ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [chapter 3] Confessed love : การต่อสู้ที่แสนน่ารัก >.
บทที่รีไรท์ กรุณาอ่านใหม่ด้วยค่ะ..
“อ่ะ ๆ”
เงียบกริบ....
สิ้นเสียงประกาศเกล้าจากริมฝีปากสวยของสเกล ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนหยุดเคลื่อนไหว ผมที่กำลังจะออกมาช่วยเธอก็ต้องชะงักลงไปด้วย มือหยาบกร้านของไอ้ผ้าโพกหัวสีแดงตอนนี้ปล่อยปลายผมของเธอที่กำลังเขี่ยเล่นเบาๆอย่างลืมตัว ก่อนจะถอยออกไปสักสองสามเก้าอย่างตั้งหลัก
“เอานังนี่ไปจัดการซะ
” เสียงประกาศจากไอ้ผ้าโพกหัวแดง ทำเอาผมสะอึก และโกรธจนหน้าขึ้นสี คิดจะทำร้ายผู้หญิงอย่างสเกลงั้นเรอะ !! ผมไม่มีทางยอมเด็ดขาด ลูกน้องของมันต่างค่อยๆกรูเข้ามาทางสเกล น่าแปลกที่เธอไม่ได้ถอยหนีเลยสักนิด ! แผ่นหลังบางๆนั้นเงียบสงบ แทนที่จะสั่นเพราะความกลัว ผมจะอยู่นิ่งไม่ได้เด็ดขาด !!!
“หยุดนะ !!” นี่เป็นเสียงของผมเอง ที่รวบรวมความกล้าทั้งหมดออกมา ได้ผลที่สายตาทุกคู่หันมามองทางผมเป้นทิศเดียวกันหมด ยกเว้นสเกล ที่เธอยังคงยืนนิ่งไร้การโต้ตอบใดๆทั้งสิ้น เอ่อ..ช่วยบอกเธอที ว่าผมมีตัวตนนะครับ ช่วยหันหน้ามามองแล้วทำหน้าตื่นเต้นประดุจว่าผมเป็นอัศวินขี่ม้าขาวหน่อยเถอะ =[]= !!
“เอากระเป๋าสตางค์ของฉันคืนมา ถ้าไม่อยากเจ็บตัว... ” เสียงเย็นชา เรียบนิ่ง ของเธอเอ่ยขึ้นอีกครั้ง ไอ้หัวแดง (ย่อมาจาก ผ้าโพกหัวสีแดง -_-‘) และลูกน้องทั้งหมดของมันหันกลับไปที่สเกลเหมือนเดิม ไอ้หัวแดงส่งสายตาแทะโลมไปทั่วร่างกายของเธอ
“เจ็บตัวงั้นหรอ...?” แล้วไอ้หัวแดง ก็ชูกระเป๋าสีขาวใบไม่เล็กไม่ใหญ่ขึ้นเหนือหัว นั่นมันกระเป๋าของสเกลที่ผมเห็นเมื่อเช้านี่หน่า
แต่ที่สำคัญคือ....
ผมยืนอยู่ตรงนี้นะครับ T^T ขอร้อง อย่าให้ผมหน้าแตก...
กระเป๋าสีขาวสะอาดถูกโยนออกจากมือของไอ้หัวแดงก่อนจะปลิวไปตกทางอีกฝั่งหนึ่งของกำแพงที่มีสีสเปรย์เขียนเต็มไปหมด สเกลหันมองตามทิศของกระเป๋าที่ปลิวไป ทำให้ผมได้เห็นเสี้ยวด้านข้างของใบหน้าเธอ ใบหน้าที่ขาวใส บัดนี้เป็นสีแดงเถือกด้วยอารมณ์อย่าน่ากลัว !
