ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [chapter 2] Confessed love : เกิดอะไรขึ้น !!! =[]= (Rewrite!!)
บทที่รีไรท์ กรุณาอ่านใหม่ด้วยค่ะ..
“นายไอแบค !!!”
“นายไอแบค !!!”
“ไอ้ไอแบค !!!!!!!!!!!!”
“เย้ยย ย !! ตกใจหมด” ผมที่กำลังตกไปอยู่ในภวังค์ซะแล้ว ความฝันอันสวยงาม เหมือนตอนนี้ผมกำลังอยู่บนวิมานสวรรค์ชั้นไหนสักแห่ง และเพิ่งพบกับนางฟ้าตนหนึ่งที่กำลังมอบรอยยิ้มอันงดงามให้กับผม เพื่ออวยพรให้ผมพบแต่ความสุข โอ๊ย ! อยากจะกรี๊ดด ผมเงยหน้าขึ้นมามองไปรอบๆ ตัว ในห้องเรียนที่โต๊ะเก้าอี้วางอยู่อย่างเรียบร้อยไร้การขีดเขียน โดยเฉพาะความสะอาดของห้องเรียนยิ่งไม่ต้องพูดถึง ไม่ต้องให้บอกก็คงเดาถูกว่าค่าเทอมคงแพงแสนแพงแค่ไหน เพื่อแลกกับบรรยากาศสิ่งแวดล้อมในห้องเรียนให้น่าอยู่ขึ้น นักเรียนในห้องของผมเริ่มทยอยออกจากห้องไปกันแล้วบ่งบอกว่า ตอนนี้ถึงเวลาพักกลางวันแล้ว ผมขยี้ตาเล็กน้อยก่อนจะบิดไปบิดมา และก็ได้สังเกตเห็นโอริที่เก็บของเสร็จแล้วยืนเชิดใส่ผมอยู่
“อะไรของนาย..เจอเงาสเกลเขาหน่อยละหลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น เลยหรอยะ” โอริยกหนังสือภาษาอังกฤษใส่หัวผมแรงๆทีนึง เป็นเชิงปลุกให้ผมตื่นจากความฝันนี่เสียที ผมยังคงมองหน้าเธอตาปริบ ๆ
“แงงงงงงงงงง!” ผมยกมือขึ้นลูบหัวตัวเองป้อย ๆ และส่งสายตาค้อนๆไปให้
“เลิกเพ้อได้แล้วย่ะ พักเที่ยงแล้วนะ เราไปหาอะไรกินกันเถอะ!” เธอยื่นมากระตุกแขนผมแรงๆสองสามที ตัวของผมก็ลอยละลิ่วตามแรงช้างสารของเธอแล้ว ให้ตายเหอะ ยัยบ้านี่ ผมยังไม่เก็บของเลยนะ ผมเลือกเก็บปากกาเลกเชอร์และสมุดเลกเชอร์ใส่กระเป๋าแบบด่วนจี๋ แต่คาบนี้ผมยังไม่ได้จดเลกเชอร์เลยสักตัวนะ =[]= !!
