คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : รับผิดชอบ 100%
หลังจากคุยกันแล้วว่าไอลดาจะให้เขารับผิดชอบ เขาจึงปล่อยให้เธอได้พักผ่อนและคิดอะไรเพียงลำพังคนเดียว เขารู้ว่าตอนนี้เขาไม่สามารถย่างกรายเข้าไปในหัวใจของเธอได้ แต่ก่อนกำแพงในใจเธอก็สูงจนไม่มีชายใดฝ่าเข้าไปได้รวมทั้งตัวเขาด้วย ตอนนี้มันคงก่อตัวสูงขึ้นไปอีกเท่าตัวและคงแข็งแกร่งเกินกว่าใครจะทลายเข้าไปได้ง่ายๆ นอกจากเจ้าตัวจะยอมทลายมันด้วยตัวเอง เขาไม่ได้หวังถึงขั้นจะให้เธอยอมรับรักเขา แค่ขอให้เขาได้เป็นคนที่อิงแอบกำแพงพวกนั้น ให้เขาได้อยู่ใกล้หัวใจของเธอมากที่สุดก็เพียงพอแล้ว
พชรพลออกมาจากห้องพักฟื้นของไอลดาก็เห็นแก้วกาญจน์นั่งอยู่หน้าห้อง นึกว่าจะไปไหนแล้วซะอีกที่แท้ก็เฝ้าอยู่หน้าห้องนี่เอง กลัวเขาจะทำอะไรเพื่อนของเธอหรืออย่างไร พชรพลมองเธออย่างหงุดหงิดใจ ไม่รู้ทำไมเธอถึงทำให้เขาหงุดหงิดได้ตลอดเวลาที่พบหน้า เขาไม่ลืมหรอกนะว่าเธอเคยโกหกเขา ถ้าเธอไม่ใช่เพื่อนของผู้หญิงที่เขารัก เขาคงหาทางลงโทษเธอไปแล้ว คิดไปก็ทำให้ขุ่นเคือง พชรพลจึงเดินหนีไปไม่สนใจแลผู้หญิงปลิ้นปล้อนตรงหน้าอีก
แก้วกาญจน์มองตามร่างสูงที่เดินไปเหมือนไม่เห็นว่าเธอนั่งรออยู่ตรงนี้ เขาคงมองเธอเป็นแค่ธาตุอากาศที่ไม่มีตัวตน สำหรับเขาเธอไม่ได้อยู่ในสายตาแม้ซักเสี้ยววินาที
นั่งคิดอะไรได้ซักพักแก้วกาญจน์ก็เข้าไปหาเพื่อนในห้อง ไอลดาหันมามองทันทีเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู ก่อนจะส่งยิ้มอ่อนๆ ไปให้เพื่อน แก้วกาญจน์มองตาแดงๆ ก็รู้ว่าไอลดาคงร้องไห้อีกแล้ว เวลานี้ต่อให้หาคำพูดเลิศหรูแค่ไหน คนจะเสียใจ จะร้องไห้คงห้ามกันไม่ได้ เธอจึงเลือกจะเมินไม่พูดคงจะดีกว่า และไอลดาคงไม่ต้องการให้เธอซักไซร้ ทำแบบนี้ไอลดาคงรู้สึกดีขึ้นบ้าง
"มาแล้วหรอแก้ว นึกว่าจะงอนไม่ยอมกลับเข้ามาแล้วซะอีก" เอ่ยล้อเพื่อน เพราะรู้ว่าแก้วกาญจน์ต้องแอบน้อยใจแน่ๆ ที่เธอขอคุยกับพชรพลแค่สองคน
"เราไม่ได้งี่เง่าขนาดนั้นซักหน่อย" เอ่ยเสียงกระเง้ากระงอด ซึ่งไอลดาไม่เชื่อแม้แต่น้อย
"นั่งก่อนเร็วคนสวย ทำหน้างอระวังจะแก่เร็ว หนุ่มไม่แลไม่รู้ด้วยนะ" ยังมีอารมณ์มาแซวเธออีก แต่เห็นอย่านี้ค่อยชื้นใจขึ้นมาหน่อย แสดงว่าไอลดาเริ่มทำใจได้แล้ว แม้สีหน้าจะไม่เข้ากับคำพูดพวกนั้นก็เถอะ
"จ้า คุณเพื่อนรัก" ตอบกลับเสียงระรื่น แล้วเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ข้างเตียงตัวที่พชรพลเคยนั่ง
