เธอ คนของหัวใจ
เธอรักเค้า แต่เค้าซิมีข่าวว่าชอบรุ่นพี่ที่เธอสนิทด้วย คราวนี้จะทำยังไงล่ะ ระหว่างความรักกับเพื่อนความรักของหวานจะสมหวังหรือไม่
ผู้เข้าชมรวม
185
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
คุณรู้บ้างมั้ยว่าการที่เรารักใครสักคนทำไมเราต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเค้าคนนั้น ทำไมถึงเค้าจะทำให้เราเจ็บเราก็ยังอดทนอยู่ได้ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าทำไม แต่รู้แค่ว่าถ้าเราทำให้เค้ามีความสุขได้แค่นี้ฉันก็พอใจแล้ว อย่างที่ฉันเป็นอยู่ตอนนี้ฉันแค่เห็นเค้ายิ้มได้ก็เป็นของขวัญที่เยี่ยมที่สุดในตอนนี้เลยค่ะ ฉันแอบชอบรุ่นพี่อยู่คนหนึ่ง เค้าทั้งเท่ สูง หล่อ เรียนหนังสือเก่ง และเล่นบาสเก่งด้วย คุณคงอยากรู้แล้วซิว่าเรื่องมันเป็นยังไง เอาเป็นว่าฉันเล่าให้ฟังตั้งแต่เจอกันครั้งแรกเลยแล้วกัน
ฉันเป็นนักเรียนที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ ย่อมเป็นที่สนใจของนักเรียนชาย ที่นี่เป็นธรรมดาจึงมีคนมาชอบเยอะแยะโดนแซวใส่คนนั้นบ้างคนนี้บ้างเป็นประจำ แล้ววันนี้ฉันไปนั่งเล่นที่ชิงช้ากับเพื่อนๆก็มีรุ่นพี่ผู้ชายสองคนที่รู้จักกับเพื่อนของฉันมานั่งที่ชิงช้าตัวนี้ด้วยกัน ฉันรู้สึกปิ๊งเค้าคนนี้ตั้งแต่แรกเห็นเลยละ
“เฮ้พี่มาร์ค พี่ยัพ มานั่งด้วยกันซิ” (เพื่อนของฉันเรียกรุ่นพี่สองคนมานั่งด้วย)
“มีอะไรหรอ ขวัญตัวแสบ”
“ก็ฉันจะแนะนำเพื่อนใหม่ให้พี่รู้จักนะ เธอเพิ่งย้ายมาเมื่อไม่นานนี้เอง เธอชื่อหวาน น่ารักมั้ย”
“สวัสดีครับ พี่ชื่อ มาร์คครับ”
“ส่วนพี่ชื่อ พายัพ ครับ เรียกสั้นๆว่า ยัพ ครับ”
“สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”
“ตาสองคนนี้นะ ทั้งเรียนเก่ง รูปหล่อนิดหน่อย โดยเฉพาะนายยัพ เจ้าชู้นิดๆอย่าไปหลงคารมณ์เชียวนะ”
“พูดเกินไปแล้วนะยัยตัวแสบ เดี๋ยวโดนหรอก”
“อะไรๆก็มันจริงนี่นา แน่จริงเข้ามาดิไม่กลัวหรอก โธ่ ยัพ ขี้หลี แบร่ๆๆๆ”
“มานี่นะยัยขวัญยัยตัวแสบ คราวที่แล้วยังไม่ได้เอาคืนเลย”
“สองคนนี้ก็เป็นอย่างนี้แหละครับ ไม่ต้องไปสนใจพวกเค้าหรอก แล้วน้องย้ายมากที่ไหนละครับ น้องครับ น้องครับ”
“คะ เมื่อกี้พี่พูดว่าอะไรนะคะ ” (ฉันจ้องหน้าพี่เค้านานไปหน่อยเลยไม่ได้ยินที่พี่เค้าถาม)
“พี่ถามว่าน้องย้ายมาจากที่ไหนครับ”
“ขอโทษค่ะ หวานย้ายมาจาก โรงเรียน............คะ”
“แล้วที่นี่เป็นไงบ้างครับสู้ที่โรงเรียนเก่าได้รึเปล่า”
“ก็ดีค่ะ หวานว่าถ้าอยู่ที่ไหนขอเพียงเราตั้งใจก็เหมือนกันหมดแหละค่ะ”
“คิดอย่างนี้ก็ดีไปอย่างนะครับ”
“คะ”
กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ.................กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ...............
“ออดออกแล้ว เข้าห้องเรียนได้แล้วครับ”
“อ้าวแล้วสองคนนั้นละคะ”
“ปล่อยไปเถอะครับเดี๋ยวก็กลับกันมาเองหละครับ เอาเป็นว่าเดี๋ยวพี่ไปส่งที่ห้องละกัน”
“หะ ว่าไงนะคะ ” (ฉันตกใจค่ะไม่คิดว่าเค้าจะใจดีกรุณาไปส่งฉันที่ห้องเรียนด้วย)
“หวานนี่ยังไงกันนะไม่ค่อยฟังที่พี่พูดเลยหรอ พี่บอกว่าพี่จะไปส่งที่ห้อง แล้วอยู่อาคารไหนละครับ”
“อาคารสองค่ะ ” (โรงเรียนใหม่ของฉันมีอยู่ 5 อาคารค่ะ)
“อาคารเดียวกับพี่เลย พี่ก็ลืมไปหวานอยู่ห้องเดียวกับขวัญนี่เนอะ พี่นี่ไม่ไหวจริงๆขี้ลืมจังเนอะ อ้าวแล้วยืนนิ่งทำไมครับเดี๋ยวก็เข้าเรียนไม่ทันหรอกครับ ไปได้แล้วครับ มัวยืนงงอะไรอยู่ล่ะ ไม่ไปใช่มั้ย”
“คะคะ ไปแล้วค่ะ ”
“อะ ถึงแล้วห้องนี้ใช่มั้ย”
“ค่ะ แล้วพี่รู้ได้ไงเนี่ย”
“ก็ห้องของพี่อยู่ถัดจากนี่ไปอีก 2 ห้องนะครับ”
“อ๋อ หรอคะ ขอบคุณมากนะคะที่มาส่ง”
“ไม่เป็นไรครับแค่นี้เอง ทางผ่านเข้าห้องเรียนของพี่ด้วย”
“ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะ”
“ครับ”
.............................แล้วพี่มาร์คก็เดินจากไป........................................
