ตอนที่ 2 : Section 1 To make relationship[100%]
Section 1 to make relationship
เจ้าผมแดงวิสลีย์และสิ่งที่เขาคิดว่าการทำความรู้จัก
ถ้าการเข้าไปทักทายแฮร์รี่พอตเตอร์คือสิ่งที่เขาควรทำ อย่างนั้นทำไมเขายังกล้าๆกลัวอยู่แบบนี้ สองอาทิตย์แล้วหลังจากการต้อนรับอย่างอบอุ่นภายในปราสาทฮอกวอตส์ เขารู้แน่อยู่แล้วว่ายังไงเขาก็ได้อยู่บ้านสลิธีริน แต่การที่พอตเตอร์ได้อยู่บ้านกริฟฟินดอร์นั้นทำเอาผิดคาดไปมาก ความคิดที่ว่าจะได้เป็นเพื่อนกับเด็กน้อยคนนั้นช่างไกลลิบลับ
เบลสบอกว่าอย่างแรกที่ควรทำเมื่อนายอยากมีเพื่อนคือการทำความรู้จักด้วยบทสนทนาดีๆสักบท หรือสร้างความประทับใจตั้งแต่แรกพบ นั่นฟังดูเหมือนการสร้างเพื่อนที่ดีอยู่นะ แต่หลังจากวันแรกที่ได้เอ่ยปากเบลสกลับไม่คิดว่านั่นคือบทสนทนาที่ดีเลยสักนิดเดียว
“นายสร้างความประทับใจแรกด้วยการวิจารณ์รอนวิสลีย์”
“ฉันก็เพียงแค่วิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ว่าคนที่ยืนข้างๆเขาน่าจะเป็นพวกวิสลีย์”
“แต่ฟังดูจากน้ำเสียงแล้วเหมือนจะไม่ใช่” เบลสพูดก่อนจะจมตัวเองอยู่กับหนังสือ ซึ่งเขาคิดว่าน่าจะเป็นการตัดรำคาญมากกว่าจะอยากอ่านมัน ในครั้งแรกที่มีโอกาสได้แนะนำตัวกับพอตเตอร์ เขาเพียงแค่วิเคราะห์เด็กชายผมแดงหน้าตกกระ สวมเสื้อคลุมเก่าๆก็เท่านั้นเอง และอีกอย่างไม่ใช่ความผิดของเขาที่จะควบคุมน้ำเสียงให้ปกติได้เมื่อตื่นเต้น
ในวันหยุดที่แสนหรรษานี้จึงมาพร้อมกับความวิตกกังวลขั้นสุดเกี่ยวกับการทักทายกันในรูปแบบต่างๆ หรือวิธีสร้างความประทับใจเล็กๆเมื่อตอนเจอหน้ากัน อีกทั้งยังต้องทบทวนบทเรียนที่ผ่านมาให้ผ่านหูผ่านตาบ้างเพราะจดหมายของพ่อมีข้อความเป็นนัยๆว่าถ้าเขาไม่เอาไหนในการเรียนก็อย่าหวังว่าจะได้รับคำชมหรือรางวัลสักชิ้น เดรโกไม่เครียดหรอก บางทีเด็กๆก็ไม่ควรต้องรับผิดชอบอะไรมากมายขนาดนั้น
เช้าวันต่อมาพร้อมชั่วโมงเรียนการบิน ถือเป็นข่าวดีที่สุดของวันเพราะได้เรียนรวมกับกริฟฟินดอร์ แต่จากที่แพนซี่พูดดูเหมือนทางนั้นเขาจะไม่ดีใจกับเราเท่าไหร่ มาดามฮูชสอนพื้นฐานการบินให้พวกเราก่อนจะบอกให้เราทดลองบินเอง แต่ดูเหมือนจะมีคนรีบไปสักหน่อยเพราะไม้กวาดของเจ้าอ้วนลองบัตท่อมลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าไปแล้ว
