คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : 'นางฟ้าของผม'
ตอนที่ 2 'นางฟ้าของผม'
“แจจุงเราแลกที่กันนะ” อยู่ๆจุนซูก็พูดกับแจจุงด้วยประโยคนี้
‘
ทำไม
’ แจจุงลากดินสอลงบนเศษกระดาษแล้วส่งให้จุนซู
“เถอะน่า ขอแค่วันนี้ก็ได้ น้า น้า แจจุง”
คิมแจจุงขมวดคิ้วก่อนยื่นกระดาษที่เขียนคำว่า ‘
ก็ได้ แลกกันตลอดเลยก็ได้ เพราะฉันไม่ชอบนั่งข้างหน้าต่างอยู่แล้ว
’
พออ่านจบจุนซูก็ยิ้มกว้างด้วยความดีใจก่อนจะโผเข้ากอดแจจุงแถมยังรัดคอซะแน่นทำเอาหน้าขาวๆเริ่มเขียวคล้ำ
“คิมจุนซูดีใจมากหรือจ๊ะ บอกครูได้ไหมว่าเรื่อง” อาจารย์สาวประจำชั้นห้อง 4-A ถาม
“ปละ...เปล่าครับ”
“ถ้างั้นก็เลิกรัดคอเพื่อนได้แล้วนะ ดูสิหน้าเขียวหมด” อาจารย์ว่าพลางยิ้มก่อนเดินไปที่โต๊ะของยูดองเจที่กำลังหลับฝันหวานเป็นรายต่อไป
หลังจากที่เมื่อวานทางโรงเรียนไม่ได้มีการเรียนการสอนในคาบบ่ายซึ่งเป็นคาบวิชาชมรม เพื่อให้นักเรียนได้มีเวลาในการเลือกชมรม วันนี้ก็ได้มีการเรียนตามปกติ
สถาบันโอจุงแผนกมัธยมมีชมรมให้เลือกอยู่มากมายเช่น ชมรมกีฬา ชมรมหนังสือพิมพ์ ชมรมคนว่างาน และอีกสารพัด แต่สองหนุ่มของเรา คิมแจจุง และคิมจุนซู กลับเลือกชมรมคหกรรมที่ตั้งแต่ก่อตั้งมามีผู้ชายเลือกลงแค่สามคนเท่านั้น
“อื้อ...อื้อ...อื้อ” แจจุงส่งเสียงเรียกในลำคอ มือก็เขย่าแขนของจุนซูใหญ่ พอเด็กหนุ่มผมแดงหันกลับมา กระดาษที่เขียนข้อความไว้ว่า ‘
นายมัวเหม่ออะไร คุ้กกี้จะไหม้แล้วนะ
’ ก็ถูกส่งไปให้
“หา” จุนซูอุทานอย่างตกใจก่อนจะรีบกระวีกระวาดหยิบคุ้กกี้ที่สุขพอดี...เอ่อ...อันที่จริงก็เกรียมหน่อยๆ ออกจากเตาเจ้าคุ้กกี้วานิลลาสีนวลชิ้นน้อยๆ ก็ถูกจัดเรียงใส่ถุงเพื่อนำไปขาย
‘เป้าหมายของเราคือเหล่านักกีฬาที่อดโซและโหยหิว ดังนั้นทุกคนต้องขายให้หมด ห้ามเหลือแม้แต่เศษเสี้ยวธุลี (เวอร์ไปหน่อย)’ นี่คือคำพูดของพี่ทายอน
ด้วยเหตุฉะนี้สมาชิกชมรมคหกรรมจำนวน 59 คน (ไม่รวมพี่ม. 6 ที่นั่งเล่นไพ่นกกระจอกรอน้องๆ) ต้องต้องระหกระเหินไปตามจุดต่างๆของโรงเรียนเพื่อขายคุ้กกี้ให้หมด
การขายขนมแบ่งออกเป็นกลุ่มๆ สองคนบ้าง สามคนบ้างแล้วแต่สมัครใจ ส่วนแจจุงกับจุนซูก็ได้จับกลุ่มกับรุ่นน้องม. 2 อีกคนที่ชื่อ โชมินจี
