ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { FIC EXO } MY MENTOR ♥ IS BEE

    ลำดับตอนที่ #2 : MY MENTOR ♥

    • อัปเดตล่าสุด 17 มี.ค. 58


    -1-

     

                    หลังจากที่ผมเจอไอ้อีทีหนูช้างนั่นด่ามา ตอนนี้ผมก็รู้สึกฮึกเหิมอยากเริ่มทำงานมันตอนนี้เลย ให้ตายสิ ! อะไรกันผมไปทำอะไรมันเมื่อชาติก่อนไว้หรอ ? ทำไมมันเกลียดผมจัง ทั้งการกระทำ การพูดการจา ไหนจะสายตาเหยียดๆนั่นอีก แต่ผมก็ไม่สนใจหรอกนะ ผมรับงานนี้มาแล้วและผมก็จะต้องทำให้ดีที่สุด ยังไงซะเฮียอู๋ก็มีพระคุณต่อผมมามากช่วยส่งค่าเล่าเรียนให้ผมมาโดยตลอด เพราะอะไรน่ะหรอ ? มันก็เพราะว่าผมไม่มีพ่อแม่หรือญาติคนใดเลยไงล่ะ ผมอยู่ที่โบสถ์มาตั้งแต่อายุ 5 ขวบ พ่อกับแม่ของผมเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ทำให้ท่านทั้งคู่เสียชีวิตกะทันหัน ส่วนญาติผมน่ะเขาเอาเงินประกันของพ่อกับแม่ผมจนหมดแล้วชิ่งหนีผมไป และผมก็เหลือเพียงเงินมรดกถึงแม้ว่ามันจะมากแค่ไหนแต่ยังไงซะมันก็ยังไม่พออยู่ดี เมื่อผมอายุได้ 15 ปี ผมจึงเริ่มออกหางานทำเพื่อส่งตัวเองเรียน ผมทำทุกๆอย่างไม่ว่าจะล้างจาน เสิร์ฟอาหาร ส่งของ หรือแม้แต่ซ่อมรถ ผมทำอย่างนี้ทุกๆวัน จนวันหนึ่งผมได้เห็นป้ายติดประกาศรับพนักงานทำความสะอาดเงินดี ซึ่งแน่นอนผมลองไปสมัครและคนๆนั้นก็คือ เฮียอู๋ ผมทำความสะอาดบ้านพักตากอากาศของเขามาเป็นเดือน เขาเป็นคนที่ใจดีและเมื่อเขารู้เรื่องชีวิตของผม เขาจึงอยากจะอาสาช่วยผมเรื่องการเรียนและที่พักอาศัย ผมอยู่ที่นั่นหลายเดือนพอสมควรและแล้ววันนี้เขาก็ขอให้ผมมาเป็นพี่เลี้ยงลูกชายทั้งสามของเขาซะอย่างนั้น พวกเขาเสียผู้เป็นแม่ไปเพราะอุบัติเหตุทางน้ำ เฮียอู๋จึงต้องเลี้ยงดูลูกๆด้วยตัวคนเดียวมาตลอด

                   
                     “อืมมมม. เฮียให้อะไรมานะ” เมื่อผมทำธุระต่างๆเสร็จก็เหลือบไปเห็นซองสีน้ำตาลที่เฮียอู๋ทิ้งเอาไว้ให้ ก่อนที่จะแกะมันออกช้าๆ

                    “ประวัติของพวกนั้นงั้นหรอ ? ” สิ่งที่ผมได้นั่นก็คือประวัติของลูกแต่ละคนของเฮีย

     

                   

     

                 

                           “อ๋ออออ ที่แท้แล้วไอ้หูกางนี่โดนเขาทิ้งเลยเป็นงี้สินะ อืมมมม.แล้วจะช่วยมันกลับมายิ้มได้ไงกันเนี่ย ทำหน้าอมขี้อยู่ตลอดเวลาขนาดนั้นแถมยังเกลียดเราอีก เออ ! ชีวิตดี๊ดี แต่ก็เก่งใช่ย่อยนี่ขนาดเราอายุเท่ากัน เห้อออ.ไหนดูคนต่อไปดิ้”