เขาหัวเราะจนท้องแข็งเพราะเจ้านั่นไม่รู้วิธีการควบคุมไม้กวาดเลยสักนิด ไม้กวาดพาร่างอ้วนๆบินวนชนนู่นชนนี่จนยับเยิน จบด้วยการตกลงมาบนพื้นแต่นั่นก็ทำให้เขาขำไปได้อีก มาดามฮูชเลยต้องพาไปที่ห้องพยาบาล ทั้งยังไม่ลืมเตือนพวกนักเรียนว่าห้ามใช้ไม้กวาดในขณะที่เธอไม่อยู่ นี่แหละที่จะเป็นโอกาสที่ทำให้เขาได้ทำความรู้จักกับพอตเตอร์อีกครั้ง
“เฮ้ พอตเตอร์” เดรโกเอ่ยทักเขาอย่างตื่นเต้น เจ้าตัวหันมาสบตากับเขาตรงๆ บางทีตาสีเขียวนั่นอาจเป็นสิ่งที่ทำให้พอตเตอร์มีเพื่อนเยอะแยะถึงแม้จะมีแว่นตาหนาๆบังอยู่ แต่พอคิดอย่างนั้นก็นึกอยากจะเห็นดวงตาของเจ้าตัวเพียงคนเดียว
“มีอะไร” เสียงของพอตเตอร์ทำให้เขาประหม่า ก็เพียงแต่อยากจะเล่นด้วยเท่านั้น เห็นว่าเขาทำได้ดีตอนฝีกบินพื้นฐาน บางทีถ้าเขาชวนคุยเรื่องนี้เสียงของพอตเตอร์น่าจะผ่อนคลายลง
“นายอยากแข่งไม้กวาดกับชั้นสักครั้งมั้ย” เขาคิดว่านี่เป็นคำชวนที่น่าจะช่วยสร้างมิตรภาพได้ดีทีเดียว อะไรมันจะดีไปกว่าการชวนขึ้นไปบินด้วยกันบนท้องฟ้าล่ะ
“นายต้องการอะไร มัลฟอย” เสียงวิสลีย์ดังขึ้น ถ้าเขาคิดไม่ผิดน้ำเสียงที่เจ้าวิสลีย์พูดดูจะแฝงความไม่พอใจอยู่สักหน่อย ตอนนี้นักเรียนบ้านกริฟฟินดอร์ดาหน้ากันเข้ามาอย่างกับเขาจะมาหาเรื่อง เขาหันไปขอความคิดเห็นจากเบลส ให้ตายเจ้านั่นทำหน้าเหมือนมีอะไรเหม็นๆอยู่ใต้จมูก ตาจ้องเขาเขม็งซึ่งถอดความได้ว่า นายกำลังทำอะไรน่ะมัลฟอย
“ชั้นแค่ต้องการแข่งไม้กวาดกับพอตเตอร์ เอ้ะหรือว่านายไม่กล้าละ” เขาหันไปถามเจ้าตัว พอตเตอร์ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย เขาแย่แล้ว ถ้าหากพอตเตอร์ไม่ชอบบินล่ะ ถ้าเกิดเขากลัวความสูงล่ะ จบเห่แล้วเดรโก
“ได้ชั้นจะแข่งกับนาย” พอตเตอร์ตอบด้วยท่าทีมุ่งมั่น เขาลอบถอนหายใจ อย่างน้อยพอตเตอร์ก็อยากเล่นแข่งไม้กวาดกับเขา บางทีเขาอาจสอนพอตเตอร์เล่นห้อยหัวลงจากไม้กวาดได้ เขาฝึกมาเป็นเดือนตอนพ่อซื้อไม้กวาดให้เป็นของขวัญวันเกิด ต้องน่าสนุกแน่ๆ
