ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Confessed Love บอกมาว่า (นางฟ้าอย่าง) เธอ.คิดยังไงกับฉัน !?!

    ลำดับตอนที่ #6 : [chapter 6] Confessed love : ป้า อลิซซซ >..

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ค. 55


           


     
      กลับมาแล้วค้าบ..พี่ไอบี

     

              ผมส่งเสียงเรียกพี่สาวตัวเองที่ซ่อนเร้นกายอยู่ที่ไหนสักแห่งในบ้าน.. วันนี้เธอคงไม่ได้ไปทำงาน เพราะไม่ได้แปะโน้ตไว้ที่หน้าประตู และถึงไปจริงๆ บ้านก็คงถูกปิดอย่างดี เพราะเวลาไปทีนึง ต้องไปหลายวัน บางครั้งไปเป็นเดือน จะเป็นห่วงก็เป็นห่วงอยู่หรอกนะ แต่ว่าผมเองก็ทำอะไรไม่ได้หรอก ไอ่ครั้นจะพูดไป ก็เท่านั้นแหละ เพราะเธอก็คงไปอยู่ดี

     

              น้องไอแบค..” ทันทีที่ผมเดินมาถึงห้องครัว ก็มีเสียงๆหนึ่งเอ่ยเรียกผมขึ้นมาและตามมาด้วยเจ้าของร่างบางสวยเฉียบเปรี้ยวจี๊ดแบรนด์เนมตั้งแต่หัวจรดเท้ายืนมองผมอยู่ ผมมองเธออย่างงงๆ แล้วเดินผ่านไปอย่างไม่สนใจ คงจะเป็นเพื่อนของพี่ไอบีละมั้ง ผมไม่ค่อยจะสนใจอยู่แล้ว พี่ไอบีอยู่ในห้องครัวกำลังทำแซนวิชเหมือนเคย

     

              อ้อ ไอแบคนายกลับมาแล้วหรอ มาแล้วก็ดี ..นี่อลิซนะนายจำได้มั้ย  มาถึงพี่ไอบีก็รัวๆใส่เลย ผมหันไปมองบุคคลแปลกหน้าที่พี่ไอบีบอกว่าชื่ออลิซ  เธอยิ้มหวานให้ผมและขยิบตานิดนึง ยึ๋ย ขนลุก เพื่อนพี่ไอบีก็เป็นแบบนี้ทุกคน มาทีไรผมเจอแบบนี้ทุกที ผมถอดเสื้อนักเรียนออกแล้วพาดบ่า เหลือเพียงเสื้อกล้ามตัวในเท่านั้นแล้วเตรียมตัวจะเดินขึ้นห้อง

     

              ไอแบค..พี่อลิซจะมาอยู่กับเราสักพักนะ เธอกลับมาก่อนพ่อแม่ของเธอน่ะ ให้เธออยู่สัก 2-3 วัน

     

              อือ = =’”

     

              ผมตอบรับแบบเซ็งๆ แล้วเดินขึ้นมาบนห้องทันที หวังว่าการเอาผู้หญิงที่ผมไม่รู้จักมาค้างที่บ้านคงจะไม่มีปัญหาอะไรนะ -_-

     

     

     

     

              สิ่งแรกที่ผมต้องทำทุกวันตอนขึ้นมาบนห้องคือ ยกมือจุ้บๆกับรูปของสเกลบนเพดาน ปิ๋งๆ @_@ เหมือนคนบ้าเลยแฮะ = =’ ผมเอาเสื้อโยนใส่ตระกร้าในระยะ 100 เมตร (เว่อร์ไปละ) ได้อย่างแม่นยำ เพราะปกติเป็นคนแบบนี้ ฮ่าๆๆ จะแคร์ไปทำไม จ้างแม่บ้านวันเว้นวันอยู่แล้วนี่นา.. โยนกระเป๋าหนังสือเรียนไปอีกทาง ถุงเท้าไปอีกทาง โชคร้ายที่เมื่อวานแม่บ้านไม่ได้มาทำความสะอาด เตียงก็ไม่ได้เก็บ ผ้าปูที่นอนลงไปอยู่ข้างล่าง หนังสือสมุดที่ผมจัดตารางสอนเมื่อเช้าแล้วยังไม่ได้เก็บวางเกลื่อนอยู่บนที่นอน ผมยืนมองผลงานของตัวเองด้วยความภาคภูมิใจ อิๆๆๆๆ  เอาละ.. เพลียจังเลย มองหน้าสเกลสุดที่รักดีกว่า ผมทิ้งตัวลงบนที่นอนอย่างแรงจนหนังสือบนเตียงเด้งดึ๋ง การได้เห็นหน้าสเกลก่อนนอนทุกวันแบบนี้ ช่างมีความสุขเสียจริง : )

