ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    TO MY DEAREST แด่ที่สุดในใจฉัน...

    ลำดับตอนที่ #5 : 4:ข้าวกล่อง

    • อัปเดตล่าสุด 4 เม.ย. 55


    ข้าวกล่อง

    ง่ำ! อาหย่อยที่ซู้ด!”

    -ซากิจัง กินเร็วแบบนั้นระวังติดคอนะ...

    โอ๊ย! อย่ามารบกวนเวลาความสุขของฉันจะได้มั๊ยฮะ

                หลังจากที่เกิดเรื่องวุ่นๆในวันนั้น วันต่อมาทุกอย่างก็ดูเหมือนจะกลับเข้าสู่วงจรปกติเหมือนเช่นทุกวัน ฉันกับมิซึกิก็ไปเรียนตามปกติเหมือนเดิม

                ความจริง...วันนี้ฉันควรจะมาโรงเรียนคนเดียวด้วยซ้ำ เพราะว่าสภาพมิซึกิตอนนี้คงมาโรงเรียนไม่ไหวหรอก

                แผลที่ไหล่ของเขาดูสาหัสเอาการ แต่เขาก็ยังยืนยันว่าจะมาให้ได้

     

     

                นี่ไม่ห่วงสภาพตัวเองบ้างรึไงนะ

     

    “ ‘อายะเขาหวังดี ก็รู้จักรับความหวังดีไว้ซะบ้างสิ

    เข้าใจแล้วน่า แค่กินช้าๆก็พอแล้วสินะ!”

                เดี๋ยวนี้ไม่ว่าใครก็เอาแต่หาว่าฉันผิดไปซะทุกอย่างแล้วสินะ

                ไม่เว้นแม้แต่ มิทสึฮิโระ อายากะหรือ อายะเพื่อนสนิทที่เพิ่งเตือนฉันว่าอย่ากินเร็วเป็นคนแรก หรือ ทาคาโมริ ฮิโระเพื่อนผู้ชาย คนเดียวที่มิซึกิยอมให้คบหาได้อย่างใกล้ชิดมากที่สุด

     

    เย็นเมื่อวานไม่ได้กินข้าวเย็นมารึไงฮะเธอเนี่ยฮิโระถามฉัน ขณะที่มองฉันด้วยสายตาแปลกๆมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว

    ก็เมื่อวานมันกินไปได้นิดเดียวเองนี่! แล้วก็...แบ่งหมูให้ฉันซักชิ้นคงไม่เสียหายหรอกใช่มั๊ยเอ่ย

    ไม่มีทาง! กินของหล่อนให้มันหมดก่อนเหอะน่า!” ฮิโระตะคอกใส่ฉันพร้อมพยายามเอามือบังกล่องข้าวของตัวเอง จะงกไปไหนเนี่ย!

    ขี้งกชะมัดเลยนายเนี่ย! ...อายากะ ฮิโระแกล้งเค้าอะฉันตะคอกกลับใส่ฮิโระ ก่อนจะหันไปฟ้องอายากะที่นั่งอยู่ข้างๆฉัน

                หึ! นายฮิโระเอ๋ย นายไม่รู้ฤทธิ์ของฉันแล้ว

    -ฮิโระคุง แบ่งให้ซากิจังบ้างก็ได้นี่นา

    ถ้าอายะพูดขนาดนี้แล้ว...ก็ได้ แต่แค่ชิ้นเดียวเท่านั้นนะเฟ้ย!”

    ฮิฮิ ขอบใจ

                ใช่แล้ว แค่อายะเอ่ยปากขอร้องอะไร ฮิโระก็ยอมทำตามแต่โดยดี เหมือนพระราชินีกับขุนนางเลย และด้วยเหตุนี้เอง ฉันจึงได้หมูของฮิโระมากินอย่างไม่ต้องเสียแรง

     

     

    ข้าวกล่องตัวเองมันไม่พอประทังชีวิตรึไง ถึงได้มาขอของคนอื่นกินแบบนี้

     

                นั่นไง บุคคลที่ไม่อยากเจอที่สุดในชีวิตปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเราทั้งสามแล้ว

    แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายมิทราบฮะ มิซึกิ

    เปล่า จะบอกว่ามันเหมือนขอทานเลย

    นี่นายว่าฉันเป็นขอทานงั้นเหรอ!” ฉันลุกขึ้นพรวด พร้อมตวาดใส่มิซึกิที่พูดให้ฉันเสียหายต่อหน้าเพื่อนทั้งสองของฉัน

    ฉันแค่เปรียบเทียบเฉยๆ ทำไมต้องร้อนตัวด้วยล่ะ

    พูดแบบนี้ใครที่ไหนเค้าจะไม่โมโหล่ะยะ!”

     

    ทั้งสองคนพอทีเถอะ น้ำลายกระเด็นแล้วเนี่ยฮิโระเอ่ยขึ้นพร้อมพยายามแยกฉันกับมิซึกิออกจากกัน

    ก็ได้ๆ ทะเลาะกับคนอย่างยัยนี่ไปก็เสียเวลาเปล่าสินะพูดแบบนี้ ดูถูกกันงั้นเหรอ!

