คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : CHAPTER 11 :$
สมายด์เดินขึ้นห้องนอนด้วยท่าทีเศร้าหมอง แล้วปล่อยก็ให้ป้าแหม่มดูแลพี่สาวของตัวเอง มือบางลูบเตียงนอนเบาๆ พลางถอนหายใจไปเฮือกใหญ่
..หกปีเลยหรอ..
“คุณหนูครับ”
“คะ?” ชายวัยกลางคนเดินเข้าห้องนอนของเจ้านาย จากนั้นก็ค่อยๆ อธิบายเรื่องการไปเรียนต่อให้สมายด์ฟัง
“ไม่เข้าใจตรงไหนมั้ยครับ?”
“เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณมากนะคะ”
เมื่อชายคนเดิมเดินจากไป สมายด์ก็พาตัวเองไปที่ตู้ใบใหญ่ แล้วหยิบกระเป๋าเดินสองสามใบออกมา มือบางค่อยๆ จัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เป็นระเบียบ แต่เหลืออีกกระเป๋าอีกใบหนึ่ง สมายด์เดินสำรวจไปรอบห้องนอน ก่อนจะเก็บตุ๊กตาทิกเทอร์ที่ชื่นชอบประมาณสองสามตัวเก็บใส่กระเป๋า รูปครอบครัวแท้ๆ ของเธอ รูปครอบครัวตอนนี้ รูปสมายด์ที่ถ่ายคู่กับ..สต๊อป สมายด์เก็บของทุกสิ่งลงกระเป๋าเดินทาง..
ห้องของสต๊อป
“คุณหนู หยุดร้องไห้เถอะ ป้าทำแผลไม่เสร็จสักที”
“ต๊อปพยายามอยู่ ฮึก..”
“อ่ะ เสร็จแล้วค่ะ ไปอาบน้ำแล้วทำใจให้สบายเถอะนะคุณหนู”
สต๊อปหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป มือเรียวเปิดก๊อกน้ำจนน้ำเต็มอ่างอาบน้ำ แล้วหย่อนตัวลงไปแช่น้ำอยู่นานจนผิวเริ่มยุ่ยเปื่อย สต๊อปหลับตาแล้วปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย ชีวิตความรักนอกจากจะโดนทิ้ง ยังโดนพ่อกีดกันอีก เฮอะ..
“พี่ต๊อป..” สมายด์เดินเข้ามาในห้องนอนของพี่สาว ขณะที่สต๊อปกำลังนั่งเหม่อลอย คนตัวเล็กในชุดนอนบางๆ เรียกความสนใจจากเธอได้ไม่น้อยเลย
“พรุ่งนี้ หนูจะไปแล้วนะ”
“พรุ่งนี้?? จะไปเรียนที่ไหน”
“ใกล้ๆ นี่เอง เชียงใหม่”
สำหรับสต๊อป เมืองหลวงของไทยกับเชียงใหม่ มันไม่ใกล้กันเลยนะ พาลน้ำตามันจะไหลอีกรอบ ร่างเล็กเดินไปหยิบตุ๊กตาทิกเกอร์ตัวโปรดที่สุดของตัวเอง สต๊อปดึงข้อมือสมายด์เอาไว้
“คืนนี้ อยู่กับพี่.. ได้มั้ย?”
ร่างบางพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะจูงมือคนรักไปที่เตียง เมื่อล้มตัวนอนมือบางกดปิดสวิตช์ไฟ จนเหลือแต่ความมืดเข้าปกคลุมไปทั่วห้องกว้าง มีเพียงแสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างบานเล็ก สมายด์สะดุ้งเล็กๆ เมื่อพี่สาวเขยิบตัวเข้ามากอดเอวบางไว้แน่นพลางซุกหน้าลงไปบนคอขาว สมายด์ก็ค่อยๆ กอดคอของสต๊อปไว้หลวมๆ แล้วเธอก็ต้องสะดุ้งอีกครั้งเมื่อรู้สึกมีน้ำอุ่นๆ เปียกชื้นบริเวณต้นคอ
“ฮึก..”
“พี่ต๊อป ร้องไห้ทำไม?”
“พี่ไม่อยากให้สมายด์ไป อึก..”
“พี่ต๊อป หนูไปเพราะหนูอยากให้พี่กับคุณลุงเข้าใจกัน ..รู้มั้ยหนูอยากมีพ่อ มีแม่ แต่หนูก็ไม่มี พี่ต๊อปมีคนที่รัก อยู่กับท่านไปนานๆ อย่าทะเลาะกันเลย ถ้าวันไหนพี่ไม่มีพวกท่าน พี่จะร้องไห้หนักกว่านี้อีก..”