“พี่ไอแบค ทางนี้หน่อยค่ะ ทางนี้ๆๆๆๆ ><”
“พี่ไอแบค กับพี่โอริ ตกลงว่าเป็นแฟนกันรึยังอะคะ พวกเราเชียร์อยู่นะ ๆๆๆ”
“ถ้าไม่มีเจ้าของ ทางนี้รออยู่นะคะพี่ไอแบค”
และตามด้วยเสียงกรี๊ดอีกนับร้อย ที่ร้องเรียกชื่อของผมเสียงดังจนผมหงุดหงิด ผู้หญิงพวกนี้ไม่กินข้าวกันหรือไงนะ มายืนกรี๊ดทำสวรรค์อะไรกัน แต่ถึงผมจะคิดอย่างนั้น ผมก็ยังคงโปรยยิ้มบางๆไปให้สาวๆพวกนั้น จากนั้นเสียงกรี๊ดจึงดันขึ้นอีกสิบเท่าตัวเลยทีเดียว ผมถอนหายใจ ก่อนจะค่อยๆเดินผ่านกลุ่มนักเรียนเข้ามาในโรงอาหาร เอาล่ะ วันนี้ผมจะกินอะไรดี... ผมหันไปมองหน้าโอริ ซึ่งเธอก็คงเดาคำถามจากสีหน้าผมได้ เธอจึงส่ายหัวหงิกกลับมาเป็นคำตอบ ผมเบ้หน้าใส่แล้วลากมือโอริให้ไปที่ร้านข้าวโปรดของผม อย่าเข้าใจผิดไปครับ ผมจับมือโอริ ไม่ได้หมายความว่าผมคิดกับเธอแบบนั้น แต่เป็นเพราะเรารู้จักและรู้ใจกันมานานแล้ว มันทำให้ผมกล้าที่จะทำโดยบริสุทธิ์ใจต่างหาก
ระหว่างทางที่ผมกำลังจะซื้อข้าว ณ จุดทางโค้งของโรงอาหาร เป็นทางโค้งที่ตกแต่งด้วยดอกไม้เล็กๆข้างทาง และกำแพงสีขาวสูงอยู่ข้างๆ ผมได้ยินเสียงเบา ๆ หวานๆ แต่ดูธรรมชาติ แปลกๆ แบบที่ต่างจากผู้หญิงคนอื่นที่มักจะดัดเสียงให้ดูเล็กๆ น่ารักๆ ซึ่งผมไม่ชอบ เธอกำลังร้องเพลงเบาๆ ผมหยุดยืนเพื่อฟังเสียงๆ นั้น โอริที่เดินตามผมโดยไม่พูดไม่จาก็ชนหลังของผมเข้าอย่างแรงจนผมเองก็เซเล็กน้อย กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ แบบธรรมชาติของผู้หญิงก็โปรยเข้าจมูกผม นั่นยิ่งทำให้ผมชะงักเข้าไปอีก ผมมั่นใจว่านั่นไม่ใช่กลิ่นน้ำหอมของโอริแน่นอน กลิ่นแบบนี้ มันต้องเป็นกลิ่น Dior Addict แน่ๆ เพราะทางธุรกิจของอาผมก็ทำเกี่ยวกับน้ำหอมเช่นกัน ทำให้ผมพอรับรู้มาบ้างว่า กลิ่นไหนที่นิยมและมีราคาหายาก ไม่ต้องเสียเวลาเดาว่ากลิ่นน้ำหอมนี่มาจากไหน เมื่อ...
ร่างบางสูงระหงส์ผิวขาวเนียนละเอียดจับตา ทำให้ผมที่อยู่ใกล้นิ่งไปในทันที สวย...สวยมาก ปอยผมสีดำกึ่งน้ำตาลไหม้ตกลงมาปรกใบหน้าอย่างดูพอดิบพอ กับชุดนักเรียนเก๋ไก๋ไม่เหมือนใครนั่น ยามเมื่อลมพัด ผมของเธอก็ปลิวไสวไปด้านหลัง เผยใบหน้ารูปไข่ สวยใสน่ามอง ดวงตาคม จมูกเล็กๆ และริมฝีปากบางๆสีแดงเชอรี่ทำผมกลืนน้ำลายอย่างไม่รู้ตัว ใบหน้าที่ไร้เครื่องสำอางของเธอมันทำให้ผม...