     

     

     

     

                    “จงอิน หรือไค?  มีสองชื่อไปทำไม ?  หน้าตาให้อารมณ์เสี่ยมากเลยอะ เออช่างมันเถอะ ให้กลับมาเรียนมหาลัยสินะ อืมมม.ตอนนี้เราก็เรียนอยู่เหมือนกัน  คนนี้คงไม่ยากหรอกม้างงง... มั้งนะ”

     

     

     

                    “เด็กจังแต่ตัวสู๊งสูง ทำไมเราไม่สูงแบบนั้นบ้างนะ จำได้เมื่อตอนม.ปลายสูง 175... แล้วก็ไม่สูงอีกเลย แล้วนี่จะให้เซฮุนได้เกรดดีๆสินะ ไว้ใจพี่แบคคนนี้ได้เลยนายได้เกรดสวยแน่นอนไอ่น้อง ฮิ้ฮิ้” หลังจากที่แบคฮยอนนอนดูประวัติของลูกๆแต่ละคนของอี้ฝานแล้วนั้น เขาก็เดินออกจากห้องเพื่อไปเตรียมอาหารให้กับคุณๆ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะนอนอ่านนอนเล่นนานไปหน่อย  เพราะตอนนี้ทุกคนนั่งรอที่โต๊ะอาหารกันหมดแล้วนอกจาก เซฮุนและจงอินที่ออกไปข้างนอก

                   

    “เอ่ออ. ขอโทษนะฮะ พอดีแบคดูงานเพลินไปหน่อย” แบคฮยอนก้มหัวขอโทษ แต่ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นก็ได้ยินเสียงคนตัวสูงพูดถากถางกลับมาก่อน

                   

    “มาอยู่บ้านเขาแล้วก็เป็นแค่คนรับใช้ยังจะมาช้าอีกงั้นหรอ ใช้ไม่ได้เลยนะ แล้วนี่ฉันบอกให้นายออกไปจากบ้านนี้ตั้งแต่ตอนเย็นแล้วหนิยังอยู่อีกหรอ นี่อยากจะลองดีจริงๆสินะ” ปาร์คชานยอลนั่งกอดอกมองคนตัวเล็กที่ตอนนี้กำลังก้มหัวอยู่ ก่อนจะรู้สึกขัดใจเมื่อคนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมายิ้มหวานให้เหมือนกับว่าคำพูดของเขาเป็นแค่ธาตุอากาศ

                           

    “ลองดีก็ดีฮะ เพราแบคไม่ชอบลองอะไรที่มันไม่ดี” แบคฮยอนพูดไปด้วยยิ้มไปด้วยเหมือนจงใจจะกวนประสาทคนตัวสูง

                    “บยอนแบคฮยน !!

                            “ฮะ ? ต้องการอะไรเพิ่มงั้นหรอฮะ ? คุณชานยอล ?”

                    “นี่นาย ! มันจะมากไปแล้วนะ”

                    “พอแล้วน่า ทั้งคู่เลย ! นี่อยู่ที่โต๊ะอาหารนะ ถ้าจะกัดกันก็ออกไปข้างนอกเลย” และก็เป็นอี้ฝานที่หยุดสงครามของแบคฮยอนและชานยอลครั้งนี้ นั่นทำให้ทั้งคู่หยุดการกระทำทั้งหมด เพราะทั้งคู่รู้ดีถ้าหากอู๋อี้ฝานโกรธเมื่อไหร่ล่ะก็.... บ้านบึ้ม !

                   

    การทานอาหารในครั้งนี้คงจะผ่านไปได้ด้วยดีกว่านี้ ถ้าชานยอลไม่ส่งสายตาเชือดเฉือนมาทางแบคฮยอนตลอดเวลาในการทานข้าวแบบนี้ ชานยอลทำแบบนั้นตั้งแต่เริ่มทานข้าว จนสิ้นสุดการทานข้าว...      ถามจริง..ไอ้หูกางนี่ต้องการอะไรจากบยอนแบคฮยอนคนนี้ ?