“ยัยขวัญนี่เธอทิ้งฉันได้ไงหะ ฉันอยากจะฆ่าเธอจริงๆ”
“ขอโทษนะ ก็ฉันวิ่งหนีอีตาขี้หลีอยู่นี่ เธอก็เห็นอยู่”
“เออเออฉันจะยกโทษให้เธอก็ได้ แล้วพี่สองคนเมื่อกี้เค้าเป็นคนยังไงหรอ”
“ฮันแน่ เธอชอบพวกเขาอยู่ละซิ แล้วเธอเอานายพีทไปไว้ไหนยะ”
“บ้า ถ้าพูดอย่างงี้อีกฉันโกรธเธอจริงๆด้วย ฉันไม่ได้ชอบพวกเค้านะแค่ถามดูเฉยๆ แล้วช่วยทำความเข้าใจใหม่ซะด้วยฉันกับนายพีทไม่ได้เป็นอะไรกันนะยะเธอก็รู้ดีนี่”
“จ๊ะ จะ ฉันแค่ล้อเล่นนิดเดียวเองทำเป็นโกรธไปได้ งั้นฉันเล่าเรื่องสองคนนั้นให้ฟังละกัน สองคนนั้นเค้าเป็นเพื่อนสนิทกัน ได้ยินมาว่าเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเด็ก แล้วบ้านก็อยู่ติดกันด้วย แล้วเวลาเดินไปไหนเนี่ยนะ เท่เป็นบ้า แถมยังเรียนเก่ง แล้วก็เล่นกีฬาเก่งกันทั้ง 2 คนเลย สาวๆในโรงเรียนเรานะแทบจะชอบพวกเค้ากันหมดแหละ แต่พี่มาร์คกะอีตายัพ ต่างกันเป็นบ้า พี่มาร์คนะออกจะเรียบร้อย น่ารัก สาวๆมาสารภาพรักกี่คนกี่คนก็ไม่ยอมใจอ่อนซักที ผิดกะอีตาขี้หลียัพ เปลี่ยนแฟนไม่เลือกหน้า”
“แต่ดูเธอจะสนิทกับเค้าทั้งสองคนมากๆเลยนะ”
“ก็แหงอยู่แล้วละก็ฉันนะออกจะสวยขนาดนี้ อย่าว่าแต่สองคนนั้นเหอะ ผู้ชายทั้งโรงเรียนแทบจะสยบให้ฉันหมดแหละ”
“แหวะ”
“นี่”
“โทษทีๆ ฉันล้อเล่นน่า”
“แต่มันก็จริงนะ ฉันไม่สวยจริงๆ ที่ฉันสนิทกับสองนั้นคงเป็นเพราะฉันเป็นคนสนุก มั้ง แล้วก็เข้ากับคนง่ายด้วย”
“หรอ
. ” (ฉันลากเสียง)
“อาจารย์มาแล้วนั่งที่เร็วทุกคน”..........................!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
หลังจากวันนั้นฉันก็ได้เจอกับพี่เค้าทุกวัน แต่มีอยู่วันหนึ่งที่ฉันนั่งอยู่ที่ชิงช้ากับเพื่อนๆ แล้วฉันก็โดนล้อใส่นายคิมแจ แล้วพี่เค้าก็ผ่านมาพอดี เลยเข้ามาผสมโรงกับเพื่อนๆของฉันด้วย ฉันอายมากแทบแทรกแผ่นดินหนี แล้วกลัวพี่เค้าจะเข้าผิดด้วย
“หวานพีท หวานพีท หวานพีท หวานพีท”
“ทำอะไรกันอยู่ครับน้องๆ อะไรครับ หวานพีท แล้วน้องหวานเป็นอะไรนะวิ่งไล่ตีเพื่อนใหญ่เลย เรากำลังจับคู่ให้หวาน กับ พีท อยู่ค่ะ พี่ก็มาช่วยกันซิ”
“ดีเลยพวกพี่กำลังหาอะไรสนุกทำอยู่เลย”
“หวานพีท หวานพีท หวานพีท หวานพีท ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“อ้าวไหงพี่สองคนก็เป็นไปกะเค้าด้วยเนี่ย มันไม่ใช่อย่างนั้นซักหน่อย ฉันไม่ได้ชอบนายพีท ซักหน่อย”
“เอาน่ายอมรับเถอะ เพื่อนๆเค้ารู้กันหมดแล้วหน่ะ”
“พี่มาร์คก้อ มานี่เลย”
สรุปแล้ววันนี้ทั้งวันฉันโดนเพื่อนๆรวมทั้งอีตาพี่บ้าพวกนี้ล้อกันทั้งวันเลยคะ แต่ก็สนุกดีนะคะได้เข้าใกล้ และ ใกล้ชิดพี่มาร์คมากขึ้น พวกเราเลยเริ่มสนิทกันมากขึ้นทุกวันๆ
แล้วก็มีรุ่นพี่ย้ายเข้ามาใหม่ตอนกลางเทอม เป็นผู้หญิงชื่อ ฟ้าใส สวยมากเลย ได้ยินว่าเธอย้ายมาจากโรงเรียนชื่อดังด้วย แล้วก็เรียนเก่งมากเลย วันหนึ่งฉันวิ่งมาชนพี่เค้าเข้า แล้วพี่เค้าก็ถือสมุดมาเป็นตั้งเลย ฉันทำให้พี่เค้าหกล้ม แล้วสมุดก็กระเด็นกระจายทั่วพื้นเลย ฉันรีบช่วยพี่เค้าเก็บ
โครม!!!!!