อยากจะกรี๊ดดดดด !!! (ผู้ชายบ้าไรกรี๊ดฟะ = =’)
เธอเดินผ่านผมไปในระยะเกือบประชิด แต่เธอไม่ได้ปรายสายตามาที่ผมเลยแม้แต่น้อย มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นมดตัวเล็กๆ ที่กำลังเงยหน้ามองเครื่องบิน เธอเดินผ่านผมไปแล้ว ทิ้งไว้แต่กลิ่นน้ำหอมธรรมชาตินั่นที่ทำผมหวิวๆในหัวใจ ผมยื่นมือออกไปไขว่คว้ากลางอากาศทำท่าโกยเข้าหาตัวเองเพื่อเก็บกลิ่นน้ำหอมนั้นมาให้มากที่สุด สูดหายใจเต็มปอดและปล่อยออกมาดังเฮือก ผมทำหน้าหวานเยิ้มหันไปมองโอริที่ยืนทำหน้าเอือมอยู่ข้าง ๆ ผมไม่นึกเลยว่าจะได้พบได้เจอเธออีก จากที่เจอเมื่อเช้าแล้ว เป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่เราได้พบกัน..... วู้ว ๆๆๆ >O<
“เป็นบ้าอะไรของนาย จะว่ายอากาศไปหาสเกลหรือไง” โอ้ย นี่ถ้าฉันทำได้ฉันทำไปแล้วละ ยัยโอริ ><”
“ >.<”
“แต่เธอสวยเป็นบ้าเลยนะ ว่ามั้ยไอแบค” เธอวางแขนไว้บนไหล่ผมพร้อมกับถาม ผมจึงได้แต่พยักหน้าถี่ ๆ เป็นเชิงว่าเห็นด้วยอย่างแรงเลยโอริคนสวยจ๋า
“ใช่ สวยมากๆเลยอะ สวยกว่าผู้หญิงทุกคนที่ฉันเคยเจอมาซะอีก”
“มันแน่อยู่แล้วย่ะ สวย..จนลืมหายใจ ซะขนาดนั้น แล้วอะไรยะ ตอนแรกไม่เห็นจะสนใจเลย เรื่องเด็กใหม่ที่ฉันเล่าน่ะ !” เออ ใช่ ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ ว่าเมื่อเช้า ที่เธอพยายามจะถ่ายทอดให้ผมฟังนักหนาว่ามีนักเรียนใหม่ย้ายเข้ามา แต่ผมไม่ได้ตั้งใจฟังเลยสักนิด นึกแล้วโมโหตัวเองจัง !! เธออยู่ม.6 เท่าผม งั้นหรอ แล้วอยู่ห้องไหนละ ?
“ห้องไหนอะ โอริ ?” ไว้เท่าความคิด ปากของผมก็ซัดคำถามไปซะแล้ว
“ห้องหนึ่ง” เธอตอบพลางยักไหล่
“ห้อง 1 เลยหรอ เส้นหรือเปล่าอะ” ผมงึมงำถามโอริ ก็ห้องหนึ่งน่ะ ยากแสนยากเลยเวลาใครจะเข้าไปนั่งเรียนแต่ละคน ต้องเป็นพวกหัวกะทิสุดๆจริงๆ ที่จะเข้าไปได้ และจากเหตุการณ์เมื่อเช้าที่มีคนขับรถมาส่งเธอถึงในโรงเรียนทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า เธอต้องเป็นพวกเส้นใหญ่และอิทธิพลเยอะมากแน่ๆ แต่ผิดคาดเมื่อ โอริโบกมือไปมาพร้อมส่ายหัวอย่างบ้าคลั่ง
“ไม่ย่ะ คนนี้ไม่เส้น เค้ารู้กันทั่วว่าเธอคนนี้น่ะ มาจากต่างประเทศด้วยเกรดสูงสุด และมาสอบเข้าที่นี่ด้วยคะแนนเต็มสูงสุด ที่พวกเราไม่สามารถทำได้ด้วยแหละ ! ” โอริถ่ายทอดให้ผมฟังราวกับท่องมาเป้นบทละครยังไงยังงั้น
“ทำไมเธอรู้เยอะจัง ทำไมฉันไม่เห็นจะรู้อะไรเลย” ผมถามออกไปงงๆๆ ก็มันจริงนี่นา ทำไมผมถึงพลาดข่าวสารตลอดเลยนะ เธอจึงทำหน้าดุๆ แบบจริงจังส่งมาให้ผม
“เว็บบอร์ดโรงเรียนมีไว้ทำไรยะ !!!” เธอกระแทกเสียงกลับมา
“ก็.... สอดเรื่องชาวบ้านมั้ง” ผมลอยหน้าลอยตาตอบไปงั้น ๆ เพราะผมเคยลองเข้าไปดู ก็มีแต่ชื่อผมรูปผม ประวัติผม ขนาดรูปทุเรศๆ ทีเผลอของผมยังปรากฏในเว็บบอร์ดโรงเรียนเลยให้ตายเถอะ ! จากนั้นมา ผมก็ไม่ได้เข้าไปอีกเลย เพราะผมไม่อยากเห้นหน้าตาตัวเองทีเผลอที่ผู้หญิงเค้าแอบถ่ายกันน่ะ มันทุเรศลูกตา = =’
“อย่าพูดว่าสอดสิ เค้าเรียกว่าไว้รับรู้ข่าวสารย่ะ !!” ชิ...มันต่างจากคำตอบของผมตรงไหนกัน
“นายอยากดูมั้ยละ สำเนาผลการเรียนของสเกล ประวัติ และรูปถ่ายของเธอน่ะ !” ผมหูผึ่งทันที
“อยากสิ !!!!!!!!!” และแล้ว เที่ยงนั้นก็ไม่มีอะไรตกถึงท้องผมเลย....
