'กิ๊งก่องงงงง'
ออดของโรงเรียนดังขึ้นแสดงให้นักเรียนเห็นว่าได้เวลาเข้าเรียนแล้ว
นักเรียนสองคนเดินเข้าห้องเรียนมาทั้งสองมีหน้าตากลุ้มใจ
เนื่องจากเพื่อนของพวกเธอคนหนึ่งหายไป(ก็มีกันอยู่แค่สามคนเนี่ยแหละ)
"เห็นฟ้าไหม"
สาวน้อยร่างเล็กที่มีผมสีดำยาว ใช้ตาสีแดงของเธอจ้องหน้าเพื่อนอีกคน
"ไม่เห็นเลย จะเข้าเรียนอยู่แล้วนะ"
คนถูกถามที่มีผมสีน้ำตาล(โคตร)เข้มและตาสีเดียวกับคนถามขมวดคิ้วบางๆของเธอ
ทั้งสองเดินมานั่งเก้าอี้แถวหน้า ในห้องเรียนนั้น
ก็เหมือนกับห้องเรียนทั่วไปของโรงเรียนอื่นๆ ต่างกันตรงความหรูหรา
ของห้องเรียนนี้มีมากกว่าหลายขุม(มีนักเรียนแค่สามคนจัดเก้าอี้ทำไมเยอะแยะฟะ)
'ครืด'
ประตูห้องถูกเปิดขึ้น เผยให้เห็นอาจารย์ที่ดูแล้วอายุพอๆกับพวกเธอเดินเข้าห้องเรียนมา
เขาใส่สูทอย่างเป็นทางการ ผมสีดำกับตาสีน้ำตาลอ่อนที่ดูเข้ากันมากนั้นก็สะดุดตามาก
เขาเดินไปที่โต๊ะใหญ่หน้าห้องก่อนที่จะวางหนังสือเรียนที่มีขนาดใหญ่และเยอะไว้บนโต๊ะ
ทันทีที่เขาวางหนังสือจะสังเกตุได้ทันทีว่า....เขาทำหน้าโล่งใจ
เหมือนกำลังคิดว่า 'ได้วางสักที' อยู่
อาจารย์หนุ่ม(หรือเรียกว่าเด็กดี) หยิบใบเช็กชื่อนักเรียนก่อนที่จะเงยหน้ามองพวกเธอ
"อาจารย์กมล...."
อาจารย์หนุ่มยังพูดไม่ทันจบ ประตูที่เคยอยู่กับที่ก็ลอยไปชนเข้ากับหน้าต่างห้องเรียน
ก่อนที่หน้าต่างจะแตกและทั้งประตูและเศษหน้าต่างจะตกลงไปที่พื้นชั้นล่างสุด
โดยที่ไม่รู้ว่าจะหล่นลงไปทับใครหรือเปล่า
ทั้งอาจารย์หนุ่มและนักเรียนทั้งสองคนมองไปทางที่ๆประตูเคยอยู่
ทำให้เห็นหญิงสาวที่แต่งชุดสบายๆพังประตูห้องเข้ามา
เธอถอนหายใจครั้งหนึ่งก่อนจะถามว่า
"ไม่สายใช่ไหม"
"สาย"
ทั้งอาจารย์หนุ่มและนักเรียนทั้งสองตอบอย่างตัดเยื่อใย
ทำให้อาจารย์สาวทำหน้างอนๆก่อนที่จะตะโกนใส่หน้าอาจารย์หนุ่มว่า
"ใจร้าย! เคนจิช่วยพูดแบบให้กำลังใจกันหน่อยสิ
ประมาณว่า 'ก็ไม่ถึงกับสายหรอกนะ' แบบนี้อ่ะ"
อาจารย์หนุ่มที่ถูกเรียกว่าเคนจิทำหน้างง
"ทำไมต้องพูดแบบนั้นด้วยในเมื่อเธอสายน่ะ กมลภรณ์"
อาจารย์สาวที่ถูกเรียกว่ากมลภรณ์ขยี้หัวตัวเอง
เธอทำท่าเหมือนกับว่าฉันจะบ้าตาย
"เอาล่ะ" เคนจิจดบางอย่างลงในใบเช็กชื่อนักเรียน
"กมลมาสาย" เคนจิพูดอุบอิบกับตัวเอง
แต่ดูท่าทางคนโดนจดว่ามาสายจะได้ยินมันทำให้เธอแทบอยากจะลงไปดิ้นอยู่ที่พื้น
"นุ่นมา..."
