหัวใจของฉัน ที่กำลังเต้นอย่างลิงโลด
เหมือนกับดอกไม้ที่ได้รับน้ำและการเอาใจใส่ดูแลของเจ้าของ
ฉันรีบเดินเข้าไปหาพ่อ
ฉันไปยืนอยู่ข้างๆเตียง และยกมือของพ่อขึ้นมา กุมมือพ่อเอาไว้
ความรักที่มีทั้งหมดฉันได้ส่งผ่านมันออกไปแล้ว
วินาทีนั้นหัวใจฉันแทบระเบิด
มือของพ่อบีบมือฉันตอบและตกลงบนเตียง พร้อมกับเสียงที่เตือนฉันว่า... หมดเวลาแล้ว
ผมรู้สึกดีใจที่ลูกสาวผมมาหาผมแล้ว
ผมอยากลืมตามองเธอให้ชัดๆ
อยากเห็นหน้าลูกสาวที่ผมรักและภูมิใจ
แต่เปลือกตาก็หนักอึ้งเกินไป
วินาทีที่มีคนมาจับมือผม ผมรู้ทันทีว่า...นี่แหละ คนที่ผมเฝ้ารอ... ลูกสาวของผม
แม้ผมจะไม่ได้ลืมตามอง แต่ผมก็รับรู้ได้...ด้วยใจ
มือ...ที่ผมคอยจับเวลาหลงทางมาตั้งแต่ยังเล็ก
มือ...ที่จับผมนั้นเต็มไปด้วยความรักของเธอ
แค่นี้ผมก็มีความสุขแล้ว แค่นี้เท่านั้น...
พ่อ...
พ่อจากฉันไปแล้วจริงๆ
ฉันไม่เสียใจเลย... อย่างน้อยฉันก็ยังได้มาหาพ่อ
ได้ถ่ายทอดความรู้สึกดีๆให้พ่อรับรู้และฉันก็หวังว่า พ่อฉันรับรู้มันได้เช่นกัน
หมอและพยาบาลเก็บเครื่องมือและเอาผ้าคลุมหน้าศพ
“หนูขอทำได้ไหมคะ” ฉันขอคุณหมอเอาผ้าปิดหน้าพ่อของฉันและท่านก็อนุญาต
ฉันพร่ำขอบคุณและหันไปมองหน้าพ่อ
ครั้งสุดท้ายแล้ว...ขอให้หนูได้มองพ่อชัดๆอีกครั้งนะคะ
มีคำพูดมากมายที่หนูอยากจะบอกพ่อและคำๆนั้นก็คือ
“พ่อจ๋า...หนูรักพ่อ”
ควันสีขาวลอยขึ้นไปยังสวรรค์พร้อมกับดวงวิญญาณที่จากไปอย่างสงบสุขของพ่อ
ฉันกอดรูปพ่อเอาไว้แนบอก
“ถึงตัวพ่อจะไม่อยู่ก็ไม่เป็นไร เพราะพ่อยังอยู่ตรงนี้...ในหัวใจของลูก”
หลายคนชอบตะโกนด่าเพื่อนว่า...
พ่อ มึ ง ตายหรอ
ฉันฟังแล้วสลดใจ
ในขณะที่เราพูดกันเล่นๆ เราไม่เคยคิดหรอกว่า ความตาย มันอยู่ใกล้ตัวเรา
ฉันเพิ่งจะเข้าใจว่า... ตาย
เป็นคำที่ฟังแล้วเราจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับมันเลย...แต่
ถ้ามันเกิดขึ้นกับเราเมื่อไหร่ เราจะเจ็บ...เจ็บเจียนตาย
ฉันไม่รู้ว่าต่อจากนี้พวกคุณจะเป็นอย่างไร
คุณจะต้องสูญเสียแบบฉันหรือไม่
แต่...
ฉันอยากให้คุณเดินเข้าไปหาพ่อ
แล้วก้มลงกราบแทบเท้า
พร้อมกับเอ่ยคำว่า “รัก”
คำเพียงสั้นๆแต่ความหมายยิ่งใหญ่เหลือเกิน
คุณจะได้ไม่มาเสียดาย...เหมือนฉัน
ฉันบอกรักพ่อในวันที่สายเกินไป...คำๆเดียวที่พูดออกไป
แต่ได้กลับมาเพียง...
“ร่างกายที่เย็นเฉียบกับหัวใจที่เย็นชา”
ไร้ความรู้สึกและไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น
วันนี้คุณบอก “รัก” คนที่คุณรักแล้วหรือยัง
ไม่จำเป็นต้องเป็น “พ่อ” “แม่”
แต่เป็นคนที่เรารู้สึกดีด้วย...
เวลาคือข้อจำกัดของชีวิตคนเรา รีบบอกไปก่อนที่เราจะไม่ได้บอกว่า "รัก" มากเพียงไร
รีบบอกว่า "รัก" ซะ ก่อนที่เราจะได้กลับมาเพียง
“ร่างกายที่เย็นเฉียบกับหัวใจที่เย็นชา”
ผลงานอื่นๆ ของ รติรัตต์ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ รติรัตต์
ความคิดเห็น