เราบินขึ้นมาบนฟ้าไม่สูงมากนัก เขาคิดว่าพอตเตอร์ดูดีมากทีเดียวเมื่ออยู่บนไม้กวาด นี่เขาได้เจอกับเซียนขี่ไม้กวาดที่ดูดีที่สุดในโลกหรอนี่ นับเป็นเกียติมากเลย
เราตั้งกติกาในการแข่งแค่ ใครไปกลับจากจุดที่อยู่จนถึงปราสาทก่อนชนะ แฮร์รี่ตอบว่าได้เบาๆก่อนตั้งหน้าตั้งตากับเป้าหมาย บางทีเขาอาจต้องอ่อนให้แฮร์รี่ไปก่อนเพราะกลัวว่าเจ้าตัวจะนอยด์หากเขาชนะ เสียงเกรนเจอร์ดังขึ้นมาว่ามาดามฮูชสั่งห้ามไม่ให้พวกเราขึ้นบิน เขาอยากตะโกนลงไปแทบตายว่านี่เป็นการเมคเฟรนด์นะเกรนเจอร์และเธอกำลังขัดขวางมัน
1
2
3
ไป
เขาเร่งไม้กวาดไปข้างหน้าแซงพอตเตอร์ขึ้นมาเล็กน้อย พอตเตอร์หน้าเสีย บางทีเขาอาจต้องผ่อนแรงลงอีกสักหน่อย จนพอตเตอร์แซงหน้าเขาไปจนไกล บางทีเด็กนั่นอาจจะเริ่มชอบเล่นกับเขาขึ้นมาแล้วก็ได้ เราบินมาถึงจุดหมายเกือบพร้อมกัน แน่นอนพอตเตอร์ชนะเพราะผมอยากให้ชนะนั่นแหละ รอยยิ้มผุดขึ้นประทับบนใบหน้าทันที เดรโกคิดว่าบางทีนอกจากดวงตาสีเขียวสวยทั้งสองนั่นแล้ว อาจจะเป็นรอยยิ้มก็ได้ที่ทำให้แฮร์รี่มีเพื่อเยอะแยะ เอ้ะนี่ผมเผลอยิ้มตามหรอเนี่ยแล้วผมก็เรียกชื่อต้นของเด็กนั่นด้วย คงต้องสนิทกับแฮร์รี่เร็วๆซะแล้ว
“เฮ้ มัลฟอยใครร่อนลงพื้นถึงก่อนชนะ” แฮร์รี่พูดขึ้นก่อนจะพุ่งตัวออกไป เขาไม่ทันตั้งตัวเลยตามหลังอยู่ไกล ผมรู้สึกว่ารอยยิ้มของผมยังไม่หุบ แฮร์รี่เล่นกับเขา แฮร์รี่ชอบแข่งไม้กวาดกับเขา นี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นในชีวิต
แฮร์รี่ร่อนลงพื้นก่อนเขาพร้อมด้วยพลพรรคกริฟฟินดอร์ส่งเสียงเชียร์ลั่น วิสลีย์หันมาแหวใส่เขาเล็กน้อยพร้อมด้วยสายตาอยู่เหนือขั้นสุด
“เป็นไงล่ะเดรโก ดีใจด้วยนะที่นายแพ้” เจ้าวิสลีย์บังอาจประชดประชันเขา แต่เขาไม่โต้ตอบอะไรหรอก บางทีก็ไม่อยากคุยกับพวกไม่รู้จริงแต่อยากพูด เขาน่ะอยากให้แฮร์รี่ชนะต่างหาก ช่างไม่รู้อะไรซะบ้างเลย
“แฮร์รี่ พอตเตอร์”เสียงผู้หญิงมีอายุดูขึงขังดังขึ้น ศาสตราจารย์มักกอลนากัลนั่นเอง เขาเรียกแฮร์รี่ให้ตามไป เขาอาจเห็นที่เราทำเมื่อสักครู่นี้แน่ แล้วแฮร์รี่ก็คงจะโดนลงโทษ แต่เขาก็ขัดคำสั่งนะทำไมไม่เรียกเขาไปด้วย เดรโกกังวลใจ บางทีเขาอาจต้องตามไปแก้ตัวให้แฮร์รี่ ยังไงเรื่องนี้เขาก็ผิด
