ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My mafia husband name is JK {BTSxYOU}

    ลำดับตอนที่ #5 : EP 04:เรียก 'พี่เจค' สิ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.09K
      296
      14 มี.ค. 64


    Last Ep.

    "นายน้อย!!!"

    "ฮยองไม่ต้องยุ่ง"

    "ฉันอยากรู้ว่า เวลาที่กำลังจะตายมันรู้สึกยังไง พอเธอตกลงไปกระเเทกพื้นเเล้ว ก็ช่วยมาเข้าฝันบอกฉันด้วยว่า เวลาที่ร่างของเธอกำลังร่วงลงไป เธอรู้สึกยังไง"

    "นายน้อยพอเถอะครับ"

    "เห้ย!!"

    จองกุกรีบใช้มืออีกข้างเอื้อมคว้าร่างของยูรินที่กำลังจะตกลงไปจากระเบียงจริงๆเสียเเล้ว ด้วยความว่องไวของเขา จองกุกคว้าเธอเอาไว้ได้ทัน จนทั้งจองกุกเเละยูรินล้มลงไปกับพื้นระเบียงโดยที่ร่างไร้ซึ่งสติของยูรินอยู่ในอ้อมกอดของเขา โฮซอกเเละอีกอนรีบวิ่งเข้าไปดูอย่างกังวล

    "นัมยูริน ย่าห์ นัมยูริน" จองกุกเขย่าร้องเรียกยูรินเสียงดัง

    "ยูริน ยูริน ยัยคุณหนู!!!"

    "ตัวร้อน!" จองกุกเอ่ยขึ้นเมื่อเขาเพิ่งจะสัมผัสได้ว่าร่างกายของยูรินกำลังร้อนจัด เเละร่างกายของเธอก็เปียกปอนไปทั้งตัว ชุดเดรสผ้าชีฟองตัวบางพอเปียกฝน มันก็เเนบเนื้อไปหมด เเถมยังมองเห็นทะลุปรุโปร่งไปถึงไหนต่อไหน

    "ฮยอง!!! กอน!! หันหน้าไป"

    "หะ???" ทั้งสองคนถามออกไปอย่างไม่เข้าใจ

    "เดี๋ยวนี้!!" สิ้นคำสั่งนั้นทั้งสองคนก็ถอยออกไปจากตรงนั้นเเละหันหลังตามที่คนเป็นนายสั่ง

    "กอนโทรตามหมอมาด่วน"

    "ครับ" อิกอนรับคำสั่ง

    "หมอผู้หญิงเท่านั้น!!!"

     

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


     

    “เฮ้อ....” เสียงทอดถอนใจยาวๆ ดังออกมาจากผู้ชายวัยกลางคน ผู้ที่ยังคงรั้งต่ำแหน่งผู้นำสูงสุดของ บลูอีเกิ้ล เเม้จะล่วงเลยวันเกิดครบห้ารอบมาเเล้วก็ตาม เพียงได้ฟังวีรกรรมของลูกชายตัวดีจากเลขาลี ก็ถึงกับเหนื่อยใจอีกครั้ง

    “นอกจากไปขโมยตัวพ่อของหนูยูรินมาจากโรงพยาบาลแล้ว ไอ้ลูกชายตัวดีของฉันคงไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านี้แล้วใช่มั้ย” เพราะแค่การไปเอาตัวผู้ป่วยวิกฤติออกมาจากโรงพยาบาลก็ถือว่าเป็นสิ่งที่อุกอาจซึ่งอาจนำมาซึ่งการสูญเสียได้ถ้าไม่รอบคอบพอ จอนจินโมหวังว่าจอนจองกุกคงจะไม่ทำอะไรมากไปกว่านี้อีกแล้ว

    “คือ...”

    “คืออะไร” พอเห็นท่าทีลำบากใจจากเลขาลี ก็ทำให้ผู้เป็นนายถามเขาซ้ำอีกที

    “คุณเจค พยายามจะโยนคุณยูรินลงจากตึกครับนาย”

    “อะไรนะ!!!

    “แต่คุณเจค แค่ขู่ครับ โฮซอกบอกมาอย่างนั้น” ถึงจะแค่เป็นการขู่แต่มันก็ทำให้จอนจินโมถึงกับหวั่นใจว่า ลูกชายของเขาจะทำอะไรที่รุนแรงไปมากกว่านี้

    “ฉันคิดผิดรึเปล่า ที่เลือกยูริน”

    “ไม่ผิดหรอกครับ คุณหนูยูรินเหมาะสมกับคุณเจคทุกอย่าง”

    คนเป็นพ่อของจอนจินโม รู้ดีว่าตัวเองเลี้ยงลูกมาไม่ดีพอ เขาสอนให้จองกุกแข็งแกร่ง เด็ดขาด มีความเป็นผู้นำสูง กล้าได้กล้าเสีย แต่เขาหลงลืมไปว่าจองกุก ไม่มีแม่ที่คอยสอนความอ่อนโยน และความใจเย็นให้กับเขา จองกุกไม่ลังเลเลยที่จะปลิดชีพคนทรยศ หรือคู่อริ เขาพร้อมจะทำลายทุกคนที่เป็นปรปักษ์กับเขาและตระกูลจอน 

    จองกุกสามารถเป็นผู้นำที่ดีได้ พ่ออย่างเขาเชื่ออย่างนั้น จองกุกมีสิ่งที่เรียกว่า พระเดช อย่างเด็มเปี่ยม แต่สิ่งที่เขายังขาด ก็คือ พระคุณ หากขาดสิ่งนี้ จองกุกเองจะไม่สามารถซื้อใจใครได้ บรรดาลูกน้องจะทำตามเขาเพียงเพราะหน้าที่เท่านั้น หากแต่เพียงเท่านั้นมันยังคงไม่เพียงพอ สิ่งที่ผู้นำควรมี คือผู้ตามที่ทำเพื่อนายด้วยหัวใจที่รักและศรัทธาในตัวผู้นำ ลูกชายของเขาถึงจะอยู่บนยอดพีระมิดได้อย่างมั่นคงและแข็งแกร่ง