    ไหนลองพูดอีกทีซิ...!”

    มานี่หน่อยสิฮิโระ มีเรื่องจะคุยด้วยน่ะ

    เอ๋ ผมเนี่ยนะ

    อืม ยืมตัวฮิโระไปซักครู่คงไม่ว่าอะไรใช่มั๊ยมิซึกิหันมาถามฉันกับอายากะ

    -ได้สิคะ มิซึกิซังอายากะพูดด้วยท่าทีเคอะเขิน ใบหน้าเริ่มขึ้นสี

    คุยเรื่องอะไรที่ฉันกับอายากะไม่รู้รึเปล่าฉันถามต่อ พร้อมมองไปที่สองหนุ่มด้วยสายตาที่ไม่ไว้วางใจ ถึงสองคนนี้จะสนิทกันในฐานะรุ่นพี่กับรุ่นน้องก็เถอะ

                แต่...มันก็ไม่แน่ว่าอาจเป็นอะไรที่มากกว่านั้น

    จะบ้ารึไงฮะ เราผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ ไม่ทำเรื่องแบบนั้นกันหรอกน่าแล้วฉันจะแน่ใจได้ไงล่ะยะ ไปกันเหอะฮิโระ อยู่กับยัยนี่มากเกินไป มีหวังได้บ้าตายกันพอดี

    นายเห็นฉันเป็นตัวอะไรกันแน่ฮะ นายมิซึกิ!”

     

     

     

     

     

    ...รุ่นพี่ สรุปลากผมมามีเรื่องอะไรจะคุยกับผมเหรอครับฮิโระถามผมเมื่อผมลากเขาออกมาจากห้องเรียนซึ่งสองคนนั้นกินข้าวกลางวันอยู่ ตอนนี้เราสองคนนั่งอยู่บริเวณบันไดทางขึ้นลงดาดฟ้า

    ก็...เรื่องส่วนตัวนิดหน่อย

    เป็นเรื่องอะไรที่สองคนนั้นไม่ควรรู้เหรอครับ

    คงงั้นฉันจะพูดครั้งเดียวเท่านั้น ฟังให้ดีล่ะ

    -ครับ

     

     

    แบ่งข้าวให้ฉันกินหน่อยสิ

     

    -หา!” นึกแล้วเชียวว่าต้องมีปฏิกิริยาแบบนี้

    ข้าวกล่องรุ่นพี่ก็มีไม่ใช่เหรอครับ!”

    มี...แต่อยู่กับยัยมิซากิ

    -อะไรนะ! เรื่องมันเป็นไงมาไงกันแน่ครับ เล่าให้ผมฟังหน่อยสิครับ!”

     

     

                ดังนั้น ผมจึงต้องเล่าเรื่องเมื่อวานให้ฮิโระฟังตั้งแต่ต้นจนจบ

                หลังจากที่ผมแบกมิซากิกลับถึงบ้าน มันก็มืดค่ำแล้ว วัตถุดิบทำข้าวเย็นก็ไม่ได้ซื้อมาเพราะว่าเจอพวกนั้นเล่นงาน

                โชคดีที่ป้าข้างบ้านมีของเหลืออยู่บ้าง เลยแบ่งให้ผมกับมิซากิมาทำเป็นข้าวเย็นประทังชีวิตไปมื้อหนึ่ง ส่วนข้าวกล่องที่ผมบอกว่าอยู่กับมิซากิ...

     

                ผมยอมสละข้าวกล่องที่ผมควรจะเอามากินที่โรงเรียนให้เธอ ทำให้เธอมีข้าวกล่องอยู่สองกล่อง กล่องแรกกินเป็นข้าวเช้า ส่วนอีกกล่องก็เอามากินเป็นมื้อกลางวัน

                เรื่องก็เป็นแบบนี้แหละ...

     

    แล้วรุ่นพี่ไม่ได้บอกซากิเหรอครับ

    ก็แค่แอบเอาใส่กระเป๋าเธอตอนที่ไม่รู้ตัว มันก็แค่นั้นแหละ

    แล้วแบบนี้เธอไม่โกรธตายรึไงกันครับ

     

    ฉันโดนเธอโกรธ...ไม่สิ โดนเธอเกลียดจนมันชินไปแล้วล่ะผมตอบตามความจริง อีกอย่าง เรื่องแค่นี้มันไม่ใช่เรื่องที่มิซากิจะมาใส่ใจเป็นพิเศษหรอกน่า

    ซากิได้คนอย่างรุ่นพี่มาเป็นพี่ชายนี่น่าอิจฉาจังเลยนะครับ

    ไม่รู้สิ ยังไงเธอก็ไม่เคยเห็นฉันในสายตาอยู่แล้วล่ะ

     

     

    แล้วนี่เมื่อไหร่จะแบ่งข้าวให้ฉันกินซักทีเนี่ย หิวจนจะกินปลาวาฬได้ทั้งตัวแล้วเนี่ย

    -----------------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×