เคนจิเงยหน้ามองนักเรียนหญิงร่างเล็ก
จากนั้นก็ก้มลงจดต่อไป
"แบมมา..."
เคนจิเงยหน้ามามองนักเรียนหญิงอีกคน
จากนั้นก็ก้มลงจดอีก
"ฟ้า..."
"มาสายนิดหน่อย"
มีเสียงของเด็กสาวต่อประโยคของเคนจิให้จบ
เมื่อหันไปทางต้นกำเนิดเสียงก็เห็นเด็กผู้หญิงทำหน้าเซ็งยืนอยู่ตรงที่ประตูเคยอยู่
"อาจารย์กมลเลิกพังประตูเหอะ"
เด็กสาวชื่อฟ้าเดินเข้ามาในห้องเหมือนกับว่าการมาสายของเธอไม่ใช่เรื่องผิด
แถมยังหันไปต่อว่าอาจารย์อีกด้วย
เธอเข้าไปนั่งข้างๆนุ่น
"สายอีกแล้วนะ" แบมพูดกับฟ้าข้ามหัวนุ่น
"ก็บ้านอยู่ไกลนี่นา" ฟ้าพูดพร้อมกับทำหน้าเซ็ง(ปกติก็ทำอยู่แล้ว)
"เอาล่ะ"
เคนจิพูดแทรกบทสนทนาของฟ้าและแบม
เขาวางใบเช็กชื่อนักเรียนไว้บนโต๊ะ
"วันนี้ครูมีเรื่องสำคัญมากมาบอกนักเรียน"
เมื่อได้ยินอาจารย์บอกว่าสำคัญนักเรียนก็ตั้งใจฟังในทันที
ช่างเป็นนักเรียนตัวอย่างจริงๆ
"วันนี้ท่าน P จะมาตรวจโรงเรียนในช่วงบ่าย
ดังนั้นในช่วงเช้าเราจึงให้นักเรียนเตรียมตัวสำหรับการต้อนรับท่าน P "
เคนจิพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง นักเรียนทั้งสาม(+อาจารย์กมล)ถึงกับอ้าปากค้าง
พวกเธอแทบไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน พวกเธออยู่โรงเรียนมาตั้งหลายปี
ไม่เคยเห็นแม้แต่เงาของท่าน P
อยู่ดีๆวันนี้จะมีบุญ(หรือกรรม)จะได้เห็นท่าน P ตัวเป็นๆงั้นหรอ
"เริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลยนะ"
เคนจิพูดจบก็ตั้งหัวข้อสนทนาการแต่งห้องเรียนและพิธีต้อนรับต่างๆ
บนหลังคาโรงอาหารที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับตึกเรียน
บุรุษปริศนากับหญิง....ไม่สิ นั่นเป็นผู้ชายต่างหาก
เอาเป็นว่ามีผู้ชายสองคนที่ไม่รู้ว่าใครยืนคุยกันอยู่
"ได้เวลาแล้ว"
ชายหนุ่ม(หรือผู้หญิง)แสยะยิ้มเผยให้เห็นเขี้ยวอันแหลมคม
"อือ"
ชายหนุ่มอีกคนตอบด้วยท่าทางสุขุม
ทำให้เห็นถึงความน่าเกรงขาม ความน่าเคารพนับถือและความเป็นผู้นำ
(แค่ตอบ 'อือ' ทำไมเห็นเยอะจัง)
เวลาต้อนรับท่าน P
เด็กสาวทั้งสามต่างแสดงท่าทางตื่นเต้นไปคนละแบบ
แบมทำท่าลุกลี้ลุกลนจนอยู่นิ่งไม่ได้
นุ่นก็เอาแต่หันซ้ายหันขวา
ส่วนฟ้าก็เอาแต่อ่านบทที่จะต้องพูดกับท่าน P (อ่านมา100รอบพอดี)
เมื่ออาจารย์ทั้งสองเห็นว่าท่าทางเด็กๆดูไม่ได้แล้ว
จึงจัดหนักตบหัวไปคนละที
"อาจารย์!"