     

     

              อิอิ  น้องไอแบคเนี่ย ไม่เจอกันซะนาน หล่อลากไส้เลยน้า

     

              “…”

     

              “… หวา ขนาดนอนหลับยังยักคิ้วข้างเดียวอีก น่ารักชะมัดเลย กรี๊ดๆๆๆ   

     

    คิดถึงน้องไอแบคจังเลย ฮิฮิ สัมผัสเบาๆ ถูกตรงต้นแขนของผมจนสะดุ้งเพราะจั๊กจี๋  แต่ด้วยความง่วงงุนผมจึงเพียงเอามือปัดๆ แล้วนอนต่อทันที

     

    กรี๊ดดดดดดดดดดด >o<  น่าร๊ากกอ้ะ

     

    โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!”         ในที่สุด ผมก็ทนไม่ไหวแล้ว..จึงเด้งตัวลุกขึ้นนั่งเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นผู้หญิงคนเมื่อวานนั่งอยู่ข้างๆบนเตียง โดยใช้มือปิดปากแล้วเบิกตากว้างอย่างตกใจ

     

    ยัยป้า !!”

     

    นะ..น้องไอแบค แหะๆ ผมกระโดดพรวดขึ้นมาจ้องหน้าเธอตรงๆ ยัยป้านี่ยังคงไม่ลุกไปไหน ยังคงนั่งอยู่บนเตียงอย่างนั้นเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไร แม้ว่าจะแอ๊บซื่อตกใจก็เหอะ

     

    ป้าเข้ามาได้ไงเนี่ย ฮะ !!” ผมเดินออกจากเตียงและเปิดไฟในห้อง

     

    ก็พี่คิดถึงน้องไอแบคนี่นา

     

    โห่ป้า ทำไมทำแบบนี้อะ ไม่อายผมบ้างหรอ เข้าห้องผู้ชายแบบนี้ ผมถามเธอด้วยอารมณ์เซ็งๆ มึนๆ ผสมง่วงๆ เมื่อเห็นว่าเธอคือเพื่อนของพี่ไอบีเมื่อเย็นนั่นเอง

     

    น้องแบค..ทำไมทำเหมือนจำพี่ไม่ได้เลยละคะ พี่เสียใจน้า ตอนน้องแบคเข้ามาในบ้านแล้วมองผ่านพี่ไปเหมือนเราไม่รู้จักกันน่ะ

     

    ก็ผมไม่รู้จักป้านี่.. = =’”

     

    อ๊ายย อย่าเรียกป้าสิ  เราเคยเดทด้วยกันนะ จำไม่ได้หรอ ^ ^” 

     

    เดทตอนไหนฟะ =[]=”

     

    ตอนมัธยมต้นไงคะ ^ ^”  อ๋อเหรอทำไมจำอะไรไม่ได้เลยแฮะ ยัยป้านี่มั่วรึเปล่านี่

     