    พอเขาได้มาเจอกับเด็กสาวที่จิตใจดี และอ่อนโยนอย่างนัมยูริน มันอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าจองกุกมีผู้หญิงดีๆอย่างเธอมาเป็นคู่ชีวิต มันน่าจะทำให้จองกุกอ่อนโยนขึ้นมาได้บ้าง เขาสู้วางแผนทุกอย่างเพื่อให้จองกุกได้เจอกับยูรินในงานวันเกิดครบหกสิบปีที่ผ่านมา มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลย ที่อิมนายอนไปชวนเพื่อนสนิทมาทำงานในวันนั้น และทั้งงาน พนักงานที่ถูกจ้างมาเป็นผู้ชายทั้งหมดยกเว้น นัมยูรินเพียงคนเดียว

    เขาดีใจไม่น้อยที่จู่ๆลูกชายตัวดีต้องการเอาชนะเขา ด้วยการไปคว้ายูรินมา แล้วบอกว่าจะแต่งงานกับเธอ แต่ความจริงแล้ว จองกุกไม่อาจชนะผู้เป็นพ่อได้เลย เพราะจองกุกเดินเข้าไปติดกับดักที่พ่อวางแผนให้เขาได้เจอกับยูรินเข้าอย่างจัง แถมยังได้ผลเกินคาดอีกด้วย

    จอนจินโมคิดเอาไว้แล้วว่ายูรินต้องปฏิเสธการแต่งงานครั้งนี้เป็นแน่ เขาเฝ้าจับตามองว่าจองกุกจะใช้วิธีไหนเพื่อที่จะขอให้ยูรินมาแต่งงานกับตัวเอง เขาไม่คิดว่าจองกุกจะใช้วิธีการที่ป่าเถื่อนเเบบนี้ไปขอผู้หญิงเเต่งงาน ทั้งขโมยพ่อที่กำลังป่วย บีบบังคับ ขู่เข็น เเถมยังไปรังเเกเขาจนล้มป่วย ป่านนี้ยูรินคงจะขวัญกระเจิงไปหมดเเล้ว

    "จะมีใครใช้วิธีขอผู้หญิงเเต่งงานเเบบลูกชายฉันอีกมั้ย ในโลกใบนี้"

    “ยูรินน่ะเหมาะกับเจคมากก็จริง แต่ไอ้ลูกชายตัวแสบของฉัน มันจะเหมาะกับยูรินรึเปล่า ฉันก็ลืมคิดถึงข้อนี้ไป”

    “นายเคยบอกว่าคุณเจคเหมือนนายมาก เหมือนจนน่ากลัว” ลีจองฮยอกพูดขึ้น

    “ก็ใช่ แล้วมันเกี่ยวกับเรื่องของยูรินยังไงจองฮยอกอ่า”

    “ก็ถ้าคุณหนูยูรินทำให้คุณเจครักได้ เธอก็จะกลายเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก เหมือนกับนายหญิงยังไงล่ะครับ” จอนจินโมหลับตาลงแล้วนึกถึงความรักที่เขาและภรรยาผู้ล่วงลับมีให้กัน ก็ได้แต่หวังว่า จองกุกจะเหมือนกับเขาทุกเรื่องจริงๆ

    “แล้วตอนนี้ยูรินอยู่ที่ไหน” ลีจองฮยอก ไม่ตอบอะไร แต่ส่งรอยยิ้มให้กับเจ้านายแทน

    “สั่งแม่บ้าน กับพวกในครัว ไม่ต้องรับสายเจค มีอะไรเดี๋ยวฉันจัดการเอง”

    “ครับนายใหญ่” เลขาลีรับคำสั่งด้วยรอยยิ้มที่ไม่ต่างจากรอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าของผู้เป็นนาย

    “อ้อ แล้วก็โทรบอกโฮซอกด้วยนะ”

    “ครับ”

     

     


    ภายในห้องที่ถูกตกแต่งด้วยโทนสีขาวสว่างไปทั้งห้อง ขัดกับบุคลิกของเจ้าของห้องอย่างสิ้นเชิง ห้องที่ไม่เคยมีใครได้เข้ามา

    นอกจากเจ้าของห้องและคนสนิทที่เขาเรียกใช้งานเป็นประจำอย่างอีกอน หรือจองโฮซอกเท่านั้น ในเวลานี้ มีแพทย์หญิงมือดีเพิ่มเข้ามา และเธอกำลังถอดสายน้ำเหลือให้กับคนไข้ที่ตอนนี้ยังคงไม่ได้สติอยู่

    “คนไข้เป็นไข้หวัดค่ะ แล้วมีอาการอ่อนเพลียสะสมร่วมด้วย ทำให้เธออาการทรุดหนัก ยังไงให้คนไข้พักผ่อนมากๆ และทานยาที่จัดให้ตรงเวลา อาการก็จะดีขึ้นค่ะ” พูดจบแพทย์สาวก็เดินออกจากห้องไปเพราะหมดหน้าที่ของเธอแล้ว เหลือแค่จองโฮซอกกับนายน้องของเขาเพียงเท่านั้น

    “ผมว่านายน้อยทำเกินไปนะครับ” คนที่ได้ยินไม่ตอบอะไรแต่ทำเป็นเสมองไปทางอื่นแทน

    “ชีวิตของเธอกำลังลำบาก ผมว่านายน้อยอย่าเพิ่มความยากลำบากให้เธอไปมากกว่านี้เลย”

    “รู้แล้วน่าฮยอง”

    “ผมฝากดูยัยนี่ด้วยก็แล้วกัน”

    “วันนี้ผมไม่ว่างครับ” โฮซอกตอบเสียงเรียบ

    “ไม่ว่างได้ยังไง”

    “นายใหญ่สั่งให้ผมไปดูคาสิโนที่อีแทวอน แทนคนของนายใหญ่ที่ป่วยครับ”

    “แล้วทำไมพ่อถึงไม่ให้คนอื่นไปล่ะ” โฮซอกคือคนของเขา จองกุกไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อถึงทำแบบนี้

    “นายใหญ่ไม่ไว้ใจคนอื่นครับ”

    “แต่...”

