คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : [chapter 4] Confessed love : เพื่อนใหม่..ที่ไม่สนิท กับความจริง -0-
กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
เสียงนาฬิกาปลุก เพื่อนเลิฟเพื่อนซี้ดังขึ้นอย่างเช่นทุกวัน แต่วันนี้ผมดันขี้เกียจปิดมันเหมือนเคย และยังคงปล่อยให้มันดังไปอย่างนั้น การนอนหลับทั้งๆที่มีนาฬิกาปลุกเสียงดัง นี่คือความพิเศษของผมนะ ฮ่า ๆๆๆๆ ผมยังนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอย่างสนุกสนาน วันนี้โดดเรียนดีกว่า ฮิฮะ เอิ้กๆ ๆๆ ผมปิดเปลือกตาลงช้า ๆ พลางนึกไปว่าวันนี้ไม่ไปโรงเรียนจะเกิดอะไรขึ้นบ้างหนอ
ยัยโอริคงเล่นงานผมเหมือนเคย และไม่แน่เธออาจจะมาเคาะประตูห้องผมถึงบ้านเลยก็ได้ แงๆๆ ทำไมผู้หญิงอย่างเธอถึงได้เจ้ากี้เจ้าการกับชีวิตของผมจังเลยนะ T^T เพศแม่เค้าเป็นเหมือนกันหมดเลยหรือเปล่าเนี่ย ผมนอนพลิกกลับมานอนหงายเหมือนเดิม สายตาจับจ้องไปบนเพดานห้องนอนซึ่งมีรูปสเกลขยายใหญ่แปะไว้ที่เพดาน อยากจะชื่นชมตัวเองที่ได้ดูมิวสิควีดีโอเพลง เหตุผลที่ไม่อยากเป็นเพื่อนเธอ ของพี่ so cool แล้วบรรเจิดไอเดียนี้ขึ้นมา เลยทำมั่ง 555 แต่ผมว่ามันมีความสุขจริงๆนะ ส่วนรูปสเกลน่ะหรอ ไม่ต้องสงสัยว่าผมได้มันมายังไง ผมแค่เข้าเว็ปบอร์ดโรงเรียนแล้วก็อบมานั่นเอง ฮ่าๆๆ (ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อวานก็อบใส่แฟลตไดซ์มาเพื่ออะไร ฮ่าๆๆๆๆ - -‘)
ตื้ด ตื้ด
โทรศัพท์ของผมสั่นเอี๊ยดอ๊าดอยู่ในกระเป๋า ผมใช้เวลากว่า 5 นาทีเพื่อจะควานหามัน เพราะเนื่องจากกระเป๋าของผมมันรกพอสมควร o- แต่ว่ากว่าจะได้รับ ปลายสายก็เงียบไปซะแล้ว ผมค่อย ๆ กดโทรศัพท์ราคาแพงของตัวเองดูว่าใครโทรมา แล้วก็ต้องยิ้มออกเมื่อมันเป็นรายชื่อของโอริ ผมกลับมานอนเล่นที่เตียงอีกครั้ง พร้อมเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดๆๆเล่น สักพัก โทรศัพท์ของผมก็สั่นอีกครั้ง แต่มันเป็นข้อความ ผมจึงรีบเปิดดูทันที
ออกมาเร็วๆ ตอนนี้ฉันอยู่ที่หน้าบ้านนาย โอริ..
อะเจ้ย !
ผมรีบกุลีกุจอมาที่ระเบียงทันที เห็นโอริในชุดนักเรียนกำลังยืนรอผมอยู่ด้วยใบหน้าบูดบึ้ง เธอเงยหน้าขึ้นมาสบตาผมพร้อมกับชี้นิ้วมาที่ใบหน้าของผม น่ากลัวอะไรอย่างนี้ แงๆๆๆ
“ฉันให้เวลานาย 5 นาที !!!!!!!!”
“ยัยบ้า มาบ้านฉันทำไม”
“ก็เพราะฉันรู้ไงว่าวันนี้นายจะโดดเรียน”
“รู้ได้ไง”
“นายมันเป็นอย่างนี้ทุกวันนั่นแหละย่ะ !”
