ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Love1
"เฮ้ย ไอ้ตูดหมึก ทำอะไรอยู่วะ"
เสียงหนุ่มผิวเข้ม ร่างสูงโปร่งที่กำลังเดินเข้ามาทักทายเพื่อนชายอีกคนหนึ่ง
"ทำงานดิวะ เนี่ย มึงทำยัง วิชา การจัดการทรัพยากร "
เสียงตอบกลับของผู้ที่ก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างตั้งใจ
"คุณน้ำหมึก คือมึงจะรีบทำไปไหนครับ กลัวไม่ได้เกียรตินิยมหรือไง"
"ก็กูไม่ได้เกิดมาเก่งเหมือนมึงยังไงละคับ ไอ้คุณกระเป๋า"
เสียงพูดคุย หยอกล้อกันของสองหนุ่มเพื่อนซี้ ที่ดังมาจากใต้ร่มไม้ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง น้ำหมึก หนุ่มตี๋ อารมณ์ดี ผู้ที่มีรอยยิ้มฉาบบนใบหน้าเสมอ ด้วยผิวที่ขาว และตาชั้นเดียว ทำให้เค้าดูน่าเอ็นดูไม่น้อยในหมู่สาวๆ กระเป๋า หนุ่มเซอร์ หุ่นหมี มาดขรึม ด้วยผมยาวประบ่า ที่ถูกรวบไว้ด้านหลัง บวกกับการแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้กระเป๋าเป็นอีกคนที่ค่อนข้างจะดึงดูดสายตาของสาวน้อยใหญ่ได้ไม่แพ้กัน สองเพื่อนซี้ที่สนิทกันตั้งแต่วัยเด็ก เมื่อเจออีกคนจะต้องเห็นอีกคน ตามมาเหมือนเงา
"ไหน เอางานเอ็งมาให้ข้าดูซิ" ไม่พูดเปล่ากระเป๋า ฉวยเอางานที่น้ำหมึกกำลังเขียนออกมาด้วย
"เฮ้ย !! เดี๋ยว ยังไม่เสร็จ" น้ำหมึกพยายามแย่งงานของตนคืนไป
"ตรงนี้ ไม่ถูกว่ะ หลักการจัดการ เอ็งใช้ข้อนี้ไม่ได้ มันไม่สอดคล้อง"กระเป๋าแย้งพร้อมกับชี้จุดที่ผิดให้เพื่อนดู
"เออ จริงด้วย ขอบใจมากว่ะ แหม่ ถ้าไม่ได้พี่กระเป๋าช่วยละก็ผมแย่แน่ๆเลยครับ ฮ่าๆๆ"
"ทำเป็นพูดดีไปเถอะ รีบทำเร็วๆ ต้องไปช่วยแม่ขายของไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวกูก็ไม่รอซะหรอก"
"ครับๆ พี่ครับ ผมทราบแล้วครับ " น้ำหมึกตอบพร้อมกับเร่งทำงานสุดฝีมือเพื่อจะได้กลับไปช่วยครอบครัว
"น้องๆ ข้าวผัดกะเพราไก่ไม่ใส่พริกสองจาน ด่วนเลยพี่หิว"
"ครับพี่"
เสียงตะโกนดังมาจากภายในร้านอาหารตามสั่ง ที่แม่ครัวกำลังทำอาหารอยู่หน้าเตา โดยมีหญิงชราที่ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ เป็นผู้ช่วย และมีหนุ่มตี๋ในชุดนักศึกษาเป็นบริกรคอยรับออเดอร์และเสิร์ฟอาหาร
"แม่ โต๊ะสาม เพราไก่ไม่พริกสอง ด่วนหิวมาก"น้ำหมึกตะโกนสั่งตามที่ตนรับออเดอร์มา
"รู้แล้ว ได้ยินแล้ว ตะโกนทำไมเนี่ย อยู่ใกล้กันแค่นี้"
"อ่าว หมึกเห็นว่าแม่แก่แล้วนี่จ๊ะ กลัวจะหูตึง เหมือนยาย"
"ไอ้หมึก ไอ้หลานเวร เดี๋ยวเถอะ จะเอาปังตอเฉาะกะบาลให้ แอบแซะยายนะ ร้ายมาก ไอ้หลานคนนี้" ยายไม่พูดเปล่า ยกปังตอสับหมูโชว์หราด้วยท่าทางทะมัดทะแมง