    “ขอตัวนะครับ” โฮซอกไม่อยู่รอฟังสิ่งที่นายน้อยที่อายุห่างกันเพียงหกปีของเขาพูดต่อ เขาเดินออกจากห้องไปเฉยๆ ปล่อยให้จอนจองกุกยืนทำตัวไม่ถูก เพราะถ้าโฮซอกไม่ดูแลคนที่กำลังตอนป่วย มันก็ต้องเป็นเขาที่ทำหน้าที่นี้ ทำเอาจองกุกถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะทิ้งตัวลงไปที่โซฟาสีเทาตัวยาว


    ครืด....

    เมื่อโฮซอกเดินออกไปจากห้องสักพัก แรงสั่นจากมือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ที่จองกุกสวมอยู่ทำให้เขาละสายตาจากคนบนเตียง แล้วหยิบมันขึ้นมาดู หน้าจอสว่างจ้าแจ้งเตือนว่ามีข้อความส่งมายังไลน์ของเขา ข้อความจากคนที่ประวัติการสนทนาของทั้งคู่เลื่อนหายไปไกลแล้ว

    แทฮยอง

    คือชื่อของเจ้าของข้อความที่เพิ่งส่งหาเขาล่าสุด จองกุกเปิดอ่านตามปกติ ก็พบกับข้อความยาวเหยียดที่เขาเผลออ่านไปโดยไม่รู้ตัว

    วิธีดูแลคนป่วย

    ดูสภาพทั่วๆไป ทุกครั้งที่เข้าไปดูแลต้องสังเกตสิ่งต่างๆข้างล่าง และหากพบว่าผิดปกติก็แจ้งแพทย์

    ดูว่ายังมีสติพูดคุยรู้เรื่องหรือไม่ หากสับสน หรือซึม หรือชักต้องรีบพาไปโรงพยาบาล

    การหายใจว่าเหนื่อยหรือจมูกบานหรือไม่ หากมีอาการเหนื่อยหรือหายใจไม่พอ แสดงว่าอาจจะเกิดปอดบวม

    ดูสีผิวว่ายังแดงหรือไม่ หากริมฝีมากมีสีม่วงๆร่วมกับการที่หายใจลำบากหรือหายใจเร็ว จะต้องรีบพาไปโรงพยาบาล

    เดินไปมาหรือขึ้นบันไดโดยไม่หอบ หากเดินเล็กน้อยก็เหนื่อย หรือเดินไม่ค่อยไหว ต้องรีบไปโรงพยาบาล

    รับประทานอาหารได้มากน้อยแค่ไหน หากรับประทานอาหารแข็งไม่ได้อาจจะรับเป็นโจ๊กหรือน้ำซุป

    หากพบว่าไข้เกิน 38.5 ก็ให้นำผ้าชุบน้ำธรรมดามาเช็ดบริเวณซอกคอ รักแร้ ขาหนีบ และหลัง และให้รับประทานยาลดไข้ตามแพทย์สั่ง หากไข้เกิน 40 แม้ว่าจะได้ยาลดไข้ไปแล้วก็ควรไปพบแพทย์ ไข้จะเริ่มลดประมาณวันที่สามของโรค”


    จองกุกไม่แปลกใจเลยที่อดีตเพื่อนสนิทของเขาส่งข้อความนี้มา ก็คงเพราะโฮซอกเอาเรื่องของเขาไปคุยกับซอกจิน ซอกจินที่สนิทกับพี่ชายแท้ๆของแทฮยองอยู่แล้ว พอซอกจินเล่าให้ฟัง พี่ชายก็คงเอาไปบอกน้องชายนั่นแหละ หมอนั่นถึงได้อวดภูมิความเป็นนักศึกษาแพทย์กับเขาขนาดนี้ น่าแปลกที่แทฮยองที่เขารู้จัก ไม่ใช่คนที่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น แต่พอเป็นเรื่องของว่าที่เจ้าสาวของเขา แทฮยองก็แหกกฎความเป็นตัวเองมาสองครั้งแล้วเท่าที่เขารู้


    “สาระแน”


    “อยู่คนเดียวก็คงไม่ตายหรอก” เขาหันไปพูดกับคนที่ยังหลับอยู่ มันไม่ใช่หน้าที่ที่เขาจะต้องมาดูแลเธอ คนอย่างจอนจองกุก เกิดมาไม่เคยต้องดูแลใครหน้าไหนทั้งนั้น คิดได้อย่างนั้นเขาถึงหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง แล้วกดโทรหาเบอร์ที่เขาโทรหาบ่อยที่สุด

    “กอน”

    (ครับคุณเจค)

    “ไปหาซื้อปรอทวัดไข้ แล้วเตรียมผ้าขนหนูกับกะละมังมาให้ที”

    (คุณเจคจะเอาไปทำอะไรเหรอครับ)

    “ตักน้ำสาดหน้าคนถาม-_-

    (ขอโทษครับ ผมจะรีบจัดการให้ครับ)


     

    “นอกจากจะดื้อ แล้วยังทำตัวเป็นภาระให้ฉันอีก” จองกุกยังคงหันไปบ่นกับคนป่วยอีกครั้ง


    ไม่นานอีกอนก็จัดเตรียมของที่นายสั่งมาให้จนครบ จอนจองกุกยืนมองเพื่อเช็คว่า ของที่เขาสั่งครบหรือไม่

    “ทำไมปรอทมันมีหลายอันนักวะ”

    “เอ่อ เภสัชถามว่า ต้องการใช้แบบไหน คุณเจคไม่ได้บอกเอาไว้ผมก็เลยซื้อมาทุกแบบเลยครับ แต่คุณเภสัชบอกวิธีใช้มาครับผมจำได้”

    “ว่ามา”

    “แบบนี้ คือแบบดิจิตัลครับ คุณเจคกดปุ่มตรงนี้มันจะมีเสียงดังตี๊ด... แล้วก็เอาไปสอดตรงที่ต้องการวัดได้เลยครับ” จองกุกฟังอย่างตั้งใจ จนอีกอนอธิบายแบบแรกจบ จองกุกก็เลื่อนมองไปยังชิ้นต่อไป

    “อันนี้ก็เป็นแบบดิจิตัลเหมือนกันครับ ใช้ยิงที่หน้าผากก็จะวัดได้อย่างรวดเร็วเหมือนยิงปืนเลยล่ะครับ โป้งเดียว ตาย”