     

    “เอ่ออออ. แบคเก็บของหมดแล้วงั้นแบคของตัวนะฮะเฮีย”

    “ได้สิ ตามสบายเลยนะ” แบคฮยอนโค้งให้เล็กน้อยก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็ว เพราะเขามีรายงานที่ทำค้างไว้แล้วต้องส่งในวันพรุ่งนี้

    “เห้อออ. ทำงานต่อดีกว่า” แบคฮยอนเดินตรงไปที่โน๊ตบุ๊คของตนเองที่วางทิ้งไว้บนโต๊ะทำงาน ก่อนที่จะเปิดงานของเขาเพื่อพิมพ์มันต่อให้เสร็จ

    “ตึ๊ง !” ห้ะ? ทำไมงานเขาเปิดไม่ได้

    “ตึ๊ง ! เห้ยย ไม่ตลกนะเว้ย !

    “ตึ๊งๆๆๆๆๆ !” งื้ออออ คลิกเท่าไหร่ก็ไม่เข้า อะไรกันกู้ก็ไม่ได้ ฮื่อออออ ! ทำไมนะทำไม นี่แบคฮยอนต้องทำใหม่หมดงั้นหรอ ? .... วิญญาณออกจากร่าง... ก็ได้วะ ทำใหม่ก็ได้วะดีว่าพรุ่งนี้ไม่มีงานส่ง นี่ก็ 3 ทุ่มแล้วเอาวะไม่เสร็จไม่นอน ไฟท์ติ๊ง !

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    “เฮียฮะ วันนี้แบคทำอาหารไว้แล้วนะฮะ เดี๋ยวแบคขอตัวไปส่งงานที่คณะก่อนนะฮะ”

    “หื้มมม ได้สิแล้วนายไม่... เฮ้ยย ! ทำไมตาเป็นแบบนี้ล่ะแบคฮยอน” เมื่อเฮียอู๋หันหลังกลับมา เขาก็ต้องตกใจเมื่อคนตรงหน้าสภาพไม่ต่างจากหมีแพนด้า

    “อ๋อ คืองานของแบคเปิดไม่ได้ฮะ เลยต้องพิมพ์ใหม่หมดเลย ตอนนี้ก็สายแล้วแบคต้องรีบไปแล้วฮะ ลาก่อนฮะเฮียอู๋”

    “ประธานครับวันนี้ผมจะเข้าบริษัทก่อนนะวันนี้จะรีบไปดูสัญญา”

    “อ่าว ไปกันหมดเลยหรอ? งั้นชานยอลฝากไปส่งแบคฮยอนทีเขาก็รีบเหมือนกัน ไปด้วยกันจะได้ไม่ต้องเปลืองค่ารถ”

    “เปลืองน้ำมันผมน่ะสิ”

    “มันก็ทางเดียวกับแก ก่อนจะถึงบริษัทด้วยซ้ำ แล้วอีกอย่างแค่ค่าน้ำมันไม่กี่บาทแกห่วงอะไร ?”

    “เอ่อออ. ไม่เป็นไรหรอกฮะ แบคไปเองก็ได้”

    “ไม่ได้ ! ชานยอลไปส่งแบคซะ”

    “เฮ้ออ. ครับครับครับ ครับประธานครับ ผมไปส่งเองครับประธาน” ชานยอลเดินนำขึ้นรถไปก่อนก่อนจะตามด้วยผมที่เดินไปเปิดประตู

    “มานั่งหน้า นายคิดว่าฉันเป็นคนขับรถให้นายหรือไง?”