ปัดโถ่ ! ผมขยี้หัวตัวเองแรงๆสองสามที เป็นอันว่าวันนี้ไม่ได้โดดเลยงะ งอแง ผมเดินเข้าห้องเหมือนเดิม ทำธุระของตัวเองเรียบร้อย ส่องกระจก เซตผมอีกนิดเป็นอันว่าเสร็จ และเดินออกมาจากห้อง
เอ๊ะ ! ผมลืมอะไรบางอย่าง..
“เดี๋ยวเจอกันที่โรงเรียนนะจ๊ะยาหยี จุ้บๆๆๆๆๆๆๆๆ”
ผมทำท่ากระโดดจุ้บกับรูปสเกลที่อยู่บนเพดาน แต่จุ้บไม่ถึง -_- ลืมไปว่าเมื่อวานใช้บันไดปีนขึ้นไปติด ผมเลยได้แต่ยืนมองนิ่ง ๆ แล้วความคิดบางอย่างก็ผลุบเข้ามาในหัวของผม รูปสเกลที่กำลังยิ้ม ก็เหมือนกับสเกลที่ยิ้มให้ทุกๆคน และเธอช่างอยู่สูงเกินกว่าจะไขว่คว้า ผมก็เหมือนคนธรรมดาๆ ที่ไม่ได้มีอะไรดีเลย แม้ว่าดูเหมือนจะห่างกันแค่นี้ แต่ความเป็นจริงแล้ว เอื้อมอย่างไรก็ไม่ถึง.. แล้วถ้ามีใครสักคนที่อยู่สูงพอๆกับเธอ ก็คงไขว่คว้าหาเธอได้อย่างง่ายดาย
ผู้ชายที่เหมาะสม ผู้ชายที่เพียบพร้อมไปทุกสิ่ง ผู้ชายที่ได้ขึ้นชื่อว่า perfect..
และแล้ว..รูปผู้ชายที่มารับเธอเมื่อวานก็ล่องลอยเข้ามาในหัวของผม เขาช่างดูดี เมื่อยืนเคียงข้างสเกลแล้วเข้ากันอย่างเหมาะสม ผู้ชายที่มีมาดเท่ห์ ดูเก่งกาจอัจฉริยะ มีรถหรูๆขับมาเพื่อรับเธอกลับบ้าน มีคำพูดและสายตาที่สุภาพ และแฝงมาดนิ่งไว้ภายใน ทำให้คนๆนั้นดูน่าคบหาอย่างมาก และยังจะด้วยหน้าตาหล่อเหลาเอาการนั่น สายตาของสเกลที่มองผู้ชายคนนั้นอีก มันช่างดูสนิทสนมเหลือเกิน เหตุผมทั้งหมดมันเหมือนเป็นค้อนที่ค่อยๆตอกตัวผมให้จมลงดินเรื่อย ๆ จมแบบไม่มีแรงจะปีนป่ายขึ้นมาพบความจริงเลย
ผม
จะเอาอะไรไปเทียบเขา
ผมเดินมาชั้นล่างด้วยหัวใจอันห่อเหี่ยว ความคิดทั้งหลายนั้นมันประดังประเดเข้ามาจนทำให้ผมไม่มีกระจิตกระใจจะไปเรียนเลย ในขณะที่ชั้นล่างมีโอริ สาวสวยน่ารักสไตล์ญี่ปุ่นแบบที่เธอเป็น เธอกำลังนั่งข้างๆผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ที่มีในหน้าสวยสด เปรี้ยวจี๊ด แต่แฝงความดุดันและห้าวโหดเอาไว้ เธอคือพี่สาวของผมเอง เธอปรายตามามองหน้าผมนิด ๆ ให้ตาย แค่พี่มองผมก็ขนลุกแล้วครับ []-
“นายมันลงมาช้าชะมัด มัวทำอะไรอยู่ห๊า !” และไม่ต้องบอกก็คงรู้ เสียงนี้คือเสียงของยัยโอริที่ว่ากล่าวผมทันทีเมื่อเห็นหน้า ผมไม่ได้พูดอะไร ได้แต่เดินออกจากบ้านเงียบ ๆ
“นายเป็นอะไรของนายเนี่ยห๊า !” โอริวิ่งตามมาดึงแขนผมอย่างแรง ทำให้ผมหยุดกึก
“ไอแบค..” นี่คือเสียงของพี่ไอบี พี่สาวของผม
“ครับ”
“มีเงินใช้หรือเปล่า”
“ก็พอมีอะ”
“อ่ะ
นี่.”