ซีกเกอร์คนใหม่กับข้อสงสัยที่เจ้าชายตอบ
“นายทำให้พอตเตอร์ได้เป็นซีกเกอร์ของกริฟฟินดอร์”
“นั่นฟังดูไม่แย่นะ”
“ใช่ไม่แย่ ถ้านายนั่นไม่เล่นเก่งซะจนเอาชนะสลิธีรินได้” แพนซี่อารมณ์เสียใส่เขาเป็นรอบที่เท่าไหร่ของวันแล้วก็ไม่รู้ กับการที่กริฟฟินดอร์ชนะการแข่งขันควิชดิชครั้งนี้
“ฉันเห็นนะ ว่านายเชียร์พอตเตอร์” แพนซี่จ้องเขาเขม็ง จริงอยู่ว่าเขาทำให้แฮร์รี่เป็นซีกเกอร์ได้ แต่ไม่ใช่ความผิดของเขาสักหน่อยที่สลิธีรินแพ้ครั้งแรกในรอบหลายปี แพนซี่ฮึดฮัดใส่เขา และนั่นทำให้เขารำคาญมาก เบลสก็เอาแต่หัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว ทุกสิ่งทุกอย่างทำให้เขาไม่สบอารมณ์เอาเสียเลย
วันนี้จึงเป็นวันที่หมองหม่นที่สุด ยังไม่รวมที่แครบกับกอยล์ใช้เวลากินอาหารเช้านานจนเขาต้องไปห้องสมุดคนเดียว เขารู้ว่าเด็กบ้านอื่นดูสงสัยในตัวเขามาก เพราะเบลสบอกว่าบุคลิกอย่างเขาไม่ควรย่างกรายเข้าห้องสมุดแม้แต่ก้าวเดียว นั่นเป็นการดูถูกกันมากนะ ใครจะรู้ว่าเขาก็พยายามเป็นคนเก่งไม่แพ้เกรนเจอร์
เขาเดินเข้าไปในโซนหนังสือปรุงยา ต้องหาหนังสือวิชาการปรุงยาขั้นพื้นฐานเพราะศาสตราจารย์สเนปให้การบ้านพวกเขาอีกแล้ว เดินเลียบมาจนสุดห้องโถงก็เจอชั้นหนังสือสูงลิบอยู่เหนือหัว เขาหยิบหนังสือสองสามเล่มมาจากชั้นก่อนจะหาที่นั่งเงียบๆเพื่ออ่าน พลันสายตาก็แวบไปเจอเข้ากับใครบางคน เป้าหมายเขาเปลี่ยนทันที บางทีวันนี้อาจไม่ใช่วันที่แย่ที่สุด
“เฮ้ แฮร์รี่” ผมทักทายเขาก่อน แต่ปฏิกิริยาที่ได้รับกลับเป็นสายตาเบื่อหน่ายกับการถอนหายใจยาวเหยียด เขาขัดขวางการอ่านหนังสือของพ่อมดน้อยตัวกระเปี้ยกซะแล้ว อยากรู้จริงๆว่าถ้าลองแหย่เล่นดูแล้วเขาจะทำหน้ายังไง
“ชั้นพึ่งเรียกนายไปนะ หรือบางทีนายอาจจะไม่ได้ยิน” การยียวนกวนประสาทนับเป็นพรสวรรค์เขาอย่างหนึ่ง กับคนอื่นอาจเพื่อความสนุก แต่กับคนนี้เพื่อปฏิกิริยาน่าเอ็นดูนั่นล้วนๆ เอ้ะเขาคิดถึงประโยคน่าขนลุกหรอเนี่ย
“นายมีอะไร มัลฟอย” เขาว่าการพูดการจาแฮร์รี่ดูจะห่างเหินกับเขาอยู่สักนิด บางทีเด็กน้อยนี่อาจจะเกรงใจเขาอยู่ก็ได้ ต้องรีบสร้างความสนิทสนมโดยด่วนที่สุด
