ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    !!!^ฟิคหัวขโมยแห่งบารามอส (*รุ่น0ลูก*) yaoi^!!!

    ลำดับตอนที่ #7 : ปิดฉากเสียที

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ค. 49


              ทันทีที่ร่างของหัวหน้าชั้นปีหนึ่งทั้งสามของป้อมอัศวินที่พร้อมใจกันตื่นสายแถมยังตาคล้ำเป็นหมีแพนด้าซะด้วยเดินเข้ามาก็ได้รับ เสียงโห่จากชาวป้อมอัศวินก็ตามมาทันที

                แหมข่าวจากไอ้สามคนนั่นนี่ตรงจริงๆ เสียงเอลโด่นักดาบจากเวนอลดังขึ้น

                ข่าวอะไร เควินถามอย่างไม่สบอารมณ์

                ก็...ข่าวที่พวกนายสามคนมีอะไร อะไรกันไง เอ็ดฝาแฝดของเอลโด่เสริม

                มีอะไรอะไรหมายความว่าไงฟ่ะ เควินถามอีกอย่างไม่เข้าใจส่วนรูนกับเคสที่เข้าใจความหมายดีก็ยืนหน้าแดงทำอะไรไม่ถูก

                ก็คือสิ่งที่แกทำกับผู้หญิงที่ไม่ใช่แม่ ไม่ใช่พี่ ไม่ใช่น้องบนเตียงไง เล็กซิสไอ้นักบวชที่ทำตัวไม่สมฉายาเอ่ย ตอนนี้เควินเข้าใจกระจ่างแจ้งแล้ว

                ไอ้เวรต้นข่าวมาจากใครว่ะ เควินกระชากคอเสื้อวิลจอมแพทย์จากเอเธนส์มาถาม วิลไม่ตอบแต่ชี้ไปยังสามตัวต้นเหตุ

                โวเรน เดอะ ปรินซ์ ออฟ เจมิไน, กราเวีย เดอะ พริสซ์ ออฟ กิลดิเรก และซีน เดอะ คิลเลอร์ ออฟ ซาเรส

                ก็แหมเมื่อคืนได้ยินเสียงพวกนายร้องครวญคราง พอตอนเช้าก็ตื่นสายแถมตาคล้ำเหมือนคนอดหลับอดนอนแล้วจะให้คิดว่าไง ถ้าไม่ใช่มีอะไรอะไรกัน โวเรนว่า

                หุบปากไปเลยไอ้โวเรน เควินตะโกน

                ก็มันคือความจริงไม่ใช่หรอ หรือนายจะเถียง

                มันคือประโยคความเท็จโว้ย สามเสียงประสานกันอีกครั้ง

     

     

            หลังจากที่เควิน เคส และรูนนอนคิดมาทั้งคืนแล้วก็ได้ผลดังนี้

                เควิน: ผู้ชายกับผู้ชาย นักฆ่ากับเจ้าชาย มันเป็นไปไม่ได้ หน้าที่ต้องมาก่อนหัวใจ ดังนั้นตัดใจซะก่อนจะถลำลึกไปกว่านี้

                เคส: เควินเริ่มมีใจให้เราแล้วแน่นอน ดังนั้นสารภาพรักไปซะ

                รูน: เควินชอบเคส เคสชอบเควิน เราคือส่วนเกินเป็นหมาหัวเน่า ตัดใจเสียดีกว่า

                เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วเคสจึงไปสารภาพรักกับเควินแต่ผลที่ได้รับก็คือ

                นายพูดบ้าอะไรเราเป็นเพื่อนกันนะ เสียงเควินดังขึ้นแทบจะในทันที

                ไม่ได้บ้า ชั้นแสดงออกโจ่งแจ้งขนาดนี้แต่นายกลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย นายต่างหากหล่ะที่บ้า เคสพูดออกมาทั้งน้ำตา