..แล้วพี่รู้มั้ย หนูต้องกลั้นน้ำตาแค่ไหน ทั้งที่อยากจะร้องให้บ้าตายไปเลย หนูก็เสียใจไม่แพ้พี่หรอก..
“แต่..”
“ชู่ว.. หยุดร้องน้า” สมายด์เชยคางสต๊อปขึ้นมา แล้วกดริมฝีปากบนลงบริเวณเปลือกตาอย่างแผ่วเบา “ฝันดีนะคะ”
ห้องของต้น
“ห้ะ? พรุ่งนี้เช้าเลยหรอครับลุงวินัย?”
“ใช่ครับ”
“แล้วป๊ากำหนดการอะไรไว้บ้างครับ บอกผมหน่อย”
“เอ่อ..คุณท่านไม่ให้ผมบอกใครน่ะครับ”
เมื่อได้คำตอบดังนั้น คิ้วหนาถึงกับขมวดเป็นปมยุ่ง ต้นเริ่มหัวเสียขึ้นมาทันที “บอกมาเถอะครับ ผมไม่บอกใครหรอก ผมแค่หวังดีกับน้อง บอกผมเถอะ” ต้นพูดเสียงเย็น จนผู้มีอาวุโสกว่าต้องปริปากออกมาได้
“คุณท่านได้คิดมาก่อนถึงไทยแล้วล่ะครับ ว่าจะกำหนดยังไง ยิ่งมาเจอเรื่องแบบนี้ถึงจะทำให้ท่านอารมณ์เสีย แต่ก็สามารถกำหนดอีกหลายๆ เรื่องได้ง่ายขึ้น..”
“..แล้วยังไงต่อครับ?”
“คือว่าธุรกิจของเรากำลังจะร่วมมืออีกสองบริษัทครับ.. เลยจะจัดการแต่งงานหลังจากที่คุณหนูทั้งสองเรียนจบครับ นี่ประวัติของคนที่คุณท่านจะให้แต่งงานกับคุณหนูสต๊อป นี่ก็ประวัติของคนที่คุณท่านจะให้แต่งงานกับคุณหนูสมายด์ครับ”
ต้นรับซองเอกสารสีน้ำตาลสองซองมาจากเลขาคนสนิทของพ่อ “ผมบอกคุณต้นได้เท่านี้จริงๆ ครับ ที่เหลือผมคงบอกคุณไม่ได้ แต่ก็ไม่ทราบว่าคุณท่านจะมีกำหนดการอะไรในใจอีก”
วินัยพูดขึ้นอีกครั้ง “ครับ ขอบคุณมากครับลุง” ต้นยิ้มบางๆ ให้คู่สนทนาก่อนที่วินัยจะเดินจากไป
“เอ้ย! เดี๋ยวครับ!”
“มีอะไรหรอครับ?”
“แล้วสมายด์กับสต๊อปรู้เรื่องแต่งงานรึยังครับ?”
“ยังหรอกครับ คุณท่านกะว่าจะบอกหลังเรียนจบน่ะครับ”
เมื่อหมดข้อสงสัย ต้นก็เอ่ยขอบคุณผู้อาวุโสกว่าอีกครั้ง เมื่อวินัยเดินจากไป มือหนาก็เปิดซองเอกสารสีน้ำตาลขนาดเท่ากระดาษ A4 ที่เขียนลายมือบรรจงเป็นชื่อเล่นของน้องสาว..สต๊อป..
เมื่อเปิดซองเอกสาร มือหนาหยิบกระดาษสีขาวที่ถูกพิมพ์ไว้อย่างดี ตาคมมองรูปที่แนบมากับกระดาษ คนในรูปดูหน้าตาใช้ได้ แต่ดูหน้าหวานไปบ้าง วงเล็บในรุประบุอายุที่ไล่เลี่ยกับสต๊อป แล้วจึงเลื่อนมาอ่านชื่อของคนที่จะมาเป็นน้องเขย
..ธนทัต ชัยอรรถ..
มือหนาเก็บกระดาษเข้าที่เดิม แล้ววางไว้บนโต๊ะ แล้วหยิบซองเอกสารอีกซอง ที่ถูกเขียนด้วยลายมือบรรจงเช่นกัน ..สมายด์.. เมื่อค่อยๆ เปิดซอง ตาคมก็พินิจพิจารณารูปที่แนบมา ต่างจากคนเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง ดูหน้าตาหล่อเหลาดี ดูมีเสน่ห์มาก เมื่อดูวงเล็บข้างล่างรูป ก็ต้องตกใจกับอายุที่ห่างกันมากของน้องสาวกับชายคนนี้
..อิสริยะ ภัทรมานพ..
