อภินิหารไคร์ทา (ภาคจบ) ตอน ดวงดาวจากดินแดนแห่งศรัทธา - นิยาย อภินิหารไคร์ทา (ภาคจบ) ตอน ดวงดาวจากดินแดนแห่งศรัทธา : Dek-D.com - Writer
×

    อภินิหารไคร์ทา (ภาคจบ) ตอน ดวงดาวจากดินแดนแห่งศรัทธา

    บทสรุปของที่มาแห่งความรัก ความชิงชัง และความแค้น กำเนิดยังดินแดนที่แสนเหน็บหนาว แต่จบ ณ ดินแดนแห่งศรัทธาด้วยรักและให้อภัยกลางดวงใจที่เคยทุกข์ทรมาน....

    ผู้เข้าชมรวม

    3,335

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    8

    ผู้เข้าชมรวม


    3.33K

    ความคิดเห็น


    174

    คนติดตาม


    5
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  21 ก.พ. 54 / 12:33 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    อภินิหารไคร์ทา
    (ภาคจบ)
    ตอน.....ดวงดาวจากดินแดนแห่งศรัทธา

     

    ดาวดวงนั้น......สำหรับ
    บางคน.....คือ  ความรักและทุกอย่างในชีวิต
    บางคน.....คือ  ความทรงจำอันงดงามและไม่มีวันจางหาย
    แต่กับบางคน.....คือความรัก ความชิงชัง  และความแค้นแสนทรมาน


    บางตอนจากเนื้อเรื่อง

    หน้าหนาวนี่มืดเร็วจังนะ เขาพูดลอย ๆ ขึ้นมา ดาวอารยาคงปรากฏแล้ว เดินไปที่หน้าต่างมองหาดาวพระศุกร์ เห็นดาวดวงนั้นสุกสว่างสดใสอยู่เพียงดวงเดียว มาดูสิ หญ่าญ๋า เขาหันไปชวน แต่ต้องตกใจเมื่อเห็นอารยานั่งหน้าเบี้ยวแสดงอาการเจ็บปวดอยู่ที่พื้น เขาปราดเข้าไปหาเธอทันที ถามอย่างร้อนใจว่า

    หญ่าญ๋า เธอเป็นอะไรไป

    ฉัน....เจ็บที่ไหล่ขวา เธอบอกเสียงสั่น จากนั้นตัวเธอก็กระตุกกรีดร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส น่านนทีตกใจรีบประคองร่างเธอไว้

    ********************

    เขาเห็นภาพตอนเดินสวนกับเจ้าหญิงทอรุ้งยังถนนในพระราชวังสายลม วันนั้นหิมะโปรยปราย ดอกเฟโมรันบานสะพรั่ง เขาและนางต่างหันมาสบตากัน และเขาก็รู้ได้ในทันทีว่านางคือ ส่วนที่ขาดหายไปของเขา คือคนที่ตามหามาตลอดชีวิต ไม่มีรอยยิ้มจากเรียวปากสีชมพู แต่มีประกายสดใสอยู่ในดวงตาดำขลับของนาง มันทำให้เขาต้องมองตามหลังนางไป เสื้อคลุมสีขาวราวหิมะตัดกับผมดำยาวสลวย แล้วหัวใจของเขาก็ล่องลอยติดตามนางไปด้วย....เขาเห็นภาพตัวเองสารภาพรักกับเจ้าหญิงทอรุ้งยังริมทะเลสาบน้ำอุ่นด้วยดอกเฟโมรัน ดอกไม้ชนิดเดียวที่เขาสามารถหาได้ในขณะนั้น พอนางตอบรับรัก เขาก็โอบกอดนางไว้ด้วยความดีใจ รู้สึกว่าอากาศรอบตัวอุ่นขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ และเมื่อคราวที่เจ้าหญิงทอรุ้งลงมาเที่ยวเฌอ เขาแอบพานางไปนั่งชมความงามยามอาทิตย์อัสดงของกรุงลานเฌอบนเนินเฌองาม ทันทีที่ดาวอารยาปรากฏขึ้น นางชี้ให้เขาดู แล้วพูดว่า

    ดูสิ ดาวอารยางดงามจริง หากข้ามีลูกสาว ข้าจะให้ชื่อนางว่า อารยา

    เช่นนั้นเราคงต้องรีบเปิดเผยเรื่องของเราให้ทุกคนรู้ได้แล้ว เขาบอก

    เหตุใดต้องรีบร้อนด้วย นางสงสัย เขาจับมือนางขึ้นมากุมไว้ บอกนางว่า

    ข้ากลัวเหลือเกินว่าจะมีคนมาแย่งเจ้าไป เหมือนที่เจ้ากำลังกลัวอยู่ว่าจะูกส่งมาเป็นเจ้าสาวของเฌอ แรก ๆ ทางราชสำนักภูเมฆาอาจจะกีดกันเรา เพราะข้าไม่ใช่เจ้าชายแห่งเฌอ แต่หากวงศ์ธัญรู้เรื่องของเรา เขาจะไม่มีทางรับเจ้ามาเป็นเจ้าสาวเป็นอันขาด เจ้าหญิงภูเมฆาคนอื่นจะถูกเลือกแทนเจ้า แล้วเราก็จะได้แต่งงานกันในที่สุด ไม่ช้าเจ้าก็จะให้กำเนิดลูกสาวตัวน้อยหน้าตาน่ารักเหมือนเจ้าให้แก่ข้า ลูกสาวของเรา เจ้าหญิงอารยา....เจ้าหญิงอารยา ๆ ๆ


