ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ˋ SF -( the LEE Family | HAEEUN | )

    ลำดับตอนที่ #2 : SF -( the LEE Family | My Maid | ) 100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 605
      2
      26 ต.ค. 55



    ( fic ) SFˋA THOUSAND YEAR

    Autor : Khreegaimantian

    Story : My maid



    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

     

             

     

     Now baby you don't hang up
    So I can tell you what you need to know
    Baby I'm begging you just please don't go
    So I can tell you what you need to know

    ที่รัก อย่าวางสายเลยนะ
    ผมจะบอกให้ ถึงสิ่งที่คุณควรรู้เอาไว้
    ที่รัก ขอร้องล่ะ ได้โปรดอย่าจากผมไป
    ผมจะบอกในสิ่งที่คุณควรจะรู้เอาไว้......


     



     

              ฮยอกแจ เสื้อผ้าฉันซักหรือยัง?”

     

     

     

    กำลังจะซักครับ คุณทงเฮ

     

     

     

    ฮยอกแจ เสื้อใส่ไปงานฉันอยู่ไหน

     

     

     

    ผมแขวนไว้ให้หน้าตู้เสื้อผ้าแล้วครับคุณทงเฮ

     

     

     

    ฮยอกแจ ฝุ่นที่ราวบันไดยังมีอยู่เลย นายก็รู้ว่าฉันเป็นโรคภูมิแพ้ ฉันกลับมาทุกอย่างต้องเนี๊ยบ เข้าใจไหม?”

     

     

     

    ครับ คุณทงเฮ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ผมทิ้งตัวลงนอนหอบแฮ่กๆอยู่กับพื้น จะนอนบนโซฟาไม่ได้หรอกครับ เดี๋ยวคุณทงเฮกลับมาเห็นเข้าผมจะเดือดร้อน T^T  หลังจากที่ผมทำความสะอาดบ้านหลังเล็กๆแต่สุดแสนไฮโซของ คุณอีทงเฮ แบบทุกซอกทุกมุมเสร็จแล้ว จะบอกว่ามันโคตรจะเหนื่อย โคตรๆจะเหนื่อยเลยครับ อีตาทงเฮหน่ะเนี๊ยบมาก เนี๊ยบแบบเนี๊ยบทุกระเบียดนิ้ว แถมยังเป็นโรคภูมิแพ้อีกครับ มีฝุ่นโผล่มานิดเดียวอาจจะถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลเลยทีเดียว

     

     

     

    ส่วนผมหน่ะเหรอครับ ผมก็แค่ พ่อบ้าน ของคุณทงเฮเท่านั้นแหละครับ ที่ผมต้องยอมเขาทุกอย่างขนาดนี้เพราะว่าเงินเดือนที่สูงลิบ แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่ามันคุ้มกับที่เขากดขี่ข่มเหงผมหรือเปล่า

     

     

     

    วันนี้คุณทงเฮไปสังสรรค์กับเพื่อนครับ เขาเป็นไฮโซลูกเจ้าของธุรกิจชื่อดัง แต่ผมก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่องเขาเท่าไหร่หรอกครับ เพราะทุกครั้งที่เราคุยกันก็จะเป็นคุณทงเฮที่สั่งให้ผมทำนู่นทำนี่เสียมากกว่า ชีวิตผมมันน่าสงสารจริงๆครับ โดนทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ

     

     

     

    ผมเดินเข้ามาในห้องครัวเพื่อหาอะไรยาไส้ตัวเอง หลังจากที่เสียพลังงานไปเยอะมากจากการทำงานบ้านให้คุณชายผู้เอาแต่ใจ จากนั้นก็เดินเข้าห้องของตัวเอง ยังโชคดีครับที่คุณทงเฮยังให้ที่อยู่และข้าวให้ผมกิน ผมปิดไฟห้องตัวเองก่อนจะเดินไปเข้าสู่ห้วงนิทรา คืนนี้คุณทงเฮน่าจะกลับดึก เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องรอ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ฮยอกแจ......

     

     

    ..............

     

     

    ฮยอกแจ!!!”

     

     

     

    ......................

     

     

     

    ฮยอกแจ!!!!!!!!!!!!!!!”

     

     

     

    ครับ ครับ ผมตาลีตาเหลือกลุกขึ้นเมื่อได้ยินเสียงของคุณทงเฮเรียกผมบ้านแทบแตก ตอนนี้นาฬิกาหัวเตียงบอกเวลาตี 3 ให้ตายสิ คุณทงเฮเป็นอะไรหรือเปล่า? คิดแค่นั้นผมก็รีบวิ่งลงไปด้านล่างเพราะกลัวคุณทงเฮจะโมโหมากกว่านี้แล้วผมจะเดือดร้อน T^T

     

     

     

    คุณทงเฮเป็นอะไรหรือเปล่าครับผมถามด้วยสีหน้าตื่นสุดๆ คุณทงเฮนั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าว แถมหน้าก็ยังแดงก่ำไปจนถึงคออีก หรือว่า...คุณทงเฮจะไม่สบาย? ในมือก็มีกระป๋องเบียร์อยู่ แต่เอ๋ คนไม่สบายเขาดื่มเบียร์กันด้วยเหรอ *เอียงคอมอง*

     

     

     

    นั่ง!!!!” เขาสั่งเสียงเฉียบอีกแล้ว คุณทงเฮเวลาโกรธนี่น่ากลัวจังแฮะ ผมทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามกับคุณทงเฮ เอาศอกเท้าโต๊ะมองคุณทงเฮนิ่งๆไม่กล้าพูดอะไรออกไป เดี๋ยวจะโดนตะคอกอีก

     

     

     