“ชั้นแค่สงสัย ว่านายกำลังอ่านอะไรอยู่” การถามถึงหนังสือที่เขาอ่านเพราะบางทีเขาอาจให้คำแนะนำอะไรที่เกี่ยวกับบทเรียนให้แฮร์รี่ได้ หรือถ้าไม่เกี่ยวกับการเรียนเขาก็มั่นใจว่าเขาต้องตอบได้อย่างแน่นอน ช่างดูพึ่งพาได้อะไรอย่างนี้
“ชั้นจะอ่านอะไรมันก็ไม่เกี่ยวกับนาย” เหมือนโดนเพ็ตตริฟิคัส โททาลัสใส่ก็ไม่ปาน มัลฟอยยืนแข็งเป็นหิน คำตอบช่างน่ารักน่าเอ็นดูเหลือเกิน(เขาคิดถึงประโยคน่าขนลุกแบบเวอร์ชั่นสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นอีกแล้ว) แฮร์รี่ต้องกำลังอายเขาอยู่แน่ๆถึงปฏิเสธไปแบบนี้ บางทีเขาอาจอยากทำความเข้าใจด้วยตัวเองดู
“แต่ชั้นว่านายต้องการความช่วยเหลือ” แฮร์รี่เงยหน้ามาประชันสายตากับเขา ถ้าไม่เสนอแล้วเมื่อไหร่จะได้สนองล่ะ เดรโกคิด เขาอยากคุยกับเด็กน้อยคนนี้จะแย่ ถ้าเขามัวแต่เกรงใจว่าแฮร์รี่อาจอยากอยู่คนเดียวเขาก็พลาดน่ะสิ
“ถึงแม้ว่าชั้นอยากได้ความช่วยเหลือ ก็คงไม่ใช่จากนายมัลฟอย”
“ทำไมไม่ลองดูก่อนล่ะ บางทีชั้นอาจตอบนายได้ก็ได้” แฮร์รี่ย่นคิ้ว มองเขาด้วยความรู้สึกหลากหลาย เดรโกเดาว่าในหัวของเขาต้องกำลังตีกันยุ่งวุ่นวายอยู่แน่ๆ เขาทำให้เด็กน้อยหัวหมุนได้หรอนี่
“ก็ได้ แต่ชั้นบอกก่อนว่าชั้นหามาทั่วห้องสมุดแล้วแต่มันก็ไม่มี” เขาพูดเสียงดังฟังชัด พร้อมจ้องเข้ามาในตาเขา
“ถ้านายตอบได้ชั้นจะยอมทำทุกอย่างที่นายสั่งเลย” เห็นได้ชัดว่าแฮร์รี่หลุดปากพูด และนั่นเข้าทางเขาเอามากๆ เพราะถ้าเขาตอบได้มันคือการที่แฮร์รี่จะยอมให้เขาเล่นด้วยทั้งวัน
“ว่ามาเลย ชั้นพร้อมแล้ว” เขายิ้มกริ่ม เด็กน้อยเอ๋ยจะมีสักกี่คำถามกันเชียวที่นายจะสงสัย
“ชั้นกำลังหาข้อมูลของนิโคลัส แฟลมเมล” นิโคลัส แฟลมเมลหรอ นักเล่นแร่แปรธาตุคนนั้น เดรโกมั่นใจว่าเขาเคยเจออยู่สองสามครั้งตอนไปงานเลี้ยงที่บ้านท่านรัฐมนตรี แต่แฮร์รี่จะอยากรู้ไปทำไมกัน เขาแน่ใจว่าไม่มีเรื่องนี้ในบทเรียนแน่ๆ
“นายตอบไม่ได้ล่ะสิ” แฮร์รี่พูดขึ้นหลังจากที่เขาเงียบไป ถ้าให้รู้คำตอบง่ายๆก็ไม่สนุกสิเด็กน้อย เรื่องบางอย่างก็ต้องมีลีลากันบ้าง