ผมกลับไปหลบที่เดิมดีกว่า T T
“เฮ้ย...ไอ้นี่ใครวะ !!” และความประสงค์ของผมก็ไม่บรรลุ เมื่อผมถอยหลังไปเหยียบเท้าใครคนหนึ่งเข้า เป็นชายร่างยักษ์ใส่เสื้อสีดำทะมึนกำลังจ้องมองผมด้วยสีหน้าและแววตาดุดัน
“อ๋อ..ก็แค่ลูกหมาน่ะ สงสัยมันคิดว่าเท่” คนที่ยืนอยู่ข้างๆหัวแดงพูดขึ้นมาอย่างดูถูก และผมยังไม่ได้ตั้งตัวอะไร คนร่างยักษ์ข้างหลังก็รวบแขนของผมเอาไว้ทั้งสองข้างซะแล้ว ! มันดันๆถีบๆ จนผมหกล้มคลุกคลานมาอยู่ข้างๆสเกล ผมกำลังจะตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืน แต่เมื่อเงยหน้าขึ้น ผมก็พบว่า...
เรียวขายาวสวยที่โผล่พ้นออกมาจากกระโปรงนั่นทำให้ผมมองตาไม่กระพริบ (ให้ตาย ! พระเอกหรือวะเนี่ย -_-“) ผมมองตาค้างไปประมาณ 2-3 วินาที ก่อนจะสัมผัสได้ถึงสายตาอำมหิตของทุกคนในสถานที่แห่งนี้ =[]= ผมจึงรีบตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วก่อนที่จะมีใครตื้บผมตายไปซะก่อน
อีกครั้ง...ที่สเกลไม่ได้ปรายตามามองผมเลย!
“ไปเก็บกระเป๋าของฉันมาเดี๋ยวนี้ !!” ผู้หญิงข้างๆผมกำลังส่งเสียงออกมาอย่างยากลำบาก ผมก็พอจะเดาออกอ่ะนะ ว่าเธอจะโกรธแค้นชิงชังมากแค่ไหน สายตาของเธอเอาแต่จ้องไปที่ไอ้หัวแดงอย่างกับจะฆ่ากันยังไงยังงั้น ผมขยับตัวไปใกล้ๆเธอให้มากขึ้น และเอื้อมมือออกไปหมายจะจับมือเธอเพื่อปลอบโยน แต่ยังไม่ทันที่มือของผมจะแตะถูกตัวของเธอ เธอก็กระโจนใส่ไอ้หัวแดงไปเสียแล้ว
ตุบ พลั่ก ..
สเกลต่อยหน้าไอ้หัวแดงจนมันหน้าหงาย เสียงคนตะลุมบอนกันอย่างน่ากลัว สเกลอยู่ข้างในโดยมีชายหน้าโจรทั้งหลายยืนล้อมรอบเอาไว้ แล้วทีนี้ผมจะช่วยเธอได้อย่างไรกัน T T ผมกำหมัดแน่น คิดโมโหตัวเอง ที่เป็นผู้ชายซะเปล่าแต่หาหนทางช่วยผู้หญิงคนเดียวไม่ได้ คิดได้ดังนั้น ผมจึงเริ่มวิ่งเข้าไป ดึงร่างชายทั้งหลายให้ออกมาทีละคนๆ ละเมื่อผมพลาด..หมัดหนักๆของใครบางคนก็เสยเข้าที่ใบหน้าของผม ซ้ายที ขวาที จนผมเซลงกับพื้น และตามด้วยเท้าของใครไม่รู้ ที่เขี่ยผมให้ออกไปพ้นๆทาง ผมกลิ้งออกมา รู้สึกปวดแก้มตุบๆ ได้รสชาติเค็มๆฝาดๆ ก็รู้ทันทีว่าเป้นเลือดของผมอย่างแน่นอน ผมค่อยๆ ลุกขึ้นยืนและเดินห่างออกมา....
ผมไม่ได้ไปไหน...
