คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Sudden 6 : เริ่มต้น
6.เริ่มต้น
บรรยากาศใต้หอพักนักเรียนของโรงเรียนตอนเย็นๆ ผมว่ามันค่อนข้างคึกคัก เพราะไม่ว่าจะเป็นนักเรียนสายชั้นไหนก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย หรือแม้แต่ทายาทของแก๊ง Wonder girl ต่างก็พากันทำกิจกรรมตามความถนัดและความชื่นชอบหลังเวลาเลิกเรียน เพราะมันเป็นเวลาที่ทุกคนได้ปลดปล่อยความเครียดหลังจากเก็บเกี่ยวความรู้มาทั้งวัน
...ฉันก็แค่คนหนึ่ง ที่ไม่ได้มีใคร ไม่ว่าหันมองไปรอบๆกาย ใจก็ยังเหงา ....
ไอกัสมันโทรมาครับ กว่าจะโทรมานะไอเพื่อนรัก
(มึงอยู่ไหนวะ)
“ห้องพยาบาล” เอาละครับถึงเวลาที่ไอกัสจะโดนผมแกล้งแล้ว
(เฮ้ย เป็นไรมากป่าววะ กูบอกให้มึงใจเย็น แล้วไอวินมันอยู่ไหน..) ไอกัสดูมันจะเอาจริง โคตรรักมันเลยครับ แต่ขอแกล้งซะหน่อยเหอะเพื่อน รักหรอกจึงหยอกเล่น 55+
“กูไม่รู้ตื่นมาก็อยู่ห้องพยาบาลแล้ววะ ” ผมยังคงกินสตอเบอรี่(ใช้ศัพท์แปลกๆ)ต่อไป
(เออๆ เดี๋ยวกูกับไอเดไปหา) มันท่าทางจะร้อนใจ ผมเริ่มรู้สึกผิดแล้วครับ
“ไม่ต้องหรอกวะ กูไม่ได้อยู่ห้องพยาบาล เพราะกูไม่เป็นไร 55+”
(ไอสาดดดดดดดด....) สุดยอดครับ เสียงไอกัสก้องกังวาล
“หูกูจะแตกแล้วแม่งตะโกนมาได้” ผมด่ามันกลับไป
(กูอุตส่าห์เป็นห่วง แล้วตกลงเป็นยังไง)
“ไม่มีไรหรอกวะ ไอวินมันไม่รู้เรื่อง มันมาคุยกับกูเรื่องอื่น”
(เรื่องไรวะ)
“ช่างมันเหอะหน่า เอาเป็นว่ากูขอบใจมึงที่ โคตรเป็นห่วงกู” ผมแซวมันเล็กน้อย
(ดี กูได้กลับ ไว้เจอกันเมื่อไรมึงตายคาส้นกูกับไอเดแน่) มันคาดโทษผมไว้ก่อนที่จะวางสายไป เอาเป็นว่าค่อยหาอะไรชดใช้ให้ท่านทั้งสองวันหลังแล้วกันนะขอรับกระผม
หลังจากที่ผมต้องเผชิญหน้ากับวินเมื่อตอนเย็น ตอนนั้นผมก็นึกหวั่นๆว่าจะพูดยังไงดี ถ้าเกิดวินถามเรื่องที่ผมไปบอกชอบเอิง แต่ผิดคาด วินมาบอกว่าตอนเย็นจะไปส่งผมกลับบ้านแทนไอสน ผมก็งงๆ ว่าทำไมไอสนไม่มาส่งผมเอง วินเลยบอกว่าจะขอช่วยผมเรื่องไปถ่ายรูปงานโคมไฟที่แถวๆบ้านด้วย ตอนแรกผมก็ว่าจะไม่ไป แต่พอนึกอะไรบางอย่างออกเลยตอบตกลง ซึ่งโอกาสอย่างนี้มันมักจะไม่มีมาบ่อยๆหรอกครับ