                อย่าพึ่งทะเลาะกันดิ ค่อยพูดค่อยจากันก็ได้ รูนแทรกขึ้น

                นายไม่เกี่ยวอย่ายุ่ง สองเสียงแรกพูดประสานกัน

                ชั้นผิดใช่ไหมที่ห้าม ดีงั้นไม่ยุ่งแล้ว รูนตะโกนลั่นด้วยความเดือดดาล ก่อนประตูห้องพักหัวหน้าชั้นปีหนึ่งจะเปิดออกแล้วปิดดัง ปัง! ใหญ่ทำเอาป้อมแทบพัง ส่วนอีกสองคนที่เหลือในห้องก็ยังทะเลาะกันไม่เลิก นี่ดีนะที่วันนี้เป็นวันหยุด ไม่งั้นไม่เป็นอันเรียนแน่

                โธ่เว้ย ไม่พูดด้วยแล้ว

                แล้วเสียงปิดประตูที่ทำเอาป้อมสะเทือนก็ตามมาอีกเป็นระลอกที่สอง

     

     

            นี่เคสกินอะไรหน่อยไหม

                ............

                นี่ นายจะไม่ลุกไปไหนเลยหรอ

                ............

                อย่าเอาแต่เงียบสิ

            ............

            ไม่เมื่อยบ้างหรอ

                ............

                ง่วงไหม

                ............

                ทุกคำถามที่มาจากรูน ซิมนาเรส กลับได้รับแต่ควมเงียบจากอีกฝ่ายเป็นคำตอบ        เฮ้อ มันดึกแล้วนะ ไอ้เควินมันไม่กลับมาหรอก

                ประโยคสุดท้ายนี้เป็นประโยคที่สร้างความสะเทือนใจให้แก่ร่างเล็กอยู่โข พลันเคสก็เอนตัวเข้าซบอกหนาแล้วเริ่มร้องไห้ รูนไม่รู้จะทำไงดีได้แต่กอดปลอบจนมันเหนื่อยหลับไป

                ทางฝ่ายเควินก็มีอาการไม่แตกต่างกันซักเท่าไหร่นัก ใช่ว่าเขาจะไม่ชอบเคส เขาชอบมัน เขารักมัน แต่ด้วยฐานะที่เป็นถึงเจ้าชายแห่งคาโนวาล การมีสนมเป็นนักฆ่าแถมยังเป็นนักฆ่าผู้ชายอีกต่างหากมันไม่เหมาะสม

                ตอนเช้าวันรุ่งขึ้น ในห้องรวมของชั้นปีหนึ่ง เล่าเด็กปีหนึ่งของป้อมอัศวินปีหนึ่งทั้ง 18 คน ที่กำลังนอนเอกขเนกบ้าง เล่นเกมส์บ้าง จับกลุ่มคุยกันบ้างก็ต้องเป็นอันยกเลิกกิจกรรมทั้งหมด เมื่อบุคคลทั้งสองก้าวเข้ามาในห้อง

                ทำไมแกทำอย่างนั้นว่ะ รูนเริ่ม

                ทำอะไร? เควินไม่ตอบแต่ถามกลับ

                รูนนิ่วหน้าแทบจะในทันที ทำอะไร? นายพูดออกมาได้ไง ก็เรื่องเมื่อคืนไง ทำไมนายปฏิเสธมัน

                ก็ไม่ชอบ จะให้ยอมรับรึไง เควินตอบหน้าตาย

                ไม่ชอบ แล้วที่นายทำไปหล่ะ มันคืออะไร

                ตอบแทนที่มันช่วยชีวิตชั้น

            เท่านั้นเองหรอ สิ่งที่นายทำไปทั้งหมดก็เพื่อตอบแทนมันเท่านั้นหรือ รูนตะคอกใส่หน้าเควิน

                ถ้าใช่แล้วทำไม นายจะเดือดร้อนเรื่องอะไร คนที่โมโหต้องเป็นไอ้เคสไม่ใช่นาย เควินว่าแล้วยิ้มเยาะ หรือว่านายชอบมัน