"แว้กกก หนีดีกว่า ยังไม่อยากตายก่อยได้เมีย" น้ำหมึกพูดพร้อมวิ่งออกไปเสิร์ฟน้ำให้ลูกค้า
"เอ้ออ ให้มันได้อย่างนี้สิ หลานแต่ละคน ปวดหัวจริงๆเลย แล้วนี่ น้องสาวมันไปไหนซะล่ะ แม่ดาว"
"เห็นว่า ไอ้พู่มันมีงานที่โรงเรียนน่ะจ๊ะแม่ คงจะกลับค่ำๆ"
บ้านของน้ำหมึกเป็นบ้านสองชั้น ที่ชั้นล่างปรับปรุงเป็นร้านอาหารตามสั่งและชั้นบนเป็นเขตพักอาศัยของคนในครอบครัว ตั้งแต่เล็กจนโต สองพี่น้องน้ำหมึกและพู่กัน ก็เห็นภาพยายและแม่ทำกับข้าวขายที่ร้านแห่งนี้ทุกวัน ด้วยความที่พ่อได้จากพวกเขาไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ตั้งแต่พู่กันยังไม่เข้าชั้นประถมศึกษา ทำให้ภาระทั้งหมดจึงตกเป็นของภรรยาหรือแม่ของเด็กๆทั้งสองที่จะต้องทำงานเลี้ยงดูปากท้องของคนในครอบครัว ด้วยรสมือที่กลมกล่อม ทำให้ร้านอาหารแห่งนี้ อยู่รอดมาได้และสามารถส่งเสียลูกชายและลูกสาวเรียนหนังสือจนถึงปัจจุบันได้
"แม่จ๋า ยายจ๋า สวัสดีจ๊ะ พู่กลับมาแล้ว" สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก ผิวขาวไม่แพ้พี่ชาย ในชุดนักเรียนกระโปรงสีน้ำเงิน หอบกระเป๋า เข้ามาภายในร้านพร้อมกับยกมือไหว้ผู้เป็นแม่และยาย
"กลับมาแล้ว เหนื่อยไหมลูก ไปอาบน้ำอาบท่า หาข้าวปลากินแล้วค่อยลงมาช่วยแม่นะลูก"
"เออ ไอ้พู่ แกรีบลงมาเลย ให้ไวๆ มาช่วยพี่เสิร์ฟนี่ แขกเยอะจะตาย" น้ำหมึกพูดแซวน้องสาว
"เยอะที่ไหนพี่ พู่เห็นมีแค่สามโต๊ะเอง"
"สามโต๊ะ ก็ถือว่าเยอะนั่นแหละ รีบเลยๆ ลีลาอยู่ได้บ้านขายกระเบื้องหรือไง"
"ไม่ได้ขายกระเบื้อง ขายข้าวต่างหาก แบร่~"
"ไอ้พู่นี่แกย้อนพี่หรอ"
"ทำไม ทำไม แบร่ แบร่~"
"เฮ้ยย จะเถียงกันอีกนานไหมเว้ย พี่น้องคู่นี้ เด๊๋ยวข้าก็เอาเอ็งสองคนมาจับทำลูกชิ้นซะหรอก" ยายของเด็กทั้งสองได้ปรามสองพี่น้องไว้ ถึงแม้ว่าจะชอบแหย่กัน แต่ทั้งสองก็รักกันมาก
"จ๊ะยาย พู่ไปแล้วจ๊ะ อย่าเอาพู่ไปทำลูกชิ้นเลยนะจ๊ะ ไม่อร่อยหรอกจ๊ะ แหะๆ" พู่กันพูดจบก็วิ่งปรู้ดออกไปจากบริเวณร้าน
"หมึก เอาข้าวไปเสริฟโต๊ะสองทีสิจ๊ะ ลูก"
"ครับแม่"
น้ำหมึกรับคำพร้อมเดินไปหยิบเอาจานข้าวของลูกค้าไปเสิร์ฟ
ถึงบ้านของน้ำหมึกจะไม่มีพ่อผู้เป็นเสาหลักของครอบครัว แต่แม่คนนี้ก็ทำหน้าที่ได้ดีไม่แพ้หัวหน้าครอบครัวคนอื่นๆเลย คนที่คอยเป็นทั้งแม่และพ่อ คอยสั่งสอนและเลี้ยงดูเด็กทั้งสองอย่างสุดความสามารถ ไม่เคยให้ทั้งสองต้องคอยอิจฉาเด็กบ้านอื่น ทั้งน้ำหมึกและพู่กันเองก็เป็นเด็กดี ด้วยถูกอบรมสั่งสอนให้เชื่อฟังผู้ใหญ่และปฏิบัติตัวดีมาโดยตลอด ทำให้ครอบครัวนี้ไม่ได้เป็นครอบครัวที่ขาดความอบอุ่น แต่กลับเป็นครอบครัวที่น่าอิจฉาไปเสียมากกว่า