ผมนั่งรอวินขึ้นไปเอากล้องบนหอพัก แต่เห็นขึ้นไปนานเลยถือโอกาสหาอะไรมารองท้องก่อนทดแทนพลังงานในร่างกายถูกสังเวยแก่ลูกบอลตั้งแต่เมื่อบ่าย
“ไอธัน” เสียงคุ้นๆ ดังมาจากด้านหลัง ผมหันกลับไปดูเห็น ป่าน กำลังส่งยิ้มมาให้ผม
“อ่าว ไงป่าน แกมาทำไรอะไรแถวนี้” อันที่จริงผมรู้ดีอยู่แล้วครับ ก็ ป่านมันเป็นเด็กหอ
“อ่อ พอดีว่ามาหาที่ซุกหัวนอนนะสิ ไอควาย...” นี่ถ้าไม่ติดว่าไอคนที่พูดเป็นผู้หญิงผมเตะมันขึ้นไปถึงชั้น 11 แล้ว
“ ... อย่าบอกนะว่ามาหาสาว” มันนั่งลงข้างผมแล้วขโมยแซนวิชผมไปกินต่อหน้าตาเฉย
“ถ้ามีสาวให้มาหาก็ดีอะดิ...แล้วนั่นคืนเอามาเลย” ผมแย่งแซนวิชที่ถูกขโมยไปคืนมา
“ อะ! หรือว่ามาหาหนุ่มๆ โธ่ชอบแบบนี้แล้วก็ไม่บอก” ป่านยิ้มเจ้าเล่ห์
“อะ รู้ทันซะด้วย 555+”
ผมกับป่านเพิ่งรู้จักกันเมื่อตอนเปิดเทอม ตอนม.ต้นผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า ป่าน มันอยู่โรงเรียนเดียวกับผมด้วย เพิ่งจะรู้ก็เมื่อตอนที่เริ่มสนิทกันแล้วละครับ ป่านอยู่ชมรมเดียวกับผม ซึ่งหลายคนคงยังไม่รู้ว่าหน้าตาดีๆอย่างผมอยู่ในชมรม Photo club และด้วยเหตุผลนี้เองที่คุณหญิงมดถึงไว้วางใจให้ผมมาถ่ายรูปไอคนที่ผมกำลังรออยู่ตอนนี้ แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววว่าจะเสร็จสักที แต่ไม่เป็นไรครับเพื่อความอยู่รอดวันกีฬาเครือข่ายผมสู้ตาย สู้ๆ มาต่อเรื่องป่านกันครับ ป่านเป็นเพื่อนผู้หญิงที่ค่อนข้างที่จะสนิทกับผมมากเพราะในชมรมป่านและผมเป็นเด็กม.4 เพียงสองคนที่มาอาศัยชมรมนี้อยู่ ทำให้เราสองคนรู้จักกันจนถึงขั้นที่ว่าสามารถลูบหัวได้อย่างสบายๆ ป่านไม่ใช่ผู้หญิงที่ไม่สวยนะครับ ผมยอมรับว่ามันสวย สวยมากด้วย แต่นิสัยมัน โอ้พระเจ้าครับ มัน...สุดยอด มันเป็นอะไรที่ผมคิดว่า ผู้หญิงเค้าไม่เป็นกัน และมันก็ยังเป็นอะไรที่ผู้หญิงเค้าเป็นกัน งงละสิครับ เอาเป็นว่า มันเล่นบอลเป็นเพื่อนผมได้ และมันก็จัดดอกไม้ให้สวยได้เหมือนกัน ผมว่าตรงนี้ละครับที่ทำให้ป่านดูมีเสน่ห์จนรุ่นพี่ส่วนใหญ่มักจะเทคะแนนให้มันไม่น้อยเลย แต่ก็ไม่เห็นว่ามันจะสนใจใครสักคน ส่วนสำหรับผมเหรอครับ ไอป่านคือ น้องสาวที่แสบมากทีเดียว และผมก็คิดว่า ผมก็เป็นพี่ชายที่กวนส้นมันมากเช่นกัน ผมนั่งคุยกับป่านสักพักก่อนที่ป่านจะขอตัวขึ้นห้อง ทำให้ผมต้องนั่งอยู่คนเดียวเหมือนเดิม แต่ก็ไม่นานนักครับ คนที่ผมนั่งรอก็ลงมา
