ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คือเธอใช่ไหม

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่๒

    • อัปเดตล่าสุด 1 มิ.ย. 50


    ตอนที่๒

     

          การที่เขาเรียก พ่อว่าท่านหัวกะหล่ำก็ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหน ก็มันเป็นเรื่องจริง แถมจริงอย่างที่สุด ก็พ่อเขามีผมที่หยิกและม้วนดูคล้ายดอกกะหล่ำต่างจากเขาที่มีผมตรงเหมือนแม่

     

    นี่ก็เป็นอีกเรื่องนึงที่เขาสุดแสนจะดีใจ จะให้เขาเป็นท่านหัวกะหล่ำจูเนียร์ หนะไม่เอาหรอก อีกทั้งพ่อลูกหัวกะหล่ำเดินด้วยกันคงฮากลิ้งตาย  (ไอ้ที่ฮาหนะคงจะจริง ส่วนที่กลิ้งตายคงเพราะ พ่อกับเขาเตะมันจนกลิ้งเสียมากกว่า)

     

           แต่ที่เขาดีใจจริงๆแล้วไม่ใช่เพราะอะไร เขาจะได้มีเรื่อง แกล้งหยอก แกล้งแหย่พ่อเล่นบ้างจะได้ไม่เสียเปรียบ ก็ท่านพ่อบังเกิดเกล้าของเขานี่สิ ชอบแกล้ง ชอบล้อเขาเล่นได้สารพัด ไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องน้อยก็ไม่เคยมีตกหล่น พ่อแกจำได้ทุกช๊อต จนเหมือนๆจะกลายเป็นงานอดิเรกไปเสียแล้ว ไอ้เรื่องจะแกล้งคนเล่น เขาไม่ว่าหร๊อก เข้าใจดีถึงความสนุก  แต่ทำไมคนที่โดนแกล้งถึงต้องเป็นเขาคนเดียวด้วยหละ คิดแล้วมันหน้าหนักใจ

     

           เคยมีครั้งนึงโดนแกล้งหนักๆเข้า เขาเลยอดถามอย่างหงุดหงิดไปไม่ได้ว่า

     

    ทำไมพ่อต้องแกล้งผมคนเดียวด้วยเล่า คนอื่นมีตั้งเยอะแยะมากมาย เลือกเอาซักคนสิที่ไม่ใช่โผ้มม หึ แล้วถ้าเกลียดกันก็บอกตรงๆมาเลย  ผม- รับ-ได้ ประโยคสุดท้ายเขาพูอย่างชัดถ้อยชัดคำและเน้นเสียงดังทีละพยางค์

     

      แล้วคำตอบที่ถูกเอ่ยออกมาก็ทำให้เขาอ้าปากค้าง

     

    ก็แล้วมันทำไม ก็ฉันพอใจ ช่วยไม่ได้ที่แกเกิดมาเป็นผู้ชายเอง ฉันอยากได้ลูกสาวน่ารักๆมากกว่านิ แล้วอย่ามาทำเป็นลืมเชียวนะ ตอนเด็กๆใครหนะทำให้ฉันหัวปั่นได้แทบทุกวัน โตมาก็ใช่ว่าไม่ทำให้ฉันปวดหัว ไอ้ตัวแสบเอ้ย

     

    เฮอะตกลงไอ้คนที่ผิดคือเขาใช่ไหมที่เกิดมาเป็นผู้ชาย โธ่ถ้าอยากได้ลูกสาวจริงเขาก็เป็นได้ ตุ๊ด แต๋ว กะเทย ว่ามาเขาจะจัดให้  แต่หากเขาเกิดเป็นจริงขึ้นมาไม่รู้ว่าคนที่ยากได้ลูกสาวนักหนาจะว่ายังไง อาจจะปลื้มเพราะสมใจอยาก หรืออาจจะอยากปลิดชีพลูกชายใจแต๋ว ให้ตายคามือก็เป็นได้

     

           เขาได้อย่างเสี่ยงนักหรอกขอเป็นชายชาตรี มาดแมน ทั้งแท่ง อย่างงี้ตลอดไปคงจะดีซักกว่า 

     

         ส่วนไอ้ประโยคหลังเขาไม่ทันจะได้ฟังหรอก เพราะมัวแต่ช็อก แต่มันจะมีใครที่ไห๊น ที่แย่เสียขนาดนั้น เด็กก็ทำให้หัวปั่น โตมาก็ทำแต่เรื่องน่าปวดหัว

     

           ไม่มีหร๊อก ไม่มี  

     

     

     

     

    เอ๋  ว่าแต่ให้ตายเถอะต้องเลี้ยวขวาหรือซ้ายกันแน่ หว่า  ไอ้พวกซอยเล็กซอยน้อยที่ลัดไปออกถนนใหญ่เนี่ย  ทำให้เขาต้องมึนตึ๊บแทบทุกที  จะบ้าขี่ออกทางรถยนต์เหมือนตอนเข้ามาคงเจริญแหละ อ้อมโครตจะอ้อม เอาวะ ขวาร้ายซ้ายดี คนดีผีคุ้ม สุ่มทางมักถูก

