คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : CHAPTER 4 :$
“พาคนไข้คนนี้ไปห้อง ICU ด่วน! คนไข้เสียเลือดมาก เร็ว!”
“ส่วนคนนี้ไม่เป็นอะไรมากเข้าห้องพิเศษก่อน แล้วรอดูอาการ”
เสียงหมอสั่งพยาบาลและบุรุษพยาบาลกันให้อุตลุด สมายด์ถูกพาเข้าห้อง ICU เครื่องมือเต็มข้างๆ เตียงไปหมด สายอะไรต่อมิอะไร ระโยงรยางค์ทั่วบริเวณ เสียงหมอสั่งลูกน้องให้ทำตามเพื่อช่วยชีวิตคนไข้รายนี้ เข็มสั้นบนนาฬิกาเดินวนไปรอบแล้วรอบเล่า ญาติคนไข้ที่มาทีหลังได้แต่สวดมนต์ขอให้ปลอดภัย พลางได้ยินเสียงพูดพยาบาลต้องการอุปกรณ์กันเสียงดัง เสียงเล็ดลอดออกมาจากประตูห้องผ่าตัด คนข้างนอกยังพอจับใจความได้เล็กน้อยว่า ข้างในคงกำลังวุ่นวาย ผ่านไปหลายชั่วโมงชายใส่ชุดสีเขียวก็เดินออกมาจากห้อง
“หมอครับ น้องผมเป็นยังไงบ้างครับ?” เสียงร้อนรนดังขึ้นก่อนที่ต้นจะลุกขึ้นยืนแล้วไปเขย่าตัวหมอ
“ใจเย็นๆ นะครับ ไปคุยที่ห้องของผมจะอธิบายง่ายกว่าครับ”
“คนไข้ชื่อวริษฐา กับโสรญาใช่มั้ยครับ?”
“ใช่ครับ”
“คุณวริษฐาไม่เป็นอะไรมากครับ พ้นขีดอันตรายแล้ว มีอาการแค่ศรีษะแตกและรอยถลอกเท่านั้นครับ”
เมื่อได้ยินดังนั้นต้นก็หันไปยิ้มดีใจแล้วพนมมือ
..ขอบคุณที่ฟังคำขอของลูกช้างนะคร้าบบ..
เสียงกระแอมในลำคอ ทำให้ต้นหันไปฟังหมออีกครั้ง
“ส่วนคุณโสรญาตอนนี้ก็พ้นขีดอันตรายแล้วครับ แต่บาดเจ็บมากกว่าคนไข้รายแรก และเสียเลือดมาก ศีรษะของคนไข้ ดูที่ฟิล์มนี้นะครับ ดูที่จุดดำๆ ตรงนี้นะครับ เนื่องจากที่ศีรษะกระทบกระเทือนเล็กน้อย แต่ก็ไม่อันตรายมากอีกแหละครับ ขาข้างขวาบิดไปผิดรูปครับ แต่ยังไม่หัก ไม่ต้องกังวล ประมาณสามเดือนคงเดินได้ตามปกติ ถ้าทำกายภาพบำบัดเป็นประจำ ช่วงสองสามวันนี้จะให้คนไข้ใส่เครื่องช่วยหายใจก่อนนะครับ ประมาณ 2 วัน ส่วนจะเป็นยังไงต่อไปต้องรอดูอาการอีกที อ่อ ตามตัวมีแผลถลอกค่อนข้างมาก หลายจุดเลย ซึ่งจะติดเชื้อง่าย บางแผลก็ลึกหมอเลยงดเยี่ยมคนไข้ประมาณ 2-3 วันนะครับ”
“ขอบคุณครับ”
..พูดซะยาวเชียว ฟังไม่ทันอะ -3-..
“อันที่จริงแล้วร่างกายไม่กี่เดือนก็หายครับ แต่จิตใจคนไข้ ถ้าไม่ยอมกระตือรือร้นอยากจะหาย หมอก็ช่วยอะไรไม่ได้”
หมอรูปหล่อพูดทิ้งท้ายก่อนจะเก็บของเข้าที่ เตรียมตัวรอคนไข้เคสใหม่ เขาก็ตรวจเช็คร่างกายคนไข้ทุกคน คนนี้ก็เช่นกันเมื่อตรวจ เขาก็รู้ได้ว่าคนไข้ตัวเล็กเพิ่งโดนอะไรมา เขาพูดเตือนต้นแล้วปล่อยให้ต้นคิดหนัก ใช่..จิตใจคนไข้ ใจสมายด์กลัวสต๊อปไปแล้ว ไม่สดใสร่าเริง จะทำยังไงดี?..