“ ขอโทษทีธัน หาเสื้ออยู่เลยลงมาช้าหน่อย...” วินส่งยิ้มแสดงความสำนึกผิดมาที่ผม ดีนะครับที่ยังรู้จักขอโทษเป็น แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเสียเวลาอะไรมากมายกับการที่จะหาเสื้อมาใส่สักตัว เป็นผมคงคว้ามาใส่เลยไม่ต้องมัวมาหาอยู่ และก็เพราะถ้าเป็นผมคงไม่ดูดีอย่างกับมันขนาดนี้ครับ ผมไม่รู้นะครับว่าวินทำบุญทำกุศลมากี่ชาติ ไม่ว่าจะเห็นในชุดไหนๆก็ดูดีไปหมด ขนาดตอนนี้มันใส่แค่เสื้อยืดมีปกสีฟ้ากับกางเกงขาสามส่วนสีขาว ยังทำให้สาวๆที่อยู่แถวนั้นหันมามองกันเป็นแถว
“...ธันเอาเสื้อผมไปเปลี่ยนก่อนก็ได้” วินยืนถุงมาให้ผม แล้วจะให้เปลี่ยนอะไรละครับ ผมทำหน้าสงสัย
“เปลี่ยนชุดไง ชุดนักเรียนใส่ไปเที่ยวข้างนอกตอนกลางคืนมันดูไม่ดี...” เอาไปเลยครับผมรางวัลเด็กดีแห่งปี นายวิน
“..ผมพยายามหาแล้วแต่ไม่รู้ว่าธันจะใส่ได้ไหม แต่ size เสื้อคงไม่ต่างกันเท่าไร” ตลกที่ลงมาช้า เพราะเลือกเสื้อให้ผมอะดิ รู้สึกผิดเลยครับ
“อันที่จริงไม่ต้องก็ได้ ขอบใจนายมาก” ผมปฏิเสธไป
“ เอาไปหน่าครับ ถือว่าเปลี่ยนเสื้อด้วย”
“อืมๆเอาตามนั้น....แต่ทีหลังไม่ต้องพูดผมพูดครับก็ได้ มันดูดีไป 55+” ผมรู้สึกพิลึกชอบกลที่มีเพื่อนรุ่นเดียวกันพูดสุภาพด้วย ปกติถ้ากลุ่มผมพูดสุภาพก็ต่อหน้าผู้ใหญ่(บางคน)เท่านั้นละครับ (อ่อ กับคนน่ารักๆที่กำลังอ่านด้วยครับผม)
“ก็ได้ ครับ .......555+” สงสัยคงต้องปล่อยไปแล้วละครับ 555+
ผมกับวินมาถึงงานประมาณหกโมงเย็ย ท้องฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อยๆ แสงไฟที่ส่องมาจากงานทำให้งานดูโดดเด่นสะดุดตา ผมหยิบกล้องอาวุธประจำตัวที่พกไว้ตลอดขึ้นมาเช็คสภาพ ปรับเลนส์ ในระหว่างที่รอวินเอากุญแจล็อครถมอเตอร์ไซต์
“...ช่างภาพมาเองรึเปล่าครับเนี๊ย” วินเดินมาที่ผมนั่งเช็คกล้องอยู่
“ อ่อ ใช่ครับ...คุณรู้รึเปล่าว่าภาพถ่ายมันคือ ศิลปะ!