     

    โอเค ซ้ายชัวร์ เขาเบี่ยงจักรยานไปทางซ้าย และปั่นต่อไปด้วยฝีเท้าคงที่

     

        ไปตามถนนลูกรังสีแดงเล็กๆที่ตลอดสองข้างทางเป็นพื้นที่ทางการเกษตรกรรม แต่หากมองเลยไม่ไกลมาหนักจะเห็นสวนยางพาราชั้นดีที่เรียงรายอย่างสวยงาม 

     

    จนในที่สุดถนนเส้นนี้ก็ลัดไปตัดเข้ากับถนนสายหลักลงยางอย่างดี ทางรถวิ่งที่เขาพึ่งใช้เข้ามา สภาพบ้านเรือนรอบข้างแสดงให้เห็นถึงความเป็นแหล่งชุมชน มีร้านชำ ร้านอาหาร ร้านทำผม  ปะปนอยู่ประปรายกับบ้านขนาดเล็กและขนาดกลางที่ปรับเปลี่ยนจากทรงไทยเดิมที่สร้างด้วยไม้ล้วนๆมาเป็น ครึ่งไม้ครึ่งปูนดูเก๋แปลกตา 

     

         สำหรับเขาที่ไม่ค่อยได้โผล่มาแถวนี้เท่าไหร่  อะไรอะไรก็ดูเปลี่ยนไปเสียหมด ที่ไม่เปลี่ยนก็คงจะมีแต่ แสงตะวันที่สาดส่องลองมาที่หัวเขา อย่างมาบันยะบันยังหรอกมั้ง

     

    ทั้งๆที่เขาไม่ใช่คนขี้ร้อนติดจะขี้เหนียวเสียด้วยซ้ำ ยังร้อนจนหัวและตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อ และเริ่มคันยิบๆตามตัวไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหงื่อหรือเพราะเสื้อผ้าอินเทร๊นด์ อินเทรนด์ที่ได้เปิดตัวเป็นครั้งแรกกันแน่

     

            จนเขาตัดสินใจที่จะหยุดพักหาอะไรดื่มแก้ร้อน ก่อนที่จะเป็นคนแดดเดียว หอม น่ากิน ไปกลางทางเสียก่อน

    ลุงครับ ชาเย็นแก้ว เอาแบบสุดฝีมือเลยน้าเขากล่าวพร้อมยิ้มเล็กๆให้ เมื่อเห็นลุงแก ยกนิ้วโป้งและขยิบตา วิ้งๆ ให้ ทำนองว่า เชื่อมือลุงเหอะ นักชงชาเย็นชั้นโปรอยู่ตรงนี้แล้ว ก่อนที่จะทรุดตัวลงนั่งผึ่งพัดลมในระยะเผาขน

     

             พอเคลิ้มๆใกล้หลับ ชาเย็นแก้วใหญ่ก็วางแหมะอยู่ตรงหน้า พร้อมกับร่างหนาๆของลุงนักชงที่ยังดูบึกบึนแข็งแรง ติดจะมีพุงหน่อยตามอายุ ที่ทรุดตามลงมานั่งเก้าอี้ตรงข้าม

     

    ใบหน้ามีอายุเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มที่มองมาที่เขาอย่างขำๆ

     

    นี่เจ้าหนุ่ม ไม่ใช่คนแถวนี่ใช่ไหม ไม่ยักกะเคยเห็นหน้า

     

    ใครบอกกันครับ ผมก็คนที่นี่แหละ เกิดที่นี่ โตที่นี่(พักนึง) ลุงอะมั่วป่าวเขาแกล้งทำตาโตพร้อมดูชาเย็นที่อร่อยไม่ได้โม้ของลุงไปอึกใหญ่

     

    เฮ้ยๆ ถึงข้าแก่ แต่ก็ความจำดีนะเว้ย มัวเม้อหลงๆลืมๆ หนะไม่มี แต่เมื่อเขายังคงทำหน้าจริงจัง ยืนยันกับคำพูดนั้น ลุงแกก็ชักเริ่มไม่มั่นใจและ

     

    เอ๋ แต่ความจริงข้าว่าก็คุ้นๆ หน้าเอ็งอยู่เหมือนกันนะ

     

    ฮา ใช่ครับลุงแกความจำดี มั่วเม้อหรือลืมหนะไม่มี มีก็แต่หลงให้เขาหลอกอยู่นี่แหละ เขาเป็นคนแถวนี้จริง แต่จริงแค่นิดหน่อย อยู่ที่นี่แค่ตอนเด็กๆไม่กี่ปี นานๆที่กว่าจะกลับ แต่แหม๋มีแอบคุ้นๆหน้า ลุงแกคงกลัวเสียรู้ แต่เพราะงั้นแหละเลยเสียรู้เขาเข้าเต็มเปา

     

        จนเขาที่ตีหน้าซื่อต้องกลั้นยิ้มจนแก้มป่อง เมื่อเห็นหน้าเหมือนจะระลึกได้ของแกเข้า แกล้งคนแก่นี่ต้องลงนรกหรือป่าวหว่า