มินจีเป็นคนมีอัธยาสัยดี ถึงแม่ว่าจะขี้อายและแปลกๆไปซักหน่อย แต่ถือว่าเป็นรุ่นน้องที่น่าคบคนนึง
หลังจากที่ทั้งสามรับถาดขนมมาแล้วจุนซูก็รีบเดินนำจ้ำอ้าวไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักแจจุงก็ได้รู้ว่าเป้าหมายของจุนซูก็คือสนามบาสข้างอาคารคหกรรมนั่นเอง
“มินจี พี่ฝากถือถาดแป๊ปนึงนะ” จุนซูพูดขณะยื่นถาดสีเงินให้มินจี พร้อมกับหยิบถุงคุ้กกี้ที่ตัวเองบรรจงห่ออย่างดีกว่าถุงอื่นๆ แถมยังผูกริบบิ้นซะด้วยสิ ออกมาจากถาด แล้วดยนเงินใส่กระป๋องตามจำนวนขนมเป๊ะ
“แจจุงมาด้วยกันหน่อยได้ไหม” ไม่รอคำตอบจุนซูก็ลากข้อมือบางให้ตามมาด้วย หนุ่มน้อยเดินลัดตัดสนามไปยังห้องพักนักกีฬา มองซ้ายมองขวาหาอะไรซักอย่าง พอเจอปุ๊ปก็เดินตรงไปทางนั้นทันที
“ชางมินครับ” จุนซูเรียกคนที่แจจุงคิดว่าเป็นรุ่นพี่คนหนึ่งที่กำลังซับเหงื่อด้วยผ้าขนหนูสีขาว
ชางมินที่จุนซูเรียกนั้นเป็นหนุ่มร่างสูงโปร่ง หน้าตาจัดว่าดีใช้ได้ ผิวสีแทน หุ่นล่ำบึกแบบนักกีฬา ผมสีน้ำตาลเข้ากับสีผิว
ชางมินที่กำลังหงุหงิดเต็มกำลัง เพราะเมื่อกี้นี้เขาพึ่งจะไล่พวกสามๆที่มาส่งเสียงวี้ดว้ายน่ารำคาญทั้งตอนเขาแข่ง ทั้งตอนเขาพัก จนวันนี้เสียสมาธิเกือบจะเล่นแพ้อยู่แล้วได้สำเร็จ เลยหันมากะจะตวาดใส่บุคคลผู้เคราะห์ร้ายทั้งสองแทน แต่เมื่อหันมาคำพูดทุกคำก็ถูกกลืนลงคอไปจนหมดสิ้น
เพราะอะไรน่ะเหรอ? เพราะหนุ่มน้อยสองคนน่ารักออกปานนี้ แถมหนึ่งในนั้นยังเป็น...
คิ้วที่ขมวดเป็นปมก็คลายออก หน้าที่บึ้งตึงก็เปลี่ยนเคลิ้มฝัน
“มีอะไรเหรอครับ” ชางมินถามพยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่นด้วยความเขิน
จุนซูไม่พูดอะไรเพียงแต่ยื่นถุงคุ้กกี้ไปให้ ชางมินรับมา มือทั้งสองสัมผัสกันนิดหน่อย แต่นั่นก็ทำเอาหน้าขาวๆแดงเถือกเกือบจะกลืนกับสีผมเลยทีเดียว
พอยื่นให้เสร็กก็ยืนทำหน้าเป็นสัญญาณไฟแดงอยู่ครู่นึงก่อนจะนึกขึ้นมาได้รีบลากข้อมือแจจุงวิ่งปรู๊ดออกไป ทิ้งไว้แต่ชางมินที่นั่งคิดอย่างเสียดาย...ว้าแย่จังนางฟ้าของผม (เป็นของนายตั้งแต่เมื่อไหร่) ไปซะแล้ว ยังไม่ทันได้รู้จักกันเลย
“นี่เด็กสองคนเมื่อกี้นี้ใคร นายรู้จักม่ะ” ชางมินหันไปสะกิดเพื่อนหนุ่ม ชอยดองวุค