ขณะนี้ เราสองคนอยู่ที่ห้องคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนด้วยเหงื่อเต็มตัว เพราะอะไรน่ะหรอ ก็เพราะยัยโอริบ้าบอนี่แหละ !! เธอบอกว่าเธอเอาโน๊คบุคมา ก็อุตส่าห์รีบไปที่ห้อง แต่เธอดันมาบอกผมอีกทีว่า เธอเก็บไว้ในล้อคเกอร์ ! ผมไม่ว่าอะไร เดินย้อนกลับมาที่ล้อคเกอร์หลังโรงเรียน แต่สุดท้าย มันไม่มี!!! และเธอสารภาพกับผมทีหลังว่า ลืมไปว่าเอากลับบ้านไปแล้ว !!!!!!!!!!! ทำให้เราต้องเดินย้อนกลับขึ้นตึกอีกครั้ง จนมาอยู่ที่ห้องคอมพิวเตอร์ชั้น4ของโรงเรียนในที่สุด เหนื่อยเป็นบ้าเลยให้ตายเถอะ #_#
โอริกดเข้าเว็บบอร์ดของโรงเรียนอย่างคล่องแคล่วว่องไว ผมได้แต่นั่งมองตาปริบ ๆ ให้ตาย เว็บบอร์ดมันเปลี่ยนไปขนาดนี้แล้วหรอเนี่ย ระหว่างนั้นเอง...
“พี่ไอแบคคะ ช่วยอวยพรวันเกิดให้เพื่อนหนูหน่อย จะถ่ายวีดีโอน่ะค่ะ พอดีเพื่อนหนูชอบพี่มากอ่ะ ช่วยหน่อยนะคะ @_@” ผู้หญิงผมสั้น ๆ ติดกิ๊บตัวใหญ่ ๆ สีแดงสดมองหน้าผมปริบ ๆ อย่าทำตาละห้อยสิครับ ผมแพ้คนน่ารักนะครับ =[]=
เอาไงละทีนี้..ถ่ายวีดีโอหรอ ผมมองกล้องในมือของเธออย่างไม่ค่อยมั่นใจ ขนาดรูปผมเองยังไม่ชอบถ่าย ยิ่งมาดูผลลัพธ์ของรูปตัวเองแล้ว ยิ่งไม่ชอบเอาเสียเลย ผมหันไปมองหน้าน้องเขาอีกครั้ง เธอยังคงส่งสายตาปริบ ๆ ให้ผม โอริกระทุ้งศอกใส่เอวผมเบา ๆเป็นเชิงว่า ‘ช่วยๆน้องเค้าไปเหอะ’ ผมจึงตกลงอย่างจำใจ T^T
“ให้พี่พูดว่าอะไรอ่ะครับ -0-“ ผมถามและเกาหัวอย่าง งงๆๆ น้องเค้าก็เลยส่งสายตา >> ={}=! << ประมาณนี้
“แกก็อวยพรไงฟะ ทำไม่เป็นหรอไง พูดแบบนี้ ...” โอริที่เริ่มรำคาญหันมาเป็นเทนเนอร์ผมทันที
“
น้องครับ ผมขอให้น้องมีความสุขมากๆ กับวันเกิดนี้ ขอให้อายุยืนยาวและประสบแต่ความสำเร็จนะครับ รักนะ จุ้บๆ..” โอริเลียนแบบเสียงผม และจบด้วยการยกมือซ้ายมาชูนิ้วชี้ โป้ง ก้อยให้ผม เป็นสัญลักษณ์ของการบอกรัก ผมจึงทำหน้า แหวะ! ไปให้เธอขำๆ น้องที่ยืนถือกล้องก็พาลยิ้มน้อยๆไปด้วย ผมจึงเก๊กหล่อ และหันไปที่กล้อง เป็นเชิงว่า พร้อมแล้ว