    -_-

    “เอ่อ... อันต่อไปไปเป็นธรรมดาครับ แต่ผลค่อนข้างแม่นยำ วิธีใช้คือเอาสอด รักแร้ อมไว้ใต้ลิ้น ถ้าคนป่วยไม่ได้สติ คือเอาเสียบที่รูทวารจะดีที่สุดครับ”

    “เอาเสียบปากมึงก่อนเลย”

    “ขอโทษครับ”

    “ไปได้แล้ว เดี๋ยวกูจัดการเอง”

    จองกุกจ้องมองกองที่วัดไข้บนโต๊ะนับสิบชิ้นอย่างพิจารณา เอาหยิบชิ้นที่อีกอนบอกว่าเป็นแบบธรรมดาทิ้งถังขยะทันที ก่อนจะหันกลับมาเลือกแบบที่อีกอนบอกว่าใช้ยิงที่หน้าผากก็จะรู้ผลได้ทันที เรื่องยิงเขาถนัดที่สุดอยู่แล้ว

    '39.2' 

    "เเปลว่าไข้ยังสูง ยัยหมอคนนั้นยิงทิ้งซะดีมั้ยวะ" ไหนว่าเก่งที่สุดเเล้ว ทำไมกับเเค่การรักษาคนป่วยเป็นไข้หวัดเเค่นี้ก็ทำไมได้

    'หากพบว่าไข้เกิน 38.5 ก็ให้นำผ้าชุบน้ำธรรมดามาเช็ดบริเวณซอกคอ รักแร้ ขาหนีบ และหลัง และให้รับประทานยาลดไข้ตามแพทย์สั่ง'

    "ต้องเช็ดตัวสินะ"

    จอนจองกุกคิดในใจ ก่อนเดินไปหยิบกะละมังกับผ้าขนหนูผืนเล็กที่สั่งให้อีกอนไปเตรียมมาให้  เขาคว้าทั้งสองอย่างเเล้วเดินไปที่ห้องน้ำ เลือกเปิดน้ำที่อุณหภูมิห้องเพราะคิดว่าน่าจะใช้ได้ จากนั้นก็เดินกลับมาที่เตียง จองกุกวางข้าวของในมือ ตามด้วยค่อยๆเลิกผ้าห่มที่ยูรินกำลังห่มอยู่ออก เเล้วพบว่าหมอเเละพยาบาลที่ช่วยกันเปลี่ยนชุดให้ยูรินเมื่อกี้เปลี่ยนเป็นชุดผ้าสำลีเเขนยาวขายาวให้กับเธอ เเทนชุดผ้าชีฟองตัวเดิมที่จองกุกมองว่ายังไงมันก็คือเศษผ้าชัดๆ ไม่ควรนำมาตัดเป็นเสื้อผ้าสักนิด

    "เเล้วจะเช็ดตัวยังไงวะ" คนตัวโตเกาหัวด้วยความงวยงง ก็เพราะชุดที่หญิงสาวสวมอยู่มันปิดไปทั้งตัว เเล้วทีนี้เขาจะเช็ดตัวให้เธอได้ยังไง จริงอยู่จองกุกเป็นคนฉลาดมาก เเต่กับเรื่องละเอียดอ่อนเเบบนี้ เขาไม่เคยคิดที่จะทำมันด้วยซ้ำ

    "เช็ดๆไปเถอะวะ!" เขานั่งลงที่เตียงข้างตัวคนที่กำลังหลับลึกเพราะพิษไข้ มือหนาบิดน้ำออกจากผ้าขนหนูเท่าที่เขาคิดว่าน่าจะเพียงพอ เเล้วเช็ดลงไปที่เเขนของยูรินที่ยังมีเสื้อนอนเเขนยาวปกปิดเอาไว้อยู่ เขาทำการเช็ดตัวให้คนไข้ไปเรื่อยๆ จากเเขนซ้าย ไปเเขนขวา จากเเขนขวาไปยังหน้าท้อง ลากยาวไปถึงเรียวขา เเต่จะมีใครสักคนบนโลกใบนี้ ที่จะเช็ดตัวให้ใครสักคนโดยที่คนป่วยมีเสื้อผ้าปกปิดร่างกายเอาไว้ทุกส่วน เเละคนเช็ดตัวก็เช็ดไปทั้งอย่างนั้น???


    "ซอกคอ รักแร้ หลัง เช็ดเรียบเเล้ว เหลืออะไรอีกวะ"

    "ขาหนีบ"

    "เเล้วขาหนีบมันคือตรงไหนวะ?" จองกุกไม่ปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในความสงสัยได้นาน เขาเปิดมือถือขึ้นมาเเล้วเสิร์ชหาสิ่งที่เขาอยากรู้ 

    "O.O" ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นเมื่อพบคำตอบที่เขาตามหา

    "เว้นไว้สักที่ก็คงไม่ตายมั้ง" จองกุกละสายตาจากหน้าจอมือถือ เเล้วกวาดสายตามองไปยังร่างของยูรินอีกครั้ง เเล้วพบว่า


    "เวรเเล้ว!!!" กว่าเขาจะรู้ตัว ก็ทำเสื้อผ้าที่คนป่วยสวมใส่เปียกปอนไปทั่วบริเวณเเล้ว 

    จองกุกดีดตัวขึ้นจากเตียงด้วยความตกใจ ถึงเขาจะไม่รู้จักวิธีการเช็ดตัว เเต่เขาก็พอรู้ว่า ชุดที่คนป่วยใส่ จะเปียกเเบบนี้ไม่ได้ จอนจองกุกถอนหายใจเฮือกใหญ่เพราะรู้ว่าสิ่งที่เขาจะต้องทำต่อจากนี้คืออะไร ครั้นจะเรียกเเม่บ้าน พวกนั้นจะต้องเอาเขาไปพูดกันว่า ว่าที่ผู้นำของบลูอีเกิ้ลเช็ดตัวให้คนป่วยยังไม่เป็นเลย นับประสาอะไรกับการบริหารงานทั้งหมด คนอย่างจอนจองกุกไม่มีทางยอมเป็นขี้ปากคนอื่นหรอก

    "ยัยตัวภาระ" 