     

    แต่ไม่ทันที่จะได้รู้ เรื่องนั้น เขาก็ได้รู้แล้วว่า บาปกรรมมันมีจริง เมื่อเพราะจู่ๆก็มีอะไรซักอย่างมาดลใจให้ คนที่เสียรู้รู้เขาไปเมื่อกี้ กลับจับไต๋เขาได้เฉยพร้อมทำเสียงเข้มน่ากลัวพอๆก็หน้า

     

    เฮ้ย นี่เอ็งหลอกข้ารึ อย่านึกว่าข้าไม่รู้เชียวพร้อมยกกำปั้นขึ้นมาขู่ ในขณะที่เขาส่งสายตาไปอย่างไม่อยากเชื่อว่าจะรู้ ได้

     

    หลอกอาราย ผมป่าวมุสานะ ผมคนแถวนี้จริง ตอนเด็กๆยังเคยมากินร้านลุงเลยเขาพยายามยิ้มจนปากแทบฉีกเพื่อกลบเกลื่อนแต่ดูเหมือนความพยายามของเขาจะไม่เป็นผล

     

    ไอ้เด็กๆ ของเอ็งนี่กี่ขวบ

     

    ก็ซัก สี่ซ๊าห้าขวบหนะลุงเขาได้แต่ตอบตามตรงไปเพราะยึดคติไม่โกหกมดเท็จ แต่ขอเฉไฉตามอัธยาศัย ให้ใจมันรื่นรมย์

     

    เออดีจริง ถ้าข้าจำได้ก็สวรรค์โปรดแล้วหละมั้ง

     

    อะไรกันครับลุง เมื่อกี้ยังบอกว่าคุ้นๆหน้าอยู่นี่ เขาเอ่ยท้วงกับเสียงฉุนๆนั้น

     

    อุวะไอ้นี่ เมื่อกี้ก็ส่วนเมื่อกี้สิ

     

    อ่าววววววววววว เขาลากเสียงยาวแล้วยิ้มอย่างที่ผู้ที่ถูกเรียกว่า ลุง รู้สึกดูแล้วเจ้าเล่ห์ชอบกล

     

    งั้นที่ผมหยอกลุงเล่นเมื้อกี้ก็แล้วไปแล้วใช่ไหม ไม่ถือโทษโกรธกันนะ

     

    เออ เสียงตอบอย่างจำใจทำให้เขาหลุดหัวเราะจนลุงแกต้องส่ายหัวอย่างระอา

     

    เอ็งนี่มันร้ายจริงๆ ชื่ออะไรกันจะได้จดในบัญชีดำแล้วหาป้ายมาแปะหน้าร้านเสียหน่อยให้ชาวบ้านแถวนี้เตรียมระวังกัน

     

    ระวังอะไรหละลุง

     

    ก็ ระวังเก็บมือเก็บไม้ไม่ให้มาทุบหัวเอ็งนะสิเขาทำหน้าเหวอก่อนจะแสร้งน้อยใจ

     

    โธ่ๆ ผมออกจะน่ารักน่าเอ็นดูออก เขายิ้มยิงฟันแล้วกล่าวต่อในขณะที่ลุงแกทำหน้าปุเลี่ยนๆ

     

    ผมชื่อ เชน  ราเชน ที่มาจากชื่อไม้หอมชนิดหนึ่งตอบพร้อมแปลอย่างเสร็จสรรพ

     

    ไม้หอม?ไม้หอมใหญ่หรอกรึ ที่มันฉุนๆหนะ

     

    เท่านั้นแหละที่เขาแทบจะแยกเขี้ยวใส่  โธ่โถชื่อเขาออกจะดี๊ดีกลายเป็นหอมใหญ่ไปซะได้

       หลังจากที่ออกมาจากร้าน ลุงชาติ ตามที่ลุงแกบอกให้เรียกโดยที่ได้เปิดศึกโต้คารมกันไปหลายรอบ เขาก็ปั่นต่อไปจนถึงถนนใหญ่และโบกรถสองแถวสายสีแดงที่วิ่งรอบตัวเมืองขึ้น จ่ายเพิ่มค่าจักรยานอีกซักหน่อยก็นั่งกินลมชมเมือง สบายๆ แถมประหยัดแรง ประหยัดเวลาดีๆ อีกตังหาก

     

         บ้านของลุงกริชอยู่ก่อนถึงตัวเมือง ผิดกับบ้านเขาที่เลยออกจากตัวเมืองไปไกล แถมยังต้องเข้าซอยนู่นออกซอยนี่ เลาะลัดเข้าไปลึกกว่าจะถึงบ้าน ห่างไกลความเจริญน่าดู แต่มันก็คุ้มเมื่อแลกกับบรรยากาศดีๆ ที่อยู่เพียงแค่สวนหลังบ้านเท่านั้น เสียงคลื่นที่เข้ากระทบฝั่ง ลมเย็นๆที่พัดเบาคลายร้อน ดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงรอนยามลับขอบฟ้าไปกับพื้นน้ำ   เพียงแค่นี้มันก็คุ้มเกินคุ้ม

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×