“เอาละนะคะ... 1..2..3” เธอกดชัตเตอร์ เป็นรูปไฟสีแดงขึ้น เป็นเชิงว่า กล้องถ่ายวีดีโอทำงานแล้ว
“
น้องครับ พี่ขอให้น้องมีความสุขมากๆ กับวันเกิดนี้ ขอให้อายุยืนยาวและประสบแต่ความสำเร็จนะครับ รักนะ จุ้บๆ..” จบด้วยการยกมือซ้ายมาชูนิ้วชี้ โป้ง ก้อย เลียนแบบโอริเป๊ะ ! ทำให้เธอตบหน้าผากตัวเองดังฉาดใหญ่ ก็คนมันทำไม่เป็นนี่หว่า = =’ รุ่นน้องที่แสนดี ได้แต่ยิ้มกรุ่มกริ่มแบบแหยๆ เก็บกล้องและกล่าวขอบคุณเบา ๆ ก่อนจะเดินจากไป ผมได้แต่ยกมือบ๊ายบายให้อยู่ด้านหลังด้วยอารมณ์ไว้อาลัยสุดขีด ทำไมน่ะหรอ... ก็เพราะไม่รู้ว่าผลลัพธ์ในกล้องนั้นจะออกมาเป็นยังไงน่ะเส่ะ -_-‘ มันคงจะออกมาดูทุเรศทุรังเช่นเคยแหง๋มๆ เลยอ้ะ =[]=
“นายนี่มัน ปัญญาอ่อนสุดๆเลยเหอะ -_-“ โอริส่ายหัวเบาๆ ผมจึงหันมามองเสี้ยวข้างของใบหน้าเธอ
“ฉันปัญญาอ่อนตรงไหน?” ผมเถียงกลับ
“ทุกตรงอะ !”
“ไม่ใช่สักน้อย !”
“ไม่ใช่น้อยอ่าเดะ โด่ๆๆ”
“ยัยบ้า!!!”
“นายว่าใครบ้ายะ ???”
“ว่ายัยโอริที่ขี้เหร่ที่สุดในโลกาไงละ วะฮะฮ่า !!!”
โอริส่งสายตาเหี้ยมโหด ประหนึ่งว่าผมไปฆ่าบุพการีของเธอยังไงยังงั้น ผมจึงได้แต่หุบปากฉับแล้วก้มหน้าลงอย่างยอมแพ้ ขอโทษคับพี่ -/\- ผมผิดไปแล้ว ผมจะไม่ว่าพี่อีกแล้วคับ ผม...เอ่อ.... ผมยังไม่อยากตายน่ะครับพี่ T_T
“ให้มันน้อยๆหน่อยย่ะ !” เธอเชิดใส่ผม ก่อนจะหันไปเลื่อนเม้าท์ที่คอมพิวเตอร์ต่อ
ที่หน้าเว็บเพจ เป็นสีชมพูอ่อนๆนั้น บ่งบอกว่าเป็นบอร์ดสำหรับนักเรียนหญิง กลับมีรูปชายแท้ทั้งแท่งอย่างผมประดับโชว์หราอยู่ตรงกลาง พร้อมประวัติส่วนตัวที่ไปหากันมาจากไหนก็มิอาจจะทราบได้ และข้าง ๆ กลับเป็นลิงค์หัวข้อข่าวต่าง ๆ ของผม ย้ำ! ว่ามันเป็นทุกเรื่องของผมจริงๆ ยกตัวอย่างเช่น..