    ยังไงก็เหอะ ป้ากลับห้องป้าไปซะ ผมจะนอน แล้วอย่าทำอย่างนี้อีก เสียมารยาท -_-“ ผมดึงแขนป้าเธอลุกออกมาจากเตียง ก่อนจะแอบใช้เท้าถีบก้นไปนิดๆ (เลวได้อีก) เธอทำเสียงขัดใจเล็กน้อยแต่ยังคงยืนมองผมอยู่อย่างนั้น ในขณะที่ผมเองก็ไม่สนใจเธอ สักพักไฟก็ถูกปิดและเสียงปิดประตูห้องก็ตามมา  จะไว้ใจได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ถ้าผมหลับไปอีกป้าแกจะกลับมาลวนลามผมอีกมั้ยเนี่ย T T นอนหลับต่อด้วยอาการขนลุกขนชัน

     

     

    พี่ไอบี..ถามจริง ยัยป้านี่ใคร มาห้องผมด้วยเมื่อคืนอ่า   ในเวลาเช้าตรู่..ผมรีบตื่นแต่เช้ามาเพื่อเค้นคำตอบจากพี่ไอบี พี่ไอบีผละจากการนับกระสุนปืนในกระเป๋าแล้วหันมามองหน้าผม


    เข้าน้องนายด้วยหรอ ?


    อืม !”


    “5555555555”

     

    อ้าว ไหงพี่สาวคนดีของผมหัวเราะเยาะอย่างนี้ละ =[]=

     

    แฟนคลับเบอร์ 1 ของนายเลยนะ


    แฟนคลับ?.. เขาบอกว่าเดทกับผมด้วยอ่า


    หรอน่าขำดีนะ


    หมายความว่าไงเนี่ย !?!”  ผมยืนมองพี่สาวด้วยความ งง งง งง งงเป็นไก่ตาแตกเลยครับท่าน สั้นๆ ง่ายๆ น่าขำดีนะเป็นคำตอบที่ดีสุดๆเลยครับพี่ไอบี = =’  ในเมื่อไม่ได้คำตอบตามที่ต้องการ จะเซ้าซี้ไปก็คงไม่ได้คำตอบเช่นกัน อดโมโหไม่ได้เลยจริงๆ พี่สาวแท้ๆทำไมนั่งขำเฉยๆ ก็รู้ทั้งรู้ว่าผมเองไม่ชอบให้ใครเข้ามาในห้อง แล้วยังมาทำพฤติกรรมแบบนี้อีก หรือผมจะสั่งให้เธอออกจากบ้านไปดี ทำแบบนี้จะใจร้ายไปมั้ยนะ -_- แต่คงไม่หรอก ยัยป้าแบรนด์เนมนั้นต้องมีตังเช่าโรงแรมหรูๆสัก 2-3 คืนอยุ่แล้วสิน่า ! 

     

    พี่ว่า..นายชวนอลิซไปเที่ยวโรงเรียนนายบ้างก็ดีนะ พี่ไอบีเอ่ยขึ้นมา ทำผมหันขวับไปทันที  นี่ที่ผมพูดไปมันไม่มีความหมายเลยใช่มั้ยเนี่ย คนยิ่งหงุดหงิดอยู่ด้วย


    เอาไปทำไม..สยอง  แล้วผมก้เดินออกมาจากบ้านท่ามกลางเสียงหัวเราะของพี่ไอบี

     

     

     

    ผมกึ่งเดิน กึ่งวิ่ง ไปตามทาง โชคดีจังที่โรงเรียนอยู่ใกล้ๆบ้าน ผมจึงค่อนข้างลัลล๊าเป็นพิเศษ จะนอนตื่นสายก็ยังได้เลย  ผมยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู มาโรงเรียนก่อนโอริเธอจะโกรธมั้ยเนี่ย T T  ทำไมผู้หญิงสมัยนี้มันช่างน่ากลัวอย่างนี้นะ นึกถึงเรื่องเมื่อคืนแล้วยังสยองไม่หาย ถ้าผมไม่ตื่นขึ้นมาจะเกิดอะไรบ้าง.. เคยเดทกันงั้นหรอ.. เหอะ  กุเรื่องขึ้นมาล่ะสิท่า ผมแทบจะไม่เคยชวนผู้หญิงเดทเลยด้วยซ้ำ เธอไปเอามาจากไหนกัน แค่คิดถึงใบหน้าหื่นๆของป้าแกเมื่อคืนแล้ว..ผมไม่อยากกลับบ้านเลยแฮะ T T
              ตามทางเดินเริ่มมีผู้คนมากมาย ทั้งไปเรียน ไปทำงาน ไปส่งลูก ไปส่งสามี รถจึงค่อนข้างแน่น เป็นเรื่องปกติในตอนเช้าของทุกๆวัน จะว่าไปแล้ว
    ..ผมก็อยากจะมีรถหรูๆขับสักคันเหมือนกันนะเนี่ย  เอาไว้คอยรับส่งสเกลสุดที่รัก..คงจะดีไม่น้อย ฮิๆ