พี่ไอบียื่นธนบัตรสีเทามาให้ผม บางครั้งผมเองก็รู้สึกแย่ ที่ต้องมาขอใช้เงินของพี่สาวตัวเอง ผมไม่ได้ทำงานพิเศษอะไรเลย เพราะพี่ไอบีสั่งห้ามทำใดๆทั้งสิ้น ทุกสิ่งทุกอย่างพี่ไอบีจะหามาให้ผมตลอดเวลาที่ผมเอ่ยปาก เรื่องเงินไม่ต้องพูดถึง เธอให้ผมได้ใช้แต่ละวันอย่างสบาย ๆ อย่างที่พ่อกับแม่ที่หนีหนี้ไปอยู่ต่างประเทศทำให้ผมไม่ได้ และพี่ไอบีก็ประกาศไม่ให้การช่วยเหลือเรื่องการปลดหนี้ของพ่อแม่ตัวเอง ผมไม่ได้เจอหน้าพ่อแม่มาเกือบ 5 ปีแล้ว 5 ปีที่ผ่านมา คนที่เป็นทั้งพ่อและแม่คือพี่ไอบีคนเดียวเท่านั้น แม้ว่าเธอจะยังเรียนมหาลัยอยู่ แต่ว่าเธอก็สามารถหาทั้งเงินและความสุขให้ผมได้ตลอด แม้ว่างานที่เธอทำคือ การเป็นมือปืนสายลับของพวกตำรวจที่เก่งกาจ มีความสามารถ แต่พวกเขาก็ไม่ได้โด่งดังแต่อย่างใด พวกเขาทำงานอยู่เบื้องหลัง อย่างเงียบ ๆ นั่นเป็นเอกลักษณ์ของสายลับ มันเป็นเพราะตั้งแต่เด็กๆ พี่สาวของผมก็มีจิตใจที่บ้าบิ่น กล้าท้ากล้าสู้ ไม่เคยหวั่นเกรงต่อสิ่งใดๆ จนเมื่อสุดท้าย พ่อกับแม่ต้องหนีไปต่างประเทศ ทิ้งไว้เพียงจดหมายหนึ่งฉบับ ที่เขียนไว้ให้พี่ไอบีดูเท่านั้นว่าให้ดูแลน้องให้ดีที่สุด พี่ไอบีโกรธเป็นฟืนเป็นไฟมาก คุณอา (ผู้ผลิตน้ำหอมที่เคยพูดถึง) ได้ให้การช่วยเหลืออยู่บ้างพอสมควร ไม่ใช่เรื่องเงิน แต่เป็นการอยู่ การรักษาความปลอดภัย และการดูแลต่าง ๆ เนื่องจากพี่ของผมปฏิเสธเงินทั้งหมดของอา อาจึงให้ของขวัญกับพี่ไอบี ซึ่งมันคือปืน..