ที่ถูกสรรค์สร้างด้วยความวิจิตรงดงามของธรรมชาติ! ” ผมยกกล้องทำท่าเป็นถ่ายรูปไปมา
“555+ ....เล่นงี้เลย” วินหัวเราะ ทำเอาผมรู้สึกแปลกๆ เพราะรอยยิ้มที่ถูกวาดอยู่บนใบหน้าของวินทำให้ผมรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ไม่เข้าใจหรอกครับว่าเหตุผลอะไร แต่ยิ่งมองมากเท่าไร ผมก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านนั้น
“ไงครับ ศิลปินเอก เป็นไรไปแล้ว” วินเรียกผมให้หลุดออกจากความคิด
“ฮือ...อ่อ นี่คุณไม่เข้าใจหรือครับว่ามันเป็นศิลปะ!” ผมยังคงทำหน้าตาย ไถไปเรื่อย
“ยอมครับๆ” วินยกมือชูขึ้นเป็นการยอมแพ้ ใบหน้ายังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“555+” ผมหัวเราะหน้าวิน ตอนนี้ดูเหมือนกับลูกหมาเลยครับ
“เออ...จะเล่นอีกนานปะครับ” วินถาม
“ ทำหน้ายังกับหมา 55+ พอเหอะวะ ทุเรศ 55+” ผมหัวเราะไม่หยุด ถ้าวันนี้ผมไม่ได้มากับวิน คงไม่รู้นะครับว่าหน้าตาหล่อๆอย่างวินจะบ้าเป็นกับคนอื่นด้วย เออ...ใช่สิครับ เก็บรูปนี้ไปให้คุณนายมดดีกว่าครับ ผมหยิบกล้องขึ้นมาเตรียมจะถ่าย
“เฮ้ย อย่าถ่าย!” วินตั้งท่าจะเข้ามาแย่งกล้องไปจากผม ผมไวกว่าเบี่ยงกล้องออกไป
“กลัวไม่หล่อรึไง โธ่เอ๊ย..ไอขี้เก๊ก”
“ก็ใช่ครับถ่ายไปแล้วไม่หล่อผมจะทำไง ถ้าจะถ่ายก็บอกก่อนดิครับ จะได้ตั้งท่า” ช่วยบอกผมหน่อยเถอะครับว่าผมฟังไม่ผิดไป ผีตัวไหนกำลังสิงวินอยู่รึป่าวครับเนี๊ย
“พูดจริงดิ...” ผมถามย้ำ
“จริงครับ ก็เข้าใจอะครับผม คนมันหล่อ” วินยกนิ้วขึ้นมาเก๊กหล่อ แถมยักคิ้วให้ผมอีก
“งั้นก็จบเหอะ เปลืองเมมกล้อง” ผมหมดอารมณ์เลยครับมามุกนี้
“อ่าว...ซื้อกล้องแพงๆ แล้วก็ต้องถ่ายดิครับ นายแบบหล่อขนาดนี้ไม่มีที่ไหนให้ถ่ายฟรีๆแล้วนะคร๊าบบ” ผมว่าไอคนตรงหน้านี่คงไม่ใช่วินแล้วมั้งครับ
“สงสัยคงไม่มีเข็มทิศ ถึงหลงตัวเองซะขนาดนี้” ผมทำเป็นพูดลอยๆ
“พูดไปเถอะครับ อยู่ด้วยกันบ่อยๆระวังจะต้องใช้นะครับ” คำพูดมันแปลกๆนะครับ ผมมองหน้าคนพูดแต่วินกลับทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เอาเป็นว่าช่างมันก่อนเถอะครับ
“เข้าไปข้างในกัน” วินเดินเข้ามาโอบคอผมที่ยังยืนงงๆอยู่ให้เดินเข้าไปในงานด้วยกัน
ภายในงานมีการจัดแสดงโคมไฟนานาชาติไว้ตลอดทางเดินสองข้างทาง บรรยากาศเหมือนกำลังเดินเล่นในสวน คนที่มาเดินเที่ยวชมในงานก็ดูเยอะพอสมควร ผมกับวินเดินถ่ายรูปกันไปเรื่อยๆ ส่วนตัวผมแล้วชอบถ่ายรูปผู้คนมากกว่าถ่ายโคมไฟอย่างเดียว มันดูให้ความรู้สึกของแต่ละมุมมองแตกต่างกันออกไป