    จนถึงสว่าง...คุณทงเฮฟุบหลับไปกับโต๊ะ รอบตัวก็มีกระป๋องเบียร์มากมาย ปรกติคุณทงเฮชอบดื่มเบียร์อยู่แล้วล่ะครับ แต่ผมไม่รู้ว่าทำไมคืนนี้ต้องให้ผมมานั่งเป็นเพื่อนเขาด้วย เขาคงจะมีเรื่องไม่สบายใจจริงๆนั่นแหละครับ

     

     

    ผมพยายามแบกคุณทงเฮไปห้องนอนของเขาอย่างยากลำบาก ก็ตัวคุณทงเฮนี่เบาน้อยเสียที่ไหนล่ะครับ ตัวมีแต่มัดกล้ามแบบนี้ คิดว่าตัวเองเบานักหรือไงต้องให้คนอื่นมาแบกแบบนี้ พอมาถึงห้องของคุณทงเฮผมก็ทุ่มเขาลงบนเตียงทันที และนั่นก็ทำให้เขาส่งเสียงครางในลำคอออกมาเล็กน้อย แต่ก็ขดตัวหลับเป็นตายอีกครั้ง กลิ่นแอลกอฮอล์ที่เหม็นหึ่งจนแสบจมูกไปหมดของเขาทำให้ผมต้องเดินเข้าห้องน้ำไปเอาอุปกรณ์มาเช็ดตัวเขาอย่างอดไม่ได้

     


     

    เดี๋ยวจะหาว่าผมเป็นพ่อบ้านที่ไม่ดี


     

     

    คุณทงเฮถอดเสื้อหน่อยครับ ไร้เสียงตอบรับ จะว่าไปก็เหมือนผมพูดกับตัวเองมากกว่า เพราะเขาหน่ะเอาแต่หลับแบบนี้

     


     

    ผมพยายามถอดเสื้อผ้าของเขาออกอย่างยากลำบาก จะได้ง่ายต่อการเช็ดตัว จนตอนนี้ตัวเขาเหลือแค่กางเกงยีนส์เอวต่ำที่โชว์ขอบบ๊อกเซอร์ราคาแพงเอาไว้เท่านั้น แผงอกหนาที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของเขาผมพึ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก ให้ตายสิ ทำไมผมถึงรู้สึกร้อนขนาดนี้นะ

     


     

    ร้อนจัง


     

     

    ร้อนเหรอ? เห้ยยยยย ผมทำหน้าเหวอมองคนที่นอนอมยิ้มอยู่บนเตียง อะไรกัน? เขาไม่ได้หลับหรอกเหรอครับ? แล้วเขาก็ยังส่งรอยยิ้มกวนๆมาให้ผมด้วย ตอนนี้หัวใจผมเต้นรัวราวกับเด็กที่แอบขโมยดูหนังสือโป๊แล้วโดนจับได้


     

     

    ค...คุณทงเฮ ม..ไม่ได้หลับหรอกเหรอครับ?

     


     

    จะทำอะไรก็รีบๆทำสิ

     


     

    เอ่อ


     

     

    ร้อนไม่ใช่หรือไง?


     

     

    “O[ ]O!!” ยังไม่ทันที่ผมจะได้ทักท้วงอะไรออกไป ผมก็โดนแรงควายของคุณทงเฮรวบให้ไปนอนราบกับเตียงของเขาเสียแล้ว แล้วที่สำคัญ....เขาคร่อมผมอยู่ครับ TOT

     


     

    ค...คุณทงเฮ จะทำอะไรครับ? ผมหอบหายใจมองเขาด้วยสายตาหวาดๆ ถึงผมจะโง่ เอ่อ...ซื้อบื้อ แต่ผมก็ไม่บื้อพอที่จะไม่รู้ว่าตอนนี้ผมกำลังตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายนะครับ

     


     

    ถ้าร้อน.........ก็ต้องถอดเสื้อสิไม่ว่าเปล่า มือของเขาก็ถอดเสื้อให้ผมเสื้อเสร็จสรรพ เท่านั้นยังไม่พอ เขายังใช้ปลายนิ้วไล้ไปตามขอบบ๊อกเซอร์ของผมด้วยครับ

     


     

    คุณทงเฮ คุณทงเฮปล่อยผมนะครับ ผมเริ่มบิดเร่าเมื่อริมฝีปากของเขาเริ่มประทับไปทั่วตัว ทุกๆที่ที่ริมฝีปากของเขาแตะลงมามันเหมือนกับเปลวเพลงที่ทำให้ผมยิ่งร้อนรุ่มยังไงอย่างงั้น ผมกัดริมฝีปากตัวเองเพื่อกักเก็บอารมณ์ ให้ตายจริงๆ ผมกับคุณทงเฮหน่ะเหรอ?

     


     

    Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

     


     

    คุณทงเฮ คุณทงเฮโทรศัพท์ผมทักเขาเพื่อหันเหความสนใจ แต่มันไม่ได้ผล มันไม่ทำให้เขาหยุดการกระทำลงเลย

     


     

    ช่างประไร

     


     

    Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

     


     

    “Damn!!!!!” เขาสบทก่อนจะคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมารับอย่างหัวเสีย

     


     

    โทรมาหาพ่อมึงเหรอครับ? เขาเริ่มคุยกับคนในสาย ในขณะที่เขาก็ยืนเท้าสะเอวมองผมอย่างไม่วางตา จนผมต้องมุดตัวเข้าไปอยู่ในผ้าห่มเพื่อปกปิดความอาย ในใจก็ภาวนาให้คนปลายสายพาคุณทงเฮออกไปจากที่นี่เร็วๆ


     

     

    อะไรวะ เรื่องห่าแค่นี้ทำไมต้องให้กูไป เสียงคุณทงเฮทะเลาะกับคนในโทรศัพท์ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ดูเขาจะอารมณ์เสียไม่น้อยที่โดนขัดใจแบบนี้ ก็บอกแล้วว่าคุณทงเฮหน่ะเอาแต่ใจสุดๆ

     


     

    ว่าแต่ คุณทงเฮที่เมาปลิ้นจนผมต้องแบกขึ้นมาบนห้องเมื่อกี้นี่หายไปไหน?