"แม่ครับ วันพรุ่งนี้ หมึกว่าจะไปอบรมการทำค่ายกับทางมหาวิทยาลัย หมึกจะกลับมาช้าหน่อยนะครับ"
"จ๊ะ แล้วไปค่ายนี้ไปกี่วันหล่ะหมึก"
"ก็ห้าวันครับแม่ แต่แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ไอ้กระเป๋าก็ไปด้วย"
"แม่ไม่ห่วงเราหรอก แม่รู้ว่าลูกแม่ดูแลตัวเองได้ แต่กลัวเราจะไปรบกวนกระเป๋าเค้านะสิ"
"โอ้ยย ไอ้ดาว เพื่อนกันมันก็ต้องดูแลกันดิวะ ใช่ไม๊ ไอ้หมึก"ผู้เป็นยายช่วยพูดให้เผื่อการขออนุญาติครั้งนี้จะง่ายขึ้น
"จ๊ะแม่ ถึงยังงั้นก็เถอะนะ"ดาวเหมือนจะหมดคำคัดค้าน
"แม่อนุญาติก็ได้ แต่ต้องรักษาตัวดีๆนะ"
"โห แม่ครับ พรุ่งนี้ไปอบรมครับ ไปค่ายจริงๆอีกตั้งสองสัปดาห์แหน่ะ"
"ไม่รู้แหละ ก็ต้องเตือนไว้ก่อน"
หัวอกคนเป็นแม่เมื่อรู้ว่าลูกจะไปไกลตัว ก็ต้องกลัวเอาไว้ก่อน กลัวลูกจะไม่สบายตัวเหมือนอยู่กับตนเอง จะอิ่มหรือไม่ จะสุขหรือเปล่า ถ้าหากเจ็บป่วยขึ้นมาใครจะดูแล แล้วเขาจะดูแลดีเหมือนที่แม่ทำให้ลูกหรือเปล่า ดาวคิดไปต่างต่างนานา
"ทำไมคนมาอบรมค่ายมีแค่นี้เองวะ นึกว่าออกค่ายคนจะเยอะกว่านี้"เสียงบ่นงึมงำจากหนุ่มเซอร์ข้างๆตัวน้ำหมึก
"เอาน่า ค่ายนี้คนที่ไปเค้าไปตามความสมัครใจ เองอย่าบ่นมากเลยกระเป๋า"
"ข้าไม่ได้บ่นเว้ย แค่สงสัย ตอนแรกจะไม่ไปแล้วนะ ถ้าเอ็งไม่ลากข้ามาเนี่ยไม่มาหรอก"
"โห ไปเป็นเพื่อนหน่อยไม่ได้หรือไง จำได้ไหม ตอนตอน ป.ห้า ที่แกอยากไปดูนกกับทางโรงเรียนข้ายังไปด้วยเลย แล้ว ป.หกที่แกตกบันได ใครไปนอนเฝ้าแกที่โรงพยาบาล ตอนม."
"เออๆๆ พอแล้วๆ แหมม ทวงบุญคุณเชียวนะมึง"
"แล้วตอนม.สี่"
"กูบอกว่าพอไง ถ้าพูดมาก เดี๋ยวก็ไม่ไปซะหรอก"
กระเป๋ายกมือตบหัวน้ำหมึกเพื่อให้น้ำหมึกหยุดรื้อฟื้นความหลังที่น้ำหมึกมักจะเอามาเป็นข้ออ้างในการลากมาทำกิจกรรมด้วยเสมอ แต่ถึงน้ำหมึกไม่ร้องขอ กระเป๋าก็เต็มใจมาช่วยอยู่แล้ว
"เอาหล่ะน้องๆ ครับ พี่ว่าถึงเวลาที่เราจะมาพูดคุยกันถึงการไปค่ายครั้งนี้ของเราแล้วหล่ะ มัวรอคนอื่นคงไม่เสร็จแน่ๆ เราเริ่มกันเลยนะ"
เสียงพี่ประธานค่ายพูดขึ้นต่อหน้าทุกคน ทำให้เสียงจ้อกแจ้กที่ดังอยู่เงียบไปทันที หลังจากนั้นการอบรมค่ายก็ได้เริ่มขึ้น และเป็นเวลากว่าสามชั่วโมงที่การอบรมค่ายนี้เสร็จ พร้อมทั้งแบ่งหน้าที่กันในแต่ละฝ่าย ตามความเหมาะสมของฝ่ายบริหารค่าย และนัดหมายวันเวลาเดินทางเรียบร้อย