และนั่น..เป็นหนทางที่อาผมหยิบยื่นให้กับพวกผม พี่ไอบีก้าวเข้าสู้วงการสายลับ เป็นได้ทั้งมือปืนและนักฆ่า ทั้งได้เงินดี และได้รับความคุ้มครองสูงสุด ไม่มีใครรู้ว่าพี่ผมเป็นใคร รู้แค่เพียงว่าภายนอก เธอคือผู้หญิงสวยเปรี้ยว ดาวมหาลัยชื่อดังเท่านั้น และพี่ไอบีได้ทำตามคำสั่งของพ่อแม่ได้อย่างดีเยี่ยม นั้นคือ
การดูแลผมให้ดีที่สุด
ผมยื่นมือออกไปรับธนบัตรนั้นและกล่าวขอบคุณเบาๆ
“อุ้ย พี่ไอบีขา.. แบบว่า ช่วงนี้โอริก็ไม่ค่อยมีเงินเหมือนกันน่ะค่ะ พอดี วะ
แอร้ยยยย” ผมฉุดกระชากลากถูยัยโอริออกมาทันที ก่อนที่จะแสดงความบ้าไปมากกว่านี้ พี่ไอบียิ้มบางๆก่อนจะโบกมือให้พวกผม
ให้ตาย ! รั้วปิด
สรุปคือพวกผมต้องเดินมาอ้อมเพื่อจะปีนข้ามกำแพง โอริทำท่าทางไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก และกล่าวหาผมต่างๆนาๆว่าผมน่ะ ช้า มัวแต่ทำอะไรอยู่ ซึ่งผมก็ไม่ได้ตอบเธอ เธอบ่นกระฟัดกระเฟียด ผมได้แต่มองเธออย่างเอือมระอา เธอจึงหยุดบ่นและหยิบกระจกมาส่องใบหน้าตัวเองแทน ผมเดินเลาะๆไปเรื่อยๆ นักเรียนบางคนยังไม่ได้เข้าโรงเรียนเหมือนกัน เพราะมาสาย(เหมือนผม) ในที่สุดก็เดินมาจนถึงหลังโรงเรียน หลังโรงเรียนนั้นไม่ได้มีรั้วสูงๆอย่างที่คิด แต่กลับเป็นป่าร่มรื่นมาก มีทะเลสาบอีก ทำให้ที่นี่มักจะมีนักเรียนมานั่งเล่นนอนเล่นระหว่างเรียนหรือตอนพักนั่นเอง แต่ก่อนผมก็ชอบมาหลับอยู่แถวๆนี้เหมือนกันในคาบของอาจารย์สุดโหด เนื่องจากขี้เกียจนั่นเอง ฮ่าๆๆๆ
“ขอบใจนะ”
“อื้ม..กินเยอะๆ ร่างกายจะได้แข็งแรง ว่าแต่ตอนนี้ ในเว็บบอร์ดโรงเรียนเป็นยังไงบ้างละ?”
“ฉันให้ ผอ. โรงเรียนควบคุมเรื่องนี้แล้วน่ะ ก็คงไม่ค่อยมีแล้วละมั้ง”
“อื้ม..ก็ดีแล้ว”
“เมื่อวานฉันเจอผู้ชายคนนั้นในเว็บบอร์ดด้วยแหละ”
“ใครหรอ?”
“ไอแบค..”
ผมหยุดกึก เมื่อบทสนทนานั้นมาถึงผม ผมจึงแอบฟังข้างต้นไม้เงียบๆ ส่วนโอริน่ะหรอ อยู่บนต้นไม้แล้วเรียบร้อย =[]= คนที่คุยกันอยู่นั้น ทำให้ผมตกใจ เพราะนั่นคือสเกลและผู้ชายคนเมื่อวาน เขาใส่ชุดนักเรียนเหมือนผม แต่เขาเท่กว่ามาก เขาใส่ชุดดูเรียบร้อย ดูดีอย่างที่สุด ไม่ได้ถกแขนเสื้อ ปลดกระดุมลงแบบผม มันยิ่งทำให้ผมดูเหมือนกุ๊ยยังไงก็ไม่รู้ -_-; สเกลยังคงสวยบาดใจในชุดนักเรียนสุดเท่และแหวกแนวนั่น ผิวของเธอยังสดใส เปล่งปลั่งจนทำให้ผมแทบจะอดใจไม่อยู่แล้ว เขาทั้งสองยืนเคียงข้างกัน มันทำให้เหมาะสมกันอย่างยิ่ง ผมรู้สึกห่อเหี่ยวลง แต่อยู่ๆ..