ต้นหยิบประวัติของทั้งสองคนมาอ่านโดยละเอียด อ่านไปนานๆ ก็ตีความได้คร่าวๆ ว่าทั้งสองเป็นคนดี แต่ติดที่น้องสาวทั้งสองจะยอมรับรึเปล่า ซึ่งเขาจะไปบอกน้องสาวตอนนี้ดีมั้ย แต่ถ้าน้องรู้ขึ้นมา พ่อของเขาก็คงทำอะไรกับลุงวินัยเป็นแน่ คงต้องเลือกที่จะไม่บอกใครก็แล้วกัน..
“ฮัลโหลเฟรม นี่พี่ต้นนะ พี่มีเรื่องให้ช่วยหน่อย..”
.
.
.
.
ก๊อกๆ
“คุณหนูสมายด์ตื่นได้แล้วนะคะ”
เสียงป้าแหม่มพูดเสียงให้เบาที่สุด แต่ก็อดยิ้มไม่ได้ที่เห็นเจ้านายทั้งสองนอนกอดกันกลมขนาดนี้ แต่ทว่าก็ต้องเศร้าลงเพราะวันนี้เจ้านายก้ต้องจากกันไปเช่นกัน..
“ค่ะๆ”
สมายด์ตอบรับน้ำเสียงัวเงีย เจ้าของเสียงปลุกหายไปจากห้องนอนเสียแล้ว มือบางขยี้ตาสองสามทีด้วยแสงแดดยามเช้าที่ส่องเข้ามาทำหน้าที่แทนดวงจันทร์เมื่อคืน สมายด์ค่อยๆ แกะมือที่กอดเอวของเธอแน่น แต่ยิ่งแกะเท่าไรสต๊อปก็ยิ่งกอดแน่นขึ้นไปอีก สมายด์เริ่มใหม่อีกครั้ง มือบางเอื้อมไปหยิบหมอนข้างที่ถูกเจ้าของวางไว้ข้างหลัง เมื่อสามารถแกะมือออกได้ข้างหนึ่งก็รีบนำหมอนข้างใส่เข้าไปแทนตัวเองในอ้อมกอดของพี่สาว สมายด์ปาดหยดเหงื่อน้อยๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
สิบห้านาทีถัดมา..
“ป้าแหม่มคะยกกระเป๋าออกไปได้เลยค่ะ”
คนเจ้าของชื่อเข้ามาในห้องพร้อมกับลูกน้องอีกคนก็ทำตามคำสั่งของเจ้านาย เสียงล้อของกระเป๋าเดินทางเงียบลงไปเรื่อยๆ จนไม่ได้ยินเสียงแล้ว
“ครืดครืด..”
สมายด์พาตัวเองเดินไปที่ห้องนอนของพี่สาว แล้วหย่อนตัวลงข้างๆ ร่างโปร่งที่นอนหลับอยู่ มือบางค่อยๆ บัดผมที่ปรกหน้าสวยให้ออกไป แล้วเลื่อนหน้าลงไปประทับริมฝีปากลงบนแก้มนุ่ม ปากบางเลื่อนใบกระซิบกับร่างที่ยังหลับอยู่
“หนูไปแล้วนะพี่..”