“อ้อ เอานี่ไปครับ ยังไงผมต้องดูแลคนไข้ของคุณอีกนาน J” หมอยื่นนามบัตรให้ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
‘น.พ.วาโย อัศวรุ่งเรือง’
..ไอ้หมอกวนตีนนี่ชื่อแปลกชะมัด..
มือหนาเก็บนาบัตรใส่กระเป๋ากางเกง แล้วเดินไปถามห้องที่สต๊อปพักกับพยาบาล ต้นเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องพักฟื้นของสต๊อป แล้วค่อยๆ เคาะประตู เพราะเห็นพยาบาลกำลังเก็บของอยู่
“เชิญค่ะ”
“ครับ” ต้นตอบพลางยิ้มหวานโปรยเสน่ห์จนพยาบาลรีบวิ่งออกไปเพราะความเขิน(?)
..ไอ้ต๊อป พี่ให้อภัยแกเสมอ แต่พี่ไม่รู้ว่าสมายด์จะอภัยให้แกรึเปล่า..
3 วันต่อมา
หมออนุญาตให้เข้าเยี่ยมคนไข้ได้ ต้นเดินเข้ามาในห้องผู้ป่วยพิเศษ ก็ต้องสะกิดน้องสาวแท้ๆ ที่มานั่งรอดูอาการน้องสาวอีกคนอย่างเหม่อลอย เมื่อสต๊อปหันมาก็ลุกขึ้นแล้วก็เดินออกไป
“ไอ้ต๊อปแกรีบหายก่อนดีกว่า แล้วค่อยมาเฝ้าสมายด์ เดี๋ยวพี่เฝ้าสมายด์ให้เอง”
ต้นพูดเสียงเรียบพลางมองหัวที่มีผ้าก็อตพันอยู่และรอยถลอกที่มีอยู่บางเล็กน้อยของสต๊อปก่อนที่เธอจะเดินกระเพลกขาน้อยๆ ออกจากห้องไป เขารีบหันกลับมาดูสมายด์ที่ถอดเครื่องช่วยหายใจแล้ว มีแผลถลอกเต็มตัว ขาขวาที่ถูกเข้าเฝือกแข็ง หัวก็ถูกพันผ้าก็อตเช่นกัน ต้นนั่งมองน้องสาว แล้วก็ต้องอุทานเบาๆ เมื่อคนตัวเล้กบนเตียงเริ่มขยับตัว
“เห้ยสมายด์ฟื้นแล้ว!”
“ยังไม่ตายง่ายๆ หรอกพี่”
คนตัวเล็กขยับปากอย่างยากเย็น คำพูดกวนประสาททำให้ต้นยิ้มแทบจะหัวเราะออกมา ถ้าไม่ติดที่หัวของสมายด์เป็นแผล เขาคงยีหัวไปเรียบร้อย
..ระบมทั้งตัวเลย เจ็บจะตายอยู่ละ ยังยิ้มอยู่ได้นะพี่ต้น..
วันนั้นทั้งวันต้นก็ดูแลเอาใจใส่น้องสาวคนสวยคนป่วยอย่างดิบดี
หลายวันต่อมา
และอีกครั้งที่ต้นต้องมาดูแลสมายด์ พยาบาลแจ้งเขาว่าสต๊อปเริ่มหายดีแล้ว แต่แผลที่หัวก็ยังคงเหลืออาการนิดหน่อย ก็ทำให้เขาสบายใจไปได้นิดหน่อย เมื่อต้นเข้ามาก็เห็นสมายด์นอนหลับอยู่ เขาก็เปิดทีวีเพื่อฆ่าเวลา สักพักก็ได้ยินเสียงประตูห้องถูกเปิด เขาหันไปตามเสียง น้องสาวตัวดีที่เพิ่งหายก็เดินมายืนข้างๆ
“สมายด์หลับอยู่ อย่าเพิ่งกวนนะ”
“พี่ต้น ต๊อปจะดูแลสมายด์เอง”
“ห้ะ! อะไรนะ?”