โอริเหยียบกิ่งไม้ให้หักหมายจะให้มันตกใส่หัวผู้ชายคนนั้น ผมเกือบจะร้องด้วยความตกใจ แต่ทันใดนั้น มือเรียวขาวของสเกลก็ยื่นมารับกิ่งไม้บนหัวผู้ชายคนนั้นได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วจนผมแทบจะมองไม่ทัน เท่าที่รู้ตอนนี้คือ สเกลบีบกิ่งไม้นั้นหักเป็นชิ้นๆ ก่อนจะโยนทิ้งไปข้างๆอย่างไม่แยแส ผู้ชายคนนั้นหัวเราะเบาๆ
“นึกว่าเธอจะไม่ช่วยฉันแล้ว”
“ตาบ้าเอ๊ย”
สเกลเงยหน้าขึ้นไปบนต้นไม้ในขณะที่ผู้ชายคนนั้นกำลังก้มลงพื้นอยู่ เธอจึงสบตาเข้ากับโอริจังๆ สเกลยิ้มน้อยๆให้โอริ ในขณะที่โอริกำลังตัวสั่นหน้าแดงอยู่บนนั้น สเกลไม่ได้พูดให้ชายคนนั้นฟังว่าโอริอยู่บนนั้นและเหยียบกิ่งไม้ใส่เขา ยัยบ้าโอริ !! ฉันจะเลิกคบกับเธออออออออ อ๊ากกก !!! ดูสเกลไม่ได้ถือโทษโกรธโอริแต่อย่างใด ดูเธอจะไม่ใส่ใจด้วยซ้ำ นั่นมันบุญของเธอนะโอริ โฮ ๆๆๆ เพราะหลังจากที่เมื่อวานที่ได้ดูการแสดงสดกับไอ่พวกหัวแดงแล้วยังเสียวๆไม่หาย ใครแหยมเธอเข้า คงจะเละแน่ๆ
“ไปกับเถอะ”
สเกลกับชายคนนั้นเดินออกไปแล้วอย่างเงียบๆ ผมจึงออกมาจากที่ซ่อนทันที พร้อมๆกับพี่โอริลงจากต้นไม้มาด้วยใบหน้าหงอยๆ
“นี่เธอ ไปทำอะไรเขาน่ะ.. ถ้าแฟนเขาเป็นอะไรขึ้นมาจะทำไง” ผมกัดฟันพูดคำว่าแฟนอย่างพะอืดพะอม โอริเงยหน้ามาสบตาผมด้วยสายตาแดงก่ำ
“นายนั่นไม่ใช่แฟนสเกล”
“แล้วเธอรู้ได้ไง
”
“เชื่อฉันแล้วกัน นายนั่นไม่ใช่แฟนสเกล !!!” โอริวิ่งออกไป ในขณะที่ผมได้แต่ยืนอย่างงงงัน เป็นอะไรของเธอนะ ?
ในห้องเรียน
โอริไม่ค่อยพูดอะไรเลยวันนี้ แถมยังดูซึมๆแปลกๆ ผมเลยไม่ค่อยจะกล้าสงเสียงไปรบกวนเธอเท่าไหร่นัก พอพักเที่ยงเธอก็ลุกออกจากเก้าอี้โดยไม่ได้ร้องเรียกผมอย่างที่เคยทำ ผมก็ไม่กล้าเรียกเธอเช่นกัน สภาพตอนนี้มันเริ่มจะเครียดๆแล้วสิ ตกลงเธอเป็นอะไรกันแน่นะ
ผมออกมากินข้าวเงียบ ๆคนเดียวที่ป่าหลังโรงเรียน และคิดเรื่องเมื่อเช้าไปต่างๆนาๆ ทำไมโอริถึงมั่นใจนักหนาว่าเขาทั้งสองไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่ในขณะที่ผมมั่นใจว่าเขาทั้งสองต้องมีความสัมพันธ์กันแน่ ๆ ทั้งการคุย สีหน้า และการปกป้องของสเกลนั่น หรือว่าแท้จริงแล้วยัยโอริจะชอบผู้ชายคนนั้น ต้องใช่แน่ๆ เธอคงเห็นผู้ชายคนนั้นกับสเกลแล้วเกิดความรู้สึกหวง อะไรแบบนี้แน่ๆเลย ย้ากก ในที่สุดก็รู้ความจริง เธอคงรับไม่ได้สินะ กับการอกหักตั้งแต่แรกน่ะ ฮี่ๆๆ