     


     

    เออๆ เดี๋ยวกูไป ถ้ามันไม่สำคัญจริงกูเอามึงตายแน่ คุณทงเฮเดินไปหยิบเสื้อเชิร์ทตัวหนึ่งขึ้นมาพาดบ่าทำท่าจะออกไปข้างนอก แต่ก็ไม่วายเหลียวมามองผมอีกอยู่ดี

     


     

    ถ้ากลับมาไม่เจอคงรู้นะว่าจะเจออะไร

     


     

     

     

     

     

     

    ครับ คุณทงเฮ

     

     

     









     

    ฮือออออ ผมอยากจะกัดลิ้นตัวเองตายจริงๆที่ขานรับแบบนั้นออกไป ก็คนมันชิน บวกกับความน่ากลัวของคุณทงเฮด้วยครับ ผมเป็นคนไม่สู้คนครับ

     


     

    ฮยอกแจอยากตายยยยยยยยยยยยยยย ฮือออออออออออออ


     

     

    ตอนนี่คุณทงเฮออกไปข้างนอกพักใหญ่แล้วครับ แล้วผมก็ใส่เสื้อผ้าแล้วเหมือนกัน ผมเดินเข้าไปในห้องครัวเพื่อหาอะไรทาน เมื่อรู้สึกว่าท้องเริ่มร้องเพราะความหิว แต่ให้ตายสิ ในครัวไม่เหลืออะไรแล้วนี่ จะมีก็แค่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเท่านั้นที่พอจะยาไส้ผมได้

     


     

    มันยาไส้ผมได้ แต่คุณทงเฮล่ะครับ? อย่างคุณทงเฮกินไม่ได้หรอก

     


     

    คุณทงเฮ ผมออกไปซื้อของนะครับ เดี๋ยวผมกลับมา แปปเดียวนะ พูดไปงั้นแหละ ก็รู้ว่าคุณทงเฮไม่อยู่ แต่ขออนุญาตเอาไว้มันอุ่นใจกว่านี่นา

     


     

     

     

     

     



     

    อ้าว ฮยอกแจ ผมหันไปตามเสียงเรียก แล้วคนคนนั้นก็ทำให้ผมต้องเบิกตากว้าง ก็เขาเป็นเพื่อนเก่าสมัยมหาลัยของผมหน่ะสิครับ ไม่น่าเชื่อว่าจะได้มาเจอกันในซุปเปอร์มาเก็ตแบบนี้

     


     

    คิบอมมมมม ผมรีบวิ่งไปกระโดดกอดคอเขาทันทีด้วยความคิดถึง หมอนี่หน่ะเพื่อนรักของผมเลยนี่ครับ คิบอมยังน่ารักเหมือนเดิมเลย หล่อด้วย


     

     

    คิดถึงจังเลยฮยอกแจ หายเงียบไปเลยนะ ปะ ไปนั่งคุยกันในร้านกาแฟดีกว่า

     


     

    อื้มม ผมพยักหน้าจนหัวแทบหลุด ก็เพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนานเป็นใครก็ต้องคิดถึง อยาดจะคุยด้วยนานๆ แต่ผมลืมอะไรไปอย่างนึงรึปล่าวนะ? นึกไม่ออก ช่างมันเถอะ...


     

     

     

     

     

     

     

     

    Donghae’s part


     

    นั่น! นี่ผมตาฝาดไปหรือเปล่า เมดคนสวยของผม ผมหมายถึงอีฮยอกแจหน่ะ เขากำลังนั่งดื่มด่ำรสชาติกาแฟอยู่กับผู้ชายคนหนึ่ง ที่ดูยังไงแล้วก็ไม่น่าจะเป็นพี่หรือน้องชาย แล้วยังงสายตาที่ไอ้แก้มบวมนั่นใช้มองเมดของผม มันก็ชัดเจนพอที่จะบอกทุกอย่างอยู่แล้ว

     


     

    อีฮยอกแจเป็นเด็กดีมาตลอด สั่งให้ทำอะไรก็อยู่ในโอวาทไม่เคยขาดตกบกพร่อง จนผมเองก็ชะล่าใจเสียมาก ฮยอกแจหน้าตาดีไม่น้อย แล้วแถมตัวขาวๆที่ใครก็อยากเป็นเจ้าของ ผมเองก็ลืมคิดถึงข้อนี้เพราะคิดว่าอยู่ด้วยกันตลอดทุกวันแบบเดิมมันก็ดีอยู่แล้ว


     

     

    ให้ตายสิ ไอ้แก้มบวมนั่นมันจะมาแย่งเมดคนสวยของผมไปอย่างนั้นเหรอ? อ้อ แล้วยังมีเหตุการณ์เมื่อเช้า ผมสั่งให้หมอนั่นรอผมอยู่ที่ห้อง แต่กลับมานั่งจิบกาแฟคุยกับผู้ชายคนอื่นแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน บ้าบอจริงๆ ในเมื่อฮยอกแจทำแบบนี้ผมก็เลือกที่จะไปนอนรอที่ห้องให้สบายอารมณ์ เขาคงรู้ล่ะครับว่าเขาจะ
    เจออะไร


     

    End Donghae’s part















    yage

     
       

     

    ผมย่องเข้ามาในบ้านสองชั้นหลังไม่ใหญ่มากที่แสนจะหรูหราของคุณทงเฮอย่างกล้าๆกลัวๆ ไม่รู้ป่านนี้คุณทงเฮจะกลับมาหรือยัง ผมก็ดันลืมนั่งเม้ามอยกับคิบอมอยู่นานเสียด้วย คิดแล้วโมโหตัวเองชะมัด ลืมเรื่องคุณทงเฮไปได้ยังไงกันก็ไม่รู้