เสียงนี้ไม่ใช่ของนักเรียนแต่เป็นของแม่บ้านที่วิ่งมาห้ามปรามอาจารย์ทั้งสอง
"ทำแบบนี้กับเด็กๆมันไม่ดีนะคะ"
แม่บ้านตำหนิอาจารย์ทั้งสองเหมือนกับไม่รู้ว่าความจริงแล้ว
ตำแหน่งที่เธออยู่นั้นมันต่ำต้อยด้อยค่ากว่าอาจารย์ทั้งสองมาก
"นั่นสิครับ ไม่ดีเลยนะครับ"
ทุกคนหันไปมองคนที่พึ่งมาใหม่ด้วยสายตาประมาณว่า 'แกเกี่ยวอะไรด้วยฟะ'
ทำให้คนถูกมองได้แต่หัวเราะแห้งๆ
"มาช้าจังนะครับ คุณรองอาจารย์ใหญ่"
เคนจิพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน
แต่ท่าทางคนถูกว่าจะดูไม่สะทกสะท้าน
"ท่าน P อยากกินไอติมน่ะครับ ก็เลยบังคับให้ผมพาไปซื้อ"
ทุกคนได้แต่อึ้งกับข้อแก้ตัวนี้
"ช่วยหาข้อแก้ตัวที่มันดีกว่านี้หน่อยได้ไหม"
คราวนี้กมลพูดบ้าง เธอตีหัวรองอาจารย์ใหญ่ไปทีนึง
ทั้งๆที่ถ้าให้เปรียบแล้วล่ะก็เธอจะเป็นได้แค่ก้อนกรวดก้อนหนึ่ง
ส่วนบุคคลที่เธอตีหัวไปนั้นเป็นถึงเพชรเลยทีเดียว
(รู้สึกคนโรงเรียนนี้จะทำอะไรไม่ดูตำแหน่งกันเลย)
"ราเม็งไม่ได้โกหกนะ"
แน่นอนว่าเสียงนี้ไม่ใช่เสียงของกลุ่มคนที่กำลังคุยกันอยู่
แต่เป็นเสียงของเด็กสาวที่กำลังกินไอติมอยู่ต่างหาก
"..."
แน่นอนว่าทุกคนได้แต่มองเด็กคนนั้นอย่างงงๆ
แต่ความจริงแล้วยังมีคนที่ยังไม่งงอยู่สองคน คือ กูฟี(รองอาจารย์ใหญ่)และฟ้า
"นั่นลูกของท่าน P สินะ"
ฟ้าหันมาถามกูฟี เขายิ้มก่อนที่จะตอบว่า "มั้งครับ"
ฟ้าพยักหน้าอย่างเข้าใจ
"ท่าน P คงไม่ว่างเลยให้ลูกมาแทนสินะ
เพราะถ้าเป็นเด็กก็จะยิ่งถามเอาความจริงได้ว่าเราดูแลเธอดีหรือไม่"
ทุกคนคิดตามคำพูดฟ้า จากนั้นจึงร้อง 'อ๋อ' ไปตามๆกัน
"ฟ้านี่เก่งจังเลย เข้าใจเรื่องได้เร็วดีจัง" แบมชมฟ้า
"ไม่ขนาดนั้นหรอก รีบพาลูกท่าน P ไปเดินดูรอบโรงเรียนกันเถอะ"
ฟ้าพูดจบก็เดินไปหาลูกของท่าน P จากนั้นคนอื่นๆจึงเดินตามไป
"เดี๋ยวพาไปดูรอบโรงเรียนนะจ๊ะ"
กมลยิ้ม นี่เป็นโอกาสในการเพิ่มโบนัสของเธอแล้ว
เธอต้องดูแลเด็กคนนี้ให้ดี ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ค่อยชอบเด็กก็ตาม
"ถ้าจะหวังโบนัสไปไกลๆเลยไป"
ลูกท่าน P โบกมือไล่กมลอย่างเย็นชา
กมลได้แต่ยืนอึ้ง ให้ตายเถอะ เด็กคนนี่เป็นเอสเปอร์รึไง กมลอดที่จะคิดไม่ได้
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น