“บ้าเหรอ นั่นรุ่นพี่เฟ้ย อยู่ม.สี่ ชื่อคิมจุนซู คนที่เป็นหนุ่มน้อยน่ารักประจำแผนกเราเมื่อปีที่แล้วไง”
“อ้าวรุ่นพี่หรอ เห็นตัวเล็กๆ แล้วอีกคนล่ะ คนที่ น่ารักๆ ชื่อไร”
“อ๋อนั่น คิมแจจุง อยู่ม. 4 เหมือนกัน เป็นเด็กโครงการพิเศษน่ารักดี แต่เสียดายเป็นใบ้ว่ะ”
“คิมแจจุงหรอ” ชางมินทวนชื่อในลำคอ พลางคิดถึงหน้านางฟ้าของเขา ตัวเล็กๆ ตาตี่ๆ แก้มป่องๆ แค่มือแตะกันนิดหน่อยก็หน้าแดงเถือกแล้ว ในที่สุดก็เจอแล้ว ‘นางฟ้าของผม’
Special (สะกดอย่างนี้รึเปล่าหว่า): ความแปลกของมินจี
ทางฝ่ายแจจุงกับจุนซูที่เดินกลับมาหามินจีก็ต้องอึ้งเพราะพบสาวน้อยยืนอยู่คนเดียวถาดขนมสามใบว่างเปล่า แถมหน้าเจ้าหล่อนยังเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา
“เกิดอะไรขึ้น” จุนซูถามอย่างตกใจ
“ฮึกๆ...โฮโฮ...แง้...” สาวน้อยไม่ตอแต่กลับร้องไห้ ลำบากแจจุงกับจุนซูต้องนั่งโอ๋นั่งปลอบ พอสาวเจ้าสงบแล้วถึงเริ่มเล่า
“คือตอนแรก ตอนที่พี่จุนซูกับพี่แจจุงเดินออกไป มินจีก็ยืนรอบอยู่คนเดียว แล้วเสร็จแล้วก็มีใครก็ไม่รู้ห้าคน เดินมาล้อมมินจี มินจีกลัวมากเลย แล้วเสร็จแล้วเค้าก็อ้าปากถามมินจีว่า มารอใคร มินจีกำลังจะตอบ แต่ยังไม่ได้ตอบน้า เขาก็ถามอีกว่า แล้วนี่ขนมใครเอ่ย มินจีก็ตอบว่าของมินจีหนึ่งถาด ของพี่แจจุงหนึ่งถาด แล้วก็ของพี่จุนซูอีกหนึ่งถาด แล้วเค้าก็พูดอีกว่า เอามาให้ใครน่ากินจัง มินจีกำลังจะตอบว่าไม่ได้ให้ใครแต่เอามาขาย แต่ยังไม่ได้ตอบเลยก็มีคนเยอะแยะ เยอะมากเดินออกมาจากห้องตรงโน้นมาล้อมมินจี หนึ่งในนั้นคนที่ตัวสูงๆสูงมากก็บอกว่า ว้าวเอามาเลี้ยงหรอขอบคุณมากเลยแล้วคนนั้นก็หยิบขนมไปสองห่อ หลังจากนั้นที่เหลือก็มาหยิบขนมไปจากถาด มินจีก็พยายามอธิบายแล้ว ว่าไม่ใช่ ไม่ใช่ มินจีไม่ได้เอามาเลี้ยง มินจีเอามาขาย แต่ไม่มีใครฟัง มารู้ตัวอีกที่เขาก็หายกันไปหมดพร้อมขนมแล้วอ่ะ มินจีไม่รู้จะทำไงดี กลัวพี่แจจุงกับพี่จุนซูโกรธก็เลยนั่งร้องไห้” มินจีอธิบายให้ฟัง
ดูสิครับประโยคอธิบายของคุณเธอยาวเป็นวา ถ้าไม่ตั้งใจฟังจริง อย่างหวังว่าจะเข้าใจเลย แล้วอย่างนี้จะไปอธิบายให้ใครฟังได้ มิน่าล่ะ ขนมถึงโดนหยิบไปหมด
นี่ไงครับความแปลกของมินจี เห็นรึยังครับทุกคน
ความคิดเห็น