     

     

     

    ติ๊งต่อง คุณทงเฮกลับมารึยังคร้าบบบ ผมออกเสียงเรียกเบาๆด้วยความกลัว พลางค่อยๆย่องเข้าไปในห้องครัวเพื่อเอาของไปเก็บ สายตาก็เหลือบซ้ายแลขวามองหาเจ้าของบ้านเรื่อยๆ

     

     

     

    ติ๊งต่อง คุณทงเฮคร้าบบ เมื่อไม่มีเสียงตอบรับผมก็ยิ้มอย่างได้ใจ ก่อนจะเอาข้าวของไปเก็บให้เรียบร้อย คุณทงเฮออกไปนาน โชคดีจังเลย

     

     

     

    คุณทงเฮอย่าพึ่งกลับมาเลยนะคร้าบบ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ฉันกลับมาแล้ว เห้ยย นี่มันเสียงคุณทงเฮนี่นา แถมยังดังใกล้ๆด้วย ใกล้จนแทบจะเป็นเสียงกระซิบ แล้วไหนจะลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดหูของผมอยู่นี่ด้วย แง ดวงอีฮยอกแจถึงฆาตแล้วครับ

     

     

     

    ค...คุณทงเฮกลับมาแล้วเหรอครับ?

     

     

     

    ออกไปไหนมา ลืมที่สั่งไปแล้วหรือไง?แง คุณทงเฮกดเสียงลงต่ำเพื่อข่มขวัญให้ผมแตกกระเจิงยิ่งกว่าเดิมอีก คุณทงเฮน่ากลัวจังเลย

     

     

     

    ผมขอโทษครับคุณทงเฮ ผมออกไปซื้อของมาตุนไว้ คุณทงเฮจะได้มีอะไรทานคืนนี้ไงครับ จริงๆนะครับ นี่เป็นจุดประสงค์หลักของผมเลยนะ

     

     

     

    แน่ใจเหรอว่าแค่นี้ ทำไมน้ำเสียงคุณทงเฮดูรู้ทันจังเลยล่ะ ผมก็พูดความจริงนี่ครับ

     

     

     

    ค..ครับ

     

     

     

    หึ อีกแล้วครับ คุณทงเฮยิ้มมุมปากแบบร้ายกาจก่อนจะโน้มหน้าเข้ามาหาผม จมูกโด่งเป็นสันของเขาคลอเคลียอยู่กับพวงแก้มใสที่ขึ้นสีของผมตอนนี้ แถมมือปลาหมึกของเขาก็ยังสอดเข้ามาในเสื้อของผมอีก

     

     

     

    ค...คุณทงเฮ จ..จะทำอะไรครับ ผมหอบหายใจพลางพยายามปัดป้องร่างกายของตัวเองให้พ้นจากเงื้อมมือของคุณทงเฮ

     

     

     

    ลงโทษเด็กดื้อไง มือหนาของเขาเริ่มบดคลึงสะโพกมนขนาดพอดีมือ ขณะที่ริมฝีปากยังคงทำหน้าที่ฉกชิมความหวานจากซอกคอของผมอยู่อย่างนั้น ก่อนที่คุณทงเฮจะตีลงบนสะโพกของผมเต็มแรง

     

     

     

    และนั่นก็ทำให้ผมต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ใช่แล้วล่ะครับ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาลงโทษผมด้วยเรื่องทำนองนี้ เขามักจะหาเรื่องแกล้งผมแบบนี้มาโดยตลอด แกล้ง...แค่แกล้งน่ะ

     

     

     

    เพราะเราไม่เคยมีความสัมพันธ์ที่บึกซึ้งต่อกัน อย่างดี คุณทงเฮก็แค่ทำรอยเอาไว้บนตัวผม แล้วก็หายออกไปจากบ้านทั้งคืนเลยเท่านั้น ผมคิดว่า เขาก็แค่แกล้ง เพื่อความสนุกของเขาหน่ะ

     

     

     

    คุณทงเฮ ผมเจ็บ น้ำใสๆซึมออกมาจากหางตาของผมด้วยความเจ็บปวด คุณทงเฮใจร้าย

     

     

     

    ที่ร้านกาแฟ หมอนั่นเป็นใคร?

     

     

     

    อะไรนะครับ?”

     

     

     

    ฉันถามว่าหมอนั่นเป็นใคร ไม่ว่าเปล่า เขายังออกแรงบีบข้อมือของผมจนรู้สึกปวดหนึบไปหมด ทำไมคุณทงเฮต้องแกล้งกันแรงๆแบบนี้ด้วย ตัวของผมเป็นรอยช้ำไปหมดแล้วนะ

     

     

     

    คิม คิบอม เป็นเพื่อนสมัยมหาลัยของผมเองครับ แต่เอ๊ะ แล้วคุณทงเฮรู้เรื่องนี้ได้ยังไงกัน? แต่ช่างเถอะ ผมไม่กล้าถามหรอกครับเดี๋ยวจะเดือดร้อน YY

     

     

     

    ทำไมต้องไปนั่งคุยกับมัน ลืมที่ฉันสั่งแล้วงั้นเหรอ?

     

     

     

    ป..ปล่าวครับคุณทงเฮ ผมไม่ได้ลืม

     

     

     

    งั้นทวนมา ว่าฉันสั่งว่าอะไร ตอนนี้ผมตัวสั่นไปหมดในอ้อมกอดของคุณทงเฮแล้วครับ คุณทงเฮน่ากลัวจริงๆ แค่ไปนั่งคุยกับเพื่อนเก่าแค่นี้ทำไมต้องโมโหขนาดนี้ด้วย

     

     

     

    ค..คุณทงเฮสั่งว่า....เอ่อ....

     

     

     

    ว่า?

