คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : 7:แรกพบ
แรกพบ
ไอ้เด็กสมัยนี้มันจริงๆเลย นึกจะไปก็ไปเลย ไม่มีกล่าวลากันเลยสักคำ ว่างๆส่งไปอบรมมารยาทใหม่ซะบ้างก็ดีเหมือนกันนะ...
แล้วทำไมผมถึงพูดเหมือนกับเป็นพ่อคนเลยวะเนี่ย!
เฮ้ยๆ เห็นอายุขึ้นเลขสามแบบนี้ แต่ผมยังโสดอยู่นะครับ
ความกังวลที่สุด ณ เวลานี้คือ...ผมจะมีวันแต่งงานกับคนอื่นเค้าบ้างรึเปล่าเนี่ย!
แค่ผู้หญิงสักคนที่รู้ใจกันก็ยังหาไม่ได้ด้วยซ้ำ...
เดี๋ยว...ผู้หญิงที่รู้ใจเหรอ เหมือนจะเคยรู้จักอยู่คนนึง...
ประมาณ 13 ปีที่แล้ว...
“...วันจันทร์เป็นวันที่น่าเบื่อสุดๆเลย ว่ามั๊ยจุน”
“เหรอ...”
“เฮ้อ! จริงสินะ คนอย่างแกไม่คิดแบบนั้นก็คงไม่แปลกหรอก เป็นแกนี่ก็ดีเหมือนกันนะ”
“คงงั้น...”
เมื่อ 13 ปีก่อน...เป็นช่วงที่ผมเป็นนักศึกษา เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเมืองนี้ ชีวิตนักศึกษาของผมในวันหนึ่งก็ไม่มีอะไรมาก
ขาไปก็เดินไปกับเพื่อนสนิทที่มีน้อยคน ขากลับก็เดินกลับคนเดียว
‘เรียนให้จบวัน อยู่ให้รอดจนถึงเลิกเรียน’ นั่นคือคติของผมในตอนนั้น...
จนกระทั่งวันนั้น...
“วันจันทร์เป็นวันที่น่าเบื่อที่สุดในสัปดาห์เลย!”
“ทั้งๆที่มี 24 ชั่วโมงเหมือนกันทุกวัน แต่ทำไมเวลาวันธรรมดามันเดินช้าอย่างงี้เนี่ย!”
ที่ได้ยินเมื่อสักครู่ คือเสียงบ่นของกลุ่มนักเรียนหญิงม.ปลายกลุ่มหนึ่ง ที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง ไม่ว่าใครต่างก็คิดว่าวันนี้เป็นวันที่น่าเบื่อเหมือนกัน...
ยกเว้น
“แต่ฉันว่าน่าสนุกดีนะ”
หญิงสาวคนหนึ่งในกลุ่มออกความเห็นที่แตกต่างจากคนอื่นๆ สร้างความประหลาดใจให้เพื่อนๆของเธอ รวมถึงพวกผมด้วย...
“น่าสนุกเหรอ...เธอเอาอะไรคิดกันแน่ฮะ!”
“ก็...ได้เจอพวกเธอ หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมาสองวันไง”
“ไม่ได้เจอกันแค่สองวันมันจะขาดใจตายเลยรึไงฮะ” เพื่อนคนหนึ่งของเธอเอามือขยี้หัวเธอเล่นเป็นเชิงหยอกล้อ “ขี้เหงาชะมัดเลยนะหล่อน”
“พูดงี้ฉันเขินนะ ฮะๆ”
“แต่มันก็จริงนะ” เพื่อนคนที่สองออกความเห็น “ถ้าไม่ได้เจอพวกเธอ ฉันคงอดเล่าเรื่องที่ฉันทำตัวซุ่มซ่าม ไปทำแผงหนังสือของห้องสมุดหล่นลงมาทั้งแผงเลยน่ะสิ”
“ฮ่าๆ จริงเหรอเนี่ย”
“จริงสิ แถมยังโดนหนังสือหล่นใส่หัวตั้งสามเล่มซ้อนอีกต่างหาก”
“ฮ่าๆๆ”
หลังจากนั้น กลุ่มของสามคนนั้นก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน บรรยากาศเริ่มสดใสขึ้น ผิดกับเมื่อครู่ที่ยังบ่นว่าเบื่อที่ต้องมาเรียนอยู่เลย...