    “เอ่ออ ขอโทษฮะ” ผมรีบลงจากรถเพื่อที่จะเปลี่ยนไปนั่งหน้าข้างๆคนขับอย่างรวดเร็ว

    “คาดเข็มขัดด้วย”

    “ฮะ” เพราะแบคฮยอนไม่เคยนั่งรถแบบนี้มาก่อนนั่นจึงทำให้แบคฮยอนทำมั่วไปหมด ชานยอลเห็นอย่างนั้นก็รู้สึกรำคาญก่อนจะเข้าไปช่วยใส่

    “โอ่ยยย. แค่นี้ก็ใส่ไม่เป็นรึไงฮะ ? มานี่ ? เอามือออกเกะกะจริง” ชานยอลเอนตัวมาทางแบคฮยอนอย่างห้ามไม่ได้ก่อนจะทำการคาดเข็มขัดให้ และตอนนี้หน้าของพวกเขาห่างก็เพียงน้อยนิดจงแบคฮยอนรู้สึกถึงลมหายใจร้อนๆของอีกฝ่าย

    “อะ เสร็จล้ะ มันยากตรงไหนวะ ? เบื่อจริงมาด้วยแล้วก็เป็นภาระ” ชานยอลบ่นอุบอิบอยู่คนเดียวก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออกไปช้าๆ แบคฮยอนไม่พูดอะไรเพราะยังรู้สึกแปลกๆกับการกระทำเมื่อครู่นี้           งื่อออ ทำไมอากาศร้อนจังนะ นี่แบคเป็นอะไรเนี่ย ?’

     

    นั่งรถเพียงไม่นานก็มาถึงหน้ามหาลัยของแบคฮยอน แบคฮยอนก้าวขาลงช้าๆและไม่ลืมที่จะหันมาโค้งขอบคุณชานยอล แต่ก็ต้องชะงักเพราะคำพูดของเขา

    “นายไม่ต้องมาโค้งให้ฉันหรอก พอดีมันเป็นแค่ทางผ่าน อีกอย่างพ่อฉันบังคับฉันไม่เต็มใจ”

    “อ่อออ หรอฮะ งั้นแบคเก็บคำขอบคุณไว้ดีกว่าเน้อะ เพราะคนอย่างคุณชานยอลไม่น่าให้อยู่แล้ว แบคเข้าใจฮะ” แบคฮยอนพูดยิ้มๆกวนประสาทชานยอลก่อนจะเดินหนีไป แต่ชานยอลคว้าแขนไว้ทันก่อนจะก้มหน้ากระซิบบอกอะไรบางอย่างกับแบคฮยอน ซึ่งนั่นทำให้เขาช็อคไม่น้อย แบคฮยอนนิ่งอยู่กับที่กว่าจะเรียกสติกลับคืนมาชานยอลก็ขับหนีไปแล้ว

    “อะ..อะ...ไอ่...ไอ่หูกางงงงงง !!!!! อ้ากกกกกกก !!!!! นายคิดว่าทำแบบนี้แล้วจะทำให้ฉันยอมแพ้ง่ายๆหรอฮ้ะ !? นาย...นาย...นายมัน...ย๊าาาาาา ! ให้ตายสิ !” แบคฮยอนโวยวายไล่หลังเจ้าของรถแลมโบสีแดงโดยไม่สนใจคนรอบข้างแต่อย่างใด เขาตะโกนมันจะสุดเสียงเรียกสายตาผู้คนแถวนั้นได้เป็นอย่างดี แต่ตอนนี้แบคยฮยอนไม่สนอะไรแล้ว เขารู้แค่ว่า.... เขาเกลียดปาร์คชานยอลที่สุด !

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    “...เมื่อคืนนอนกี่ทุ่มหรอ ? เหนื่อยมั้ยแบคฮยอน ฉันเห็นนายไม่มีเวลาทำงานส่งอาจารย์น่ะนะเลยช่วยทำนิดๆหน่อยๆ งานออกมาดีใช่ไหม ? นายไม่ต้องขอบคุณฉันนะ ยังไงก็... โชคดีให้ตลอดนะ บยอนแบคฮยอน”   

     

    TBC

     

     

     

     

    งื่ออออ. ภาษากะโปก ๆ ยังมือใหม่อยู่มีอะไรผิดยังไงก็บอกเจ้น้ออออ. เม้นท์เป็นกำลังใจให้หน่อยน้าาา. เป็นกำลังใจให้แบคแล้วก็เป็นกำลังใจให้เจ้ด้วยนะตัวเอง. จุ้ปป ๆ  



    CR.SQW
     
     
     
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×