เภสัชศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการบริบาลทางเภสัชกรรม

ลำดับตอนที่ #4 : วิชาเรียนปีที่ 2 ภาคการศึกษาที่ 1

Anatomy for Pharmacy student       

                วิชากายวิภาคศาสตร์ครับ  คิดว่าน้องๆหลายคนอาจจะเคยได้ยิน  ก็ที่เขาไปดูอาจารย์ใหญ่ (ศพคนจริงๆนะครับ  ไม่ใช่ภาพยนตร์) กันนั่นละครับ  เพียงแต่ว่าเราจะไม่ได้ลงมือผ่าเองแบบแพทย์หรือทันตแพทย์ครับ  เราแค่ดูอวัยวะที่เขาดองไว้แล้วเท่านั้น  ถามว่าน่ากลัวไหม  ก็แล้วแต่น้องน่ะครับ  แต่พี่ยังไม่เคยได้ยินว่าใครอาเจียนหรือเป็นลมสักคน  การเรียนวิชานี้บอกได้คำเดียวครับว่า "ท่อง"  เพราะไม่มีวิธีอื่นจริงๆ  น้องต้องสามารถจำชื่ออวัยวะทุกส่วน  รวมถึง cell บางชนิดด้วย  เป็นภาษาอังกฤษครับ  รวมทั้งต้องบอกตำแหน่งที่อยู่และหน้าที่การทำงานให้ได้ด้วยครับ  นอกจากนั้น  วิชานี้ยังมีการสอบปฏิบัติการแบบจับเวลา (Lab. กริ๊ง) ด้วยครับ  ซึ่งจะเพิ่มความตื่นเต้นเร้าใจให้กับการสอบได้เป็นอย่างดี  การสอบข้อเขียนวิชานี้อยู่ในขั้นปานกลางครับ  เว้นแต่ส่วนที่อาจารย์หมอมาสอน  ตรงนั้นจะออกข้อสอบยากมาก  ส่วนการสอบปฏิบัติการ  กลางภาคจะยาก  แต่ปลายภาคอาจารย์เขาจะช่วยครับ  วิชานี้พี่ถามเพื่อนๆแล้ว  ก็เกรดค่อนข้างสูงครับ

General Biochemistry

                ดูจากชื่อก็คงทราบแล้วนะครับ  ว่าเป็นวิชาที่เกี่ยวข้องกับทั้งเคมีและชีวะ  จริงๆแล้ววิชานี้เน้นหนักไปทางเคมีมากกว่าครับ  แต่เป็นการศึกษาสารเคมีและปฏิกิริยาเคมีของสารต่างๆที่อยู่ในร่างกาย  รวมทั้งสารเคมีที่ส่งผลต่อร่างกาย  เช่น vitamins ด้วยครับ  ส่วนตัวพี่คิดว่าวิชานี้ค่อนยากทีเดียว  เพราะนอกจากจะต้องจำสารเคมีต่างๆที่อยู่ในร่างกายแล้ว  ยังจะต้องจำปฏิกิริยาเคมีของมัน  รวมทั้งผลของมันด้วย  แต่ถ้าน้องเป็นคนที่แม่นในพื้นฐานวิชาชีววิทยาหรือเคมีอยู่แล้ว  ก็ไม่ลำบากอะไรมากหรอกครับ  แต่ถ้าไม่ละก็  น้องก็ต้องขยันท่องหน่อยนะครับ  หรือถ้ามีเวลาก็ไปถามอาจารย์ให้เข้าใจ  เพราะหลายๆเรื่องจะเป็นพื้นฐานในการเรียนวิชาอื่นๆต่อไปครับ

General Biochemistry Lab.

                นี่ก็เป็นการทำปฏิบัติการของวิชาชีวเคมีครับ  น้องจะได้ใช้เครื่องมือใหม่ที่อาจจะยังไม่รู้จักหลายอย่าง  ได้ใช้สารเคมีแปลกๆ  รวมทั้งได้เขียนรายงานผลการทดลองที่ยาวเหยียด  แต่ถ้าน้องชอบ  พี่ว่ามันก็ไม่เลวนะ  สนุกดีเหมือนกันครับ