     

     

     

    ผม ผมจำไม่ได้ครับ จริงๆผมไม่ได้ลืมหรอก แต่เพราะคุณทงเฮตอนนี้ทำให้ผมนึกอะไรไม่ออกต่างหาก วึ่งคำตอบของผมก็ยิ่งทำให้คุณทงเฮโมโห เพราะเขาออกแรงบีบข้อมือของผมแรงขึ้น ก่อนจะออกแรงผลักผมให้ปะทะเข้ากับผนังบ้านจนผมปวดร้าวไปหมดทั้งตัว

     

     

     

    คุณทงเฮ ผมเจ็บครับ ไม่...มันไม่ได้ทำให้คนไม่มีหัวใจอย่างคุณทงเฮรู้สึกรู้สาเลย แต่มันกลับมากขึ้น และตอนนี้เขากำลังมุดเข้าไปในเสื้อของผมกำลังครอบครองหน้าอกของผมอยู่

     

     

     

    ผมต้องกัดริมฝีปากของตัวเองจนห่อเลือดเพื่อกักเก็บเสียงร้องน่าเกลียด คุณทงเฮที่วันนี้ดูน่ากลัวกว่าทุกวัน เขาโกรธมากกว่าที่ผมลืมซักเสื้อผ้า หรือว่าลืมทำอาหารให้เขา ซึ่งผมเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดอะไร รสสัมผัสที่ได้รับจากคุณทงเฮไม่ได้หอมหวานหรือน่าหลงใหล แต่มันเต็มไปด้วยความรุนแรง และเร่าร้อน จนผมต้องบิดเร้าตัวไปมา

     

     

     

    หยาดน้ำใสไหลอาบสองแก้มของผมจนทุกสรรพสิ่งพร่ามัวไปหมด สิ่งที่ทงเฮฮกำลังมัวเมาผมอยู่ให้หลงระเริงไปกับมันเรื่อยๆ จนหัวหมุนไปหมด ไม่รู้แม้กระทั่งว่าตัวเองเข้ามานอนอยู่บนเตียงของคุณทงเฮตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่รู้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น

     

     

     

    แค่คิด น้ำตามันก็พาลไหลลงมาอีกครั้ง หากแต่ผมไม่สามารถต้านทานอะไรได้เลย สัมผัสที่ดุดันรุนแรงในตอนแรกแปรเปลี่ยนเป็นความอ่อนโยน และความปรารถนาของทั้งสองคน ทุกๆความรู้สึกแปลกใหม่ที่ถาโถมเข้ามานั้นทำให้ผมต้องเม้มริมฝีปากเข้าหากันแรงๆเพื่อกดกลั้นไม่ให้ตัวเองส่งเสียงครางออกไป 

     

     

    ไม่มีบทสนทนาใดๆ มีเพียงเสียงแห่งความสุขสมของอีกคนเท่านั้น จนผมเอง...ก็อดคิดไม่ได้ว่า ความจริงแล้ว ผมก็เป็นเพียงแค่.......ของเล่น

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    Donghae’s part

     

     

    ผมลืมตาตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้นพร้อมกับ ความว่างเปล่า ในใจผมรู้สึกโหวงเหวงอย่างบอกไม่ถูก พยายามจะคิดในแง่ดีว่า เด็กดีของผมอาจจะกำลังเตรียมอาหารเช้าให้สามีอยู่ที่ห้องครัวชั้นล่าง แม้จะรู้ดีว่า ความจริงมันอาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้น

     

     

     

    ผมรีบใส่เสื้อผ้าแล้วเดินสำรวจหาคนตัวเล็กรอบๆบ้าน แล้วมันก็เป็นอย่างที่ผมคิด ไม่มีแม้แต่เงา หรือแม้แต่ข้าวของเครื่องใช้ของเขา ความจริงแล้วมันก็เป็นความผิดของผมเองครับ

     

     

     

    ผิดที่ผมทำร้ายจิตใจของเขาไว้มาก ผิดที่ผมเห็นแก่ตัวคิดถึงแต่ความรู้สึกของตัวเอง จนลืมนึกถึงความรู้สึกของคนคนหนึ่งไป ผิดที่ผมใช้เพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบ ที่ทำให้เด็กที่บริสุทธิ์คนหนึ่งต้องแปดเปื้อนด้วยความเลวของตัวเอง

     

     

     

    ผมคิดผิดเองครับ ที่คิดจะลงโทษเขา คิดผิด ที่คิดว่าจะได้ครอบครองเขาเอาไว้พียงคนเดียว

     

     

     

    ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว ผมอาจจะชอบเขาอยู่เพียงฝ่ายเดียวก็เป็นได้

     

     

     

    ผมเดินกลับเข้ามาในบ้านก่อนจะทิ้งตัวลงบนโซฟากว้าง หยิบเครื่องมือสื่อสารออกมากดหาคนที่เฝ้าคิดถึงอยู่ในตอนนี้ หากแต่ทำได้เพียงฝากข้อความเอาไว้เท่านั้น

     

     

     

    ฮยอกแจ อยู่ไหน? กลับบ้านเดี๋ยวนี้เลยนะ คำพูดดีๆหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ จะว่าไปแล้ว คนอย่างอีทงเฮน่ะพูดดีๆไม่เป็นหรอก

     

     

     

    ข้อความเสียงอีกหลายต่อหลายฉบับยังคงถูกส่งอยู่อย่างนั้น จะว่าไปก็นึกขำตัวเองอยู่ไม่น้อย ผมไม่เคยรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับฮยอกแจเลย ผิดกับฮยอกแจที่รู้เรื่องของผมแทบจะทุกเรื่อง รู้ว่าผมชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไร แต่ผมนี่สิ ปากบอกว่าชอบฮยอกแจ แต่แม้แต่เพื่อนของเขา สังคม หรือครอบครัว ผมกลับไม่รู้สักอย่าง

     

     

     

