ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เภสัชศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการบริบาลทางเภสัชกรรม

    ลำดับตอนที่ #3 : วิชาเรียนปีที่ 1 ภาคการศึกษาที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 30 ต.ค. 49


    Introduction Physical Chemistry

                    วิชา Phy Chem ครับ  ดูจากชื่อก็คงจะเดาได้ใช่ไหมครับ  ว่าเป็นวิชาเคมีที่ผสมผสานเข้ากับวิชาฟิสิกส์  แต่ถ้าถามความเห็นของพี่นะ  มันไม่ใช่ทั้งเคมีและฟิสิกส์เลย  มันเป็นเหมือนการใช้วิชาฟิสิกส์เพื่อหาทฤษฎีทางเคมีมากกว่า  เช่นน้องจะได้เรียนว่า  ค่าน้ำหนักโมเลกุลที่เราท่องๆกันมานั้น  หามาได้อย่างไร , การพิสูจน์ว่าสารเคมีในหลอดนี้มีชื่ออะไร  ต้องทำอย่างไร ฯลฯ  ซึ่งน้องหลายๆคนที่ไม่คุ้นเคยกับเรื่องแบบนี้  อาจจะคิดว่ามันยาก  ซึ่งความจริงแล้วมันก็ยากครับ  น้องจะได้พบกับอาจารย์บางท่านที่สอนไม่ค่อยรู้เรื่อง  ตั้งสติให้ดีๆครับ  ค่อยๆปรับวิธีการเรียนใหม่  แล้วน้องจะผ่านไปได้อย่างสบายใจ

     

    Introduction Physical Chemistry Lab.

                    ก็ไม่มีอะไรมากครับ  เป็นวิชาปฏิบัติการธรรมดา  คล้ายๆกับการทำปฏิบัติการวิชาเคมี  แต่ในวิชานี้  น้องจะได้สัมผัสเครื่องมือที่แปลกๆ  ไม่เคยพบเคยเห็น  เช่น Mass Spectrometer เป็นต้น  ในบางปฏิบัติการที่เครื่องมือมีจำกัด  อาจจะต้องเสียเวลาคอยนาน  พี่ขอแนะนำให้ศึกษาคู่มือมาให้ดีแล้วก็ทำให้เร็ว  จะได้เลิกเร็วไงครับ  อ้อ  แล้วก็สำหรับน้องที่เป็นคนดี  ไม่เคยเลยที่จะลอกรายงานปฏิบัติการของเพื่อนส่ง  คราวนี้น้องอาจจะได้ลองทำดูก็ได้ครับ  โดยเฉพาะรายงานปฏิบัติการของรุ่นพี่  จะเป็นสิ่งที่มีค่าน่าสะสมมากในอนาคตครับ

     

    Life Science Physics

                    เห็นเป็นวิชาฟิสิกส์  อย่าเพิ่งตกใจครับ  วิชานี้ไม่ใช่ฟิสิกส์แบบที่เราจะได้เจอสูตรยากๆ  การพิสูจน์สูตรอันยาวเหยียด  แต่วิชานี้น้องจะได้เจอการประยุกต์ใช้หลักทางฟิสิกส์เข้ากับการแพทย์ครับ  หลายๆคนอาจจะงงว่ามันเกี่ยวกันได้อย่างไร  ต้องลองมาเรียนดูครับ  แล้วจะเข้าใจว่าอาจารย์ท่านสามารถนำมาโยงกันได้จริงๆ  การเรียนวิชานี้จะมีอาจารย์ 2 ท่านครับ  แบ่งการเรียนออกเป็น 2 ตอน (ก่อนและหลังสอบกลางภาค) ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง  โดยอาจารย์ท่านแรกจะเน้นการคำนวณ  ความเข้าใจในสูตร  ข้อสอบจะออกคำนวณแบบง่ายไปยากขึ้นเรื่อยๆ  เด็กจะทำคะแนนกันได้ไม่ค่อยดีหรอกครับ  แต่ไม่ต้องห่วง  เพราะอาจารย์ท่านหลังจะเน้นความจำอย่างเดียวเลย  น้องไม่ต้องคำนวณเป็น  แค่จำสูตรให้ได้ก็พอครับ  ซึ่งส่วนนี้  ใครที่โชคดีจำสูตรและเนื้อหาได้ตรงกับที่ออกสอบ  ก็สามารถได้ A ได้ไม่ยากเลยครับ (เหมือนพี่เนี่ย)

     

    Life Science Physics Lab.

                    วิชานี้เป็นวิชาที่เป็นที่ฮือฮามากสำหรับคณะเราครับ  เพราะว่าข่าวลือที่ว่าเกรดของปฏิบัติการนี้เป็นแบบปาเป้าสุ่ม  คือหยิบชื่อใครมาก็ปาเป้า  ถ้าปักได้เกรดอะไรก็ให้ไปตามนั้น  ซึ่งอันนี้พี่ก็ต้องออกตัวก่อนนะครับว่าเป็นแค่ข่าวลือเท่านั้น  พี่ไม่อาจทราบข้อเท็จจริงได้  แต่พี่จะยกตัวอย่างตัวพี่เอง  พี่ทำ quiz วิชานี้ได้ 0 คะแนนมา 3 - 4 ครั้งจาก quiz ทั้งหมด 10 ครั้ง  แต่พอเกรดออกมา  พี่ได้ B+ ครับ  น้องๆคิดว่าเป็นไปได้ไหม  พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะอันนี้

     