ผมกำลังจะช่วยเธอ
ผมวิ่งออกมาตามทางเพื่อหาอะไรบางอย่างที่จะช่วยเธอได้ แต่มันไม่มีอะไรเลย ไม่มีเลยจริงๆนอกจากเศษขยะที่เป็นลังๆ พวกนี้ หรือว่าพวกนี้มันเป็นพวกโรคจิตนั่งฉีกกระดาษเล่นกันวะเนี่ย -_-“ เอาวะ ! ในเมื่อหาอะไรไม่เจอแล้ว ก็ใช้ที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์ก็แล้วกัน ผมจัดการใช้ทั้งสองมือยกลังขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนและเดินกลับทางเดิม ตอนนี้ ฉากของการต่อสู้ สเกลไม่ได้เป็นอันตรายใดๆอย่างที่ผมคิดไว้
มีผู้ชายร่างยักษ์ 3-4 คนรวมทั้งไอ้หัวแดง กำลังนอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้น ในขณะที่ผู้ชายอีก 3 คนกำลังรุมเข้าหาเธอ โดยที่เธอสู้กลับอย่างบ้าคลั่ง สองกำปั้นเล็กๆ นั้นเหวี่ยงเข้าที่แก้มของชายร่างยักษ์คนหนึ่ง และหมัดอีกข้างก็สวนเข้าที่แก้มอีกข้างหนึ่ง ก่อนจะจบด้วยท่าอันสวยงาม เพราะขาสวยๆของเธอตอนนี้ฟาดผ่าเข้ากล่องดวงใจของผู้ชายคนนั้นอย่างจัง เป็นอันว่าจบไปแล้วอีกหนึ่ง ตอนนี้เหลืออีกสอง ซึ่งสถานการณ์มันค่อนข้างจะเลวร้ายพอสมควร เพราะสองคนนี้ดูจริงจัง และเก่ง สามารถหลบหมัดเล็กๆของสเกลได้ ผมจึงใช้จังหวะนี้ หยิบเศษขยะในกล่องลัง อ้อมไปทางด้านหลัง แล้วโปรยใส่หน้าของทั้งคู่
ได้ผล เพราะทั้งคู่มัวแต่ปัดเศษขยะนั่นจนลืมไปว่าตัวเองกำลังอยู่ในสภาพอย่างไร สเกลได้จังหวะพอดีจึงตบเข้าที่ข้างๆหัวของทั้งสองอย่างรุนแรง จนหัวโขกกันเสียงโป๊กใหญ่ก่อนจะเซลงนั่งด้วยกันทั้งคู่ ไม่พอเท่านั้น สเกลก็จัดการฟาดสันมือเข้าที่ท้ายทอยของทั้งคู่อีกอย่างแรงจนสลบเหมือดไปตามๆกัน ผมยืนมองภาพตรงหน้าอย่างมึนๆ ผู้ชายนับ 7-8 คน นอนกระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น พร้อมกับรอยเลือดที่หยดอยู่กระจัดกระจาย มองไปที่สเกลแล้วยิ่งตกใจมากกว่า เพราะสภาพของเธอตอนนี้มันช่าง..
เสื้อนักเรียนสีขาวแขนยาวถูกถกขึ้นไปบนหัวไหล่ มีสีดำคล้ำๆและรอยเลือดอยู่เต็มไปหมด กระโปรงดูเหมือนไปคลุกฝุ่นมาไม่มีผิด มือทั้งสองข้างของเธอที่เคยเป็น ‘หมัด’ มาก่อน มีเลือดติดอยู่เต็มจนน่ากลัว ใบหน้าที่มีแต่ฝุ่นสีดำๆ ติดอยู่เต็มไปหมด เธอไม่ได้หันมามองผม (อีกแล้ว) มันเริ่มจะทำให้ผมห่อเหี่ยวเข้าไปทุกทีๆแล้วนะ
สเกลปัดฝุ่นตามเสื้อออกอย่างแรง ใช้มือสางๆผมให้เข้าที่เข้าทาง และใช้ผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าเสื้อมาซับใบหน้า ทำแค่นี้..เธอก็กลับมามีราศีเปล่งปลั่งเหมือนเดิมอีกครั้ง เธอเดินไปหยุดอยู่ที่กำแพงฝั่งที่พวกนั้นโยนกระเป๋าข้ามไป เธอกำหมัดแน่นอยู่สักพัก ก็เดินย้อนกลับมาเตะป้าบเข้าให้ที่ซี่โครงของไอ้หัวแดงที่นอนสลบไม่รู้เรื่อง เธอเดินกลับไปที่กำแพงอีกครั้ง ในเมื่อไม่มีหนทาง..
