คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : CHAPTER 3 :$
ครั้งแล้วครั้งเล่า ที่สต๊อปเวลาทุกข์ใจก็จะไปกระทำย่ำยีสมายด์เสมอ หลายวันมานี้สต๊อปเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ไม่ใช่แค่สต๊อปเท่านั้น สมายด์ก็เหมือนกัน กลายเป็นคนไม่สดใสอีกแล้ว ทำอะไรดูเชื่องช้า อ่อนแรงอยู่ตลอดเวลา
“สมายด์ลงมากินข้าวเถอะ ข้าวจะเย็นหมดแล้วนะคร้าบบ” ต้นเรียกสมายด์ด้วยน้ำเสียงกวนๆ เขาก็ไม่ได้สบายใจนักหรอก เรื่องที่สต๊อปทำอะไรกับสมายด์ไว้กี่ครั้งกี่หน เขาก็เครียดที่น้องสาวแท้ๆ ไปทำอะไรกับน้องสาวคนใหม่คนนี้ ที่ยังทำกวนอยู่ได้คือเขาไม่อยากทำให้คนในบ้านเครียดไปกว่าเดิม
“ค่าๆ”
จากที่ทุกวันในมื้ออาหารแต่ละครั้งต้นจะนั่งหัวโต๊ะ แล้วสต๊อปกับสมายด์จะนั่งตรงข้ามกัน กลับกลายเป็นต้นมานั่งกับสมายด์แทน ปล่อยหัวโต๊ะให้ว่างไว้ เพราะอะไรน่ะหรอ?
“ไอ้ต๊อปมองสมายด์อยู่นั่นแหละ ถ้าน้องพี่ท้องขึ้นมาแกจะรับผิดชอบมั้ย ฮ่าๆๆ”
ที่ต้นยังพูดจากวนๆ ไปเรื่อยเพราะบรรยากาศเงียบเกินไป แล้วอีกอย่าง เวลาที่สต๊อปมองน้องสาวข้างๆ ตัว ต้นรู้สึกได้ถึงความกลัวที่ส่งผ่านสายตาของสมายด์ บ่อยครั้งที่สต๊อปจ้อง มือเล็กก็บีบมือของพี่ชายไว้ใต้โต๊ะ ต้นก็บีบมือกลับ เชิงให้กำลัง
..มีพี่อยู่สมายด์ไม่ต้องกลัว.. ทำให้การดำเนินชีวิตในแต่ละวันของทั้งสามคนเป็นไปอย่างลำบาก..ใจ
ตอนบ่ายเกือบเย็นของวันนี้สมายด์เลือกที่จะนั่งดูรายการทีวีกับพี่ชายของเธอ เธอไม่อยากอยู่คนเดียว กลัว กลัวว่าสต๊อปจะมาทำอะไรแบบนั้นอีก จนบางทีหัวใจที่แข็งแกร่งและอบอุ่นของสมายด์ก็ห่อเหี่ยวและเย็นลงเกือบจะด้านชาไปหมด
“สมายด์ดูเด็กคนนั้นดิ ร้องเพลงเพราะดีนะ หน้าตาจิ้มลิ้มมาก น่ารักอ้ะ >3<”
ต้นพูดพลางชี้ไปทางรายการทีวีเกี่ยวกับการประกวดร้องเพลง แล้วทำหน้าปลื้มใจสุดๆ จนได้เสียงหัวเราะในรอบเกือบสองอาทิตย์มาได้ “พี่ต้นอย่าทำหน้าแบบนี้ให้ใครเห็นนะ” สมายด์พูดเสียงแผ่ว เชิงแซวต้น
..อยากพูดให้ได้เต็มปากเหมือนกัน แต่ปากมันขยับไม่ค่อยได้ ระบมไปทั้งตัวแล้ว..