มาดู...ถ้าไม่อยากเอ้าท์ พี่ไอแบคกินไอศกรีมเลอะเต็มปาก น่ารักที่สุด ><” (อ้ากก !! อันนี้ผมไม่อยากจะเข้าไปเลยเถอะ อาเมน =[]=)
วันนี้พี่ไอแบคกับพี่โอริ...เห็นจูงมือกันด้วย เราว่าต้องเป็นมากกว่าเพื่อนแน่นอน... (เพื่อนกันจูงมือกันไม่ได้หรือไงฟะ) มีข่าวด่วน!... ว่าพี่ไอแบคจะลงบาสปีนี้ !! (ข่าวมาจากไหนฟะ มันยังไม่มีรับสมัครนักบาสเลย มั่วนิ่มชัดๆ)
พี่ไอแบคยิ้มมมม .... ^ ^ (เรื่องธรรมดามากๆ ไม่มีอะไรจะทำกันแล้วใช่มั้ยครับ-_-)
......> เราสังเกตุว่า เหมือนพี่ไอแบคจะชอบพี่สเกล ?? <
ผมจ้องกระทู้ล่าสุดตาไม่กระพริบ ที่เวลาอัพเดตก่อนหน้านี้เพียงครึ่งชั่วโมง ..เอ่อ ไม่ทราบว่าทำไม ข่าวมันไปไวมาไวอย่างงี้ฟะ ! ผมสะกิดยิกๆให้โอริกดเค้ากระทู้ล่าสุดนี้ เธอก็ทำตามอย่างว่าง่าย... หลังจากที่รอโหลดอยู่สักพัก หน้ากระทู้ที่ผมต้องการก็ปรากฏขึ้น ไม่มีภาพใดๆทั้งนั้น มีแต่เพียงตัวอักษรที่อยู่กลางเพจ
พี่ไอแบคของเรามองอย่างไม่ละสายตา...!! เพื่อนๆ ทุกคนช่วยกันสืบสวนข้อเท็จจริงกันเถอะ !! T^T
ผมอ่านเสร็จก็แทบจะหลุดก๊ากออกมาทันที...ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าจะรู้สึกอย่างไรกับเจ้ากระทู้นี้ดี..? ผมไม่สามารถพูดได้เต็มปาก ว่าผมชอบเธอ หรือแค่เพราะว่าผมปลื้ม ?? แต่ที่รู้ๆ คือผมก็เหมือนผู้ชายทั่วๆไป เมื่อมีของสวยๆงาม ๆ มันก็ต้องมีบ้างเป็นเรื่องธรรมดา ที่ผู้ชายฉายเดี่ยวอย่างผมจะมอง... แต่ไอ่ที่ว่าจะสืบสวนข้อเท็จจริงกันเนี่ย... เป็นโคนันกันหรอแม่คู้น =[]=! ทำเหมือนผมทำอะไรผิดอย่างนั้นแหละ ผมถอนหายใจก่อนจะเลื่อนลงมาดูความคิดเห็นต่างๆ ในกระทู้นี้
- มันเป็นเรื่องของเค้าสองคนดิ๊ !?!
- ไม่นะ T^T ไอแบคของเราต้องไม่ตกเป็นของยัยสวยลากไส้นั่น !!
- เห็นด้วยกับข้างบนอย่างแรง สวยซ่อนความร้ายกาจเอาไว้หรือเปล่าก็ไม่รู้ >.< บังอาจจะมางาบพี่ไอแบคของเราหรอยะ !!!
- แต่เราว่า บางทีพี่ไอแบคเค้าอาจจะมองเฉย ๆ ก็พี่สเกลสวยจนลืมหายใจขนาดนั้น..
- ฉันไม่สนว้อยยยยยยยยย =[]= !!!
- แต่ถ้าทั้งคู่ปิ๊ง ๆ กันก็ดีเน๊อะ >< เหมือนเทวดากะนางฟ้าเลยอะ
- เราก็ว่าเหมาะกันดี
- ไร้สาระน่า !
- พี่ไอแบคน่ารักกกกกกกกก >< เรารักพี่ไอแบคคคค
- ** เบื่อพวกชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน **
- คห.ข้างบนแรงจัง !