    ผมมันเห็นแก่ตัวใช่ไหมล่ะครับ แต่ตอนนี้ คนเห็นแก่ตัวอย่างผมก็อยากจะเห็นแก่ตัวอีกสักครั้ง เพราะผม......อยากให้เขากลับมา

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์แล้วครับ ที่ฮยอกแจหายไป หนึ่งอาทิตย์แล้วที่ฮยอกแจปิดโทรศัพท์ และมันก็เป็นหนึ่งอาทิตย์ที่ผมต้องอยู่กับความทรมาน ผมอาจจะเป็นผู้ชายที่แย่ เป็นลูกที่ไม่ดี

     

     

     

    แต่รู้หรือเปล่า ว่าผู้ชายแย่ๆคนนี้ ก็มีหัวใจเหมือนกัน

     

     

     

    หรือบางที นี่อาจจะเป็นผลกรรม สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมทำเอาไว้กับฮยอกแจ เด็กคนนั้นยอมให้ผมมามากเกินไปแล้วงั้นเหรอ?

     

     

     

    เบียร์กระป๋องที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ที่ผมต้องโยนมันทิ้งไว้ข้างโซฟากว้างหลังจากที่ดื่มหมด แต่ตอนนี้รอบโซฟาที่ผมกำลังนอนอยู่เป็นเหมือนภูเขาเบียร์อย่างไงอย่างงั้น ลังเบียร์อีกสามสี่ลังที่ตั้งอยู่ข้างๆ รอให้ผมเอื้อมมือไปหยิบกระป๋องใหม่มาซดประชดชีวิต

     

     

     

    ไม่น่าเชื่อ ระยะเวลาเพียงแค่อาทิตย์เดียวที่ฮยอกแจไม่อยู่ทำให้ผมเป็นได้ถึงขนนาดนี้ และมันก็ทำให้บ้านของผมกลายเป็นกองขยะได้ขนาดนี้ ผู้ชายตัวเล็กๆคนหนึ่งที่ต้องทำทุกสิ่งทุกอย่าง โดนกลั่นแกล้งกดขี่ข่มเหงสารพัด

     

     

     

    แต่กลับมีรอยยิ้มที่สว่างสไวอยู่ตลอดเวลา....

     

     

     

    ครับ คุณทงเฮ คำพูดติดปากของเขาที่ผมได้ยินแทบจะทุกวัน สามเวลาหลังอาหารเลยก็ว่าได้ มือบางๆที่ชอบทำอาหารอร่อยๆให้ผมทาน ตัวผอมๆที่ไม่แน่ใจว่าผอมเพราะการทำงานหนักหรือเปล่า ผิวขาวๆที่นุ่มลื่น กับกลุ่มผมหอมๆที่ยิ่งสูดดมก็ยิ่งหลงใหล

     

     

     

    แค่คิดถึง มันก็ทำให้ผมหลุดยิ้มออกมาได้ง่ายๆ ราวกับคนบ้า เพียงแค่นึกถึงอดีตเท่านั้น แต่จะโทษใครก็คงไม่ได้ นอกจากตัวเอง ที่เป็นคนทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างมันลงเอยแบบนี้ มันก็คงจะสมควรแล้วจริงไหม สำหรับคุนเลวๆอย่างผม

     

     

    End Donghae’s part

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ผ่านไปอาทิตย์กว่าแล้วนี่นา ที่ผมหลบหน้าคุณทงเฮมาอยู่บ้านเพื่อนที่ต่างจังหวัดแบบนี้ ต่างจังหวัดที่เกาหลีนี่ขอบอกว่อากาศดีสุดๆเลยล่ะครับ แตกต่างจากโซลราวกับอยู่คนละประเทศกันเลย  มาอยู่แบบนี้ มันก็อาจจะช่วยให้ผมได้ลืมบางสิ่งบางอย่างไปได้

     

     

     

    เวลาผ่านไปนานพอสมควร ร่องรอยต่างๆบนตัวผมที่คุณทงเฮทิ้งเอาไว้ก็เริ่มจะจางหายไปหมดแล้วล่ะครับ เช่นเดียวกับใจของผม ที่เริ่มจะเหี่ยวแห้งลงทุกทีเช่นกัน

     

     

     

    ฮยอกแจ โอเคนะ ซองมินเพื่อนของผม แล้วก็เป็นเจ้าของบ้านที่ผมมาขอพึ่งใบบุญพักอาศัยตลอดหนึ่งอาทิตย์ทักขึ้น จริงๆก็อยากจะไปหาพ่อกับแม่หรอกครับ แต่กลัวคุณทงเฮจะสืบรู้ แล้วผมเองก็ยังไม่พร้อมจะบอกความจริงให้ท่านทราบด้วย

     

     

     

    อื้ม เราโอเค

     

     

     

    ไม่คิดจะเปิดโทรศัพท์หน่อยเหรอ? ผมหันไปมองโทรศัพท์ที่พกติดตัวมาด้วยก่อนจะส่ายหน้าเบาๆเป็นคำตอบ กลัวผิดหวัง! นั่นคือสิ่งที่อยู่ในใจของผม

     

     

     

    บางทีคุณทงเฮเขาอาจจะตามหาฮยอกแจอยู่ก็ได้นะ อย่างคุณทงเฮหน่ะเหรอจะตามหาผม ผมรู้จักเขาดี คุณทงเฮไม่ชอบอะไรที่มันยุ่งยากหรือมีขั้นตอนมากมาย เขาสมาธิสั้นจะตายไป

     

     

     

    ไม่หรอก

     

     

     

    ฮยอกแจรู้ได้ยังไง?