“ไอแบค..” ผมหันไปตามเสียงเรียก ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งหน้าตาสวยหวาน ผิวขาวบอบบาง กำลังยิ้มให้ผมอยู่ และเธอก็มากับผู้ชายอีกคน ให้ตาย ทำไมช่วงนี้ผมต้องเจอคนอยู่ด้วยกันเป็นคู่ๆด้วยนะ ช้ำใจอะ T^T
“อ้าว พาย” เธอนั่งลงบนโต๊ะข้างๆผม และผู้ชายอีกคนที่หน้าตาดีไม่เบานั่งอยู่อีกฝั่งหนึ่ง
“ทำไมมานั่งที่นี่ละ” พายถามผม
“โอริไม่รู้ว่าเป็นอะไรน่ะ วิ่งหนีฉันไปแล้ว ฮ่าๆๆๆ”
“มีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า”
“โอ้ย ไม่มีหรอกๆๆ”
เธอยังคงยิ้มให้ผม พร้อมกับแกะห่อข้าวในมือออกเบาๆ ผมกินข้าวหมดแล้วก็เลยได้แต่นั่งเฉยๆ ผู้ชายตรงข้ามยังคงนั่งนิ่งๆ เหมือนจะหลับเอาซะมากกว่า พายเป็นเพื่อนเก่าของผมตั้งแต่ม.ต้น เธอเคยชอบผมมาก เหมือนที่ผู้หญิงคนอื่นชอบผม แต่ผมก็ปฏิเสธเธอต่างๆนาๆ จนสุดท้ายเธอก็ตัดใจจากผมไป เมื่อขึ้นม.ปลาย เราจึงแยกห้องกันอยู่เพราะผมสอบห้องคิงไม่ติด ประกอบกันผมต้องดูแลเพื่อนชาวญี่ปุ่นคนใหม่อย่างโอริ เราจึงกลายเป็นเพื่อนห่างๆไปเท่านั้น
“ทารุ แล้วสเกลล่ะ?”
“เดี๋ยวมา”
ผมมองไปทางบุคคลใหม่ที่เดินเข้ามา ผู้ชายคนที่อยู่กัยสเกลเมื่อเช้า คนที่เกือบโดนยัยโอริหักกิ่งไม้ใส่ คนที่โอริชอบนั่นเอง ! ชื่อทารุหรอกหรอเนี่ย ชื่อไฮโซญี่ปุ่นเด๊ะๆๆ
ว่าแต่..สเกลจะมาที่นี่หรอ ?
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด =[]=
“สวัสดี ^ ^” ทารุนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับผมพอดี ข้างๆกับผู้ชายที่กำลังหลับอยู่ เขายิ้มให้ผมเป็นการทักทาย ผมจึงยิ้มตอบ
“สวัสดีครับ ^ ^” เรายังคงยิ้มให้กันอยู่อย่างนั้น ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอนายทารุที่นี่น่ะ เขาก้มลงแกะกล่องข้าวแล้ว แต่สายตาของผมยังคงจับอยู่บนท่วงท่าของเขา เพราะมันดูสง่างามมาก การเคลื่อนไหวทุกอิริยาบถนั้นช่างน่ามองจริงๆ นี่น่ะหรอ ผู้ชายที่เพียบพร้อม ที่อยู่ในระดับเดียวกันกับสเกล ผมจะเป็นแบบนี้ได้บ้างมั้ยนะ ผมจะต้องเปลี่ยนตัวเองให้ได้ !
