คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่๑
ตอนที่๑
ท้องทะเลสีครามตัดกับขอบฟ้าสีฟ้าที่ประปรายไปด้วยก้อนเมฆสีขาวปุกปุย ไม่อาจที่จะบดบังแสงอาทิตย์อันร้อนแรงยามบ่ายที่สาดแสงไปทั่วท้องสมุทรและพื้นแผ่นดิน ไม่ยกเว้นแม้กระทั่งบ้านหลังงามสีขาวสว่างสไตล์โมเดริน์ที่ผสมผสานศิลปะยุคเก่าและยุคใหม่ได้อย่างลงตัว พื้นหญ้าสีเขียวทอดยาวไปจนถึงหาดทรายสีนวลตา ปรากฏร่างของหญิงสูงวัยร่างท้วมที่พึ่งก้าวไปเก็บเสื้อยืดสีน้ำเงินลายทาง หลังจากที่มันถูกลมหอบใหญ่พัดปลิวจากราวไปตก "ปุ๊" กลางพื้นทรายทั้งๆที่พึ่งซักเสร็จใหม่ๆ
เจ้าของร่างท้วมได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอา พลางตะโกนเรียกหลานสาวตัวดีเจ้าของฝีมือตากผ้า
เพียงครู่ร่างเล็กของผู้เป็นหลานก็โผล่พรวดออกมาจากตัวบ้านพร้อมก้าวยาวๆไปหาผู้เป็นป้าด้วยใบหน้าหงอยๆเตรียมพร้อมจะโดนดุเต็มที่
" นี่ ยัยแจม ป้าบอกเรากี่ครั้งแล้วว่าทีนี่หนะลมแรง จะตากเฉยๆอย่างที่ทำอยู่แบบบ้านเราไม่ได้ ต้องหาอะไรหนีบ หรือไม่ก็เอาเชือกมัดไม้แขวนไว้ให้ดี ไม่งั้นที่อุตส่าห์ซักๆมาก็จะเป็นอย่างนี้ " พลางชูเสื้อยืดเปียกชุ่มที่เต็มไปตัวเม็ดทรายให้หลานสาวดูเป็นตัวอย่างและเตรียมพร้อมที่จะบ่นต่อแต่ทว่า
" ครื้น ครืน" เสียงเปิดประตูหน้าบ้านอันเป็นเอกลักษณ์ สร้างความฉงนแก่หญิง ร่างท้วมไม่น้อย
"ยัยแจม เราไปดูซิว่าใครมา นี่เจ้าศักดิ์มันเปิดประตูให้เข้าง่ายๆได้อย่างไรกัน"
"คะ ป้านวล" หญิงสาวเจ้าของชื่อ แจม รีบวิ่งไปทันที พลางโล่งอกที่ไม่ถูกบ่นต่อ เพราะป้าคนนี้ของเธอค่อนข้างเข้มงวด และดุที่สุดในบรรดาญาติๆทุกคนของแม่ ตอนแรกที่แม่จะส่งเธอมาอยู่กับป้านวลในช่วงปิดเทอม เธอก็ได้แต่สั่นหัวดิ๊กๆท่าเดียว ก็ใครหละอยากที่จะอยู่กับป้าจอมโหดตลอดปิดเทอมกันเล่า อย่างน้อยก็ไม่ใช่เธอคนนึงแหละ
แต่จนแล้วจนเล่าเธอก็ได้มาอยู่กับป้านวลจริงๆ ดังคำที่เค้าว่าไว้ "เกลียดอย่างไร มักได้อย่างนั้น"
ถึงเธอจะไม่ได้เกลียดแค่กลัวก็เถอะ แต่มันก็คือๆกันนั่นแหละ เอาเป็นว่าเธอขอยืนยันว่าคำพูดนี้เชื่อถือได้แน่นอน