- ใช่ ไม่พอใจแล้วเข้ามาอ่านทำไมยะ เดี๋ยวแม่ตบสั่งสอนซะให้ นังชะนีนี่ !!
- เออใช่ !
- เกลียดจัง พวกชอบด่าคนอื่นว่าสอด แต่ตัวเองนี้ก็ไม่เบาอะ
- พวกดีแต่ปาก ไปไกล ๆ -_-
และสุดท้าย...ก็จบด้วยการด่ากันไปกันมาอยู่อย่างนั้น ผมแย่งเม้าท์มาจากโอริ ปิดหน้าต่างกระทู้นี่ลง และกลับมาสู่หน้าเว็บบอร์ดหญิงโรงเรียนอีกครั้ง รูปของผมยังไม่เปลี่ยนแปลง ประวัติของผมก็ถูกพิมไว้อย่างถูกต้อง และผมก็ต้องสะอึก ! เมื่อข้างล่างของคอลัมของผม เป็นรูปของหญิงสาวหน้าตาสวยน่ารัก คนหนึ่ง กำลังฉีกยิ้มอย่างน่ารักในชุดนักเรียนของที่อื่น.. ดวงตาคู่นั้น มามองในรูปใกล้ๆแบบนี้ มันช่างสวยซะจนผมต้องลอบกลืนน้ำลาย ผมจำใจเลื่อนลงมาหนีรูปใบนั้นให้เร็วที่สุด ก่อนที่ตัวเองจะบ้าคลั่งจนถลาเข้าไปกอดจูบกับหน้าจอคอมพิวเตอร์ !
สเกล... นางฟ้าเดินดินยังอาย !
ชื่อ : สเกล เทนไพโรจน์ (Scale Transcue) ชื่อเล่น : สเกล
เกิด : 14 กุมพาพันธ์ อายุ 18 ปี
สูง : 172 ซม. หนัก : 45 กม.
เพิ่งจบการศึกษาก่อนหน้านี้มาจาก : clever freak highschool
หามาได้เพียงเท่านี่...จะพยายามหาต่อไปให้ทุกคนได้รู้แน่ๆ ค่ะ
เลิกเรียน
ผมเดินออกมาจากโรงเรียนพร้อมกับโอริ แต่ก็ต้องแยกกันกลางทาง เพราะไม่รู้ว่าหนุ่มรูปงามตนนี้โผล่มาจากไหนอีก อาสาไปส่งเธอแทนผม ซึ่งผมก็ไม่ได้ขัดข้องอะไรอยู่แล้ว จึงเดินออกมาอย่างเงียบ ๆ พลางครุ่นคิดบางอย่าง... ผมไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนเท่าเธอคนนี้เลยจริง ๆ มันทำให้ผมรู้สึกว่าผมอยากใกล้เธอมากๆขึ้น หลังจากที่อ่านในคอลัมของสเกลแล้วยิ่งทำให้ผมรู้สึกอยากค้นหาให้มากกว่าเดิม ประวัติของเธอดูแล้วออกจะเหมือนคนลึกลับอะไรทำนองนั้น แต่ผมไม่สนใจหรอก ไม่ว่าเธอจะเป็นใครก็ตาม... ผมล้างกระเป๋าหยิบแฟลตไดซ์สีเขียวหม่นรูปตัวหนอนของตัวเองออกมาดูพลางอมยิ้ม จะไม่ให้ยิ้มได้อย่างไรละ ก็ผมเซฟรูปและประวัติของเธอมาหมดแล้วนี่นา จะว่าไปแล้ว ผมก็ต้องแอบขอบคุณนักเรียนหญิงในบอร์ดนั้นลึกๆ เห้อ... ผมอมยิ้ม แต่โดยไม่ทันตั้งตัวนั้น
ร่างของผมถูกกระแทกอย่างแรงโดยบุคคลร่างใหญ่สองคนทำให้แฟลตไดซ์ของผมหลุดล่วงออกจากมือ ผมพยายามจะไขว่คว้าหามัน แต่ก็โชคร้าย เพราะอยู่ ๆ รองเท้านักเรียนหญิงคนหนึ่งก็เหยียบเข้าที่หลังมือผมเต็มแรง พร้อมกับวิ่งไปในทิศเดียวกับผู้ชายสองคนนั้น ! ความเร็วของการวิ่งส่งผลให้เกิดลมแรงๆ พัดเข้าที่ใบหน้าของผม กลิ่นน้ำหอม... กลิ่นน้ำหอมกลิ่นนี้มัน !!