ไอลดามองแก้วกาญจน์แล้วก็ยิ้มออก เธอช่างโชคดีมากที่มีเพื่อนรักอย่างแก้วกาญจน์ เธอแทบจะไม่มีเพื่อนคบเลยด้วยซ้ำตอนเข้ามหา'ลัยใหม่ๆ จะมีก็แต่พวกผู้ชายที่เข้ามาอยากทำความรู้จัก ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้อยากเป็นแค่เพื่อนกับเธอแน่นอน ส่วนพวกผู้หญิงก็มีแต่คนส่งสายตาไม่เป็นมิตรมาหา เธอเป็นคนอัธยาศัยไม่ค่อยดี และมีโลกส่วนตัวสูง การที่เธอไม่ยื่นมิตรไมตรีให้ใครก่อนทำให้เธอถูกมองว่าหยิ่ง เธอไม่ได้ต้องการเพื่อน เธอเข้ามาที่นี่เพื่อเรียนหนังสือ เพื่อนไม่จำเป็นสำหรับเธอ นั่นคือความคิดของเธอตอนนั้น แต่จู่ๆ ก็มีผู้หญิงเรียบร้อยคนหนึ่งที่มองก็รู้ว่าต้องเป็นเด็กเรียนแน่ๆ เข้ามาทักทายและส่งยิ้มให้เธอ และเพราะอะไรก็ไม่รู้ แต่เธอคิดว่าเธอสัมผัสได้ถึงความจริงใจ ความบริสุทธิ์ และความเป็นมิตรที่สื่อผ่านรอยยิ้มนั้น อย่างที่บอกว่าเธอไม่ได้ต้องการเพื่อน หลายครั้งที่มีคนหยิบยื่นไมตรีมาให้แต่เธอก็ปฏิเสธไป แต่กับผู้หญิงคนนี้เธอไม่สามารถปฏิเสธได้ สัญชาตญาณมันบอกว่า ผู้หญิงคนนี้จะเป็นเพื่อนที่ดีของเธอ หากเธอไม่รีบคว้าไว้ เธอจะต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวต่อไปในอนาคต เธอจึงเลือกเชื่อสัญชาตญาณและคบกับแก้วกาญจน์มาได้จนถึงปัจจุบัน คิดไม่ผิดจริงๆ แก้วกาญจน์คือสิ่งที่ดีที่สุดสิ่งหนึ่งในชีวิตของเธอ
"นั่งเงียบแล้วมองเราด้วยสายตาแบบนั้น คงไม่ได้พิศวาสเราขึ้นมาหรอกนะ" พูดขึ้นเมื่อไอลดาเอาแต่มองหน้าเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง
"หึ บ้า! คิดได้ไงอ่ะแก้ว" หลุดหัวเราะออกมากับสิ่งที่เพื่อนพูด คนกำลังซึ้งแท้ๆ ดับอารมณ์กันหมดเลย
"ก็เล่นส่งสายตาหวานซึ้งขนาดนั้นมาให้เรา นึกว่าร้องไห้จนเพี้ยนไปแล้วซะอีก" อมยิ้มเมื่อสามารถทำให้ไอลดาหัวเราะได้
"ก็น่าสนอยู่นะ" ไอลดารับมุกอย่างนึกสนุก
"เสียใจด้วยนะจ้ะ เพราะแก้วยังไม่อยากตีฉิ่ง" แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน
มิตรภาพเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น สัมผัสไม่ได้ แต่เรารับรู้มันได้ด้วยใจ ในชีวิตเราจะเจอมิตรภาพดีๆ ได้จากคนซักกี่คน จะมีกี่คนที่สามารถร่วมแบ่งปันทุกข์สุขกับเราได้ เพื่อนแท้ย่อมมีความสุขที่เห็นเพื่อนสุข และคอยอยู่เคียงข้างเมื่อเพื่อนทุกข์ใจ ความรักระหว่างมิตรภาพของเพื่อนนั้น เมื่อเจอจงพึงรักษาไว้ เราจะไม่รู้ว่าใครคือเพื่อนแท้เมื่อเราสุข แต่เราจะเจอเพื่อนแท้เมื่อเราเป็นทุกข์ ไอลดามองแก้วกาญจน์อย่างซึ้งใจด้วยรอยยิ้มประดับหน้า เป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นมาที่เธอรู้สึกว่าเธอยิ้มได้อย่างไม่ต้องฝืน
"เอาล่ะๆ เลิกหัวเราะกันได้แล้ว ไอมีเรื่องจะบอกแก้ว" เมื่อหัวเราะกันพอสมควรแล้ว ก็ลากเพื่อนเข้าเรื่องที่ตั้งใจจะบอกก่อนหน้านี้