ฝ่ายป้านวลจอมโหดตามที่หลานสาวเรียก ก็เดินไปเปิดน้ำที่ก๊อกเพื่อใช้สายยางรดน้ำต้นไม้ล้างเสื้อที่เขรอะไปด้วยทราย พอล้างไปเพียงไม่ถึงครึ่งตัวน้ำที่ไหลออกมาจากสายยางอย่างว่าง่ายกลับหยุดไหลไปเสียเฉยๆ
แต่ก่อนที่เจ้าตัวจะทันได้แปลกใจก็ต้องตกใจเสียก่อนเมื่อมีแขนยาวๆเอื้อมมาสวมกอดที่เอวเธออย่างฉับพลัน จนร่างท้วมๆเซไปด้านหน้าเล็กน้อย
"สบายดีไหมครับ ป้านวล " เสียงถามดังขึ้นพร้อมกับใบหน้าคมเข้มชะโงกออกมาถามเธอจากด้านหลัง โดยที่ดวงตาหวานใสส่งประกายระยิบระยับราวกับจงใจจะล้อเลียนเธอที่สะดุ้งตกใจเสียเฮือกใหญ่
"จะไม่สบายก็เพราะคุณเชนนี่แหละคะ เนี่ยถ้าป้าตกใจจนหัวใจวายไปจะทำอย่างไรคะ" เธอกล่าวด้วยซุ่มเสียงที่ราวกับจะดุเด็กเล็กพร้อมเอามือทาบหน้าอก
"แหม ผมก็ต้องพาส่งโรงพยาบาลสิครับ ถามแปลก" ใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มน้อยๆต้องยิ้มกว้างขึ้นไปอีกจนเห็นรอยบุ๋มเล็กๆ ที่แก้มซ้ายเมื่อเธอส่ายหน้าระอาอย่างบอกไม่ถูกกับคำตอบนั้น
"เอาเถอะคะๆ แล้วนี่อยู่ดีๆมาปิดน้ำป้าทำไมคะ"
"เก๊าะ ถ้าป้านวลเกิดอยากเป็นนางเอกหนังที่ตกใจ เวลาพระเอกโผล่เข้ามาตอนกำลังรดน้ำต้นไม้ ผมก็เปียกหมดสิครับ"
"คุณเชนนี่จริงๆเลย"เธอกล่างอย่างเอือมๆ
"แล้วนี่เป็นไงบ้างคะ ดูซูบไปหน่อยนะพ่อคุณของป้า" แล้วเอื้อมมือหันกลับมาจับแก้มอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน
"ซูบเซิบที่ไหนกันครับ ผมออกจะบึกบึนแข็งแรง" เจ้าของใบหน้าคมยิ้มยิงฟันพลางเบ่งกล้ามขึ้นโชว์เพื่อเป็นหลักฐาน "แล้วนี่พ่อไม่อยู่หรือครับ หรือกะจะเล่นซ่อนแอบเพื่อแกล้งผมกันนี่"
"พูดอะไรอย่างนั้นคะ คุณท่านไม่อยู่หรอกคะ ออกไปบ้านคุณกริชตั่งแต่เช้าแล้ว เห็นบอกป้าว่าจะกลับเย็นๆ"
"อ้าวหรอครับ อะไรกันลูกกลับบ้านทั้งทีไม่อยู่ต้อนรับ เรารึออกจะคิดถึง"
"ไม่ต้องมาพูดดีเลยคะคุณเชน" เธอทำเสียงดุๆ " ตัวเองจะกลับมาก็ไม่บอกใคร คุณท่านจะไปรู้ได้อย่างไรคะ นี่ก็เห็นบ่นว่าเหงาๆ มีลูกก็เหมือนไม่มี เสียงหงอยเชียวนะคะ ป้าแหละสงส๊านสงสาร"
"เวอร์" เสียงเปรยเบาๆและหน้าเบ้ๆของชายหนุ่มทำให้เธอตี เพี้ยะ เบาๆไปที่ต้นแขน