"รายชื่อของแต่ละฝ่ายที่ติดไว้ที่บอร์ดหน้าห้องนะครับ แล้ววันที่เราออกค่ายน้องๆอย่ามาสายนะครับ ขอให้รักษาเวลาด้วย สำหรับวันนี้ พอแค่นี้ครับ"
หลังจากเสร็จจากอบรมค่ายทุกคนก็กรูกันไปยังทางออก เพื่อไปลุ้นว่าตนเองนั้นได้อยู่ฝ่ายไหนในการทำค่ายครั้งนี้
"โห ตามคาดหว่ะ แกได้อยู่สวัสดิการจริงๆด้วย ไอ้หมึก"กระเป๋าบอกเพื่อนข้างๆที่กำลังขมักเขม้นหารายชื่อของตนเองอยู่
"ไหนๆ หลบไปดิ ไอ้เป๋า"นำหมึกพยายามเบียดตัวเองเข้าไปดูรายชื่อเพื่อความแน่ใจ
"เฮ้ย มึงจะเบียดเข้ามาทำไมวะ"กระเป๋าพยายามเบี่ยงตัวเองออกจากตรงนั้น สภาพตอนนี้ทั้งคู่โดนเบียดจากรอบข้างจนไม่มีที่จะยืน
"เออ หว่ะ จริงด้วย นี่มันชื่อกูหนิ"
"เออ ก็ชื่อมึงนั่นแหละ พอใจยัง"
"พี่คนจัดฝ่ายเค้าคิดยังไงเนี่ย เอากูมาทำกับข้าว"
"ก็บ้านมึงขายกับข้าวไม่ใช่หรอ พี่เขาก็ต้องคิดว่ามึงเหมาะสมแหละ"
"กูเสิร์ฟอย่างเดียวไหมนะ บางที ทำขายน่ะแม่กับยายกูเว้ย"น้ำหมึกย้อนเพื่อนซี้ของตนเอง
"เออ น่า อย่างน้อยมึงก็ต้องทำเป็นบ้างแหละ ฮ่าๆๆ"กระเป๋าหัวเราะเมื่อเห็นท่าทางหงอยๆของน้ำหมึก
"เฮ้ย ๆ ไผ่แกอยู่สวัสดิการว่ะ"เสียงดังมาจากกลุ่มหญิงสาวใกล้ๆตัว
"จริงด้วย ไม่เอานะ ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว พวกเธอสองคนอยู่พยาบาลหมดเลยแล้วทำไมฉันได้อยู่สวัสดิการเนี่ย"เสียงงอแงของหญิงสาวร่างเล็กหุ่นบาง น่าทะนุถนอม ที่ไม่คิดว่าเอวบางร่างน้อยแบบนี้จะไปค่ายด้วยได้
"เอาน่า อย่างน้อยก็ได้อยู่ค่ายด้วยกัน แต่แกทำกับข้าวไม่เป็นไม่ใช่หรอก ไผ่"
"ใครบอกทำไม่เป็น ทำเป็นแต่กินไม่ได้ต่างหาก "
"ฮ่าๆๆๆ" การประสานเสียงหัวเราะของเพื่อนสาวสองคนยิ่งทำให้ผู้หญิงร่างบางอย่างกิ่งไผ่หน้างอเข้าไปอีก
"เชอะ ทำเป็นพูดดีไป ฝ่ายพยาบาลน่ะ ไม่ใช่อะไรก็แจกแต่ยาแก้ปวดนะยะ ดูอาการคนป่วยด้วยนะยะ "ได้โอกาสเอาคืนของกิ่งไผ่
"ย่ะ แหมมม ถ้าไม่ได้อบรมมาก่อนก็ไม่ได้อยู่ฝ่ายนี้หรอกย่ะ "น้ำส้มพูดด้วยท่าทางน่าหมั่นไส้
กิ่งไผ่ หมูหวานและน้ำส้ม เพื่อนสนิทมาจากโรงเรียนเดียวกัน แถมยังสอบเข้ามหาลัยเดียวกันได้อีก ทำให้ทั้งสามคนยิ่งสนิทกันเข้าไปใหญ่
"เอ้อ แล้วไอ้หมึก แกจะมามหาลัยไงวะ วันไปค่าย เค้านัดเช้าซะขนาดนั้น"หลังจากที่ทั้งสองหนุ่มเบียดเสียดฝ่าฝูงชนออกมาได้ กระเป๋าก็เริ่มต้นวางแผนการเดินทาง
"ยังไม่รู้เลยว่ะ"น้ำหมึกตอบ
"เดี๋ยวกูแวะไปรับ มึงรอหน้าบ้าน จบป่ะ !!"
"จบๆ แต่ วันนี้ มึงขับรถไปส่งกูที่บ้านหน่อยดิ นะนะนะนะ"
"แหนะๆ ทำอ้อนๆ เดี๋ยวกูตบคว่ำ ไปขึ้นรถ กุหิวแล้ว"กระเป๋าเดินนำหน้าน้ำหมึกไปยังรถของตนเอง...