     

     

    นายไม่รอฉัน !” เสียงผู้หญิงอันคุ้นเคยดังขึ้น ผมจึงเงยหน้าจากโต๊ะม้าหินอ่อนที่กำลังฟุบหลับอยู่ เห็นโอริกำลังยืนทำหน้าตาดุดันและน่ากลัว เหอะ น่ากลัวตายแหละ โอริกระทืบเท้าตึงๆมานั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ ผมอย่างขัดใจ และยังคงจ้องหน้าผมไม่เลิก

     

    รออยู่เนี่ย..”

     

    นายไม่ต้องมาแก้ตัว..ฉันอุตส่าห์ถ่อไปถึงบ้านนาย เพื่อจะพบว่านายไปโรงเรียนแล้ว! นายรู้มั้ยว่าฉันรู้สึกยังไงน่ะ หา?”

     

    โกรธ น้อยใจ หงุดหงิด จะเป็นบ้า

     

    เออ นายมันงี่เง่าชิ

     

    อะไรว้า..ก็อุตส่าห์มารอที่โต๊ะม้าหินอ่อนประจำของเราแล้วนะเนี่ย ถ้ารู้ว่าจะมาบ่นอีกขึ้นห้องเลยดีกว่า ชิชะ  โอริกลับไปสนใจกระจกในมือตัวเองอย่างใจจดใจจ่อ มีดีไรฟะ..ผู้หญิงทุกคนถึงชอบถือมันไว้และจ้องมันนัก หึ อยากกลายร่างเป็นกระจกให้รู้แล้วรู้รอด (พาลแม้กระทั่งกระจก - -‘) ผมคว้ากระจกมาจากมือโอริแล้วเอามาส่องหน้าตัวเองแทน คนอะไรหล่อก็หล่อดูดีชะมัด ดูไปดูมา หล่อกว่านายทารุอีกนะเนี่ย ฮี่ ๆ >.< (พาลไปคนอื่นอีกแล้ว)

     

    ฉันรู้ว่านายคิดอะไรอยู่ หึหึ

     

    อย่ามารู้ทันน่ายัยบ๊อง ผมส่งกระจกคืนเธอ

     

     

     

     

     

    กินข้าวๆๆ วู้วววว

              ณ โต๊ะม้าหินอ่อนหลังโรงเรียน ผม พาย ทารุ ฟ้อนท์ และสเกลกำลังนั่งกินอาหารกันอยู่อย่างสันติสุข.. วันนี้สเกลปล่อยผมสยายอย่างเป็นธรรมชาติมากๆ   แต่ว่าตอนนี้ยัยโอริหายหัวไปไหนฟะ บอกจะตามมาๆ หายไปซะดื้อๆ ปัดโท่ เอ๊ะ หรือกลายร่างไปสิงอยู่ในต้นไม้แล้ว ทารุนั่งข้างๆ สเกล  ตักทั้งหมู ทั้งไก่ใส่ในชามของสเกล ซึ่งเธอก็ยิ้มรับอย่างสุขใจ ชิ ต่อให้เป็นควายก็รู้ ทารุนี่จะคิดกับสเกลแค่เพื่อนจริงเร้ออ.. ผมเบ้บ้าง ใช้ช้อนสับหมูในชามอย่างหงุดหงิด