"โอ๊ยยย"เสียงร้องโอดครวญราวกับเจ็บหนักเจ็บหนา ทำให้เธออยากจะตีซ้ำแรงๆไปอีกซักที
"โธ่ ป้านวลคร๊าบบ ก็เพราะใครกันละ ผมถึงต้องทำงานหงกๆ เหนื่อยแสนเหนื่อย แล้วทีตัวเองหนะได้นอนอืดผึ่งพุงอยู่ที่บ้านสบายจะตาย ยังมาบ่นว่าเหงาอีก"
หน้างอๆกับเสียงเซ็งๆทำให้เธออดยิ้มเอ็นดูไม่ได้ คุณเชนกับคุณท่านก็เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร รักกันจะตาย แต่ไม่รู้ทำไมอายที่จะพูดกันดีๆ ต้องมีกัดกันนิดกัดกันหน่อยเสียทุกที
"ฮึ งั้นเดี๋ยวผมไปหาพ่อที่บ้านลุงกริชหละกัน จะได้ไม่โดนบ่นตอนเห็นหน้าว่า ไม่รู้จักมาไหว้ผู้หลักผู้ใหญ่เสียก่อน ได้แต่ขี้เกียจ เห็นแก่นอนเห็นแก่กิน "เสียงที่แกล้งดัดเหมือนเสียงบ่นของคุณท่านจนเธออมยิ้มแต่ก็ต้องเอ่ยท้วงขึ้นเมื่อนึกถึงประโยคแรกที่ว่า "ไปหาพ่อที่บ้านลุงกริช"
"อะไรกันคุณเชน พึ่งมาถึงเหนื่อยๆ จะพักเสียหน่อยคุณท่านไม่ว่าหรอกคะ"
"ก็คุณท่านของป้านวลหนะไม่ว่าหร๊อก แต่คุณท่านหนะบ่น ผมขี้เกียจฟัง"
"ไม่ใช่ว่าที่ไม่อยู่บ้านนี่เพราะร้อน เหมือนผีอยู่ใกล้วัดหรอกหรือคะ" เพราะคุณเชนของเธอนี่ เดิมเป็นพวกชีพจรลงเท้า แล้วยิ่งมีงานเยอะ ก็ไม่ค่อยจะได้อยู่บ้านเสียเท่าไหร่
ชายหนุ่มเลิกคิ้วสูงเหมือนกับแปลกใจกับคำถามนั้นเสียเต็มประดา " ใช่เสียที่ไหนครับ ผมเป็นพวกกบสมัยใหม่ตังหาก ที่ต้องออกจากกะลาไปค้นหาโลกกว้าง"
"โลกกว้างที่บ้านคุณกริชนี่นะคะ"เธอถามกลับอย่างขบขัน
"ครับผม งั้นผมไปเปลี่ยนเสื้อก่อนนะครับจะได้ไปเลย" สิ้นเสียงร่างสูงก็วิ่งหายเข้าไปในตัวบ้านอย่างรวดเร็ว
หญิงสูงวัยไม่ได้เอ่ยอะไรเพื่อตอบรับ เธอได้แต่แย้มยิ้มและมองภาพเมื่อครู่อย่างอ่อนโยน
ภาพของชายหนุ่มร่างสูงที่วิ่งจู๊ดหายไปกับตัวบ้านเมื่อครู่ ซ้อนทับกับภาพของเด็กชายตัวน้อยในวันวาน ที่ชอบวิ่งตรงรี่ไปไนห้องครัวเพื่ออะไรทานอยู่เรื่อยๆ เมื่อวันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว อะไรๆก็ล้วนแต่เปลี่ยนแปลง จากเด็กน้อยตัวเล็กๆที่เคยสูงแค่เอวเธอ กลับกลายเป็นชายหนุ่มร่างสูงสง่างาม ผู้ยังคงมีรอยยิ้มที่สดใส เฉกเช่นดวงตะวันอยู่เช่นเคย รอยยิ้มที่เป็นเหมือนยาใจของใครอีกหลายๆคน รวมถึงแม้กระทั่งของตัวเธอเอง