                เอ่อสิว่ะข้าชอบไอ้เคส แต่เคสดันชอบแก

                คำพูดของรูนทำเอาเควินอึ้ง พูดไม่ออกอยู่พักใหญ่

                แกจำที่แกสัญญาได้ไหมว่าจะไม่ทำเคสร้องไห้ ถ้าแกทำชั้นจะตั๋นหน้าแกเอง แต่การวิวาทกันโดยไม่ใช่การประลองถือว่าผิดกฏดังนั้นชั้นขอท้าแกประลองเควิน บ่ายโมงวันนี้ รูนออกปากท้า

                ได้ ถ้าชั้นชนะ แกก็ห้ามมายุ่งกับการตัดสินใจของชั้น แต่ถ้าชั้นแพ้แกจะทำอะก็เชิญ เควินโต้กลับอย่างไม่ยอมแพ้

     

     

                ในตอนบ่ายโมงสนามประลองคับคั่งไปด้วยผู้คนที่แทบจะเรียกได้ว่าขนมาทั้งโรงเรียน ก็มันน่าดูน้อยซะเมื่อไหร่หล่ะที่หัวหน้าชั้นปีสองคนจะมาสู้กันเอง เมื่อถึงเวลา เขตอาคมถูกกางเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองคนมาประจัญหน้ากัน เสียงระฆังดังเป็นสัญญาณว่าการต่อสู้เริ่มขึ้นแล้ว

                พ่อมดจากคาโนวาลเป็นฝ่ายแผงฤทธิ์ก่อน เสียงร่ายเวทแปลกๆดังก้องสะท้อนไปทั่ว แล้วก็ปรากฏสายฟ้าฟาดพุ่งตรงไปยังศัตรู

                ทางฝ่ายรูนก็ไม่น้อยหน้ารีบสร้างกำแพงดินขึ้นป้องกัน แล้วสวนกลับด้วยคาถาลม

                ทั้งสองสู้กันอยู่หลายชั่วโมง ยิ่งนานไปบาดแผลก็ยิ่งเพิ่ม แต่ยังไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้กัน

                สุดท้ายพ่อมดแห่งคาโนวาลก็ได้งัดเอาไพ่ตายมาใช้ มันคืออีกเวทย์บทที่เขาสามารถร่ายได้นอกจากสายฟ้า

                วีสกาย่า เสียงร่ายเวทย์ดังขึ้น กลิ่นหิมะอ่อนๆโชยมาก่อนจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆพายุหิมะพัดแรงขยายวงกว้าง ฝ่ายรูนที่เตรียมพร้อมไว้อยู่แล้วก็ร่ายเวทย์ลมขึ้นต้านสองพลังที่ยิ่งใหญ่มาปะทะกันจนเขตอาคมเริ่มร้าว เหล่าอาจารย์เห็นท่าไม่ดีจึงได้ประกาศหยุดการประลองว แต่ช้าไป เขตอาคมสลาย ทั่วทั้งเอดินเบิร์กเต็มไปด้วยหิมะ โชคยังดีที่อาจารย์แม่มดไหวตัวทัน สร้างอาคมป้องกันนักเรียนที่มาดูประลองได้อย่างทันท่วงที ไม่งั้น.......................................ไม่เหลือซาก

                ด้วยเหตุนี้ทางโรงเรียนพระราชาจึงได้ประกาศหยุดเรียนเป็นเวลาสองอาทิตย์ เพราะต้องเกณฑ์นักเรียนไปช่วยกันโกยหิมะ

                ส่วนสองตัวยุ่งและอีกหนึ่งตัวต้นเหตุก็กลับมาคืนดีกันอีกครั้ง และรูนก็ได้ใช้ความกล้าเข้าไปสารภาพรักกับเคส ซึ่งเคสที่ยืนดูการประลองอยู่ตลอดเวลาก็ไม่ปฏิเสธ ความสงบสุขและอบอุ่นก็กลับคืนสู่เอดินเบิร์กอีกครั้ง เย้!

    __________________________________________

    ความสงบสุขและอบอุ่นก็กลับคืนสู่เอดินเบิร์กอีกครั้ง เย้!รู้สึกม่ะ ว่าประโยคนี้มันดูปัญญาอ่อนยังไงก็ไม่รู้ เฮ้อ ยังไงก็อย่าลืมเมนท์ละกันน้าจ๊ะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×