     

              อ้าวนาย..ไม่กินหรอสับแบบนั้นน่ะ ฉันขอนะ ชั่วพริบตา..คนขี้เซาก็ฉวยหมูเด้งชิ้นใหญ่ในจานผมไปซะแล้ว หนอย..ฟอนนท์  ฉันจะเอาคืนแกก ก๊อซซซซซซ

     

              สเกล..ฉันมีอะไรจะบอกแหละ พายที่นั่งตรงข้ามกับสเกลเอ่ยเรียก ทำให้ทุกคนหันไปมองหน้าเธอ..ถึงแม้ผมจะแน่ใจนะว่าบนโต๊ะนี้มีสเกลแค่เพียงคนเดียว แต่ทุกคนก็ต่างสนใจเรื่องที่พายจะพูด ถ้าพายเรียกผม คนอื่นจะให้ความสำคัญกับผมขนาดนี้บ้างมั้ยเนี้ย  สเกลไม่ได้ตอบอะไร แต่เงยหน้าขึ้นมามองพายพร้อมกับยิ้มหวานเอียงคอนิดๆ  ผมมองเธอค้างอยู่อย่างนั้นในขณะที่ข้าวยังคาปากอยู่

     

              เมื่อวันนั้น..ไอแบคเค้าบอกฉันว่า…”

     

              “…..” ผมเงียบ รอฟังคำต่อไป ทั้งๆที่ใจมันเต้นโครมๆราวกับจะหลุดออกมาอยู่รอมร่อ

     

              เค้าชอบเธอน่ะสเกล พายฉีกยิ้มหวานให้ ในขณะที่สเกลค่อยๆหุบยิ้ม ก่อนจะค่อยๆก้มหน้าลงทานข้าวต่อ ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบมันกำลังถล่มลงมาทับที่ตัวผมแล้ว ทั้งโกรธทั้งหงุดหงิด ยิ่งเห็นใบหน้าเฉยเมยของสเกลตอนนี้แล้วบอกตรงๆ ผมยิ่งรู้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิม ผมไม่สนใจอะไร ลุกขึ้นแล้วคว้าแขนของพายกึ่งลากออกมาจากตรงนั้น และมุ่งสู่ป่าไม้ในแถวๆนั้นทันที แม้ว่าจะมีเสียงห้ามก็ตาม

     

              เธอ….”

     

              ไอแบค..นายลากฉันมาทำไมเนี่ย ฉันเจ็บนะ พายทำไม่รู้ไม่ชี้ เอามือลูบแขนตัวเองไปมา

     

              เธอไปบอกสเกลทำไมฮะ !!!!!!!!!”  ผมตะคอกใส่เธอเสียงดังมากจนเธอเองก็สะดุ้งโหยง

     

              ทำไมละ..ฉันก็ช่วยบอกให้ไง ไม่ดีตรงไหน พายกอดอกแล้วหันตัวไปทางอื่นอย่างไม่สนใจ  ผมกระชากตัวเธอให้หันกลับมาแล้วจ้องหน้าเธออย่างโกรธแค้น สเกลอาจจะรู้มาตั้งนานแล้วว่าผมชอบเธอ แต่ถ้าให้คนอื่นไปพูดแบบนั้นต่อหน้าคนอื่น ๆ มันคงไม่ใช่สิ่งที่สมควรนัก มองจากสีหน้าของสเกลก็รู้ แล้วเมื่อสักครู่ที่ลากพายออกมา สเกลก็ไม่ได้เอ่ยห้ามเลยสักนิด สเกลต้องไม่พอใจแน่ๆ ผมผลักพายอย่างแรงจนเธอลงไปกองกับพื้น ผมไม่สนใจและเดินออกมาอย่างหงุดหงิด ตอนนี้ทุกคนรู้แล้ว แล้วทารุก็ต้องรู้ ที่ผมโกรธน่ะ มันเป็นเพราะว่าผมต้องการให้เรื่องนี้เงียบๆ ไปซะ ไม่อยากจะให้สเกลต้องมาลำบากใจ เพราะเรื่องไร้สาระ แล้วตอนนี้ผมจะเป็นยังไงในสายตาคนอื่น ที่บังอาจไปชอบนางฟ้าคนนั้น แค่คิดก็เซ็งแล้ว ! ผมไม่ได้เดินไปที่โต๊ะอาหารอีก จึงไม่ได้เจอกับสเกลและคนอื่นๆ แต่ถึงยังไง ผมก็ไม่กล้าสู้หน้าเธออยู่ดีนั่นแหละ