"เฮ้ย รอกุด้วย"น้ำหมึกออกวิ่งตามเพื่อนของตนตามไปติดๆ
### จบตอนที่1แล้วเย้ !!!! เง้อ การเขียนนี่มันไม่ง่ายเลยนะเนี่ย เขียนแล้วลบแล้วเขียนใหม่ประมาณสิบกว่ารอบนี่แหละ ยังไงฝากเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครัชช ช่วงนี้สอบเสร็จแล้ว แล้วจะมาลงตอนใหม่ให้อ่านกันบ่อยๆ ฝากติชม ด้วยเน้อออ ###
เสียงหนุ่มผิวเข้ม ร่างสูงโปร่งที่กำลังเดินเข้ามาทักทายเพื่อนชายอีกคนหนึ่ง
"ทำงานดิวะ เนี่ย มึงทำยัง วิชา การจัดการทรัพยากร "
เสียงตอบกลับของผู้ที่ก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างตั้งใจ
"คุณน้ำหมึก คือมึงจะรีบทำไปไหนครับ กลัวไม่ได้เกียรตินิยมหรือไง"
"ก็กูไม่ได้เกิดมาเก่งเหมือนมึงยังไงละคับ ไอ้คุณกระเป๋า"
เสียงพูดคุย หยอกล้อกันของสองหนุ่มเพื่อนซี้ ที่ดังมาจากใต้ร่มไม้ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง น้ำหมึก หนุ่มตี๋ อารมณ์ดี ผู้ที่มีรอยยิ้มฉาบบนใบหน้าเสมอ ด้วยผิวที่ขาว และตาชั้นเดียว ทำให้เค้าดูน่าเอ็นดูไม่น้อยในหมู่สาวๆ กระเป๋า หนุ่มเซอร์ หุ่นหมี มาดขรึม ด้วยผมยาวประบ่า ที่ถูกรวบไว้ด้านหลัง บวกกับการแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้กระเป๋าเป็นอีกคนที่ค่อนข้างจะดึงดูดสายตาของสาวน้อยใหญ่ได้ไม่แพ้กัน สองเพื่อนซี้ที่สนิทกันตั้งแต่วัยเด็ก เมื่อเจออีกคนจะต้องเห็นอีกคน ตามมาเหมือนเงา
"ไหน เอางานเอ็งมาให้ข้าดูซิ" ไม่พูดเปล่ากระเป๋า ฉวยเอางานที่น้ำหมึกกำลังเขียนออกมาด้วย
"เฮ้ย !! เดี๋ยว ยังไม่เสร็จ" น้ำหมึกพยายามแย่งงานของตนคืนไป
"ตรงนี้ ไม่ถูกว่ะ หลักการจัดการ เอ็งใช้ข้อนี้ไม่ได้ มันไม่สอดคล้อง"กระเป๋าแย้งพร้อมกับชี้จุดที่ผิดให้เพื่อนดู
"เออ จริงด้วย ขอบใจมากว่ะ แหม่ ถ้าไม่ได้พี่กระเป๋าช่วยละก็ผมแย่แน่ๆเลยครับ ฮ่าๆๆ"
"ทำเป็นพูดดีไปเถอะ รีบทำเร็วๆ ต้องไปช่วยแม่ขายของไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวกูก็ไม่รอซะหรอก"
"ครับๆ พี่ครับ ผมทราบแล้วครับ " น้ำหมึกตอบพร้อมกับเร่งทำงานสุดฝีมือเพื่อจะได้กลับไปช่วยครอบครัว
"น้องๆ ข้าวผัดกะเพราไก่ไม่ใส่พริกสองจาน ด่วนเลยพี่หิว"
"ครับพี่"
เสียงตะโกนดังมาจากภายในร้านอาหารตามสั่ง ที่แม่ครัวกำลังทำอาหารอยู่หน้าเตา โดยมีหญิงชราที่ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ เป็นผู้ช่วย และมีหนุ่มตี๋ในชุดนักศึกษาเป็นบริกรคอยรับออเดอร์และเสิร์ฟอาหาร
"แม่ โต๊ะสาม เพราไก่ไม่พริกสอง ด่วนหิวมาก"น้ำหมึกตะโกนสั่งตามที่ตนรับออเดอร์มา
"รู้แล้ว ได้ยินแล้ว ตะโกนทำไมเนี่ย อยู่ใกล้กันแค่นี้"
"อ่าว หมึกเห็นว่าแม่แก่แล้วนี่จ๊ะ กลัวจะหูตึง เหมือนยาย"