    Foundation English II

                    ก็เป็นวิชาภาษาอังกฤษตัวที่สองนะครับ  ต่อจาก Foundation English I  ซึ่งการเรียนก็เหมือนเดิมเลย  เพียงแต่ว่าคำศัพท์จะมากขึ้นเท่านั้นเองครับ  ถ้าใครที่ผ่าน Foundation English I มาได้ด้วย A  วิชานี้ก็ไม่ยากเกินไปหรอกครับ  แต่สำหรับน้องที่ยังตั้งหลักไม่ได้  พี่ก็ขอแนะนำให้น้องกลับไปท่องศัพท์ + ไวยากรณ์ที่สำคัญๆก่อนสอบครับ  และถ้าเป็นไปได้ก็หาเทปมาเปิดเพื่อฝึกการฟังก็จะดีมากเลยครับ  น้องควรสนใจและทุ่มเทกับภาษาอังกฤษหน่อยนะครับ  เพราะถึงอย่างไรก็ต้องเรียนอีก 2 ตัว 6 หน่วยกิต  ไม่รวม FE ทั้ง 2 ตัวนะครับ  สรุปคือเภสัชฯ 6 ปีเราจะต้องเรียนภาษาอังกฤษถึง 12 หน่วยกิตเชียวครับ  อย่าทิ้งครับ  เสียดาย...

     

    Public Health Pharmacy

                    วิชาคณะตัวที่ 2 ที่จะได้เรียนครับ  วิชานี้จะว่ายากก็ยาก  จะว่าง่ายก็ง่ายนะครับ  เพราะว่าเรื่องหลายๆเรื่องก็เป็นเรื่องที่น้องรู้อยู่แล้ว  แต่หลายเรื่องก็เป็นเรื่องใหม่ที่จะต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจครับ  ช่วงแรกๆอาจารย์จะหลอกให้น้องตายใจด้วยการเปิดวิดีโอให้ดู  หลังจากที่น้องเคลิ้มๆจะหลับอยู่นั้น  อาจารย์ก็อาจจะเรียก quiz ขึ้นมาในทันใด  ทีนี้ละครับ  ใครที่ไม่ได้จดก็ชะโงกหาของเพื่อนกันใหญ่  ใครก็แอบโดดก็วิ่งกลับมา quiz แทบไม่ทัน  ยิ่งช่วงหลังๆที่อาจารย์สอนไม่รู้เรื่องด้วยแล้ว  พี่ว่าน้องคงต้องขยันอ่านเองเพิ่มขึ้นนะครับ

     

    Behavioral Science

                    วิชาพฤติกรรมศาสตร์ครับ  เภสัชฯ 6 ปีเราโดนบังคับให้ลงวิชานี้  ในขณะที่พวก 5 ปีจะได้เลือกลงวิชาจิตวิทยาแทน  ซึ่งเนื้อหาก็ไม่ค่อยต่างกันมากหรอกครับ  เนื้อหาวิชานี้ก็จะเป็นเรื่องของการศึกษาพฤติกรรมของมนุษย์  ว่าทำไมคนเราถึงต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้  แล้วมีวิธีอะไรที่จะทำให้คนอื่นทำในสิ่งที่เราต้องการได้  วิชานี้เรียนไม่ยากครับ  อาจารย์ใจดีด้วย  ถ้าน้องขยันอ่านหนังสือสักนิดหนึ่งก่อนสอบ  ก็สามารถได้ B ได้สบายๆครับ

     

    Introduction to Political Science

                    น้องๆหลายคนอาจจะเกิดความสงสัยขึ้นในใจว่า  เภสัชกรอย่างเราจะเรียนวิชารัฐศาสตร์ไปทำไม  เรื่องนี้พี่ก็ไม่ค่อยแน่ใจครับ  แต่เดาว่ามหาวิทยาลัยคงต้องการให้เภสัชฯ 6 ปีมีความรอบรู้ในเรื่องข่าวสารบ้านเมือง  สามารถพูดคุยกับคนไข้ได้กระมัง  ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร  แต่เราก็ต้องเรียนวิชานี้อยู่ดี  ส่วนเรื่องเกรด  พี่คิดว่าการได้ A วิชาไม่ใช่ของง่ายเลยครับ  อาจารย์ดูเหมือนจะใจดีก็จริง  ก่อนเรียนมีการเล่าสถานการณ์ความเป็นไปของบ้านเมืองให้เราฟังด้วย  แต่เวลาอาจารย์ออกข้อสอบทีไร  ยากทุกที  เพราะข้อสอบค่อนข้างจะวัดความจำล้วนๆเลยครับ  โดยเฉพาะเรื่องของประวัติศาสตร์การเมือง  น้องๆหลายคนอาจจะไม่คุ้นเคย  ทำให้พลาดได้ง่ายครับ

     

    วิชาเลือกเสรี 3 หน่วยกิต

                    จากที่พี่ได้ถามทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้องมานะครับ  พบว่าวิชาเลือกเสรีตัวนี้มีคนเลือกลงต่างๆกันไปมาก  ส่วนใหญ่จะลงตามเพื่อนครับ  เท่าที่ได้ยินมาก็จะมีตั้งแต่วิชา Economics , Man and Environment , Man and Art , Religion , Asian Art , ect. ซึ่งแต่ละวิชาก็จะมีความยากง่ายไม่เหมือนกันครับ  น้องควรปรึกษาเพื่อนและรุ่นพี่ว่าเขาลงวิชาอะไรกัน  เพื่อจะได้มีคนคอยช่วยเหลือ  ถ้าเราเรียนไม่รู้เรื่องครับ (สำหรับพี่  พี่เลือกวิชาภาษาจีนครับ)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×