“เห็นแบบนี้ชักเริ่มอยากกลับไปอยู่ม.ปลายซะแล้วสิ” เพื่อนของผมเริ่มแสดงความเห็น “อ๊ะ! พวกเธอเดินมาทางนี้ด้วยล่ะ”
เป็นอย่างที่เพื่อนผมพูดทุกอย่าง ทั้งสามคนนั้นเดินมาทางเส้นทางเดียวกับผม เพียงแต่ว่าเราเดินสวนทางกันก็เท่านั้น
“มันสนุกขนาดนั้นเชียวเหรอ การไปเรียนน่ะ” ผมถามขึ้นในจังหวะที่หญิงสาว ผู้ออกความเห็นต่างจากคนอื่นเดินสวนกับผม
“อืม...ไม่รู้สิ มันแล้วแต่ว่าคุณจะคิดว่ามันสนุกรึเปล่ามากกว่า”
นั่นคือสิ่งที่เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ
“ถ้ายังเอาแต่โดดเรียนไปวันๆแบบนี้ แล้วชีวิตจะสนุกได้ยังไงล่ะ...ใช่มั๊ยจ๊ะ‘จุนคุง’ ”
“อ-
!”
ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ทำไม...เธอถึงรู้เรื่องนี้ได้ล่ะ
แต่มันก็จริงอย่างที่เธอพูด เพราะตัวเองมีทัศนคติแบบนั้น ผมกลายเป็นคนเลยมองโลกในแง่ร้ายมาตลอด ทั้งๆที่มีความสนุกอยู่ใกล้ๆตัวแท้ๆ แต่ก็ยังมองไม่เห็น...
บางที...อาจถึงเวลาที่ผมต้องเปลี่ยนความคิดแล้วสินะ
“ฮิฮิ ไม่รีบไปเดี๋ยวก็สายหรอก”
“อ-อืม! ป-ไปก่อนล่ะ...!”
ผมตัดบทสนทนาด้วยการวิ่งออกห่างจากเธอ ไม่ใช่ว่าเพราะโมโหหรอก แต่เป็นเพราะคำพูดของเธอมันจี้ใจดำ จนผมสู้หน้าเธอไม่ได้ต่างหาก...
ว่าแต่...เธอรู้จักชื่อผมได้ยังไง เราเคยเจอกันมาก่อนงั้นเหรอ
“เฮ้ย! จุน น้องคนสวยคนนั้นใครวะ”
“จะไปรู้เหรอ เจอก็ไม่เคยเจอมาก่อนด้วยซ้ำ”
“หรือว่า...!” เพื่อนผมเริ่มมองผมด้วยสายตาประหลาด
“อะไร”
“คนอย่างแกเริ่มมี‘สโตรกเกอร์’คอยตามประกบแล้วเหรอ!”
พลั่ก! ด้วยความปากดีของเพื่อนผม มันจึงได้ลิ้มรสหมัดของผมไปหมัดหนึ่ง ข้อหาพูดอะไรไม่รู้จักคิด และพูดให้คนอื่นเสียหาย
“โอ๊ย!...ต่อยทำไมวะเจ้าบ้า!”
“ก็แกอยากปากดีเอง”
“เฮ้ย...แกหน้าแดงทำไม นี่แกกำลังเขินอยู่เหรอ!”
“เจ้าบ้าเอ๊ย จะพูดดังทำไมวะ!!”
“เสียงแกดังกว่าอีก รู้ตัวมั๊ย”
“ฮึ่ย! ช่างเหอะ”
“เฮ้ย! แล้วแกจะไปไหนวะ!”
“มหา’ลัย”
“เฮ้ย...ไอ้จุนมันเปลี้ยนไป๋จริงๆว่ะเฮ้ย!”
เมื่อไม่รู้ว่ะเถียงไอ้เพื่อนปากจัดนี่ยังไง ผมจึงตีตัวห่างมัน ด้วยการวิ่งมุ่งหน้าไปทางมหาวิทยาลัยที่ผมศึกษาอยู่ในตอนนั้น...
ไม่อยากยอมรับหรอกนะ แต่ว่า...คราวนี้เพื่อนผมมันท่าจะพูดถูกจริงๆ
นี่ผม...เริ่มเปลี่ยนมุมมองของตัวเองใหม่แล้วงั้นเหรอ
...นั่นเป็นเพราะ‘เธอ’หรือเปล่านะ
-----------------------
ความคิดเห็น