“ขอโทษคะ เป็นอะไรมั้ยคะ”
“ไม่เป็นไรจ๊ะ”
“ฉันช่วยเก็บนะคะ แล้วพี่จะเอาสมุดพวกนี้ไปไว้ไหนคะ ”
“อ๋อไปส่งอาจารย์ที่ห้องพักครูนะจ๊ะ”
“งั้นหนูช่วยคะ”
“ไม่ต้องก็ได้จ๊ะเดี๋ยวพี่ทำเอง”
“ไม่เป็นไรคะ อีกอย่างฉันเป็นต้นเหตุทำให้พี่ล้มด้วย แล้วอีกอย่างสมุดพวกนี้มันก็เยอะแล้วก็หนักด้วย ให้หนูช่วยนะคะ”
“ก็ได้จ๊ะ ”
“อะ ถึงซักที ”
“ขอบใจมากนะจ๊ะ แล้วน้องอยู่ห้องไหนละ”
“ห้อง 1 คะ แล้วพี่ละคะ”
“พี่อยู่ห้อง 2 จ๊ะ อือ แล้วเมื่อกี้น้องจะรีบไปไหนจ๊ะ”
“อ้าวลืมไปเลยพอดีนัดเพื่อนไว้ค่ะ งั้นขอตัวก่อนนะคะ แล้วไว้เจอกันใหม่นะคะ”
“จ๊ะ แล้วระวังหกล้มนะจ๊ะวิ่งเร็วขนาดนั้นนะ”
“คะ”
“นี่หวานเธอมัวไปทำอะไรอยู่ที่ไหนมายะ ปล่อยให้พวกเรารอตั้งนานเนอะพี่มาร์ค แล้วไหนขนมที่บอกให้ไปซื้อละ”
“เออ!! ขอโทษนะฉันลืม พอดีเมื่อกี้ฉันวิ่งไปชนรุ่นพี่คนหนึ่งเข้านะ ฉันเลยเดินไปส่งเค้าที่ห้องพักครู เพื่อเป็นการไถ่โทษที่ฉันชนเค้าหกล้มจนหนังสือกระจายเลย”
“นี่แน่ะยัยซุ่มซ่าม ”
“พี่มาร์คก้อ มาตีหัวฉันทำไมล่ะ”
“แล้วว่าแต่ใครหรอที่เธอไปชนเค้าหกล้มน่ะ”
“อ๋อรุ่นพี่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่น่ะ ชื่ออะไรน้า ฉันจำชื่อเค้าไม่ค่อยได้นะ”
“ฟ้าใส ฟ้าใส ใช่มั้ย” (พี่ยัพ ถาม)
“ใช่ อือ ใช่แล้วพี่ฟ้าใส แหละ”
“แล้วเค้าเป็นอะไรมากรึเปล่า เจ็บตรงไหนมั้ย” (นี่นายมาร์คถาม)
“ไม่นิ พี่เค้าบอกว่าไม่เป็นอะไร ”
“หรอ เฮ้อ โล่งอกไปที”
“ทำไมหรอ”
“อ๋อ ตอนนี้ไอ้มาร์คมันกำลัง อินเลิฟ น่ะ พี่ก็ไม่เคยเห็นมันชอบใครซักที เห็นฟ้าใส เนี่ยแหละเป็นคนแรก ไม่รู้ไปโดนใจมันเข้าตรงไหน ปกติไม่เคยเห็นชอบใครง่ายๆอย่างนี้เลย ”
“เงียบเหอะน่าไอ้ยัพ พูดมากนะ ” (พอได้ฟังเท่านี้ใจฉันแทบแตกสลายเลยค่ะ)
“อะนั่นไงฟ้าใส เฮ้ยไอ้มาร์คดูซิ เป็นไรไปวะเงียบไปเลยแถมยังหน้าแดงอีกแน่ะ ล้อเล่นน่าเค้าไม่ได้มาซักหน่อย ไม่เชื่อก็หันไปดูเด่ะ ” (พี่มาร์คหันไปมอง)
พี่ฟ้าใส เดินมาจริงๆนะคะ แล้วก็หันมายิ้มให้ฉันด้วย เล่นเอาพี่มาร์คเงียบไปเลย แถมยังหน้าแดงเปรดเลยด้วย เล่นเอาฉันใจเสียหมดเลยค่ะ
พี่เค้าเดินมาทางนี้ด้วยท่าทางจะเดินมาหาใครที่นี่ เอ๊ะ หรือว่าจะเดินมาหาฉันเนี่ย จริงๆด้วย ตอนนี้หน้าพี่มาร์คแดงจัดเลยแหละ
“ขอนั่งด้วยคนได้มั้ยจ๊ะ”
“ได้ค่ะ ว่าแต่ทำไมพี่มาคนเดียวละคะ เพื่อนเพื่อนๆไปไหนกันหมดคะ”
“อ๋อ เพื่อนพี่หรอ โดนอาจารย์เรียกใช้งานน่ะ พี่เลยอยู่คนเดียว แล้วน้องชื่ออะไรจ๊ะเมื่อกี้พี่ลืมถามเลย”
“หนูหรอคะ ชื่อหวานค่ะ”
“ชื่อเพราะดีนี่ พี่ชื่อฟ้าใส จ๊ะ แล้ว....................”
“อ๋อ พวกนี้ใช่มั้ยคะ คนนี้เพื่อนหวานเองค่ะ ชื่อขวัญค่ะ คนนี้พี่ยัพ แล้วคนที่หน้าแดงแปรดเนี่ยชื่อมาร์คค่ะ” (พี่มาร์คทำตาโตดุๆใส่ฉันใหญ่เลย)
“ยินดีที่รู้จักทุกคนนะ เออว่าแต่นายน่าแดงอย่างเงี้ยไม่สบายรึเปล่า”
“ไม่เป็นไรหรอกคะแค่คนกำลังมีความรักนะ เนอะพี่ยัพ”
“ใช่ครับ แล้วรู้สึกว่าคนที่มันชอบจะอยู่..................” (พี่มาร์คทำตาโตใส่พี่ยัพ อีกคนจนพี่ยัพ ไม่กล้าจะพูดต่อ)
(ฉันเล่นพวกแกแน่)นี่คือความคิดในใจของพี่มาร์คที่ฉันพอจะเดาออกไม่ยากเลย ตอนนี้พี่เค้าอายจนไม่กล้าพูดอะไรสักคำ
“คะ ถ้าเป็นคนแถวนี้ฉันพอช่วยได้นะ เพราะฉันเริ่มสนิทกับเพื่อนที่นี่หลายคนแล้วละ ว่าไงคะ ”
พี่มาร์คโดนถาม
“เออ......................”