Biostatistics

                มาถึงวิชาที่ยากที่สุดของภาคการศึกษานี้กันแล้วนะครับ  เดิมที่พี่เชื่อว่าเอ่ยถึงวิชาสถิติ  น้องๆก็ไม่ชอบกันอยู่แล้ว  ยิ่งเอาชีวะเข้าไปจับอีก  ระดับความยากจึงเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าเลยครับ  พี่ไม่อยากข่มขวัญน้องๆนะครับ  แต่ที่ผ่านมามีคนได้ A วิชานี้น้อยจนนับได้  ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะอาจารย์ที่มีอายุมากแล้ว  ทำให้สอนไม่สนุก  บวกกับเนื้อหาที่ยากและเป็นของใหม่เกือบทั้งหมด  ทำให้ทุกคนที่เรียนต่างพากันบอกว่าไม่รู้เรื่อง  พี่ขอแนะนำว่าถ้าน้องเรียนวิชานี้แล้วไม่รู้เรื่อง  ให้ไปถามอาจารย์ดีกว่าครับ  แล้วก็ขยันทำแบบฝึกหัดที่ท่านให้มา  พี่ว่าเท่านี้ก็น่าจะเพียงพอที่จะทำให้วิชานี้ไม่เป็นตัวฉุดเกรดน้องอีกต่อไปครับ

Organic Chemistry for Pharmacy student

                หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า Or Chem ครับ  แต่เป็นวิชาของคณะเภสัชฯนะครับ  ต่างกับของ 5 ปีที่ต้องเรียนถึง 2 ตัว  แถมเป็นของคณะวิทยาศาสตร์  มีข่าวลือมาว่าวิชาเคมีอินทรีย์ของคณะง่ายกว่าของคณะวิทย์  แต่เนื้อหาไม่ต่างกันมาก  อันนี้พี่ไม่แน่ใจครับ  แต่คิดว่าอาจจะจริงก็ได้  วิชานี้เป็นเจ้าของคำกล่าวที่ว่า "ร้อยเนื้อ  หนึ่งทำนอง" และ "สามวันจากเคมี  เป็นอื่น"  ซึ่งความนัยของ 2 ประโยคนี้เป็นเช่นไร  น้องต้องเข้ามาเรียนเองครับ  แล้วจะรู้  ส่วนเรื่องเกรดก็ได้ไม่ยากมากนะครับ  พี่ว่าอาจารย์ที่คณะสอนค่อนข้างเข้าใจและตัดเกรดไม่โหดจนเกินไปนัก  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น  น้องต้องเรียนให้เข้าใจจริงๆนะครับ  จึงจะได้เกรดสูงๆ  และพี่บอกไว้ก่อนว่า  วิชานี้จะเป็นพื้นฐานที่สำคัญของวิชาเคมียาในปีหน้า

Organic Chemistry Lab. for Pharmacy student

                ก็เป็นวิชาปฏิบัติการเคมีอินทรีย์น่ะครับ  เหมือนการทดลองทางเคมีธรรมดาที่น้องเคยทำ  เพียงแต่ว่าจะมีเรื่องน่าตื่นเต้นอยู่ 2 เรื่องด้วยกันครับ  เรื่องแรกคือ  ก่อนเริ่มการเรียนปฏิบัติการครั้งแรก  จะมีการสอบวัดทักษะการใช้เครื่องมือครับ  ซึ่งตรงนี้  ใครที่ใช้เครื่องมือทดลองเช่น Burette หรือ Pipette ยังไม่คล่องหรือไม่ถูกวิธี  ขอให้รีบไปขอคำแนะนำจากเพื่อน 5 ปีโดยด่วนครับ  หรืออาจจะกลับไปศึกษาด้วยตนเองจากตำราก็ได้ครับ  ส่วนเรื่องน่าสนุกอีกเรื่องคือ  น้องจะได้ทำยาเองครับ!  แม้เป็นยาพื้นๆเช่น Acetaminophen (Paracetamol) , Aspirin หรือ Sulfasalazine  แต่ก็ถือว่าเป็นตัวยาตัวแรกที่เราได้ทำเองกับมือครับ  ซึ่งตรงนี้พี่บอกได้เลยว่า  เพื่อนๆ 5 ปีของน้องยังไม่ได้ทำเลยด้วยซ้ำ  ขอให้สนุกกับการทำ Lab. นะครับ

วิชาเลือกภาษาอังกฤษ 3 หน่วยกิต

                เอ่อ... ถึงแม้ว่าวิชานี้จะให้เลือกเรียนภาษาอังกฤษก็ตาม  แต่จากที่พี่ถามดู  ไม่มีใครลงวิชาภาษาอังกฤษเลยครับ  ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเวลาชนกับวิชาหลักหรือเปล่า  แต่ที่เห็นก็คือ  ทุกคนจะลงวิชานี้เป็นวิชาเลือกเสรีกันทั้งหมด  โดยจะเก็บวิชาภาษาอังกฤษไว้ลงตอนปี 5 เทอม 2 แทนครับ  ส่วนวิชาที่เลือกลงกันก็มีหลากหลายเช่นเดิมครับ  ขึ้นอยู่กับว่าน้องๆชอบเรียนอะไร (สำหรับพี่  พี่เลือกเรียนวิชาภาษาฝรั่งเศสครับ)