ชิ้ง ( O_O)++++(-_- )
เป็นครั้งแรกที่เธอหันมาสบตาผม มันทำให้ผมเข่าแทบทรุด เธอมองหน้าผมอย่างงงๆนิดๆ (คงจะประมาณว่า เมิงมาตั้งแต่เมื่อใด -0-) ก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง ^___^ ทำให้ผมจะละลายอยู่แล้ว เธอเดินเข้ามาหาผม (หวังว่าเธอคงไม่คิดว่าผมเป็นพวกเดียวกะพวกนั้นและมาตะรุมบอนผมอีกคนนะ =[]=) เธอกวักมือเรียกผมนิด ๆ ผมทำหน้าเอ๋อและชี้หน้าตัวเองอย่างงงงัน
“นายนั่นแหละ มานี่” เธอเรียกผมด้วยรอยยิ้ม ผมจึงถลาเข้าไปหาเธอโดยไม่รอช้า เธอชี้มือลงกับพื้นข้างๆกำแพง นั่นทำให้ผมงง จึงเกาหัวเบา ๆ
“นั่งสิ” เธอยังไม่ลดความพยายาม ผมจึงเดินลงไปนั่งขัดสมาธิ แล้วฉีกยิ้มแบบงงๆอีกครั้ง
“นั่งดีๆ”
“แล้วนี่นั่งไม่ดีตรงไหนอ่า”
“หันหน้าไปทางกำแพงสิ”
“อ่ะ ๆ”
“นั่งยองๆสิ”
“อ่า ๆ ครับๆ” ให้ตาย นี่เธอจะปล้ำผมหรือเปล่าเนี่ย =[]= เร็วเท่าความคิด รองเท้านักเรียนหนักๆก็ขึ้นเหยียบบนไหล่ของผมทันทีจนหน้าเกือบทิ่มพื้น ดีที่ใช้มือยันกำแพงไว้ได้ทัน เมื่อน้ำหนักบนไหล่ทั้งสองข้างของผมหายไปแล้ว ผมจึงได้โอกาสเงยหน้าขึ้นดูว่าเธอทำอะไร แต่เธอก็กระโดดข้ามกำแพงไปซะแล้ว T_T อะไรกันเนี่ย
“นี่นาย ข้ามมาสิ” เธอยังคงส่งเสียงเรียกผมอยู่อีกฝั่ง ทั้งที่ไม่เห็นตัว ผมที่กำลังเอ๋อรับประทานก็ได้แต่ข้ามตามคำสั่งอย่างว่าง่าย อีกฝั่งหนึ่ง เธอกำลังถือกระเป๋าสีขาวใบเก๋ของเธอเอาไว้พลางยืนฉีกยิ้มให้ผมอย่างนั้น บรรยากาศของกำแพงด้านนี้ไม่มีอะไรเลยนอกจากช่องแคบมาก ๆ ที่เหมือนเป็นที่ไว้ทิ้งขยะซะมากกว่า ผมหันมามองคนตัวเล็กข้างๆ อีกครั้ง ซึ่งเธอก็ใช้มือชี้ลงไปบนพื้นอีกครั้ง ผมพอจะเดาออกแล้วละว่าเธอจะให้ผมข้ามมาทำไม -_- มาเป็นเก้าอี้จำเป็นนี่เอง ผมจึงยอมนั่งลงช้าๆอีกครั้ง และน้ำหนักของเท้าทั้งสองของเธอก็กดลงมาบนไหล่ของผม เมื่อแน่ใจว่าเธอข้ามไปฝั่งเดิมเรียบร้อยแล้ว ผมจึงข้ามกลับมาบ้าง
ตุบ..
ผมกระโดดลงมายืนอยู่เคียงข้างเธอ ซึ่งเธอยังคงยิ้มหวานมาให้เหมือนเดิม
“ขอบคุณนะคะ ^ ^” ผมสาบานว่า ถ้าไม่ออกไปจากที่นี่โดยเร็ว ผมจะต้องละลายเพราะดวงตาหวานๆกับรอยยิ้มนั่นแน่ ๆ
“ขอบคุณอะไรหรอ ??”