“ไม่เป็นไรคะ ถ้าไม่อยากบอก เราเพิ่งรู้จักกันวันนี้วันแรกรู้สึกว่าฉันจะก้าวก่ายเกินไป ขอโทษด้วยนะ นั่นเพื่อนฉันมาแล้ว งั้นฉันขอตัวก่อนนะ พี่ไปก่อนนะจ๊ะหวาน”
“คะ”
“แล้วไว้ค่อยคุยกันใหม่นะ”
“คะ”
เมื่อพี่ฟ้าใส เดินออกไปจากรัศมีที่ได้ยิน
“นายเป็นไรวะ อ้ำอึ้งอยู่ได้ ทำไมไม่บอกเค้าไปละวะว่าแกชอบเค้า”
“ไอ้บ้าอยู่ดีๆเจอกันวันแรกจะให้บอกว่าเราชอบเธอนะ เค้าไม่วิ่งหนีไปก่อนก็บุญแล้ว”
“อายดิใช่ม้า” (ฉันกับขวัญพูดขึ้นพร้อมกัน)
“ใครว่าอาย แล้วฉันบอกเมื่อไหร่ว่าชอบเค้า”
“อ้าวแล้วเมื่อกี้ใครอายจนหน้าเงี้ยแดงเหมือนไข้ขึ้นก็ไม่รู้เนอะพวกเรา”
“ช่าย”
ผ๊วะ ผ๊วะ ผ๊วะ
“อะไรเนี่ย” (พวกเราโดนเล่นหัวคนละที ท่าทางจะโกรธจัด)
“เออ ช่าย ฉันเพื่อนแกนะโว้ย เล่นแรงเป็นบ้า ถ้าจะตีก็ตีไอ้คนนี้ คนต้นเรื่องนี่”
“อ้าวพี่เล่นโยนความผิดมาให้กันเงี้ยเดี๋ยวก็สวยหรอก”
“ก็ถ้าเค้าไม่มาหาเธอไอ้มาร์คมันคงไม่หน้าขึ้นสีอย่างงี้หรอก ดูดิมือเงี้ย เย็นเฉียบยิ่งกว่าน้ำแข็งอีก ไม่เชื่อลองจับดูดิ”
ฉันชะงักไปนิดนึง
บ้าใครจะกล้าจับ ฉันคิดในใจ รู้สึกว่าเลือดจะฝาดขึ้นหน้ายังไงไม่รู้ แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นหรอก เพราะตอนนี้คนที่หน้าแดงจัดและได้รับความสนใจมากกว่านั่งอยู่ตรงหน้าฉันเนี่ย
กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ.................กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ...............
ดีนะเนี่ยที่ออดออกทันเวลา เฮ้อ
“อ้าวออดดออกแล้ว ขึ้นห้องกันเถอะ ” (คราวนี้ยัยขวัญที่ดูว่าวันนี้จะเงียบกว่าใครพูดขึ้นบ้าง)
“เฮ้ยไปได้แล้ววะมาร์ค” (ท่าทางพี่มาร์คไม่ได้ยินเสียงออดยังไงไม่รู้ คงตื่นเต้นมั้ง แต่วันนี้ฉันก็ใจเสียไปมากเหมือนกันนะ)
หลังจากนั้นพวกเราก็เดินเข้าห้องเรียนของใครของมัน
กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ.................กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ...............
ออดเลิกเรียน เสียงสวรรค์ทรงโปรดหลังจากนั่งเรียนมาทั้งวัน แต่วันนี้ฉันได้อยู่ทำเวรที่ห้องคนเดียว ยัยกายองรีบกลับบ้านเพราะพ่อมีธุระด่วนบอกว่าถ้าเลิกเรียนแล้วให้รีบกลับบ้านแล้วเพื่อนคนอื่นๆรีบไปไหนก็ไม่รู้เลยฝากฉันทำงานแทนคงนัดแฟนไว้มั้ง น่าสงสารคนไม่มีแฟนกะเค้าจังเลย เพราะฉันแท้ๆดันไปชอบไอ้พี่บ้านั่น แล้วเค้าดันไปชอบคนอื่นอีก จะทำยังไงดีเนี่ย ยัยบ้า เฮ้อ
ฉันเดินไปซักผ้าขี้ริ้ว แล้วโชคดีมาก
“อ้าวพี่มาร์คพี่ยัพ กับเพื่อนคนอื่นละไปไหนกันหมด”
“พวกนั้นหรอไม่รู้ซิ”
“เหมือนฉันเลย ต้องทำเวรคนเดียวไว้วันหลังก่อนเถอะเอาคืนให้สาสมเลย ว่าแต่พี่มองอะไรอยู่หรอ”
“ไม่นิ ไม่ได้มองอะไร พี่ก็ดูอะไรๆเรื่อยๆไปเรื่อยเปื่อย”
“จริงงะ ไม่เชื่อหรอกไหนดูซิ ฮันแน่กำลังมองดูพี่ฟ้าใส ละซิ เค้าน่ารักดีเนอะ ดูซิยิ่งอยู่กับเพื่อนๆแล้วเล่นกันสนุกขนาดนั้นมองยังไงก็น่ารักนะ ”
เงียบ ฉันใจแป๋วเลย พยายามพูดแล้วยิ้มเข้าไว้ ตอนนี้บนอาคารก็ไม่มีใครอยู่ด้วย เหลือฉันกับพี่เค้าสองคนได้มั้ง มองจากระเบียงตรงนี้ลงไปข้างล่างก็จะเห็นพี่ฟ้าใส อยู่กับเพื่อนๆ ตอนนี้ฉันใจเต้นแทบจะออกมาข้างนอกได้แล้ว ถ้าเงียบกว่านี้หน่อยคงได้ยินเสียงหัวใจฉันเต้นแน่ๆ
“หรอ คิดอย่างงั้นหรอ ”
“หรือว่าพี่ว่าไม่จริง”
“ก็ดีนะ”
“หมายความว่าไงนะ”
“ช่างเถอะ ว่าแต่จะไปทำเวรไม่ใช่หรอ เดี๋ยวพี่ช่วยเอามะ
“จริงงะ เอาดิ ”
ตอนนั้นฉันให้พี่เค้าลบกระดานให้ แล้วฉันก็วิ่งมาข้างหลังพี่เค้าพอดี ว่าจะมาทำให้ตกใจซะหน่อย แต่แล้ว ฟรืด..................ฉันเบรกเกือบไม่ทันแล้ว แต่ว่าตอนนี้ฉันรู้สึกหน้าร้อนผ่าว เพราะพี่เค้าหันหน้ามาพอดีเลย ระยะห่างของเราตอนนี้ห่างกันไม่ถึงคืบ สัมผัสถึงลมหายใจร้อนๆของพี่เค้าได้เลย เราจ้องหน้ากันอยู่อย่างนั้น แต่แล้ว................