"อะไรล่ะ เรื่องคุณพลน่ะหรอ" กลับมาสนใจสนทนาต่อ
"อันนั้นก็ส่วนหนึ่ง แต่นั่นช่างมันก่อนเถอะ เรื่องที่ไอจะบอกคือเรื่องที่แก้วเคยถามแต่ไอยังไม่ได้บอกต่างหาก" เมื่อแก้วกาญจน์ทำท่าคิดไม่ตกจึงรีบเอ่ยต่อ "เรื่องในวันนั้น และเหตุผลที่ไอไม่อยากให้เขารู้ว่าไอท้อง"
ในที่สุดไอลดาก็ยอมพูดออกมาเอง ตามที่เคยบอกเอาไว้ว่าเมื่อเธอพร้อม เธอจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง แก้วกาญจน์ตั้งใจฟังตามที่ไอลดาเล่า และคิดภาพตาม ไอลดาเล่าอย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง จนคนที่ตั้งใจฟังแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว กวินช่างใจร้ายใจดำเหลือเกิน ทำร้ายได้แม้กระทั่งผู้หญิงเดียงสาที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ หน้าตาก็หล่อเหลา ฐานะก็ดี การศึกษาก็เลิศเลอ แต่สิ่งเหล่านั้นไม่ได้ช่วยยกระดับจิตใจของผู้ชายคนนี้ได้เลย ก็อย่างว่า คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ นี่คงเป็นบทเรียนครั้งสำคัญ และคงจะฝังลึกอยู่ในใจไอลดาไปอีกนาน
"แก้วขอโทษนะ ที่พยายามบอกให้ไอบอกคุณกวิน" หลังจากฟังเรื่องราวจนจบ ก็รู้สึกผิดที่เหมือนเธอแนะนำให้เพื่อนกลับไปหาเขาอีกครั้ง เป็นเธอก็คงไม่อยากกลับไปหาหรือแม้แต่เห็นหน้าก็คงไม่อยากเห็น เธอเข้าใจแล้ว เธอจะยอมรับการตัดสินใจทุกอย่างของไอลดา
"ไม่เป็นไร ไอรู้ว่าที่แก้วทำทุกอย่างเพราะหวังดีกับไอ" เอื้อมมือไปจับมือเพื่อนมากุมไว้อย่างไม่ถือสา
"แล้วเรื่องคุณพลล่ะ ไอจะให้คุณพลรับผิดชอบมั้ย?" จบไปเรื่องหนึ่ง แต่ก็ยังมีเรื่องของพชรพลที่ยังคงค้างคาใจอยู่
"อืม ไอจะให้พี่พลรับผิดชอบ" พยักหน้ารับ
"ยังไง?" ถามอย่างไม่อยากเชื่อในการตัดสินใจของไอลดา
ไอลดาเล่าเรื่องที่คุยกับพชรพลให้แก้วกาญจน์ฟัง เธอตัดสินใจแล้ว และมันคงดีกับทุกๆ ฝ่าย ทั้งเธอ พชรพล และลูกของเธอ หรือแม้กระทั่งผู้ชายคนนั้นก็ตาม การตัดสินใจครั้งนี้ของเธออาจจะถูกหรือผิดก็ได้ แต่ไม่ว่าวันข้างหน้าผลมันจะออกมายังไง เธอจะทำทุกทางและทุกอย่างเพื่อลูกของเธอ
'แม่จะทำทุกอย่างเพื่อลูกนะคะ แม่รักหนูนะคะ' ลูบท้องที่ยังแบนราบส่งผ่านความรักและห่วงใยส่งถึงลูกน้อย ที่นับจากนี้จะเป็นดั่งดวงใจของเธอ...
08/07/15
ฮัลโหลลลลลลล มีใครรออยู่มั้ยเอ่ย? มาต่อให้แล้วจ้า ช่วงนี้ดราม่าเยอะเหลือเกิน มองไปทางไหนก็มีแต่ดราม่า จะหาอะไรบันเทิงเริงใจให้มีอารมณ์แต่งนิยายหน่อยก็ไม่มี =_= ตอนหน้าอยากบอกว่า................เฮียวินจะกลับมาแล้วววววว ฮิ้วววววว คิดถึงเฮียป่าว จะเลวขึ้นมั้ยนะ? ฮ่าๆๆๆๆ ถึงเลวแต่ไรต์ก็รักน้าาาาาา ฝากด้วยเด้อ ^-^
ความคิดเห็น