    จองกุกนั่งที่เตียงอีกครั้ง เขาเอาผ้าห่มคลุมร่างของคนที่กำลังหลับลึกเพราะพิษไข้เธอไว้ก่อน ตามด้วยการดึงกางเกงนอนที่เปียกเเทบทั้งผืนออกมาช้าๆ เขามั่นใจว่าวิธีการที่ตัวเองกำลังลงมือทำอยู่ มันคือหนทางที่จะเซฟฝ่ายหญิงมากที่สุดเเล้ว เห็นเขาบ้าระห่ำขนาดนี้ เเต่เขาก็ไม่ใช่ผู้ชายหื่นกามที่ชอบฉวยโอกาสกับผู้หญิงหรอกนะ

    จบส่วนล่างเเล้ว เขาก็เลิกผ้าห่มที่คลุมร่างกายส่วบบนออกก่อนจะเอื้อมมือไปปลดกระดุมเสื้อหญิงสาวออกที่ละเม็ด ทีละเม็ดจนเม็ดสุดท้าย 

    "เเม่งเอ้ย ให้ไปยิงพวกเสือขาวทั้งเเก็งค์ยังง่ายกว่า" ก่อนที่เขาจะทำการเเหวกเสื้อที่เปียกออก เขาเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ถ้าเขาถอดมันออก เเล้วจะเอาอะไรสวมให้ยูรินต่อ นึกได้อย่างนั้นเขาจึงรีบเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า เเล้วคว้าเสื้อตัวที่ใกล้มือที่สุดออกมาจากไม้เเขวน


    จอนจองกุกกลับมายังจุดเดิมคือภาระกิจที่จะต้องเปลี่ยนเสื้อให้คนป่วยที่เขาเป็นคนทำให้เธอเปียกอีกครั้ง 

    "ก็เเค่ผู้หญิงถอดเสื้อ เห็นมานักต่อนักเเล้ว" 

    เขาพูดกับตัวเอง เเล้วตามด้วยการใช้มือทั้งสองข้างเเหวกเสื้อที่ยูรินสวมอยู่ออก ถึงมือจะหน้าที่อย่างดี เเต่สายตาของเขาก็เสมองไปทางอื่นโดยอัติโนมัติ คนตัวโตออกเเรงดึงร่างบางให้ลุกขึ้นจากเตียงเพื่อที่เขาจะได้ถอดเสื้อตัวเปียกออกไปให้พ้นทาง จองกุกดึงร่างที่ทั้งตัวกำลังเเผ่ไอร้อนออกมาจนเขารู้สึกได้ เเละมันยิ่งชัดเจนเมื่อร่างกายที่ไร้อาภรณ์ตัวนอกปกปิดของนัมยูรินเอนลงมาพิงเเผงอกกว้างของจอนจองกุกเอาไว้ตามเเรงโน้มถ่วงของโลก ดวงตาของชายหนุ่มเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง

    มืออีกข้างก็ควานหาเสื้อตัวที่ตัวเองเพิ่งจะไปหยิบมาจากตู้อย่างรีบร้อน เเละเขาเเทบอยากจะระเบิดหัวตัวเองให้มันรู้เเล้วรู้รอดไปซะ เมื่อเขาเพิ่งรู้ว่าเสื้อที่เขาหยิบออกมาจากตู้ มันคือ 'เสื้อคอเต่า'

    "เเล้วจะใส่ยังไงวะ" 

    จองกุกเอาร่างกายท่อนบนของเขาให้เป็นเหมือนกำเเพงเเกร่งที่ให้ร่างไร้เรี่ยวเเรงของยูรินพิงได้อย่างเต็มที่ เพื่อที่เขาจะได้ใช้มือทั้งสองข้างจัดการกับเสื้อเจ้าปัญหาที่ถึงยังไงเขาก็จะต้องใส่มันให้เธอให้ได้ ยิ่งร่างบางเอนตัวเข้าหาเเผงอกของเขามากขึ้นเท่าไหร่ จองกุกก็ยิ่งรับรู้ถึงบางอย่างได้มากขึ้นเท่านั้น บางอย่างที่ทำให้หัวใจของเขาเต้นรุนเเรง เเละรู้สึกได้ว่าเลือดลมภายในกายของเขามันสูบฉีดเหมือนกับตอนที่เขากำลังไล่ยิงคู่อริที่มาก่อกวนกิจการของพวกเขายังไงยังงั้น


    จองกุกกลั้นใจราวกับคนบ้า เขารู้สึกหงุดหงิดเอามากๆที่เขาสามารถควบคุมใครก็ได้ตามที่เขาต้องการ เเต่ตอนนี้เขากำลังควบคุมบางสิ่งบางอย่างของตัวเองเอาไว้ไม่ได้ มือหนาทั้งสองข้างสาละวนสวมเสื้อในมือให้สวมทับร่างกายนุ่มนิ่มนี้ให้เร็วที่สุด เเต่เพราะเสื้อคอเต่าเจ้าปัญหาที่คอเสื้อทั้งเล็กเเละยาว มันทำให้ตอนนี้เขายังไม่สามารถสวมมันผ่านศีรษะของยูรินได้เลย เป็นเหตุให้ชายหนุ่มต้องออกเเรงที่เเขนมากขึ้นจนเผลอลืมไปว่า ถ้าเขาทรงตัวได้ไม่ดีพอ มันอาจทำให้ยูริน ล้มลงไปได้ เเละสิ่งที่เขาลืมคิดไปมันก็เกิดขึ้น 

    ร่างบางที่ไร้ซึ่งสติของยูรินเอนลงไปด้านหลังทำให้จองกุกต้องรีบคว้าเอาไว้ ถึงสิ่งที่รองรับมันจะเป็นหมอนก็ตาม เเต่ลองได้ทิ้งน้ำหนักตัวลงไปอย่างนั้นมีหวังคอเคล็ดเเน่ๆ ด้วยอย่างมันรวดเร็วเเละรุมเร้าไปเสียหมด มันทำให้ไม่ถึงสองวินาทีต่อมา คนตัวโตที่จัดระเบียบร่างกายของตัวเองได้ไม่ดีนัก ก็เอนล้มลงตามยูรินไป โชคดีที่เขามีสติดันตัวเองเอาไว้ได้ทัน จองกุกใช้สองเเขนเเกร่งพยุงตัวเองเอาไว้ให้ให้ร่างใหญ่โตของเขาลงไปทับร่างเล็กๆของคนป่วยไปซะก่อน จริงอยู่ที่จองกุกไม่ได้ลงไปทับร่างบางจนเธอเจ็บตัวอย่างที่เขาคิด