“สเกลมาแล้ว” ผมหันไปมองทันที
สเกลเดินมาด้วยท่วงท่าสวยงาม ในชุดนักเรียน เมื่ออยู่กับเธอมันเหมือนชุดของนางฟ้าซะมากกว่า พลิ้วไหวตามสายลม กับผมสีน้ำตาลของเธอที่พลิ้วไปด้านหลัง เผยให้เห็นใบหน้ารูปไข่นั้น ช่างสวยจริงๆ ผมมองตาค้าง ในขณะที่ทุกคนนั่งมองหน้าผม แต่ผมไม่สนใจ ผมสนใจนางฟ้าที่กำลังเดินมามากกว่า สเกลเมื่อเห็นผมก้ยิ้มน้อย ๆ ให้ ผมได้แต่ยิ้มตอบเบาๆ
“สเกลนั่งข้างๆเราก็ได้” พายตบตรงที่นั่งข้างๆเป็นเชิงให้สเกลนั่งลง เธอจึงนั่งลงโดยไม่ได้พูดอะไรต่อ ตอนนี้หัวใจของผมเหมือนจะหยุดเต้น ได้นั่งกินข้าวกับสเกล ได้นั่งข้างๆกันเพียงแค่อีกคนกั้นกลาง แต่ผมรู้สึกเหมือนตอนนี้พายเป็นแค่เพียงอากาศที่แทรกระหว่างเรา รู้สึกเหมือนเรานั่งอยู่ข้างๆกันจริงๆ
รู้สึกเหมือนตอนนี้ ทุกคนเป็นเพียงต้นไม้และอากาศที่บริสุทธิ์ รู้สึกว่าเราอยู่เคียงข้างกัน รู้สึกเหมือนเรา
ได้เป็นคนรักกัน
“ฟอนท์ !” เสียงสเกลเรียกผู้ขายตรงข้ามให้ตื่น แต่นั่นก็ทำให้ผมตื่นจากฝันกลางวันด้วยเช่นกัน เราไม่ได้อยู่กันแค่ 2 คน เราอยู่กัน 5 คน เราไม่ได้นั่งข้างๆกัน แต่มีพายกั้นอยู่ตรงกลาง.. ความจริงมันทำให้ผมหว่าเว้
“จะกินมั้ยอะ ข้าวน่ะ”
“หือ อืม” นายฟอนท์ยังคงหลับต่อ นี่นาย นางฟ้าเรียกทั้งคนยังมีอารมณ์หลับต่ออีกหรอฮะ !!!
“ไม่กินฉันกินนะ ว้าวๆๆๆ” สเกลเปิดกล่องข้าวของฟอนท์ดูก็ร้องว้าว พลางตักเข้าปากอย่างสบายอุรา ผมได้แต่มองเธอขำๆ
“เดี๋ยวก็อ้วนหรอก ยัยบ้า” ทารุบ่นขำๆ
“อร่อยงะ..”
“มาแบ่งบ้างไรบ้างเด่ะ”
“ไม่ย่ะ”
“หนอยย
”
“55 เธอสองคนน่าจะเป็นแฟนกันเนอะ ดูน่ารักดี” ผมหยุดกึก
อ้าว สองคนนี้ไม่ได้เป็นอะไรกันหรอกหรอ เออใช่ ถ้าเขาเป็นแฟนกัน ก็ต้องไปข้างข้างๆกัน หรือกินข้าวกันแค่สองต่อสองแล้วสิ ทำไมโง่อย่างนี้นะ
“บ้า จะเป็นแฟนกันได้ไง เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว เบื่อหน้าน่ะ 555” สเกลตอบเสียงสดใส ทารุเลยได้แต่ทำเสียงชิชะใส่ ทำให้ทั้งโต๊ะหัวเราะร่วมไปตามๆกัน โดยเฉพาะผมด้วย ที่ได้รู้ความจริงที่คิดเองเออเองมาตั้งนาน ทั้งสองไม่ได้เป็นอะไรกัน เขาสนิทกันแบบเพื่อน แต่ผมก็ยังคงสงสัยอยู่ดี ว่าโอริรู้ได้ยังไง แล้วทำไมถึงมั่นใจขนาดนั้น ผมจะต้องถามเธอให้รู้ให้ได้ !
แต่ว่าตอนนี้นะ
สเกลไม่มีแฟน
ผมก็ยังมีสิทธิ์อ่ะเดะ !!! กรี๊ดดดดดดด >o<
คืนนั้น ผมนอนเปิดไฟทั้งคืน เพื่อมองใบหน้าสวยน่ารักของสเกลที่อยู่บนเพดานห้อง
แกง/ จืด
ความคิดเห็น