“ช่วยด้วย !!!! ช่วยด้วย !!!! ฟ้าใส เป็นลม”
เสียงดังมาจากข้างล่าง
พี่เค้ารีบหันไปแล้ววิ่งไปที่ระเบียง แล้วก็วิ่งลงไปข้างล่างทันที ฉันก็วิ่งตามไปด้วย ตอนนี้พี่ฟ้าใส เป็นลมอยู่กลางสนาม แล้วพี่มาร์คก็รีบเข้าไปอุ้มพี่ฟ้าใส มาที่ห้องพยาบาลทันที ตอนนี้ที่นี่มีฉัน พี่มาร์ค เพื่อนพี่ฟ้าใส ชื่อพี่มิ้นกับพี่ฟางอยู่แค่นี้เพราะคนอื่นๆกลับบ้านกันหมดแล้ว ดูท่าทางพี่เค้าจะเป็นห่วงพี่ฟ้าใส เอามากๆ ปกติพี่ฟ้าใส กับเพื่อนๆจะกลับบ้านช้าเพราะต้องรอให้พ่อของพี่เค้ามารับ แล้วพ่อพี่เค้าก็มาเย็นมากด้วย ได้ยินมาว่าพ่อพี่เค้าทำธุรกิจส่วนตัว ยุ่งมากเลย แล้วเลิกงานเย็นมากกว่าจะมาถึงที่นี่ก็เย็นมากแล้ว
“เออ ว่าแต่ฟ้าใส เป็นอะไร อยู่ๆเป็นลมงั้นหรอ ” (พี่มาร์คถาม)
“อ๋อ วันนี้เค้าไม่ค่อยสบาย ไม่ได้กินข้าวเที่ยงด้วยซิ แล้วเมื่อกี้วิ่งเล่นกันอยู่ดีๆๆก็เป็นลม”
(พี่มิ้นตอบ)
“หรอแล้วเมื่อไหร่พ่อเค้าจะมารับเนี่ย”
“คงสักพักมั้ง ตอนนี้มันก็เย็นมากแล้วด้วยนะเนี่ย ฉันสองคนต้องรีบกลับแล้วละ จะเอายังไงดีเนี่ย”
“งั้นเดี๋ยวหนูอยู่ดูแลพี่เค้าให้เองคะถ้าพี่สองคนรีบกลับบ้านก็กลับก่อนก็ได้นะคะ บ้านหนูอยู่ใกล้ๆนี่เอง ไว้เป็นหน้าที่หนูเอง”
“จะดีหรอจ๊ะ”
“คะ”
“งั้นก็ฝากด้วยละกันนะจ๊ะ”
“คะ ไม่เป็นไรคะแค่นี้สบายมาก”
ฉันรับยาดมมาจากพี่ฟาง แล้วก็พยาบาลพี่ฟ้าใส ต่อ พี่มิ้นกับพี่ฟางก็เดินออกไป ความเงียบเกิดขึ้นอีกครั้ง ฉันไม่รู้จะพูดอะไรดี ก็ทำไงได้ละคิดถึงเรื่องน่าอายเมื่อกี้ แล้วต้องมาอยู่ในสถานการณ์อย่างนี้อีก เฮ้อ!!!! พี่มาร์คก็ไม่ยอมพูดอะไรสักคำ ฉันเลยตัดสินใจที่จะพูดขึ้นก่อน
“ฉันไปโทรศัพท์บอกที่บ้านก่อนนะ เดี๋ยวที่บ้านเป็นห่วง ” (เงียบ ไม่มีสัญญาณตอบรับ)
ฉันเลยเดินออกไป
ตืด ตืด ตืด
“สวัสดีค่ะ”
“แม่หรอคะ ตอนนี้หนูอยู่ที่โรงเรียนนะคะ เดี๋ยววันนี้หนูจะกลับบ้านช้าหน่อยนะ พอดีเพื่อนเป็นลมอยู่ที่ห้องพยาบาล พ่อเค้ายังไม่มารับเลย ”
“ยังไงก็อย่ากลับเย็นมานะลูก”
“คะแม่ เดี๋ยวถ้าพ่อเค้ามารับแล้วหนูจะรีบกลับไปเลยนะคะ”
“จ๊ะ”
“งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ”
ฉันวางหูโทรศัพท์ แล้วก็เดินกลับมาที่ห้องพยาบาล ได้ยินเสียงคนคุยกัน ตอนนี้พี่ฟ้าใส รู้สึกตัวแล้ว กำลังคุยอะไรกับพี่มาร์คอยู่ก็ไม่รู้ ฉันเลยไม่อยากเข้าไปตอนนี้ เลยออกมาเดินเล่นรอบๆสนามเด็กเล่นในโรงเรียน คิดอะไรไปเรื่อยๆ แล้วก็มีรถมาจอดตรงหน้าโรงเรียน แล้วก็มีผู้ชายคนนึงลงมาจากรถคงเป็นคุณพ่อพี่ฟ้าใส ฉันรีบวิ่งเข้าไปหา
“คุณพ่อพี่ฟ้าใส ใช่มั้ยคะ”
“ใช่ครับหนู หนูเห็นฟ้าใส มั้ยจะ”
“ตอนนี้พี่เค้าอยู่ที่ห้องพยาบาลนะคะ เมื่อกี้พี่เค้าเป็นลม”
“หรอ พาอาไปหน่อยได้มั้ย”
ฉันพาพ่อพี่เค้ามาที่ห้องพยาบาล พี่เค้าก็กำลังเก็บของจะออกมาพอดี
“เป็นไรมากมั้ยลูก ไหวมั้ย”
“ไม่เป็นไรแล้วคะ”
พ่อพี่เค้าจ้องพี่มาร์คนิดหน่อย (คงจะหวงลูกสาวน่าดู) ฉันเลยพูดว่า