     

              โอริ..” ผมเอ่ยเรียกชื่อเธอซึ่งเธอมานั่งทานข้าวในห้องเรียนแทน ทำไมไม่เห็นจะรู้เลยว่าพกข้าวกล่องมา ก็เมื่อเช้ายังบอกอยู่ว่าจะตามไปที่โต๊ะ จะว่าไปแล้ว โอริก็ไม่เคยไปที่โต๊ะนั้นเลยนี่นะ  โอริเงยหน้ามามองผมและยิ้มตอบรับ จะเป็นยังไงนะ ผมรู้สึกแย่จังที่ต้องเห็นเพื่อนสนิทตัวเองมานั่งกินข้าวอยู่คนเดียว ในขณะที่ผมมัวแต่ไปเพลิดเพลินกับความสวยงามของผู้หญิงคนนั้น ในเวลาที่มีปัญหาก็จะมาหาเพื่อนเก่า แต่เวลามีความสุขก็ทิ้งเพื่อนเก่า ผมเป็นคนแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

     

              โอริทำไมเธอไม่ตามฉันไปที่โต๊ะล่ะ ผมค่อยๆเดินไปหย่อนก้นนั่งลงที่เก้าอี้ของตัวเอง

     

              ฉันไม่อยากไปน่ะ อีกอย่าง ฉันก็พกข้าวกล่องมาแล้วด้วย เธอยิ้มน้อยๆกับข้าวกล่องใบเล็กๆในมือ ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเลยในตอนนี้ โอริทำหน้าเฉยๆแล้วค่อยๆตักข้าวกินทีละคำๆ ผมจ้องมองเธอ ผมไม่รู้ว่าควรจะบอกเธอหรือไม่ในเรื่องที่ผ่านมาเมื่อสักครู่นี้  กลัวว่าเธอจะต่อว่าผมเป็นคนทิ้งเพื่อน เห็นเพื่อนมีค่าแค่ตอนที่ตัวเองทุกข์ใจ

     

              นายจ้องหน้าฉันทำไม ? มีเรื่องอะไรหรือเปล่า  โอริถามขึ้นมา ผมจึงรีบหลบตาและเสมองไปทางอื่น

     

              ก็ไม่มีอะไร

     

              นายมีแน่นอน ฉันรู้ !”  โอริตบลงบนไหล่ผมอย่างแรงจนไหล่แทบทรุด ได้แต่ลูบไหล่ตัวเองป้อยๆ โอริส่งสายตากึ่งดุกึ่งอยากรู้มาให้ผม

     

              ก็พายบอกสเกลแล้วว่าฉันชอบสเกลน่ะ

     

              ปัดโถ่..นายเชื่อฉันเถอะ ว่าสเกลน่ะรู้มานานแล้วววว  

     

              แต่เธอทำหน้าเหมือนไม่พอใจด้วยน่ะสิ ผมแอบเหล่ตาไปมองโอริว่าเธอจะทำสีหน้ายังไง แต่เมื่อเห็นเธอจ้องหน้าผมอยู่จึงรีบหลบสายตาไปทางอื่น

     

              เธออาจจะไม่พอใจคนอื่นก็ได้นี่..”

     

              ยังไง..”