สมายด์ดันตัวเองให้ยืนขึ้น กำลังจะออกจากห้อง ร่างเล็กก็ต้องชะงักเมื่อถูกคนบนเตียงเมื่อครู่สวมกอดจากทางด้านหลัง “จะไปแล้วลากันแค่นี้เองหรอ?” สต๊อปพูดเสียงสั่นเหมือนจะร้องไห้อีกครั้ง
http://www.youtube.com/watch?v=2n9eDKw-h8U
ไรท์แนะนำให้ฟังเพลงนี้ ถึงจะเป็นจังหวะสนุก
แต่ว่าเนื้อหาเพลงมันตรงกับตอนนี้มากเลยแหละ
(เพลง จูบสุดท้าย The Mousses)
สมายด์หันตัวไปประจันหน้ากับพี่สาว ก็เห็นน้ำตาเปรอะเปื้อนไปทั่วใบหน้าสวย สมายด์ใช้นิ้วโป้งเกลี่ยน้ำตาออกไป พลางคลี่ยิ้มบางๆ ให้ทั้งที่ตัวเธอเองก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เช่นกัน เธอได้ยินเสียงขลุกขลักในกระเป๋าสะพาย แต่ก็ไม่ด้เอะใจอะไร
“ยิ้มให้หนูหน่อยสิ อย่าเอาแต่ร้องไห้นะ”
สต๊อปก็ได้แต่ยิ้มตอบไป “กอดพี่หน่อยสิ” สมายด์ก็เข้าไปสวมกอดอย่างว่าง่าย มือบางกระชับอ้อมกอดของทั้งคู่ให้แน่น เป็นไปได้สมายด์ก็อยากจะกอดแบบนี้ไปตลอด ไออุ่นจากตัวเข้าสู่หัวใจของคนทั้งคู่ได้ไม่น้อยเลย จังหวะหัวใจที่แทบจะเต้นเป็นเสียงเดียวกัน ทำให้ยิ่งต้องกระชับอ้อมกอดเข้าไปอีก เมื่อถึงเวลานัดหมาย ร่างบางค่อยๆ ผละออกช้าๆ แต่ก็ยังเห็นสต๊อปร้องไห้อยู่ดี
“จูบพี่หน่อยได้มั้ย? ถือว่าเป็นครั้งสุดท้าย..”
สมายด์พยักหน้าเบาๆ มือบางลูบไล้ใบหน้าของพี่สาวอย่างอาลัยแล้วประคองหน้าสวย ประทับริมฝีปากลงไป เป็นรสจูบที่อ่อนหวานเหลือเกิน ลิ้นอุ่นของคนตัวเล็กแทรกเข้าไปในโพรงปากของอีกคน สต๊อปจูบตอบกลับไปอย่างโหยหา จูบสุดท้ายดำเนินไปอย่างช้าๆ น้องสาวค่อยๆ ถอนจูบออก
“หนูต้องไปแล้วนะ..”
“ขอให้ชะ..โชคดี ฮึก..”
“รอหนูนะพี่”
“พี่จะรอ ฮึก..”
สมายด์ยิ้มสดใสให้คนตรงหน้าได้จดจำอีกครั้ง แล้วค่อยๆ หมุนตัวออกไปจากห้อง เมื่อแผ่นหลังเล็กลับสายตาไปคนในห้องก็เข่าทรุดลงมานั่งกับพื้นทันที ตามมาด้วยเสียงสะอื้นแสนเจ็บปวด ที่อีกคนไม่มีทางได้ยิน
สมายด์เดินออกมาก็เจอกับพี่ชายและแม่บ้าน “พี่ต้นหนูไปแล้วนะ” สมายด์พูดแล้วยิ้มให้ ต้นขยี้ตาเบาๆ เพราะไม่อยากร้องไห้ในเวลานี้
“เออตั้งใจเรียนนะเด็กยิ้ม กลับมาเดี๋ยวพี่จะพาไปเที่ยวรอบโลกเลย”
ต้นพูดแล้วยิ้มกว้าง สวมกอดน้องสาวตัวเล็ก มือหนาลูบหัวเบาๆ เสียงอีกเสียงก็ดังขึ้นมา “โชคดีนะคะคุณหนู” สมายด์หันไปขานรับกับเสียงนั้น แล้วโบกมือหยอยๆ ให้คนทั้งสอง
“บ้ายบาย..”
เมื่อเดินลงไปจนถึงหน้าบ้าน รถบีเอ็มสีดำเงาก็จอดรออยู่แล้ว คนขับรถผายมือให้เจ้านายเข้าไปในรถ แต่เสียงใสดังขึ้นมาก่อน “สมายด์!!” คนเจ้าของชื่อหันไปตามเสียงเรียก
“พี่เฟรม” สมายด์ขานชื่อคนตรงหน้าเบาๆ แล้วเข้าไปสวมกอดอย่างหลวมๆ
“พี่เสียใจอ่ะ ตั้งหกปีเลยหรอ”
“อื้ม แล้ว..”