“เปล่าเลย ชั้นรู้ว่านิโคลัสคือใคร แต่ชั้นอยากรู้ว่านายจะรู้ไปทำไม”
“ไม่เกี่ยวกับนายสักหน่อย”
“เกี่ยวสิ นายกำลังถามชั้นอยู่นะ”
“นายจะไม่ตอบก็ได้ ชั้นไปล่ะ” แล้วแฮร์รี่ก็เดินหนีเขาไป เดรโกว่าจะแหย่เล่นอีกสักหน่อยแล้วเชียว เห็นได้ชัดว่าแฮร์รี่กลัวว่าเขาจะต้องทำตามคำสั่งของเดรโกทั้งที่เจ้าตัวเป็นคนพูดขึ้นมาเอง
“เดี๋ยวสิ” เขาตะโกนเรียก มาดามพินซ์เริ่มเดินตึงตังมาทางนี้แล้ว ถ้าไม่รีบหนีเขาโดนบ่นยับแน่
“บางทีนายอาจอยากได้การ์ดกบช็อกโกแลต”
“นายพูดเรื่องอะไรน่ะ” แฮร์รี่ทำหน้างุนงง
“และก็ต้องเป็นการ์ดของดัมเบิลดอร์” เขาบอกแฮร์รี่ วันนี้มิชชั่นเขาสำเร็จ ได้เห็นใบหน้าที่หลายหลายของแฮร์รี่ภายใต้บทสนธนาไม่กี่ประโยค ช่างโชคดีเสียเลยจริงๆ
แฮร์รี่คิดหนักเข้าไปอีก เสียงฝีเท้ามาดามพินซ์เริ่มดังมาทางนี้แล้ว เขายักคิ้วให้แฮร์รี่ทีนึงก่อนจะเดินหลบเข้าไปในมุมมืดของชั้นหนังสือ แล้วเดินเลียบออกไปจากห้องสมุดเงียบๆ ฮัมเพลงเบาๆพลางนึกถึงตอนที่ได้ทวงคำมั่นที่แฮร์รี่ให้เขาไว้ ว่าถ้าเขาตอบได้เขาจะสั่งให้แฮร์รี่ทำอะไรก็ได้ แล้วจะสั่งให้ทำอะไรดีล่ะ นั่นต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคตล่ะ
-------------------------------------------------------------------------------
ถ้าตรงไหนมันขัดๆ ขาดๆเกินๆ ประหลาดๆ ผิดปกติเกินไปบอกได้นะค้าบ
-------------------------------------------------------------------------------
สมก๋อย04102018
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

สงสารเดรกมากลูก พยายามผูกสัมพันธ์กับเขาแบบอ่อย อ่อนให้แล้ว แต่น้องรี่ก็ไม่เห็นTT แพนซี่อยู่ไหน! ถ้าเรื่องนี้แพนซี่เป็นคนดีช่วยมาสอนเพื่อนหล่อนทีเถอะ ไม่งั้นเดรโกคงไม่แคล้วได้ศัตรูแทนเมีย เบลสก็พยายามช่วยเต็มที่แต่เกรงว่าจะเป็นการช่วยให้ความสัมพันธ์ร้าวฉานกว่าเดิม สุดท้ายสถานะค่าในตอนนี้ก็กลายเป็น10ส่วน100เฉยเลย(แถมมีโอกาสติดลบอีก) สุ้ๆนะน้องเดรก แม่หวังว่าลูกจะทำให้น้องรี่เห็นความดีในตัวลูกได้!
เดรโกลู๊กกกกก เบลสช่วยห้ามเพื่อนนายที เมคเฟรนแบบนี้เดี๋ยวเพื่อนนายแห้วววว