“ก็ในเมื่อเรื่องทุกอย่างต๊อปเป็นคนก่อ ต๊อปก็ต้องแก้ ต้องรับผิดชอบใช่มั้ยละ”
“ถ้าสมายด์เริ่มฟื้นตัว ต๊อปจะดูแลเอง”
สต๊อปพูดเสียงสั่น น้ำตาหยดใสๆ ก็เริ่มไหลออกมาจากตาคู่สวย เสียงสะอื้นรีบทำให้ต้นต้องไปปลอบน้องตัวเอง เพื่อที่เขาจะไขข้อสงสัย เลยถามสต๊อปกับสิ่งที่ค้างคาในใจ
“แล้วทำไมแกต้องทำเรื่องพรรณนั้นกับสมายด์ด้วย? หรือว่า ไอ้แคน?”
ต้นถามเพราะนอกจากพ่อแม่ที่สามารถทำให้สต๊อปร้องไห้ได้ ก็ไม่มีใครอีกเลยยกเว้น แคน แฟนหนุ่มของสต๊อป ที่แคนใช้คำว่า ทนคบ กับสต๊อปจนทำให้น้องสาวของเขาต้องเสียน้ำตาอยู่หลายครั้ง ต้นรู้ดีว่าสต๊อปรักแคนจนหมดใจ
“แคนทิ้งต๊อปแล้ว แต่ก็ดี ต๊อปก็ทรมานที่ยังคบกับมันได้ แต่ตอนนั้นต๊อปลืมตัวไม่รู้จะทำยังไง ไม่รู้ไปทำแบบนั้นกับสมายด์ได้ยังไง ต๊อปก็ไม่เข้าใจตัวเอง มันควบคุมตัวเองไม่ได้ วันที่เกิดอุบัติเหตุต๊อปตัดสินใจที่จะขอโทษสมายด์ แล้วตอนที่เห็นเฟรมกอดกับสมายด์ไม่รู้ทำไม มันโกรธอ่ะพี่ ต๊อปขอโทษ”
สต๊อปร่ายยาวปนเสียงสะอื้น ต้นรู้สึกที่ไหล่เริ่มชุ่ม เขายิ้มบางๆ มือหนาลูบผมนุ่มของน้องอย่างแผ่วเบา
..หึงแม้กระทั่งน้องสาวข้างบ้าน หลงรักเด็กยิ้มแล้วรึไง ฮ่าๆ..
ต้นนั่งปลอบน้องสาวอยู่นาน จนพยาบาลเรียกตัวสต๊อปให้กลับไปนอนพักและทานอาหาร ต้นก็กลับมานั่งเฝ้าสมายด์เช่นเดิม ตาคมเหลือบเห็นสมายด์ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ก็เอ่ยถามเสียงเรียบ
“ไง หิวยัง”
“
” ไม่มีเสียงตอบรับจากสมายด์ ต้นหันไปมองสมายด์ที่มีรอยยิ้มกรุ้มกริ่มอยู่ที่ใบหน้า
“ยิ้มแบบนี้ คิดอะไรกับพี่ป้ะเนี่ย 5555” ต้นพูดแซวน้องแล้วหัวเราะ
“คิด”
“หา?”
“เอาหูมาๆ”
สมายด์ซุบซิบกับต้นสักพัก ต้นก็ขอตัวกลับก่อน เพราะมีงานที่ต้องทำที่บ้าน ต้นเดินออกมาจากห้องสมายด์แล้วตรงไปที่ห้องสต๊อป ระหว่างทางเขายิ้มจนหน้าบาน เขาอยากจะหัวเราะดังๆ เหมือนคนบ้าเหลือเกิน แต่เกรงใจคนไข้และพยาบาล พอถึงหน้าห้องสต๊อป เขาก็เปิดประตูเข้า น้องสาวที่เพิ่งผ่านจากการร้องไห้ ตาบวม ต้นเดินไปบอกลาน้องแล้วทิ้งท้ายคำพูดไว้
“ระวังตัวด้วย” ต้นพูดแล้วยิ้มแบบมีเสศนัย มือหนาโบกน้อยๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
..ระวังตัวอะไรว่ะ..
เมื่อต้นเดินออกมาเข้าก็คลี่ยิ้มอีกครั้ง
..ไอ้มายด์ ไอ้เด็กแสบ..
ความคิดเห็น