“เรื่องพี่ต๊อปไม่ต้องห่วงนะ พี่จะดูแลให้ รีบเรียนให้จบก่อนนะจะได้กลับมาเที่ยวกัน”
เฟรมพูดร่ายยาว เสียงสนทนาเล็กๆ ก็ค่อยๆ เงียบลงพร้อมกับเสียงเครื่องยนต์ของรถที่เคลื่อนออกไปจากคฤหาสน์หลังใหญ่มุ่งสู่สนามบิน
“คุณหนูครับ ขอโทรศัพท์ของคุณหนูด้วยครับ”
เสียงเลขาคนสนิท วินัย..ดังขึ้น สมายด์ก็ส่งมือถือไปอย่างว่าง่าย มือบางหยิบตุ๊กตาสีแดงขนปุย จมูกสีเหลืองตาโต ที่เด็กๆ ชอบเรียกมันว่า เอลโม่ ร่างบางยิ้มให้กับตุ๊กตา ถึงว่าตอนกอดกับพี่สาวถึงรู้สึกมีอะไรอยู่ในกระเป๋าของเธอ
“รับนี้ไว้ด้วยนะครับ”
สมายด์หันไปตามเสียงเรียกพลางหยิบกล่องสี่เหลี่ยมที่บรรจุสิ่งที่ใครๆ ก็อยากได้ ..iphone 4s.. สิ่งที่ติดมาข้างกล่อง ..ซิมโทรศัพท์เบอร์ใหม่ สมายด์ทำหน้าเซ็งเล็กน้อย
..นี่กะจะไม่ให้ติดต่อกันเลยใช่มั้ยละเนี่ย..
ห้องสต๊อป
“ไอ้ต๊อปหยุดร้องเหอะ โอ๋เอ๋ๆ”
“ฮึกฮืออ..”
“พี่ต๊อป หยุดร้องน้าเฟรมอยู่นี่แล้ว ถ้าสมายด์รู้ว่าพี่ร้องไห้แบบนี้ สมายด์คงเสียใจแน่ๆ เลย”
ต้นพยายามปลอบน้องสาวที่กำลังร้องไห้เหมือนเด็กที่หลงทางกับแม่ พูดถึงแม่ของเขา แอบไปเที่ยวตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะ ซึ่งไม่มีใครจะปลอบสต๊อปได้ดีไปกว่าแม่ แต่ก็ยังมีเฟรม น้องสาวข้างบ้านที่เมื่อคืนเขาขอร้องให้มาช่วยปลอบสต๊อปอีกแรง คือเขาปลอบคนไม่เป็นเลยน่ะสิ!! ตาคมเหลือบไปเห็นไอโฟนที่ตั้งอยู่บนหัวเตียง เขาหยิบมันมาแล้วกลับมานั่งที่เดิม มือหนากดเลื่อนหาใครบางคน เมื่อโทรติดก็เปิดลำโพงให้ทุกคนได้ยิน
“ฮัลโหลนี่น้องโดมใช่มั้ย?”
(ใช่คร้าบ นี่ใครเอ่ย)
“พี่ต้น พี่ของไอ้ต๊อปมัน จำได้เปล่าๆ”
(อ๋ออออ พี่ต้นคิ้วหน้าๆ ปากกว้างๆ จมูกใหญ่ๆ ใช่มั้ยครับ?)
“เออออนั่นแหละ -__- โดมเห็นเคยบอกว่ามีน้องสาวอยู่เชียงใหม่ใช่มั้ย?”
(หมายถึงไอ้ซิลวี่อ่ะหรอ?)
“ไม่รู้อ่ะ สักคนนึงแหละ อยู่เชียงใหม่ใช่มั้ย?”
(ครับผม กำลังขึ้นม.5 แล้วปีนี้ พี่ต้นมีไรเปล่า?)
“ดีเลย คือน้องสาวพี่อีกคนย้ายไปเชียงใหม่ ไปอยู่โรงเรียนxxx ทีนี้อยากให้น้องของโดม ซิลวี่ซิลเว่อร์ไรเนี่ย มาช่วยอยู่เป็นเพื่อนน้องพี่หน่อย อยู่ม.5 เหมือนกัน นะนะช่วยพี่หน่อย”
(ได้คร้าบ เดี๋ยวผมโทรบอกน้องให้)
“เดี่ยวชื่อ รูปพี่จะส่งข้อความไปให้นะ ขอบคุณมากโดม เดี๋ยวพี่จะไปอุดหนุนบ่อยๆ” ต้นพูดแล้ววางสายไป พลางหันไปหาน้องสาวที่น้ำตาเริ่มแห้งแล้ว
“ได้ยินแล้วใช่มั้ย ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก แกรีบเรียนให้จบก่อนดีกว่า”
ไรท์มาทุกตอนเลยดีกว่า รู้สึกว่า.. 55555
เห็นมั้ย มาม่าแค่นี้เองงงงงง โห่วๆ
ไรท์หมายถึงมาม่าของหยุดยิ้ม หมดแล้ววว
แต่!! มีมาม่าของเฟรมอีกด้วยนะเออ
และอีกบางช่วงบางตอนเท่านั้น ครุคริ
รักรีด ทั้งเงาและไม่เงา <3
ความคิดเห็น