“ก็ขอบคุณที่ช่วยฉันสู้กับสองคนสุดท้ายนั่นไง.....” ที่จริงผมแค่โปรยเศษขยะไปเองนะ -0- เธอเริ่มออกเดิน ทำให้ผมเดินคู่ไปกับเธอบ้างให้เสมอเวลาที่จะพูดคุยกัน ระดับความสูงของเธอไม่ได้เตี้ยจากผมมากนัก เลยไม่ทำให้ผมลำบากที่จะหันหน้ามาเพื่อพูดคุยกับเธอ รวมทั้งกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ นั่นมันเหมือนจะพาให้ผมรู้สึกเคลิ้ม...
“และก็ขอบคุณด้วยนะที่ให้ฉันยืมไหล่นาย ^ ^” เธอหันมาพลิกตัวผมให้ประจันหน้ากับเธอ ก่อนจะปัดเศษฝุ่นบนไหล่ผมเบาๆ แต่รู้สึกดีจัง ถ้าเธอจะพูดว่า ‘ขอบคุณนะ ที่ให้ฉันยืมไหล่ของเธอพักพิงเวลาที่ท้อใจ’ โอ้ย คงโรแมนติกน่าดู เพ้ออีกแล้วไง - -‘ ผมได้แต่มองหน้าผากเนียนสวยนั่นโดยไม่กล้าจะมองลงมาสบตา เพราะกลัวจะกลั้นใจไม่อยู่
“นี่...ฉันหิวเป็นบ้าเลย นายหิวบ้างมั้ย ?” เธอออกเดินอีกครัง ผมจึงขยับเดินตามเธอไป
“หิวมากๆ เลย T_T”
“ไปกินข้าวบ้านฉันก็ได้นะ เพิ่งย้ายมาน่ะ อยากให้เพื่อนใหม่อย่างนายรู้จัก ^ ^” ผมหูผึ่งทันที ทำไมวันนี้ผมถึงได้โชคดีอย่างนี้ ยังมีอีกตั้งกี่คนที่อยากจะเดินคู่ไปกับเธอแบบนี้ มีอีกตั้งกี่คนที่อยากไปบ้านเธอ อยากเป็นเพื่อนกับเธอ หรืออยากเป็นมากกว่าเพื่อน.. ผมส่งยิ้มตอบไปเป็นคำตอบตกลง เธอพยักหน้ายิ้มนิด ๆ
ระหว่างทาง เรามีเรื่องคุยกันตลอดทาง เธอบ่นให้ผมฟังเป็นบางครั้ง ว่าเปิดเทอมวันแรกของเธออึดอัดแค่ไหน เราจึงได้คุยเรื่องเว็บบอร์ดของโรงเรียนกัน แล้วก็ยิ่งคุยถูกคอกันมากขึ้น เมื่อเราอยู่บนสถานการณ์เดียวกัน ที่อยู่ ๆ ชื่อ รูปภาพ ประวัติของเราทั้งสองถูกคนเอาไปใส่ไว้ที่เว็บบอร์ดเพื่อให้คนอื่นทั่วไปได้อ่าน สเกลยอมรับกับผมว่าเธอไม่ค่อยชอบ โดยเฉพาะรูปภาพที่เธอไม่อนุญาติให้ถ่าย เธอบอกกับผมว่าจะให้ทุกคนจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ภายในอาทิตย์นี้จะต้องไม่มีรูปและประวัติของเธออยู่ในเว็บบอร์ดโรงเรียนอีกต่อไป ผมได้แต่พยักหน้าเงียบ ๆ
ยามค่ำคืนนี้ เธอก็ยังดูน่ารักละลายใจของผมเหมือนเดิม ผมพยายามชำเลืองมองเธอ แต่ก็ไม่กล้าจะหันไปมองเลยสักที ได้แต่เดินเงียบ ๆ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
แต่สุดท้าย
ผมไม่ได้ไปกินข้าวกับเธอ ผมไม่ได้ไปบ้านเธอ และผมอาจจะเป็นแค่เพียงคนรู้จัก ผมทำได้แค่มาส่งเธอที่หน้าโรงเรียน หน้ารถสปอร์ตสีแดงที่จอดรอรับเธออยู่ กับผู้ชายหน้าตาดี ดูดี น่าดึงดูดคนหนึ่ง ที่มารับเธอกลับบ้าน
..
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น