     

     

     

    เพราะว่าเรารู้จักคุณทงเฮดีไงล่ะซองมิน

     

     

     

    แล้วถ้าที่คุณทงเฮทำไปเพราะรักฮยอกแจล่ะ รักเหรอ? เป็นไปไม่ได้หรอกครับ ผมกับคุณทงเฮนะคนละระดับ ผมเป็นแค่คนใช้ ไม่มีทางที่เจ้านายจะเหลียวแลได้หรอกครับ ยิ่งเป็นคุณทงเฮแล้ว

     

     

     

    ไร้สาระหน่าซองมิน เป็นไปไม่ได้หรอก

     

     

     

    เราสงสารฮยอกแจจัง ผมส่งรอยยิ้มบางให้ซองมินเชิงบอกว่าไม่เป็นไร ผมเองก็ไม่ได้อยากให้ซองมินมาเครียดเรื่องของผมเลย เพราะเรื่องของผม ผมทุกข์ใจแค่คนเดียวก็พอแล้วล่ะครับ การที่ผมหลบคุณทงเฮมาแบบนี้ มันก็เป็นผลดีกับทั้งสองฝ่าย ผมหวังว่าระยะเวลาจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น และช่วยให้ผมลืมคุณทงเฮได้ในที่สุด

     

     

     

    อีกอย่างที่ผมหวัง ผมหวังว่าวันหนึ่งคุณทงเฮจะเจอคนที่ดี และดูแลคุณทงเฮได้ดีกว่าที่ผมทำ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    จนตกเย็น ที่ผมนั่งรับลมอยู่หน้าบ้านอย่างนี้ สายลมเย็นๆกับธรรมชาติมันช่วยให้ผ่อนคลายได้จริงๆนะครับ ดีกว่าที่เราจะนอนอุดอู้อยู่แต่ในบ้านเป็นไหนๆ ผมลุกขึ้นเดินเข้าไปในตัวบ้านเพราะตอนนี้ก็เริ่มเย็นแล้ว คิดว่าจะเข้าไปช่วยซองมินเตรียมมื้อเย็นสักหน่อย

     

     

     

    ซองมิน!! หายไปไหนของเขานะ ผมบ่นพึมพำเมื่อเดินหาซองมินรอบบ้านแล้วแต่ก็ไม่เจอ แต่สายตาก็ไปสะดุดเข้ากับเครื่องมือสื่อสารของตัวเองที่ถูกวางเอาไว้บนโต๊ะอาหารตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ ไฟหน้าจอกระพริบเป็นสัญญาณว่ามีข้อความเข้า

     

     

     

    ผมหยิบมือถือของตัวเองขึ้นเปิดดูข้อความอย่างกล้าๆกลัวๆ ไม่อยากจะตั้งความหวังมากเพราะกลัวจะผิดหวัง แต่เมื่อกดดูแล้วสิ่งที่ปรากฏกลับทำให้ผมเบิกตากว้าง

     

     

     

    198 สายไม่ได้รับ กับข้อความเสียงอีก 8 ฉบับ ที่นับว่าเยอะมากสำหรับคนอย่างอีทงเฮ

     

     

     

    ฮยอกแจ อยู่ไหน? กลับบ้านเดี๋ยวนี้เลยนะ น้ำเสียงเอาแต่ใจที่แสนคุ้นเคยทำเอาผมต้องงยกมือขึ้นปิดปากกลัดกลั้นเสียงสะอื้นของตัวเอง ความคิดถึงที่พยายามสะกดมาไว้อาทิตย์กว่าๆระเบิดออกมาเพียงแค่ได้ยินคำพูดแย่ๆของเขาเท่านั้น

     

     

     

    ฉันสั่งให้กลับบ้านไง ไม่เข้าใจเหรอ!!’

     

     

     

    กลับมานะฮยอกแจ กลับมาหาฉันนะฮยอกแจ กลับมา

     

     

     

    ไม่มีนายแล้วบ้านรกมากเลย กระป๋องเบียร์ก็เต็มไปหมดน้ำตายังคงพรั่งพรูออกมาอย่างไม่ขาดสาย ขณะที่มือยังคงเลื่อนฟังข้อความอื่นไปเรื่อยๆ จนมาถึงข้อความสุดท้าย ที่ทำให้ผมต้องปล่อยโฮออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

     

     

     

    มันไม่ใช่คำพูดเอาแต่ใจ หรือคำพูดขอร้องให้ผมกลับไปหาเขา แต่ว่า...

     

     

     

    ‘I remember what you wore on the first day
    You came into my life and I thought
    "Hey, you know, this could be something"
    'Cause everything you do and words you say
    You know that it all takes my breath away
    And now I'm left with nothing

    (ผมจำได้ ว่าคุณสวมชุดอะไรวันที่เราได้เจอกันวันแรก

    คุณเข้ามาในชีวิตขงผม และทำให้ผมได้คิดว่า

    เฮ้! คุณรู้มั้ย มีบางอย่างเกิดขึ้น

    เพราะทุกอย่างที่คุณทำและทุกคำที่คุณเอ่ย

    คุณรู้ว่าทั้งหมดนั่นมันเอาลมหายใจของผมไปด้วย

    และตอนนี้  ผมไม่เหลืออะไรทั้งนั้น)

     

     

    เสียงของเขายังคงขับขานบทเพลงที่ไพเราะออกไปเรื่อยๆ เสียงที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน ใช่ครับ ผมไม่เคยได้ยินคุณทงเฮร้องเพลงมาก่อนเลย เพราะเขาเคยบอกว่า ไม่เกลียดการร้องเพลง แต่ตอนนี้ เขากำลังร้องให้ผมฟังอย่างนั้นเหรอ? และความหมายของมัน ผมแปลออกนะ

     

     

     

    “So maybe it's true
    That I can't live without you
    And maybe two is better than one
    But there's so much time
    To figure out the rest of my life
    And you've already got me coming undone
    And I'm thinking two is better than one