“ เออ...ขอโทษนะคะ ช่วยถ่ายรูปหน่อยได้มั๊ยคะ” เด็กผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาพูดกับผม ผมพยักหน้าแล้วยื่นมืออออกไปรับกล้อง
“ไม่ใช่ค่ะ คือหมายถึงขอถ่ายรูปกับพี่หน่อยได้มั๊ยคะ” ผมนี่อึ้งเลยครับโดยเด็กมาขอถ่ายรูปอย่างนี้ ว่าแล้วน้องคนนั้นก็เดินเอากล้องไปยื่นให้เพื่อนอีกคน แล้วเดินเข้มายืนกับผม
“พร้อมนะคะ....1 2 3” คนถ่ายให้สัญญาณ ในขณะที่ถ่ายรูปผมบังเอิญเห็นวินยืนอยู่ข้างหลังน้องคนที่ถ่ายกำลังยิ้มตลกผมอยู่ ผมเลยยักคิ้วกลับไปเอาเป็นว่าผมก็หล่อเมือนกัน
“เพื่อนพี่เหรอคะ” น้องที่อยู่ข้างๆถามผม สงสัยจะเห็นวิน
“อ่อ ใช่ครับ” ผมตอบกลับ
“เออ.... งั้น พี่คะหนูขอถ่ายรูปด้วยหน่อยนะคะ” น้องคนข้างๆผมตะโกนหาวิน เด็กสมัยนี้ไม่ค่อยเลยนะครับ
“ได้ครับ” วินเดินเข้ามายืนข้างผม
“อ่าว แล้วน้องไม่ถ่ายด้วยเหรอครับ” ผมถามขึ้นเมื่อน้องคนนั้นเดินออกไป
“อ่อ ไม่คะ รูปพี่สองคนดีกว่าคะ”
“ถ้าอย่างนั้นพี่ฝากถ่ายด้วยละกันนะครับ” วินยื่นกล้องให้กับเด็กคนนั้น
“เก็บไว้เป็นที่ระลึก” วินหันมายิ้มก่อนที่จะก่อนคอผม แล้วหันไปยิ้มกับกล้อง
“ 1 2 3...”
หลังแยกจากสองสาวมาได้แล้วผมก็ชวนวินหาอะไรมาทาน เราเลือกของกินกันอยู่นานสุดท้ายก็จบลงด้วย ลูกชิ้นปิ้ง ของกินที่หากินได้ยากที่สุดบนโลกใบนี้
“ เฮ้ย ช้าๆก็ได้ ทำเหมือนไม่ได้กินมาตั้งนาน” ผมกลัวว่าต้องหามวินส่งโรงพยาบาลเพราะลุกชิ้นติดคอสิครับ
“ ก็ใช่ครับ ไม่ได้กินมาตั้งนาน ไปอยู่ที่อเมริกาไม่ได้กินอะไรแบบนี้เลย” วินพูดทั้งที่ในปากยังเต็มด้วยลุกชิ้น ภาพพระเอกสุดหล่อของสาวๆหมดเลยครับ
“อ่าว นายไปตั้งแต่เมื่อไร” ผมถามด้วยความสงสัย
“ก็เพิ่งกลับมานี่ละครับ กลับมาก็มาเรียนต่อที่นี่เลย” สรุปแล้ววินเป็นนักเรียนโครงการแลกเปลี่ยนไปอยู่ที่อเมริกามา 1 ปีก่อนจะกลับมาเรียนต่อที่โรงเรียนเดียวกับผม ถ้านับเอาจริงๆแล้ววินก็เป็นรุ่นพี่ผม
“ ไม่ต้องเรียกว่าพี่หรอกครับ อายุก็เท่าๆกัน”
“อืม...” ผมมองดูวินกินลูกชิ้น นึกแล้วก็ตลกครับ ตอนแรกผมก็ไม่ค่อยชอบหน้าวินเท่าไร แต่ไหงไปๆมาๆแค่วันสองวันผมก็เริ่มรู้สึกดีกับวินขึ้นมามากขึ้นเยอะเลยละครับ เอาเป็นว่าต้องขอบคุณคุณนายมดที่มอบภารกิจให้ทำ ใช่แล้วครับ...เกือบลืมไปเลย ผมยังไม่ได้ถ่ายรูปวินเลยนี่ครับ ว่าแล้วผมก็จัดการหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูป
“ แช๊ะ!” ผมกดชัตเตอร์โดยไม่รอให้อีกคนตั้งตัว และยังคงไม่รู้เรื่องต่อไป ผมทำเป็นถือกล้องส่องปอย่างอื่นไปเรื่อยๆ หรือใครบางคนอาจเรียกว่าทำเป็นเนียนนะครับ ในขณะที่ผมยื่นกล้องออกไปเพื่อเล็งภาพก็มีคนวิ่งมาดึงกล้องออกจากมือผมแล้ววิ่งหนีไป
“เฮ้ย เอาคืนมานะโว้ย!” ผมตะโกนแล้ววิ่งไล่หลังไป วินลุกขึ้นวิ่งตามผมมา
“วินนายวิ่งตามหมอนั่นไปเดี๋ยว เราไปดักอีกทาง” ผมเลี่ยงออกไปอีกทาง อย่าคิดว่าจะหนีรอด ไม่รุ้วะแล้วว่าแถวนี้ใครใหญ่ ผมวิ่งลัดออกไปอีกทาง ในที่สุดผมวิ่งมาดักข้างหน้าไว้ทัน ดจรหยุดกะทันหันก่อนจะวิ่งไปอีกทางแต่โชคร้ายที่วินดักไว้ก่อน
“ส่งกล้องคืนมา” ผมพูดกับโจรในมือถือขอนไม้ขู่ไว้
“ไม่โวย! ถ้ามึงคิดว่าไอขอนไม้นั่นจะสู่กับมีดกุได้ก็ลองดู...” มันหยิบมีดขึ้นมาขู่ผม
“...หลีกทางไป ถ้ามึงไม่อยากเจ็บตัว”
“ก็คืนกล้องกูมาก่อนดิวะ” ผมยังไม่ยอมหลีก
“กูบอกให้หลีกไปอย่ามาหาว่ากูไม่เตือน” มันเอามีดชี้มาทางหน้าผม
“พี่วางกล้อง แล้วพวกผมจะปล่อยพี่ไปไม่แจ้งตำรวจ” วินช่วยหว่านล้อม
“เชื่อมึงก็โง่ดิว่ะ..” โจรหันไปทางวิน ผมวิ่งเข้าไปทางข้างหลังกำลังจะใช้ไม้ฟาดลงไป แต่โจรหันกลับมาเสียก่อน
“หลบไป!” มันเอามีดขู่ ผมยกมือยอมแพ้ แล้วส่งสัญญาณให้วินเข้ามาล๊อคแขนโจรไว้
“เฮ้ย ปล่อย!” โจรใช้ศอกกระทุ้งไปที่ท้องวินทำวินเสียหลักปล่อยโจรออกมา
“ ผลัก!” ผมฟาดไม้ลงไปแขนโจร แต่ผมพลาดไม้หลุดออกจากมือ โจรใช้ท้าถีบผมลงไปนอนกับพื้น
“กูเตือนมึงแล้ว..” โจรมันใช้มีดชี้มาตรงหน้าผม
“...รนหาที่ตายนะมึง” มันเดินเอามีดเข้ามาใกล้ผม ผมถอดห่างออกไปเรื่อยๆ สายตาผมมองรอดขาของโจรไปเห็นวินกำลังหยิบขอนไม้ที่ผมทำหล่นไปขึ้นมาแล้วส่งสัญญาณผม ผมพยักด้าน วินยกไม้ขึ้นฟาดลงบนตัวโจร
“เปล้ง!”
“โป้ก!” หัวโจรกระแทกลงมาบนหัวผม ทำให้หัวของกระแทกกับพื้นอย่างจัง
“จึ้ก!” เหมือนมีอะไรแหลมเสียบเข้ามาข้างในท้อง ในขณะเดียวกันกับที่โจรล้มทับลงบนลำตัว ตาผมเริ่มเลือนลางมองอะไรไม่ค่อยชัด
“ เฮ้ย ธัน!” เสียงวินตะโกนลั่น ก่อนที่วิ่งเข้ามาผลักร่างไร้สติของโจรออก
“ธันผมขอโทษ ธัน ธันน....” ผมได้ยินเพียงแค่นี้แล้วทุกอย่างก็มืดลงไป
ความคิดเห็น