    หากเเต่ว่าปลายจมูกโด่งราวกับสันเขาสัมผัสกับเเก้มนวลที่อุ่นวาบจนเขารู้สึกได้ กลิ่นหอมอ่อนๆที่ยังคงเหลือทิ้งไว้บนร่างกายมันทำให้จองกุกรู้สึกเเปลกใจไม่น้อย 

    "เฮ้อ..." จองกุกดึงสติของตัวเองเอาไว้ เเล้วใช้มือทั้งสองข้างดึงชายเสื้อลงจนมันปิดร่างกายของยูรินได้ทั้งหมด ตามความตั้งใจเเรกของเขา

    มือใหญ่ปาดเหงื่อที่ไหลซึมมาบนหน้าผากของตัวเองออก พลางบ่นในใจว่า ต้องมีใครบังอาจมาปรับอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศภายในห้องนอนของเขาเป็นเเน่ 

    "บอกเเล้วว่ายี่สิบสององศา ใครมันบังอาจวะ!!" 

    '22'

    นั่นคือตัวเองที่ปรากฏอยู่ที่หน้าจอเเสดงผลของรีโมทคอนโทรลเครื่องปรับอากาศภายในห้องนอนของจอนจองกุก

    "เเอร์เสียชัวร์" จองกุกนึกบางอย่างขึ้นได้ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อต่อสายตรงหาหมอคนที่รักษายูรินอีกครั้ง

    (สวัสดีค่ะคุณเจค)

    "ยัยนี่ตัวร้อนไม่หายสักที เธอรักษายังไง"

    (เอ่อ...เพราะคนไข้มีไข้สูงค่ะ มันเลยต้องใช้เวลานะคะคุณเจค อาจจะต้องให้เธอทานยาลดไข้เพิ่มอีก เเต่ต้องทานหลังอาหารนะคะ)

    (เเล้วคนไข้มีอาการอะไรอย่างอื่นเพิ่มขึ้นมามั้ยคะ)

    "อาการอย่างอื่นเหรอ" จองกุกพยายามนึกจากที่เขาสังเกตได้

    "ปอดบวม"

    (อะไรนะคะ)

    "ก็บอกว่าปอดบวมไง"

    (เอ่อ ไม่ทราบว่าคุณเจครู้ได้ยังไงคะ)

    "ก็มันบวม.. โว้ย ฉันรู้ก็เเล้วกัน พรุ่งนี้เตรียมยามาด้วยเข้าใจมั้ย!!"

    (ขะ เข้าใจค่ะ)


    "เป็นหมอภาษาอะไรถามเซ้าซี้ชิป" เขาบ่นขึ้นหลังจากวางสายไปเเล้ว

     "กินยาลดไข้ หลังอาหาร เเปลว่าต้องกินข้าวก่อนน่ะสิ เหอะ เรื่องเยอะ"



    (ตู๊ด...ตู๊ด...ตู๊ด...ตู๊ด...)

    (ตู๊ด...ตู๊ด...ตู๊ด...ตู๊ด...)

    (ตู๊ด...ตู๊ด...ตู๊ด...ตู๊ด...)

     

     "อะไรวะ เเม่ง!!" จองกุกสบถออกมาด้วยความโมโห เมื่อไม่ว่าเขาจะโทรหาเเม่บ้าน ห้องครัว หรือเเม้เเต่เบอร์ของอีกอน มันก็เหมือนจะมีสัญญาณที่บอกว่าสายไม่ว่างทุกเบอร์

    "นี่มันวันวินาศสันตะโรอะไรของกูวะเนี่ย" 

    คนตัวสูงย่ำเท้าปึงปังไปยังโซนครัวของห้องชุดราคาหลักพันล้านของตัวเอง โซนครัวคงจะเป็นโซนที่ใหม่เอี่ยมที่สุดในห้องนี้ก็ว่าได้ เพราะจองกุกเองเเทบไม่มีเวลาทำอะไรกินด้วยตัวเองเลยสักครั้ง ถึงเเม้ครัวนี้จะมีอุปกรณ์ที่ครบครันก็ตาม

    "มายังไงวะ-__-" 

    จองกุกกวาดสายตามองตู้เย็นที่เขามั่นใจว่าไม่เคยให้ใครเอาอะไรมาเเช่ไว้นอกจากเบียร์กับเเอปเปิ้ล เเต่ตอนนี้อย่าว่าเเต่เบียร์กับเเอปเปิ้ลเลย ภายในตู้เย็นสองประตูของเขา มีวัตถุดิบที่สามรถทำกินได้เป็นอาทิตย์อัดเเน่นอยู่ในนั้น ไหนจะหมอหุงข้าวที่ดูก็รู้ว่าในนั้นมีข้าวที่เพิ่งหุงสุกได้ไม่นานอยู่ข้างใน

    "โคตรจะจัดฉาก"

    "พ่อนะพ่อ"

    เขามั่นใจว่าคนที่จะสั่งให้คนเอาของพวกนี้เขามาในห้องส่วนตัวของเขาได้มีเเค่เพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือพ่อของเขานั่นเอง เเต่จองกุกไม่มีเวลาที่จะโวยวายอะไร เพราะไม่อยากให้ใครมาป่วยตายในห้องนอนของเขา 


     "เเค่ข้าวต้มมันจะยากอะไรวะ" คิดได้อย่างนั้นจองกุกก็ทำการเอาหม้อเติมน้ำเเล้วตั้งไฟ รอจนเดือดเขาก็ตักข้าวในหม้อหุงข้าวใส่ลงไป

    "ใส่อะไรอีก"

    "เกลือ?"

    "หรือน้ำตาล?"