"ไอ้หมึก ไอ้หลานเวร เดี๋ยวเถอะ จะเอาปังตอเฉาะกะบาลให้ แอบแซะยายนะ ร้ายมาก ไอ้หลานคนนี้" ยายไม่พูดเปล่า ยกปังตอสับหมูโชว์หราด้วยท่าทางทะมัดทะแมง
"แว้กกก หนีดีกว่า ยังไม่อยากตายก่อยได้เมีย" น้ำหมึกพูดพร้อมวิ่งออกไปเสิร์ฟน้ำให้ลูกค้า
"เอ้ออ ให้มันได้อย่างนี้สิ หลานแต่ละคน ปวดหัวจริงๆเลย แล้วนี่ น้องสาวมันไปไหนซะล่ะ แม่ดาว"
"เห็นว่า ไอ้พู่มันมีงานที่โรงเรียนน่ะจ๊ะแม่ คงจะกลับค่ำๆ"
บ้านของน้ำหมึกเป็นบ้านสองชั้น ที่ชั้นล่างปรับปรุงเป็นร้านอาหารตามสั่งและชั้นบนเป็นเขตพักอาศัยของคนในครอบครัว ตั้งแต่เล็กจนโต สองพี่น้องน้ำหมึกและพู่กัน ก็เห็นภาพยายและแม่ทำกับข้าวขายที่ร้านแห่งนี้ทุกวัน ด้วยความที่พ่อได้จากพวกเขาไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ตั้งแต่พู่กันยังไม่เข้าชั้นประถมศึกษา ทำให้ภาระทั้งหมดจึงตกเป็นของภรรยาหรือแม่ของเด็กๆทั้งสองที่จะต้องทำงานเลี้ยงดูปากท้องของคนในครอบครัว ด้วยรสมือที่กลมกล่อม ทำให้ร้านอาหารแห่งนี้ อยู่รอดมาได้และสามารถส่งเสียลูกชายและลูกสาวเรียนหนังสือจนถึงปัจจุบันได้
"แม่จ๋า ยายจ๋า สวัสดีจ๊ะ พู่กลับมาแล้ว" สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก ผิวขาวไม่แพ้พี่ชาย ในชุดนักเรียนกระโปรงสีน้ำเงิน หอบกระเป๋า เข้ามาภายในร้านพร้อมกับยกมือไหว้ผู้เป็นแม่และยาย
"กลับมาแล้ว เหนื่อยไหมลูก ไปอาบน้ำอาบท่า หาข้าวปลากินแล้วค่อยลงมาช่วยแม่นะลูก"
"เออ ไอ้พู่ แกรีบลงมาเลย ให้ไวๆ มาช่วยพี่เสิร์ฟนี่ แขกเยอะจะตาย" น้ำหมึกพูดแซวน้องสาว
"เยอะที่ไหนพี่ พู่เห็นมีแค่สามโต๊ะเอง"
"สามโต๊ะ ก็ถือว่าเยอะนั่นแหละ รีบเลยๆ ลีลาอยู่ได้บ้านขายกระเบื้องหรือไง"
"ไม่ได้ขายกระเบื้อง ขายข้าวต่างหาก แบร่~"
"ไอ้พู่นี่แกย้อนพี่หรอ"
"ทำไม ทำไม แบร่ แบร่~"
"เฮ้ยย จะเถียงกันอีกนานไหมเว้ย พี่น้องคู่นี้ เด๊๋ยวข้าก็เอาเอ็งสองคนมาจับทำลูกชิ้นซะหรอก" ยายของเด็กทั้งสองได้ปรามสองพี่น้องไว้ ถึงแม้ว่าจะชอบแหย่กัน แต่ทั้งสองก็รักกันมาก
"จ๊ะยาย พู่ไปแล้วจ๊ะ อย่าเอาพู่ไปทำลูกชิ้นเลยนะจ๊ะ ไม่อร่อยหรอกจ๊ะ แหะๆ" พู่กันพูดจบก็วิ่งปรู้ดออกไปจากบริเวณร้าน
"หมึก เอาข้าวไปเสริฟโต๊ะสองทีสิจ๊ะ ลูก"
"ครับแม่"
น้ำหมึกรับคำพร้อมเดินไปหยิบเอาจานข้าวของลูกค้าไปเสิร์ฟ
ถึงบ้านของน้ำหมึกจะไม่มีพ่อผู้เป็นเสาหลักของครอบครัว แต่แม่คนนี้ก็ทำหน้าที่ได้ดีไม่แพ้หัวหน้าครอบครัวคนอื่นๆเลย คนที่คอยเป็นทั้งแม่และพ่อ คอยสั่งสอนและเลี้ยงดูเด็กทั้งสองอย่างสุดความสามารถ ไม่เคยให้ทั้งสองต้องคอยอิจฉาเด็กบ้านอื่น ทั้งน้ำหมึกและพู่กันเองก็เป็นเด็กดี ด้วยถูกอบรมสั่งสอนให้เชื่อฟังผู้ใหญ่และปฏิบัติตัวดีมาโดยตลอด ทำให้ครอบครัวนี้ไม่ได้เป็นครอบครัวที่ขาดความอบอุ่น แต่กลับเป็นครอบครัวที่น่าอิจฉาไปเสียมากกว่า