“ทำไมเอ่าะ? มันน่ารักมากเลยใช่ม๊า >//////<” ต้นเริ่มพูดภาษาอ้อแอ้ เมื่อเห็นสมายด์เริ่มยิ้ม ก็ทำให้ต้นมีความสุขไปด้วย เพราะรอยิ้มไม่ได้เห็นนานแล้ว ตั้งแต่..สต๊อปเปลี่ยนไป บางทีก็เหมือนดอกไม้ที่กำลังจะเหี่ยวเฉาไป แต่ก็ยังได้น้ำและปุ๋ยที่ยังพอยืดเวลาของดอกไม้ที่เคยเบ่งบานสวยได้บ้าง.. ก่อนที่มันกำลังจะตาย
ตกเย็น ต้นพาสมายด์ไปเดินเล่นในสวนรอบบ้าน ลมเอื่อยๆ พัดพาความทุกข์ที่ก่อตัวในใจเด็กสาวได้ไปไม่มาก แต่ก็ถือว่าดี บทสนทนาเล็กน้อย พอจะกระชุ่มกระชวยหัวใจของต้นบ้าง เพราะตอนสองอาทิตย์ที่ผ่านมา เสียงสักเล็กน้อยก็ไม่เคยหลุดออกมาจากปากสมายด์เลยแม้แต่นิด
“สมายด์”
“พี่ต๊อป..” มือเล็กขวักไขว่หามือหนาของพี่ชายแล้วบีบไว้แน่น ต้นก็บีบตอบแล้วเขย่าเบาๆ จริงๆ เขาก็อยากจะไปห้ามปราบน้องสาวตัวเอง แต่สต๊อปเป็นคนที่โมโหรุนแรง พ่อแม่ของสต๊อปก็ยังยอมเธอทุกครั้ง
“มากับพี่” สต๊อปพูดเสียงแผ่ว แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความกลัวในใจของสมายด์ลดลงได้เลย
“ไอ้ต๊อปแกจะพาสมายด์ไปไหน? ถ้าไปทำอะไรเลวๆ แบบนั้นพี่ไม่ให้แกไป!”
“พี่ต้นอย่าห้ามต๊อปได้มั้ย!”
“พี่จะห้าม จะทำไม? เรื่องดีๆ มีให้ทำกับน้องตั้งเยอะ ทำไมทำแต่เรื่องเลวๆ ห้ะ! พี่ไม่เข้าใจ!”
“ก็พี่จะไปเข้าใจอะไร สมายด์ไปกับพี่!” สต๊อปเริ่มอารมณ์เดือด แล้วใช้แรงทั้งหมดที่มีดึงสมายด์ไปที่รถ
สต๊อปผลักสมายด์เข้ามาในรถ เบาะข้างคนขับ เธอใส่เข็มขัดนิรภัยให้ตัวเอง แต่..ลืมที่จะใส่ให้สมายด์ด้วย
“พี่ต๊อปจะพาหนูไปไหนคะ?” สมายด์พูดเสียงเบาหวิว เพราะเจ็บปากที่โดนจูบอย่างรุนแรงและความกลัวในใจ
“สนิทกับเฟรมมากมั้ย?”
“
”
“ทำไมไม่ตอบพี่!” สมายด์สะดุ้ง เสียงดุของสต๊อปเพิ่มความกลัวให้สมายด์เป็นทวีคูณ หัวใจดวงน้อยของเธอก็เริ่มด้านชาเข้าไปทุกที
“คือ คือก็สนิทกันมากๆ คุยกันได้ทุกเรื่อง เวลาทุกข์ใจหนูก็จะปรึกษาพี่เฟรม..”
สงครามประสาทเริ่มต้นขึ้น เมื่อสต๊อปไม่พูดอะไรต่อทำให้สมายด์ระแวงหนักเข้าไปอีก เพราะกลัวสต๊อปจะทำอะไรเธออีก ยิ่งคิดก็ยิ่งกลัว ..กลัวมาก.. สต๊อปก็ได้แต่นิ่งเงียบ และเหม่อลอย จนไม่ได้มองรถที่สวนมาด้วยความเร็ว
“พี่ต๊อปปประวังรถ!”
ปี้นนนนนนนนๆๆๆ
เสียงดังของสมายด์ดังทำให้สตีอปหลุดจากภวังค์ความคิด มือเรียวรีบหักพวงมาลัยจนสุด ความตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ขายาวเหยียบเบรกจนมิด ทำให้รถคันหรูที่ทั้งสองนั่งพลิกคว่ำลงไปข้างทาง!
เอี้ยดดดดด โครมมมม!
รถคันหรูพังยับไม่เหลือดี เสียงเครื่องยนต์ระเบิดดังเข้าสู่โสตประสาทของคนขับที่ยังมีสติอันน้อยนิด ควันโขมงลอยขึ้นฟ้าลอยไปตามลม เสียงรถพยาบาลดังขึ้นใกล้ๆ สต๊อปมองสมายด์ที่หมดสติ ไม่ได้ใส่เข็มขัดนิรภัย หัวของสมายด์มีแต่เลือด มือเรียวจับมือสมายด์แล้วบีบไว้แน่น ขอบตาเธอร้อนผ่าว น้ำตาจากตาคู่สวยไหลลงมา ก่อนที่สติจะหลุดลอยไป..
“สมายด์..พี่ ขอ โทษ...”
ความคิดเห็น