     

              ฉันแค่เดาเอาเฉยๆนะ ถ้าสมมุติสเกลแอบปิ๊งๆใครอยู่ภายในกลุ่มนั้น เธออาจจะไม่พอใจที่นายให้เพื่อนไปสารภาพรักให้ เพราะเธอไม่ต้องการให้คนที่เธอปิ๊งๆต้องไขว้เขวยังไงละ

     

              ไขว้เขวอะไรวะหนะ = =’”

     

              ก็เขาอาจจะกำลังแอบปิ๊งๆ กัน แล้วอยู่ๆมีนายแทรกเข้ามา เขาคนนั้นที่สเกลปิ๊งๆก็จะรู้สึกว่าตัวเองมีคู่แข่ง แล้วถ้าคู่แข่งเป็นเพื่อนตัวเอง เขาก็คงไม่อยากสู้ด้วยไง

     

              ฉันว่าเธอกำลังเพ้อเจ้อ = =” ถึงปากจะพูดออกไปแบบนั้น แต่ในหัวผมตอนนี้กำลังมีรูปทารุกับสเกลส่งสายตา ปิ๊งๆ กันอยู่ โถ่โว้ย ผมรีบสะบัดความคิดนั้นออกจากหัวทันที

     

              “555 ไม่แน่หรอกนะ แล้วก็อาจจะมีอยู่อีกอย่างคือ..”

     

              คือ..”

     

              สเกลอาจจะไม่พอใจพายก็ได้นี่…”

     

     

     

     

              วันนี้เป็นวันอะไรก็ไม่รู้ จะว่าโชคดีก็โชคดี จะว่าโชคร้ายก็โชคร้าย เพราะวันนี้โอริอ้อนวอนขอกลับเป็นเพื่อนผมด้วย อันที่จริงเธอไม่ต้องอ้อนวอนก็ได้นะ = = เพราะปกติผมเองก็เหงาเหมือนกันแหละที่จะต้องกลับบ้านเองคนเดียวทุกวัน ก็โอริเล่นกลับบ้านกับหนุ่มๆแทบทุกวันเลยนี่นา เพื่อนก็น้อยใจเป็นอะไรเป็นนะ T T

     

              ฮ้าถึงบ้านนายแล้วไอแบค ฉันน่ะชอบบ้านนายชะมัดเลยนะรู้ปะ ^ ^” โอริกระโดดไปกระโดดมาเหมือนเด็กๆ ผมจึงเอื้อมมือไปดันหัวเธอให้เข้าไปในบ้านเพราะอายคนอื่นเค้า -_- โอริรีบวิ่งเข้าบ้านไปแล้ว แต่สายตาผมเหลือบไปเห็นกระดาษสีขาวซึ่งถูกผนึกอย่างดีด้วยอะไรสักอย่างก็ไม่รู้ มันถูกวางอยู่บนขอบรั้วบ้านผม ทำไมไม่ใส่ในตู้รับจดหมายนะ อร๊ายย ไอ้พวกบุรุษไปรษณีย์บ้า
              ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ผมจึงเอื้อมไปหยิบมันพลิกซ้ายพลิกขวา ไม่มีอะไรเขียนเอาไว้ ด้านบนสุดของซองมีตัวหนังสือเล็กๆเขียนไว้ว่า  ‘Y02’  ผมไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไรจึงไม่ได้สนใจ แต่เปิดข้างในออกทันที

     

              วางบนรั้วบ้านฉัน ก็ต้องเป็นของฉันแหละ ฮ่าๆๆ  ผมหัวเราะอยู่คนเดียว ถึงเป็นของพี่สเกลผมก็อยากอ่าน 555 (เป็นคนดีอะไรอย่างนี้) ผมดึงไอ่ที่ผนึกแข็งๆออกไป แล้วเปิดกระดาษอ่านทันที

     

     

                            อยากตายใช่มั้ย ถึงบังอาจปลอมตัวเข้ามาล้วงความลับของเรา ขอบอกไว้ก่อนว่า เรื่องนี้มันไม่จบง่ายๆ เรื่องนี้มันต้องแลกด้วยชีวิตของแก


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×