"ตายแล้วคุณเชน ไปขุดเสื้อผ้ามาจากไหนกันคะ ขาดๆ เปื่อยๆ ยุ่ยๆ ขนาดนี้"
"อู้ย ป้านวลครับ มันไม่ได้แย่ถึงขนาดนั้นเสียหน่อย ขาดนิดขาดหน่อยกำลังอินเทรน"
"เทรนอะไรป้าไม่รู้หรอก เสื้อผ้าดีๆมีไม่ใส่กลับชอบใส่แบบขาดๆ อะไรที่ดีก็ชอบทำลาย ป้าเห็นกางเกงยีนส์ดีๆ ก็มานั่งกรีดกันให้ขาด คนสมัยนี้นี่พิลึกพิลั่น ป้าหละตามไม่ทัน"
ป้านวลสุดสวยผู้แสนดีของเขาพูดก่อนที่จะเอามือทาบหน้าอกราวกับจะเป็นลม ความจริงเขาก็อยากจะขำกับท่าทางนั้นอยู่หรอก หากเข้าไม่ได้โดนว่าไปด้วยเสียตั้งแต่ เฉาะแรก
"โธ่ ป้านวลครับ ปกติผมไม่ได้ใส่แบบนี้หรอก พึ่งใส่วันแรกเอง ผมก็ได้นิยมนักหรอก" เขาก้มไปมองเสื้อยืดสีฟ้าเหลือบเขียวที่เย็บกลับตะเข็บ เพ้นท์ตัวอักษรภาษาอังกฤษกับลายแปลกๆสีดำ ที่มีขอบและชายเสื้อหลุดลุ่ย กับกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลดำที่ดูปุปะจากการเย็บทับหลายครั้งและกรีดที่ปลายกางเกงให้ลุ่ยๆ จนเลยไปถึงแตะหนีบสีดำแถบแดงคู่ละ 99 ที่มาจากร้านตรงข้าม
"จริงๆนะรับ เนี่ยผมไปช่วยอุดหนุนรุ่นน้องมา ตั้งแต่ซื้อมายังไม่ได้ใช้เลย เสียดายของ ไหนๆก็ไหนๆแล้วก็ขอใส่ซักหน่อยนะคร้าบบบบบ"พลางส่งสายตา ปิ๊งๆ ไปให้
"โอ๊ย อย่างป้าจะไปห้ามอะไรคุณเชนได้ แต่ถ้าไปชุดนี้แล้วถูกโยนออกมาจะหาว่าป้าไม่เตือน ไม่ได้นะคะ"
"ครับผม แต่ถ้าเป็นงั้นก็หนุกดีออก ถูกโยนออกมา เดี๋ยวผมปีนกำแพงเข้าไปใหม่เอาก็ได้"
"คุณเชน"
"ล้อเล่นครับ ล้อเล่น" เสียงแหลมดุที่เอ่ยเรียกชื่อเขา ทำให้ต้องรีบแก้ตัวอย่างฉับพลัน
"งั้นผมไปก่อนนะครับ จะรีบไปหาท่านหัวกะหล่ำ" แล้วชายหนุ่มร่างสูงก็ขึ้นคร่อมจักรยานสีดำ แทบส้มเหลืองพร้อมกับสวมหมวกสีที่เคยขาวเมื่อหลายสัปดาห์ก่อนลงมาปิดหน้าแล้วขี่ออกไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะมีเสียงบ่นและคำอบรมไล่หลังมาเป็นชุด
----------------------------------------------------------
อาจยังไม่ดีนัก ถือว่าอ่านเล่นๆก็ได้ แต่ยังถ้าติชมด้วยจะปลื้มสุดๆ
ขอบคุณอย่างสู๊ง(-/l\-)
ความคิดเห็น