ผมไม่สนใจแฟลตไดซ์อีกแล้ว ผมมั่นใจว่าผู้หญิงคนเมื่อกี้ต้องเป็นเธอ ดังนั้นผมจึงรีบวิ่งตามอย่างไม่คิดชีวิต จนผมสามารถมองเห็นแผ่นหลังบางๆนั้นอยู่ลิบ ๆ เสื้อแจ๊คเก็ตสีน้ำตาลเข้มของเธอ บัดนี้ถูกใส่คลุมทับชุดนักเรียนของเธอไปแล้ว แต่ผมต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า เธอนั้นมีฝีมือการวิ่งได้เยี่ยมยอดมากทีเดียว ผมวิ่งตามเธอจนเหนื่อยหอบ จนมาหยุดที่โรงเก็บของเล็กๆแห่งหนึ่ง มันเป็นซอกซอยเล็กๆที่มีกลิ่นเน่าเหม็นคละคลุ้งไปหมด ผมจำไม่ได้ว่าผมวิ่งมานานแค่ไหน แล้วจากที่นี่ผมจะกลับบ้านได้อย่างไร แล้วก็นึกโมโหตัวเอง ที่วิ่งตามมาทำซากอะไร !
แผ่นหลังบางๆนั้นยืนอย่างมั่นคงอยู่ตรงทางเช้า โดยมีผู้ชายร่างใหญ่ยืนดักไว้อยู่ประมาณ 2-3 คน แต่ภายในนั้นผมไม่อาจทราบได้ว่ามีจำนวนเท่าไหร่ ผมยังไม่รู้ที่ไปที่มาว่ามันเกิดอะไรขึ้น จึงได้แต่รอดูสถาการณ์ต่อไป แล้วมาแอบอยู่ข้างๆกล่องลังที่มีแต่เศษขยะ
“ไง...คนสวย สวยบาดใจพี่จริง ๆ ตามพี่มาถึงที่นี่เชียวหรอจ๊ะ?” ผู้ชายคนหนึ่งที่มีผ้าโพกหัวเป็นสีแดง เดินเข้ามาประชิดตัวหญิงสาวที่ยืนนิ่งไม่มีทีท่าหวาดกลัวหรือตกใจแต่อย่างใด ผมได้แต่แอบดูด้วยอารมณ์หลากหลาย ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าเกิดอะไรขึ้น หรือว่าไอ่นี่จะเป็นหวานใจของเธอ แล้วเธอก็วิ่งตามมา โอ้ย ผมคิดบ้าอะไรเนี่ย คนอย่างเธอจะมองพวกเศษสวะอย่างนี้หรอ บ้าจริง!
“เอากระเป๋าฉันคืนมา...” เสียงเรียบๆ เบาหวิวพิลึกของเธอเอ่ยขึ้น มันออกจะเย็นชาจนผมเองก็ขนลุกไปด้วย
“โอ๊ะ ดุจัง...อย่างนี้คงจะสนุกไม่เบา” ไอ่ผ้าโพกหัวสีแดงยังคงแทะโลมเธอต่อไปโดยการเขี่ยผมของเธอมาเล่นเบา ๆ ตอนนี้ผมเริ่มมั่นใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น คนพวกนี้คงเอาอะไรบางอย่างจากเธอไป แล้วเธอก็คงจะวิ่งตามมานั่นเอง ผมกำหมัดแน่น เมื่อมองเห็นผู้ชายที่ยืนล้อมเธอราว 7-8 คน ที่คิดจะทำร้ายผู้หญิงเพียงคนเดียว แต่ในขณะที่ผมกำลังจะออกมาจากที่ซ่อนนั้น...
“ฉันบอกว่าให้เอากระเป๋าของฉันมา !!!!!!!!!”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น