“นี่พี่มาร์คคะ เค้าเป็นคนพาพี่ฟ้าใส มาที่นี่ เมื่อกี้หนูออกไปดูว่าคุณอามารึยังก็เลยให้พี่เค้าดูแลพี่ฟ้าใส ให้คะ”
“เหรอจ๊ะ ขอบใจพวกหนูมากนะ ที่ช่วยดูแลลูกสาวอา”
“ไม่เป็นไรค่ะ พวกเราเต็มใจทำอยู่แล้วค่ะ”
“งั้นอาขอตัวกลับก่อนนะ ปะลูก”
พี่ฟ้าใส หันมาพูดว่า
“ขอบใจมากนะจ๊ะหวานนายด้วย มาร์ค”
พี่มาร์คไม่พูดอะไรเลย ฉันเลยจำเป็นต้องตอบอีก
“คะ”
หลังจากพี่ฟ้าใส กลับไปแล้ว พี่มาร์คก็เอ่ยขึ้นเป็นครั้งแรกหลังจากที่เงียบมานาน
“บ้านเราอยู่แถวไหนละเดี๋ยวพี่ไปส่ง” (ฉันรู้สึกสับสนนิดหน่อย ไม่รู้ว่าเป็นอะไรหลังจากเห็นเค้าอยู่ด้วยกันแล้ว)
“แถวนี้แหละเดี๋ยวเค้ากลับเองก็ได้ พี่ไม่ต้องไปส่งหรอก เอาเวลาไปนั่งคิดถึงพี่ฟ้าใส ดีกว่ามั้ย ” (ทำไงดีฉันพูดอะไรออกไปเนี่ย)
“เป็นอะไรไปอีกละเนี่ย ไปกินรังแตนที่ไหนมา ก็พี่บอกว่าจะไปส่งไง นี่ก็เย็นมากแล้วด้วย แล้วตกลงบ้านอยู่แถวไหน”
“ขึ้นรถจากตรงนี้นั่งไปสักพักเดี๋ยวก็ถึง”
“อ้าวไหนเมื่อกี้บอกว่าอยู่ใกล้ๆนี่ละ”
“ก็ให้เพื่อนพี่เค้าสบายใจไง ถามได้ แล้วบ้านพี่อยู่ทางไหนละถ้าคนละทางก็ไม่ต้องไปส่งหรอก ฉันกลับเองได้”
“ไม่เป็นไรพี่บอกว่าจะไปส่งไง”
“ไม่ต้องหรอกฉันกลับเองได้”
“ก็พี่บอกว่าจะไปส่งไง ”
“งั้นก็ตามใจ”
พอลงจากรถ ฉันเดินมาเรื่อยๆ โดยที่ไม่ได้คุยอะไรกันเลยระหว่างทาง จนถึงบ้าน
“ส่งฉันแค่นี้ก็พอ พี่กลับบ้านไปได้แล้วปะ”
“งั้นพี่ไปนะ”
“อือ”
ฉันรีบเข้าไปในบ้านแล้วแอบดูจนพี่เค้าเดินพ้นไปจากระดับที่สายตาจะสามารถมองเห็นได้
ฉันไม่ได้คุยกับพี่มาร์คหลายวันแล้ว แล้วช่วงนี้ท่าทางพี่เค้าเหมือนกับจะพยายามทำตัวออกห่างฉันยังไงไม่รู้ แล้ววันนี้พี่ยัพ ก็มาเรียกฉันออกไปคุยด้วย แล้วก็แปลกแฮะให้ฉันออกไปคนเดียวห้ามใครไปด้วย ระหว่างเดินมา ฉันเดินสวนกับพี่มาร์คพี่เค้าทำท่าเย็นชาใส่ฉันอีกแล้ว ไม่ทักฉันด้วย ฉันเลยไม่ทักเค้า ทั้งที่ก่อนหน้านี้เจอกันที่ไหนก็จะทักกันเสมอ แล้วตอนนี้รู้สึกว่าอีตาบ้าเนี่ยสนิทกับพี่กายองมากขึ้นด้วย จนใครๆทั้งโรงเรียนเค้าพากันว่าสองคนนี้เป็นแฟนกันไปเรียบร้อยแล้ว คงสมใจแล้วละซิ เฮอะๆน่าหัวเราะตัวเองแท้ๆเลย ดันทำตัวเป็นแม่สื่อให้เค้าจนได้เรื่อง แล้วมาเสียใจทีหลัง ก็ช่วยไม่ได้นี่เนอะ ทำไงได้ละ ดูอย่างวันก่อนเห็นนั่งคุยกับพี่ฟ้าใส อยู่ดีๆ พี่ฟ้าใส ก็เหลือเกินเรียกฉันไปเป็น ก.ข.ค.ทำไมก็ไม่รู้ เท่านั้นแหละพอฉันเข้าไปนั่งด้วยเป็นอันเงียบ ไม่พูดอะไรสักคำ กลัวคนอื่นเค้ารู้รึไงนะ ว่าใช้คำพูดสวีทหวานแหววกับพี่ฟ้าใส แค่ไหน สักแป๊บก็ขอตัวลุกออกไป จะรังเกียจอะไรเราหนักหนา คิดแล้วกลุ้ม คิดได้ถึงตรงนี้ฉันก็เดินมาถึงที่นายยัพ นัดไว้พอดี เจ้าตัวยืนยิ้มอยู่ก่อนแล้ว ท่าทางอารมณ์ดีเต็มที่เลย ทั้งๆที่ฉันกลุ้มใจจะตายอยู่แล้ว
“ไหนมีอะไรก็รีบๆพูดมา ขอสั้นๆง่ายๆนะ อารมณ์ไม่ดีนะวันนี้”
ท่าทางตื่นเต้นอะไรก็ไม่รู้นักหนา
“เออ........................เออ...................คือ.............พี่............”