    ***********************

    น่านนทียกธนูขึ้น เล็งปลายลูกธนูไปยังหัวใจของเธอ แต่มือเขาสั่นและน้ำตาของความเจ็บปวดก็คลอเต็มสองตา

    อย่ายิง เรมินดา จักรพรรดิชาอันร้องห้าม ทำให้เขานึกถึงคำทำนายของกาเรียนที่เคยบอกว่า ลูกธนูจากไคร์ทาแห่งน้ำพุ่งผ่านหัวใจของเขากับน่านนที แท้จริงมันหมายถึง อารยาผู้เป็นดั่งดวงใจของเขาทั้งสอง

    เสียงตะโกนห้ามดังก้องห้อง มาลีร้องไห้วิงวอนจากด้านบนแทบขาดใน สุดท้ายน่านนทีก็จับธนูได้อย่างมั่นคง เฒ่าพิษหันไปมองเทวรูปแทน

    หลับตาเสีย มาริสา เฟโมรัน จักรพรรดิชาอันบอกหญิงสาวทั้งสองไม่อยากให้พวกนางเห็นภาพเจ็บปวดเกินกว่าจะจดจำ แต่คนที่เบิกตากว้างรอคอยช่วงสำคัญคือ จักรพรรดิธารากับเจนจิรา

    น่านนทีหลับตาลงไม่อยากมองรอยยิ้มและแววตาที่มีแต่ความรักของเธอ ใช้ใจมองเป้าหมาย พอได้ยินเสียงอารยาพูดออกมาว่า

    น้ำ ฉันรักเธอ

    ลูกธนูก็พุ่งออกไปพร้อมกับร้องห้ามของหลาย ๆ คนว่า

    อย่า ! !

    ลูกธนูดอกนั้นพุ่งไปอย่างรวดเร็วทะลุอกซ้ายของอารยาไปทะลุร่างนักโทษมินดาด้านหลังอีกสองคนและปักพนักเก้าอี้ก่อนจะจางหายไป เสียงกรีดร้องและร้องไห้โฮดังระงม

    *********************
             องค์เทพเจ้าส่งรอยยิ้มอันโอบอ้อมอารีให้บุตรของพระองค์ บุตรผู้รู้สำนึกถึงผิดชอบชั่วดีแล้ว บุตรผู้น่าสงสารที่นำพาจิตใจพลัดหลงอยู่ในความมืดมิดมาเนิ่นนาน บุตรผู้ต้องเดินทางไปสู่การชำระบาปให้จิตวิญญาณอันมืดหม่นของเขากลับมาขาวใสอีกครั้ง จักรพรรดิธาราได้ยื่นมือไปจับหัตถ์ของพระองค์ เมื่อเทพเจ้าดึงเขาขึ้น ระหว่างนั้น วิญญาณของเขาก็เปลี่ยนจากชายวัยกลางคนเป็นชายหนุ่ม เขาคืนสู่ความรู้สึกของการเป็นเจ้าชายธาราผู้เป็นที่รักอีกครั้ง

    **********************

    ณ ที่เดียวกันในอีกมิติ เมื่อประตูมิติหายไปเร็วกว่าปกติ ผู้นำสูงสุดทั้งสามก็รู้ว่าไม้แสงดาวหินในอีกฝั่งของมิติถูกดึงออกแล้ว จักรพรรดิราวินก้มยกดอกโคมไฟแล้วประคองจักรพรรดินีมาริสาขึ้นหลังม้าจากนั้นเขาก็ขึ้นควบตาม สั่งม้าพาออกจากป่า จักรพรรดิชาอันขึ้นควบม้าสีขาวของเขาเช่นกัน หันไปมองตรงความมืดที่ประตูมิติเคยเปิด พูดเบา ๆ ว่า

    ลาก่อน เจ้าปลาน้อย ลาก่อนดวงดาวผู้เป็นที่รัก



    (นิยายเรื่องนี้เขียนจบได้หลายปีแล้ว  เนื้อหาของนิยายเป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียน ณ เวลานั้น  จึงไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ทางการเมืองและสภาพสังคมของประเทศใดทั้งสิ้น)

    "ขออภัยที่ต้องลบเนื้อหานิยายออกเพราะภาคแรกกำลังตีพิมพ์กับ สนพ.ฮั๊นส์บุ๊คส์ ค่ะ"


    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น