    ชายหนุ่มกำลังจินตนาการถึงรสชาติของข้าวต้มอยู่ว่ามันเป็นยังไง เพื่อที่จะทำให้เขานึกออกว่าต้องใส่อะไรลงไปในหม้อที่กำลังเดือดได้ที่อยู่ในขณะนี้

    จอนจองกุกว่าที่ผู้นำสูงสุดคนต่อไปเเห่ง 'บลูอีเกิ้ล' ที่เมื่อได้ยินชื่อของเขา ใครๆก็คงนึกถึงภาพความเด็ดขาด โหดเหี้ยม ที่พร้อมจะปลิดชีพทุกคนที่เป็นศัตรูกับเขา ใครจะไปคิดล่ะว่า วันหนึ่งเขาจะต้องมาเสียเวลาไปกับการทำสิ่งที่เรียกว่า 'ข้าวต้ม' ที่ตอนนี้ เเทบทุกอย่างที่มีอยู่ในตู้เย็น มันได้ย้ายลงไปในหม้อจนเเทบจะล้นหม้ออกมาอยู่เเล้ว เจ้าตัวเหลือบไปเห็น กล่องอีกใบที่เขายังไม่ได้เปิดออกมา พอเขาเปิดมันก็เห็นว่ามันคือกุ้งสดนั้นเอง จองกุกเห็นอย่างนั้นเขาก็จะจัดการใส่มันลงไปในหม้ออีก เเต่เขานึกบางอย่างขึ้นมาได้ เขาจึงหยุดความคิดที่จะใส่กุ้งลงไปเอาไว้

    "เดี๋ยวก็ตายกันพอดี"

    เขาพอจำได้ว่ายูรินเเพ้กุ้งจากที่เขาเคยอ่านประวัติของเธอที่ซอกจินให้เขาอ่านวันก่อน

    เเกร๊ก...

    เสียงปิดเเก็สดังขึ้น เป็นอันบอกได้ว่า สงครามระหว่าง 'จอนจองกุก' กับ 'ห้องครัว' ได้จบลงเเล้ว โดยที่บนเคาท์เตอร์ครัวลายหินอ่อนสีเทายังคงทิ้งร่องรอยเเห้งสงครามเอาไว้อยู่เต็มไปหมด

    "ก็ไม่เห็นจะยาก" จองกุกวางชามข้าวต้มลงบนโต๊ะข้างหัวเตียง



    "!!!" เเต่เเล้วสิ่งที่ทำให้จองกุกตกใจได้ ทั้งๆที่เขาเป็นที่ตกใจยากมากๆ ก็คือนัมยูริน ตอนนี้ตากลมๆของเธอกำลังจ้องมาที่เขา

    "เธอตื่น หรือ ตายเเล้วตาเหลือกกันเเน่"

    "นะ น้ำ"

    "หะ?" เขาได้ยินที่ยูรินพูดไม่ถนัด

    "น้ำ ขอน้ำหน่อย" พอเห็นท่าทีที่อ่อนลงจากคนหัวตื่นเมื่อช่วงเย็น กลับกลายมาเป็นลูกเเมวได้เเบบนี้ คนอย่างจอนจองกุกจึงอดคิดที่เเกล้งหญิงสาวไม่ได้

    "อยากกินน้ำเหรอ" ยูรินพยักหน้ารับอย่างช้าๆ

    "พูดเพราะๆกับฉันสิ" ถึงยูรินจะไม่ค่อยพอใจกับสิ่งที่คนนิสัยเสียคนนี้กำลังเเกล้งเธออยู่ก็ตาม เเต่เธอป่วยจนไม่มีเรี่ยวเเรงกำลังไปต่อกรกับเขาในเวลานี้ได้

    "คุณเจคคะ ขะ ขอน้ำให้ฉันเถอะนะคะ" ยูรินกลั้นใจพูดออกมาจนได้

    "ยังไม่พอ ไหนล่ะความอ่อนหวาน เป็นผู้หญิงภาษาอะไร"

    "คุณ!!!" คนนิสัยไม่ไดี ยังไงก็คือคนนิสัยไม่ดีอยู่วันยังค่ำ ยูรินไม่น่าคิดเลยว่าคนอย่างเขาพอมีความเมตตาอยู่บ้าง 

    "คุณเจค.."

    "ไม่ เรากำลังจะเเต่งงานกัน เอ่อ ถึงจะเเต่งหลอกๆก็เถอะ เเต่พ่อของฉันไม่รู้ด้วย เเละคิดว่าเธอคือคนรักของฉัน เพราะฉะนั้น"

    "เรียกฉันว่าพี่เจคสิ" 

    ยูรินยู่ปากอย่างขัดใจ สนิทกันมากมั้ง ถึงจะให้เธอเรียกเขาเเบบนั้น เเต่เพราะเธอกำลังต้องการน้ำเอามากๆ เเละเรี่ยวเเรงเธอเเทบจะไม่มีอยู่เเล้ว รอให้เธอหายดีก่อนเถอะ จะไม่ยอมให้คนเเบบนี้มาข่มเหงได้ง่ายๆเเบบนี้เเน่ อยากให้พูดเพราะๆ อยากให้อ่อนหวานนักใช่มั้ย ได้ เธอจะยอมให้สักครั้ง

    "พี่เจคขา..."

    "!!!"

    "ขอน้ำให้ยูรินหน่อยนะคะ"

    "-///-" 

    ยัยเด็กคนนี้บังอาจนัก เขาเเค่ให้เธอเรียกเขาว่าพี่ ให้พูดจาอ่อนหวานกับเขา ให้ขอร้องเขา เพื่อที่จะดูว่าเธอจะดื้อกับเขายังไงต่างหากล่ะ 

    มันไม่ใช่เเบบนี้ ไม่ใช่เสียงหวานหูที่เเฝงไปด้วยความเเหบพร่าเเบบนี้ 

    "พี่เจคขา..."

    อย่างนั้นเหรอ เสียงพูดประโยคนั้นของยูรินมันดังก้องเหมือนเสียงเอคโค่อยู่ในหัวของเขาจนจอนจองกุกเเทบจะลืมไปหมดเเล้วว่าตัวเองอยู่ที่ไหน เเละกำลังทำอะไรอยู่ 


    "บ้าไปเเล้ว มึงต้องบ้าไปเเล้วเเน่ๆไอ้เจค"

    "ขอบคุณค่ะ"

    รู้ตัวอีกที ยูรินก็ส่งเเก้วน้ำคืนให้กับเขาเเล้ว โดยที่จองกุกไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่า เขาเทน้ำใส่เเก้วตอนไหน เเละส่งน้ำให้ยูรินดื่มไปตอนไหน เขารับเเก้วคืนมาอย่างงงๆ เเล้วพบว่ามีสายตาของยูรินจ้องมองเขาอยู่

    "พี่เจคขา..."