“อ้าวอะไร เออ คือ พี่ อยู่นั่นละ ไม่รีบพูดจะไปแล้วนะ หรือว่าจะให้ไปเป็นแม่สื่อให้กับผู้หญิงคนไหนรึเปล่า ท่าทางอย่างเงี้ย”
“เออ..........คือ.......พี่.......”
“รีบพูดมาดิ”
“คือพี่ชอบหวาน”
“หะ พี่พูดว่าไงนะ สงสัยฉันหูฝาดแหงงๆเลย”
“พี่บอกว่าพี่ชอบหวาน”
อึ้ง คราวนี้ความเงียบก่อตัวขึ้นพักนึง ทำไงได้ละคะ ฉันกำลังกลุ้มใจเรื่องของตัวเองที่เกือบจะเอาตัวไม่รอดอยู่เนี่ยแล้วยังจะ มีเรื่องปวดหัวมาให้คิดอีกเรื่องนึงอีก ฉันจะพูดยังไงดีละเนี่ย
“พี่หวานไม่รู้จะพูดยังไงให้พี่เข้าใจนะ พี่ตั้งใจฟังให้ดีๆนะ ที่ผ่านมาหวานคิดกับพี่แค่พี่ชายกับน้องสาวเท่านั้นนะ แล้วหวานก็มีคนที่หวานชอบอยู่แล้วด้วย หวังว่าพี่คงจะเข้าใจนะ แล้วผู้หญิงที่ดีกว่าหวานก็มีอยู่อีกเยอะ ขอโทษจริงๆนะพี่”
“ไม่เป็นไรพี่เตรียมใจไว้แล้วละว่ามันคงจะเป็นแบบนี้ แต่พี่ก็ไม่ยอมแพ้หรอก ยังไงพี่ก็จะชอบหวานต่อไป ”
“อืม พยายามเข้านะพี่”
“เฮ้ยจะบ้าเหรอ พี่เพิ่งจะโดนหวานหักอกไปหยกๆ แล้วไหงมาพูดให้กำลังใจกันอย่างนี้เนี่ย ”
“ก็หวานดีใจนี่ นึกว่าถ้าพูดออกไปแล้วเราจะไม่เหมือนเดิมซะอีก”
“คิดงั้นได้ไง นี่พี่นะ นายยัพ โดนหญิงหักอกแค่เนี้ยไม่ตายหรอก แต่บอกไว้ก่อนนะพี่ไม่ยอมแพ้หรอก พี่จะพยายาม”
“อือ งั้นหวานกลับเข้าห้องก่อนนะ ไปพร้อมกันมั้ย”
“ไปก่อนเถอะ เดี๋ยวพี่อยู่ที่นี่สักแป๊บ แล้วก็จะไปแล้วละ”
ถึงหวานจะไม่ตอบรับพี่ก็ไม่เป็นไร ถึงคนที่หวานชอบจะเป็นใครพี่ก็จะคอยเป็นกำลังใจให้แล้วกัน
“หวานพี่เค้าเรียกไปทำไมหรอ” (ขวัญถาม)
“ไม่มีอะไรหรอก” (ขืนฉันบอกไปมีหวังยัยขวัญต้องคิดมากแน่ๆ เพราะฉันรู้ว่ายัยขวัญต้องชอบพี่ยัพแน่ๆ)
“จริงอะ ไม่มีอะไรทำไมต้องไปคุยกันสองคนด้วยละ”
“งั้นก็ลองไปถามพี่เค้าเอาเองก็แล้วกัน ตอนนี้ฉันไม่อยากจะตอบคำถามอะไร ขอฉันนอนสักงีบนะ ถ้าอาจารย์มาเรียกทีละ”
วันนี้ฉันได้อยู่ทำเวรคนเดียวอีกแล้ว แล้วก็อีกเช่นเคยอีตาบ้ามาร์คก็มาแอบดูพี่ฟ้าใส อีกตามเคย ฉันเดินลงไปซักผ้าขี้ริ้ว แล้วขากลับขึ้นมาฉันก็รีบเดินผ่านเพื่อให้ผ่านอีตาบ้านี่ไปเร็วๆ แต่แล้ว
“ปล่อยฉันนะฉันเจ็บ”
เค้าเอามือมาคว้าแขนฉันไว้ พอฉันหันกลับมาเท่านั้นละ ฉันพูดอะไรไม่ออกอีกเลย เพราะคนฉวยโอกาสบางคนเล่นเอาปากมาปิดปากฉันไว้ ฉันอึ้ง ตกใจ เบิ่งตากว้าง แล้วผลักไอ้เจ้าคนฉวยโอกาสออกไป พร้อมกับฟาดหน้าเข้าให้ เผี๊ย!!!