    (บางที นี่มันคงเป็นความจริง

    ที่ว่าผมไม่สามารถอยู่ได้ถ้าปราศจากคุณ

    และบางที การที่มีเราสองคนมันดีกว่าการอยู่อย่างเดียวดาย

    แต่ยังมีเวลาอีกมาก

    ที่จะทำความเข้าใจชีวิตที่ยังเหลืออยู่

    และคุณก็ทำให้ผมไม่เป็นตัวของตัวเอง

    และผมกำลังคิดได้ว่าการมีกันและกันนั้นดีกว่าการอยู่เพียงลำพังอย่างนี้)”

     
     

    ผมหันไปทางต้นเสียงทันที ไม่ครับ มันไม่ใช่เสียงจากข้อความเสียงแต่อย่างใด บทเพลงสื่อความหมายที่ถูกขับขานออกมาต่อจากในข้อความ และที่สำคัญ คนที่ยืนร้องมันอยู่ด้านหลังของผม ทำให้ผมคิดขึ้นมาว่า ตัวเองร้องไห้หนักขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วทำไม ต้องวิ่งเข้าไปหาอ้อมกอดของคนใจร้ายด้วย



                รู้เพียงแค่ว่าหัวใจสั่งให้ทำแบบนี้ ก็แค่...ทำตามหัวใจเท่านั้น


     

     

     

     

    กลับบ้านเรากันนะ ฮยอกแจ เขาเอ่ยเสียงแผ่ว ขณะที่มือเรียวยังคงลูบผมของผมอย่างปลอบประโลม นี่ผมฝันอยู่ใช่ไหม? คุณทงเฮมาหาผม เขาตามหาผมอย่างนั้นเหรอ?


     

     

     

    ครับ คุณทงเฮกลับสิ ตอนนี้ผมจะเป็นอะไรสำหรับคุณทงเฮก็ช่าง แค่ผมคิดว่าได้อยู่ใกล้ๆคนๆนี้ก็เพียงพอแล้ว


     

     

     

    ขอโทษนะ ขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง


     

     

     

    ครับ คุณทงเฮ


     

     

     

    แล้วก็ ฮยอกแจ.....เขาดันตัวผมออกจากอ้อมกอดเบาๆ ก่อนจะจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของผม แววตาที่แน่วแน่บ่งบอกว่าสิ่งที่กำลังจะพูดเป็นสิ่งที่เขามั่นใจที่สุด และมันก็ทำให้ผมอดที่จะใจเต้นรัวเพื่อรอฟังสิ่งที่เขากำลังจะพูดไม่ได้




     

     

     

     

     

     

     

    ฉันรักนาย รักมาก รักที่สุด   และ........................รักตลอดไป











     

     

     

     

     

     

     

     

    ค...ครับ คุณทงเฮ -/////////////////-”

    End


     

     

    Special My Maid
     

    ตอนนี้ผมกำลังนั่งรถกลับ บ้านของเรา อย่างที่คุณทงเฮบอก โดยมีซองมินที่ยืนยิ้มแก้มแทบปริมาส่ง ไม่รู้ว่าดีใจที่เพื่อนสมหวัง หรือดีใจทีจะไม่มีคนมาอยู่ให้เปลืองข้าวเปลืองน้ำกันแน่


     

     

    อ่า ผมโคตรจะมีความสุขเลยครับ กลับมาครั้งนี้อะไรๆของเราก็เปลี่ยนไป เพราะคุณทงเฮจับมือผมมาตลอดทางที่ขับกลับบ้านเลย มีความสุขจัง สุข จนไม่รู้จะพูดออกมายังไงแล้วครับ


     

     

    แต่เอ....ว่าแต่คุณทงเฮรู้ได้ยังไงนะว่าผมมากบดานที่นี่


     

     

    คุณทงเฮรู้ได้ยังไงเหรอครับว่าผมอยู่กับซองมิน?

     

     

    ก็เพื่อนนายโทรไปบอกหน่ะ เขาทนไม่ได้ที่เห็นเราทะเลาะกันแบบนี้ ใช้คำว่าทะเลาะราวกับคู่รักกันอย่างนั้นแหละ อ่า แล้วคุณทงเฮมาบอกว่ารักผมแบบนี้ แปลว่าเราเป็นแฟนกันหรือยังนะ

     

     

     

    หนอย ซองมินนะซองมิน เจออีกที่จะกระโดดงับหูให้สะใจเลยคอยดู ทำปากยื่นปากยาวด้วยความน้อยใจที่โดนขายแบบนี้ แต่ไหงคุณทงเฮกลับหัวเราะล่ะ อ่า รอยยิ้มสว่างไสวจังเลย แถมยังเอามือมาขยี้หัวผมอีกแหน่ะ คุณทงเฮนี่ทั้งหล่อ ทั้งน่ารัก อบอุ่นแบบนี้ ฮยอกแจรักคุณทงเฮที่สุดเลย -/////////-









     


    {Khree. TALK!}  ..


    เรื่องนี้   NO NC   นะคร้าบบบบบบ 5555555555555555 '
    ขอประทานอภัยท่านผู้มีเกีรติทุกท่านด้วย คือเราไม่อยากเขียน NC อ่ะ -3-

    มาครบ 100% แล้ววววววว มันยาวไปป่ะ? สำหรับ SF หนึ่งเรื่อง
    หรือควรจะแยกเป็นสองตอน หรือยังไงดี? คอคำปรึกษาหน่อยดิ -..-

    เรื่องนี้เป็น SF เรื่องแรกที่เราแต่งเลย เพราะฉนั้น ไม่สนุกอย่าว่ากันนะ
    เรายังใหม่อยู่มาก TT TT จริงๆเรื่อง LA ก็เป็นฟิตเรื่องแรกของเราเหมือนกัน

    ยังไงก็จะพยายามปรับปรุงเรื่อยๆ ขอบคุณทุกคนมากน้า



    LOVE YOU ALL <3

     

     

     

     

     

     

     


     

     

     

    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×