    "หะ!! ระ เรียกทำไมอีก" 

    "ยูรินหิว"

    "หะ หิว!"

    "เเล้วยูรินก็ปวดหัวมากๆเลยค่ะ"

    "ปวดหัวเหรอ!"

    "พี่เจคช่วยยูรินได้มั้ยคะ"

    "อึ่ก..." จองกุกกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเหลือเกิน เขาไม่รู้ด้วยเเล้วว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง เขารู้เเค่เพียงว่า ในเวลานี้มีสิ่งเดียวที่เขาจะทำได้

    "ขะ ข้าวต้มอยู่ตรงนั้น กินซะ" พูดจบเขาก็ทำสิ่งนั้น สิ่งที่เรียกว่า 'หนี' เขาต้องหนีไปให้พ้นจากสถานะการณ์ที่ตัวเขาเองไม่เข้าใจนี้ให้ได้ เพื่อไปตั้งหลักก่อน

    หมับ!!!

    เเต่ยังไม่ทนที่เขาจะก้าวเดินออกไป มือเล็กของนัมยูรินก็คว้าข้อมือของจอนจองกุกเอาไว้ 

    "พี่เจคขา... พี่เจคจะไปไหนเหรอคะ" ชายหนุ่มหลับตาเเน่น บวกกับร่างกายที่เเข็งทื่อไปทั้งตัว เขากำลังจะบ้าเเล้ว ยัยคนป่วยตัวเเสบไม่รู้รึไงว่ามันผิดมหันต์ที่เธอรั้งเขาเอาไว้เเบบนี้

    หมับ

    "อ๊ะ!!!"

    มือหนาคว้าข้อมือที่เล็กกว่าเกือบเท่าตัวเอาไว้เเน่นจนยูรินตกใจ

    "ถ้าเธอไม่อยากตายตอนนี้ ก็อย่าจับฉันไว้อีก"

     พรึ่บ

    จองกุกปล่อยมือข้อมือของยูรินทันทีที่พูดจบ ก่อนที่เขาจะสาวเท้าออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความงุนงงของยูริน ที่จู่ๆ ผู้ชายนิสัยไม่ดีคนนี้ คนที่จ้องจะเเกล้งเธอไม่เลิก จู่ๆก็มีอาการเเปลกๆ เเล้วเดินหนีเธอไปดื้อๆ



    (ครับนายน้อย) จองกุกที่หนีออกมาจากห้องนอนของตัวเอง เเล้วทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ทำงานของเขาอย่างหมดเเรง พร้อมกับโทรหาเลขาอย่างจองโฮซอกไปด้วย

    "โฮซอกฮยอง ผม..."

    "ผมต้องติดไข้ยัยนั่นมาเเน่ๆ"

    (ติดไข้ จากคุณยูรินเหรอครับ)

    "ใช่ ไม่ใช่ไข้ธรรมดา ยัยนั่นเป็นปอดบวมด้วย บ้าชะมัด"

    (เอ่อ เเล้วตอนนี้นายน้อยอยู่ไหนครับ)

    "ห้องทำงาน"

    (อ้าวเเล้วใครจะดูเเลคุณยูรินล่ะครับ)

    "ผมลงไปชั้นล่าง ไปเรียกเเม่บ้านให้ไปดูยัยนั่นเเล้ว"

    (เเล้วทำไมนายน้อยถึงไม่ดูเเลเธอเองล่ะครับ นายน้อยเป็นต้นเหตุที่ทำให้เธอป่วยนะครับ)

    "ไม่ดู ไม่เเล ไม่อะไรทั้งนั้น ถ้าผมติดไข้ยัยนั่นเเล้วใครจะรับผิดชอบ ยัยเด็กนั่นไม่ตายง่ายๆหรอกน่า"

    (ครับ คุณยูรินไม่น่าจะเป็นอะไร เเต่คนอื่นก็ไม่เเน่)

    "ฮยองหมายถึงใคร" จองกุกถามกลับไปเสียงเเข็ง

    (เปล่าครับ เเต่นายน้อยอาจจะติดคุณยูริน เอ้ย ติดไข้คุณยูรินมาเเล้วก็ได้นะครับ เสียงสั่นเชียว)

    "นี่ฮยองกำลังล้อผมใช่มั้ย-_-"

    (ผมเปล่านะครับ)

    "พอ ผมไม่คุยกับฮยองเเล้ว กวนประสาท เเค่นี้นะ จะไปหายากินเเล้ว"

    (ผมว่าต้องกินยาตัวนั้นครับถึงจะหาย)

    "ยาอะไร"

    (หึหึหึ)

    "ฮยองผมไม่ตลก"

    (ยาที่ชื่อว่า ยูรินไงครับ)

    "ฮยอง!!!"

    (ตู๊ด...ตู๊ด...)

    ไม่ทันที่นายน้อยของเขาจะได้ตอกคำเเรงๆกลับอะไร จองโฮซอกเลือกที่จะตัดสายไปเสียก่อน มันยิ่งทำให้จอนจองกุกขัดใจเอามากๆ 

    "ยาที่ชื่อยูรินงั้นเหรอ"

    "กินเเล้วตายน่ะสิไม่ว่า"

     

    End Ep.04




    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


    ขำอิพี่ได้เเต่อย่าเเรง เจอคนเสียอาการ 1 อัตราค่าาา



    ใครว่าง อย่างลืมไปพูดคุยกันได้ใน ทวิตเตอร์  #พี่เจคใจเย็น     กันด้วยเน้อ^^ ขอกำลังใจโหน่ยยยยยย


    ฝาก สตรีมเเท็ก  #พี่เจคใจเย็น ด้วยน้า


    ชื่อทางการติดต่อไรท์

    twt : @Lilyn_T_V

    Facebook group : Lilyn-Fic


    B
    E
    R
    L
    I
    N
    ?
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×