“นี่นายจะบ้าหรอ นายรู้รึเปล่าว่าทำอะไรลงไป”
“รู้ ก็จูบเธอไง”
“บ้า ไอ้คนบ้า พูดออกมาได้หน้าตาเฉย”
แล้วน้ำตามันก็ค่อยๆไหลออกมา ฉันพยายามจะเดินหนี แล้วเค้าก็จับฉันไว้อีก
“ปล่อยฉันนะ”
“ไม่ จนกว่าจะคุยกันรู้เรื่อง”
“คุยอะไร เรามีเรื่องอะไรต้องคุยกันด้วยหรอ”
“มีซิ ”
“เรื่องอะไรเล่า”
“ยังจะมาถามอีก ไม่รู้จริงๆหรอ”
“อือดิ แล้วเรื่องอะไรเล่า”
“ได้ ทำไมเดี๋ยวนี้ต้องทำท่าทางอย่างงี้ด้วย”
“ท่าทางอย่างไหน”
“ยังจะมาถามอีก นี่ไม่รู้จริงๆหรอเนี่ย”
“แล้วจะไปรู้ได้ไงเล่า ว่าแต่นายนั่นแหละ เย็นชาใส่ฉันก่อนทำไมละ ”
“ก็ฉันไม่รู้จะทำยังไงดีนิ มันสับสนไปหมด”
“อะไร สับสนเรื่องอะไร เห็นทุกวันนี้ก็มีความสุขดีนิ มีแฟนสวยๆเป็นขวัญใจชายทั้งโรงเรียน ไม่ดีใจอีกหรอ”
“ใครเค้าจะไปดีใจลงเล่า แล้วใครบอกว่าฉันมีแฟนแล้ว คิดอะไรไม่เข้าท่า”
“เออ ก็ฉันมันไม่เข้าท่านี่”
“แล้วอย่างนี้จะพูดกันรู้เรื่องมั้ยเนี่ย”
“แล้วจะอะไรก็พูดมาดิ คนยิ่งรีบๆอยู่”
“ก็ได้ แต่ใจเย็นลงกว่านี้ก่อนได้มั้ย”
“ถ้าไม่ได้แล้วจะทำไม”
“งั้นวันนี้คงคุยกันไม่รู้เรื่อง”
“คุยไม่รู้เรื่องก็ไม่ต้องคุย”
“แต่พี่จะคุยวันนี้นิ ”
“ก็พูดมาดิ”
“รู้มั้ยทุกวันนี้พี่ทุกข์ใจแค่ไหน ที่ต้องทำตัวอย่างนี้ เย็นชาใส่เธอเนี่ย ต้องทำตัวอยู่ห่าง รู้มั้ยมันลำบากแค่ไหนกว่าจะทำได้”
“แล้วทำทำไมเล่า”
“ จำได้มั้ยหลังจากวันที่พี่ไปส่งวาที่บ้านวันนั้นนะ”
“จำได้ซิ หลังจากวันนั้นพี่ทำเย็นชาใส่ฉัน ไม่ยอมพูด ไม่ยอมทัก จนฉันคิดว่าพี่คงเกลียดฉันแล้วละ แล้วมันยังไงต่อละ”
“ก็วันรุ่งขึ้นใช่มั้ย ไอ้ยัพ มันมาบอกพี่ว่ามันชอบหวาน มันถามพี่ว่าควรทำไงดี พี่ก็บอกมันว่าไม่รู้ แล้วหลังจากนั้นพี่ก็ไม่รู้ว่าพี่เป็นอะไร พี่เริ่มทำตัวอยู่ให้ห่างจากหวาน เพราะพี่ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไม พี่ก็ไม่ได้ชอบสักเท่าไหร่หรอกรู้มั้ย พี่กลัวว่าพี่จะเป็นคนทรยศเพื่อน แต่วันนี้พอมันบอกว่ามันจะบอกหวานว่ามันชอบหวาน พี่แทบไม่เป็นอันทำอะไรเลยรู้มั้ย พี่รอแต่คำตอบ คำตอบที่มันจะเป็นตัวตัดสินว่า พี่ควรทำยังไงต่อไป ”
พี่มาร์คหยุดไปพักนึง
“หวานรู้มั้ยพอพี่รู้ว่าหวานตอบยัพมันว่ายังไง พี่บอกกับใจตัวเองว่า พี่จะไม่ยอมให้โอกาสหลุดมือไปอีกแล้ว”
“แล้วไง”
“พี่รักหวาน ”
อึ้งคะ อึ้งมาก ตะลึงสุดสุด ฉันเงียบไป แล้วเค้าก็ก้มใบหน้ามาตรงหน้าฉัน แต่พอฉันคิดอะไรได้ ฉันก็ผลักเค้าออกไป ก่อนจะพูดว่า
“แล้วพี่ฟ้าใส ละ”
“พี่คิดกับเค้าแค่เพื่อน”
“อ้าวแล้วที่ไปนั่งคุยกันทุกวันนี้ละ บ่อยด้วย”
“ก็เค้าเป็นคนน่ารักใช่มะ พี่แค่คิดว่าถ้าไปคุยกับเค้าแล้วอาจจะทำให้ลืมหวานได้ แต่ก็เปล่าเลย ยิ่งทำให้คิดถึงหวานขึ้นทุกวัน เพราะเค้าจับได้ว่าพี่ชอบหวานพี่ก็เลยปรึกษาเค้า เพราะเค้าเป็นผู้หญิงใช่มะ ก็ไม่รู้ว่าผู้หญิงเค้าคิดกันยังไง พอเค้ารู้ ก็ถือโอกาสปรึกษาเลย”
“อ้าวก็ตอนเค้าเข้ามาใหม่ๆก็ชอบเค้าแล้วไม่ใช่หรอ”
“ก็ตอนนั้นมันไม่รู้นิ ว่าใจมันคิดยังไง พี่ยอมรับนะ ว่าเค้าสวย เค้าน่ารัก แต่พี่เคยบอกมั้ยละว่าพี่ชอบเค้า”
“อีกอย่างนะตอนที่เค้าเข้าไปหาที่ชิงช้าตอนนั้น ทำไมต้องหน้าแดง ต้องเขิน ต้องอายขนาดนั้นด้วย”
“อ้าวก็คนมันโดนล้อก็ต้องอายเป็นธรรมดา ก็ดันไปเชื่อไอ้ยัพ เองนิ”
“แล้วไอ้ที่มายืนอยู่ที่หน้าระเบียงนี่ตลอดล่ะ จะว่ายังไง”
“อ้าวก็พี่มารอหวาน ที่จริงน่ะไม่ได้ดูฟ้าใสเค้าหรอกแต่เป็นห่วงหวานเห็นไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อนแล้วอีกอย่างพี่อยากมองดูหวานนานๆเลยมาอยู่ที่ระเบียงเนี่ยเวลาที่หวานทำเวร”
“แล้ว...........................”
จากนั้นฉันก็พูดอะไรต่อไม่ได้อีกเลยคะ ฉันสัมผัสอันอ่อนนุ่มกับลมหายใจอุ่นๆ นุ่มนวล บางเบา นี่ฉันต้องฝันไปแน่ๆเลย แล้วฉันก็ค่อยๆปรือนัยน์ตาลงช้าๆ หยดน้ำตาที่เมื่อกี้ไหลมาเป็นทาง ค่อยๆจางลง พร้อมกับปัญหาที่ค้างคาใจตลอดมา
OWA_AIW ค่ะ ไม่รู้ว่าจะแต่งต่อเป็นเรื่องยาวๆดีรึเปล่า ช่วยออกความคิดเห็นด้วยนะคะ
ผลงานอื่นๆ ของ Owa_aiw ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Owa_aiw
ความคิดเห็น