"แม่ครับ วันพรุ่งนี้ หมึกว่าจะไปอบรมการทำค่ายกับทางมหาวิทยาลัย หมึกจะกลับมาช้าหน่อยนะครับ"
"จ๊ะ แล้วไปค่ายนี้ไปกี่วันหล่ะหมึก"
"ก็ห้าวันครับแม่ แต่แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ไอ้กระเป๋าก็ไปด้วย"
"แม่ไม่ห่วงเราหรอก แม่รู้ว่าลูกแม่ดูแลตัวเองได้ แต่กลัวเราจะไปรบกวนกระเป๋าเค้านะสิ"
"โอ้ยย ไอ้ดาว เพื่อนกันมันก็ต้องดูแลกันดิวะ ใช่ไม๊ ไอ้หมึก"ผู้เป็นยายช่วยพูดให้เผื่อการขออนุญาติครั้งนี้จะง่ายขึ้น
"จ๊ะแม่ ถึงยังงั้นก็เถอะนะ"ดาวเหมือนจะหมดคำคัดค้าน
"แม่อนุญาติก็ได้ แต่ต้องรักษาตัวดีๆนะ"
"โห แม่ครับ พรุ่งนี้ไปอบรมครับ ไปค่ายจริงๆอีกตั้งสองสัปดาห์แหน่ะ"
"ไม่รู้แหละ ก็ต้องเตือนไว้ก่อน"
หัวอกคนเป็นแม่เมื่อรู้ว่าลูกจะไปไกลตัว ก็ต้องกลัวเอาไว้ก่อน กลัวลูกจะไม่สบายตัวเหมือนอยู่กับตนเอง จะอิ่มหรือไม่ จะสุขหรือเปล่า ถ้าหากเจ็บป่วยขึ้นมาใครจะดูแล แล้วเขาจะดูแลดีเหมือนที่แม่ทำให้ลูกหรือเปล่า ดาวคิดไปต่างต่างนานา
"ทำไมคนมาอบรมค่ายมีแค่นี้เองวะ นึกว่าออกค่ายคนจะเยอะกว่านี้"เสียงบ่นงึมงำจากหนุ่มเซอร์ข้างๆตัวน้ำหมึก
"เอาน่า ค่ายนี้คนที่ไปเค้าไปตามความสมัครใจ เองอย่าบ่นมากเลยกระเป๋า"
"ข้าไม่ได้บ่นเว้ย แค่สงสัย ตอนแรกจะไม่ไปแล้วนะ ถ้าเอ็งไม่ลากข้ามาเนี่ยไม่มาหรอก"
"โห ไปเป็นเพื่อนหน่อยไม่ได้หรือไง จำได้ไหม ตอนตอน ป.ห้า ที่แกอยากไปดูนกกับทางโรงเรียนข้ายังไปด้วยเลย แล้ว ป.หกที่แกตกบันได ใครไปนอนเฝ้าแกที่โรงพยาบาล ตอนม."
"เออๆๆ พอแล้วๆ แหมม ทวงบุญคุณเชียวนะมึง"
"แล้วตอนม.สี่"
"กูบอกว่าพอไง ถ้าพูดมาก เดี๋ยวก็ไม่ไปซะหรอก"
กระเป๋ายกมือตบหัวน้ำหมึกเพื่อให้น้ำหมึกหยุดรื้อฟื้นความหลังที่น้ำหมึกมักจะเอามาเป็นข้ออ้างในการลากมาทำกิจกรรมด้วยเสมอ แต่ถึงน้ำหมึกไม่ร้องขอ กระเป๋าก็เต็มใจมาช่วยอยู่แล้ว
"เอาหล่ะน้องๆ ครับ พี่ว่าถึงเวลาที่เราจะมาพูดคุยกันถึงการไปค่ายครั้งนี้ของเราแล้วหล่ะ มัวรอคนอื่นคงไม่เสร็จแน่ๆ เราเริ่มกันเลยนะ"
เสียงพี่ประธานค่ายพูดขึ้นต่อหน้าทุกคน ทำให้เสียงจ้อกแจ้กที่ดังอยู่เงียบไปทันที หลังจากนั้นการอบรมค่ายก็ได้เริ่มขึ้น และเป็นเวลากว่าสามชั่วโมงที่การอบรมค่ายนี้เสร็จ พร้อมทั้งแบ่งหน้าที่กันในแต่ละฝ่าย ตามความเหมาะสมของฝ่ายบริหารค่าย และนัดหมายวันเวลาเดินทางเรียบร้อย
"รายชื่อของแต่ละฝ่ายที่ติดไว้ที่บอร์ดหน้าห้องนะครับ แล้ววันที่เราออกค่ายน้องๆอย่ามาสายนะครับ ขอให้รักษาเวลาด้วย สำหรับวันนี้ พอแค่นี้ครับ"
หลังจากเสร็จจากอบรมค่ายทุกคนก็กรูกันไปยังทางออก เพื่อไปลุ้นว่าตนเองนั้นได้อยู่ฝ่ายไหนในการทำค่ายครั้งนี้
"โห ตามคาดหว่ะ แกได้อยู่สวัสดิการจริงๆด้วย ไอ้หมึก"กระเป๋าบอกเพื่อนข้างๆที่กำลังขมักเขม้นหารายชื่อของตนเองอยู่
"ไหนๆ หลบไปดิ ไอ้เป๋า"นำหมึกพยายามเบียดตัวเองเข้าไปดูรายชื่อเพื่อความแน่ใจ
"เฮ้ย มึงจะเบียดเข้ามาทำไมวะ"กระเป๋าพยายามเบี่ยงตัวเองออกจากตรงนั้น สภาพตอนนี้ทั้งคู่โดนเบียดจากรอบข้างจนไม่มีที่จะยืน
"เออ หว่ะ จริงด้วย นี่มันชื่อกูหนิ"
"เออ ก็ชื่อมึงนั่นแหละ พอใจยัง"
"พี่คนจัดฝ่ายเค้าคิดยังไงเนี่ย เอากูมาทำกับข้าว"
"ก็บ้านมึงขายกับข้าวไม่ใช่หรอ พี่เขาก็ต้องคิดว่ามึงเหมาะสมแหละ"
"กูเสิร์ฟอย่างเดียวไหมนะ บางที ทำขายน่ะแม่กับยายกูเว้ย"น้ำหมึกย้อนเพื่อนซี้ของตนเอง
"เออ น่า อย่างน้อยมึงก็ต้องทำเป็นบ้างแหละ ฮ่าๆๆ"กระเป๋าหัวเราะเมื่อเห็นท่าทางหงอยๆของน้ำหมึก
"เฮ้ย ๆ ไผ่แกอยู่สวัสดิการว่ะ"เสียงดังมาจากกลุ่มหญิงสาวใกล้ๆตัว
"จริงด้วย ไม่เอานะ ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว พวกเธอสองคนอยู่พยาบาลหมดเลยแล้วทำไมฉันได้อยู่สวัสดิการเนี่ย"เสียงงอแงของหญิงสาวร่างเล็กหุ่นบาง น่าทะนุถนอม ที่ไม่คิดว่าเอวบางร่างน้อยแบบนี้จะไปค่ายด้วยได้
"เอาน่า อย่างน้อยก็ได้อยู่ค่ายด้วยกัน แต่แกทำกับข้าวไม่เป็นไม่ใช่หรอก ไผ่"
"ใครบอกทำไม่เป็น ทำเป็นแต่กินไม่ได้ต่างหาก "
"ฮ่าๆๆๆ" การประสานเสียงหัวเราะของเพื่อนสาวสองคนยิ่งทำให้ผู้หญิงร่างบางอย่างกิ่งไผ่หน้างอเข้าไปอีก
"เชอะ ทำเป็นพูดดีไป ฝ่ายพยาบาลน่ะ ไม่ใช่อะไรก็แจกแต่ยาแก้ปวดนะยะ ดูอาการคนป่วยด้วยนะยะ "ได้โอกาสเอาคืนของกิ่งไผ่
"ย่ะ แหมมม ถ้าไม่ได้อบรมมาก่อนก็ไม่ได้อยู่ฝ่ายนี้หรอกย่ะ "น้ำส้มพูดด้วยท่าทางน่าหมั่นไส้
กิ่งไผ่ หมูหวานและน้ำส้ม เพื่อนสนิทมาจากโรงเรียนเดียวกัน แถมยังสอบเข้ามหาลัยเดียวกันได้อีก ทำให้ทั้งสามคนยิ่งสนิทกันเข้าไปใหญ่
"เอ้อ แล้วไอ้หมึก แกจะมามหาลัยไงวะ วันไปค่าย เค้านัดเช้าซะขนาดนั้น"หลังจากที่ทั้งสองหนุ่มเบียดเสียดฝ่าฝูงชนออกมาได้ กระเป๋าก็เริ่มต้นวางแผนการเดินทาง
"ยังไม่รู้เลยว่ะ"น้ำหมึกตอบ
"เดี๋ยวกูแวะไปรับ มึงรอหน้าบ้าน จบป่ะ !!"
"จบๆ แต่ วันนี้ มึงขับรถไปส่งกูที่บ้านหน่อยดิ นะนะนะนะ"
"แหนะๆ ทำอ้อนๆ เดี๋ยวกูตบคว่ำ ไปขึ้นรถ กุหิวแล้ว"กระเป๋าเดินนำหน้าน้ำหมึกไปยังรถของตนเอง...
"เฮ้ย รอกุด้วย"น้ำหมึกออกวิ่งตามเพื่อนของตนตามไปติดๆ
### จบตอนที่1แล้วเย้ !!!! เง้อ การเขียนนี่มันไม่ง่ายเลยนะเนี่ย เขียนแล้วลบแล้วเขียนใหม่ประมาณสิบกว่ารอบนี่แหละ ยังไงฝากเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครัชช ช่วงนี้สอบเสร็จแล้ว แล้วจะมาลงตอนใหม่ให้อ่านกันบ่อยๆ ฝากติชม ด้วยเน้อออ ###
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น