ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ศัพท์เกี่ยวกับเทพเจ้า
ในอารยธรรมกรีก - โรมัน และอีกหลายๆอารยธรรมทั่วโลก มีเทพเจ้าต่างๆปรากฎขึ้นมากมาย บางองค์เราอาจเคยได้ยินชื่อคุ้นหูกันดี บางองค์เราอาจไม่เคยได้ยินชื่อ แต่เทพเจ้าหลายๆองค์ได้ถูกนำมาใช้เป็นคำสามัญในชีวิตประจำวัน มีคำอะไรบ้าง ลองมาดูกันครับ
Titan: คำนี้น่าจะเป็นที่คุ้นหูคุ้นตาที่สุด เหล่า titan เป็นเทพเจ้าในตำนานกรีกในยุคก่้อนที่เทพเจ้า Zeus จะเรืองอำนาจ โดยเป็นเทพที่มีร่างกายใหญ่โตมโหฬารมากๆ คำว่า titan จึงมีความหมายว่า ยิ่งใหญ่ ใหญ่โต
Chronos: เทพเจ้า Chronos เป็นหนึ่งในเทพเจ้าในกลุ่ม titan ด้วยเช่นกัน โดยเป็นเทพที่ควบคุมกาลเวลา ทั้งยังเป็นบิดาของเทพเจ้า Zeus ด้วย ดังนั้น คำว่า chrono- จึงเป็น prefix ที่สื่อถึงกาลเวลานั่นเอง ตัวอย่างเช่นคำว่า anachronism มากจากคำว่า an- ที่แปลว่า ไม่ รวมกับ chrono ที่แปลว่าเวลา คำนี้จึงหมายถึง "ผิดกาละเทศะ" เป็นต้น
Hermaphrodite: คำนี้มาจากเทพเจ้าสององค์ คือ Hermes ซึ่งเป็นเทพผู้ชายที่มีรูปงามมาก และ Aphrodite ซึ่งเป็นเทพีที่มีความงดงามมากเช่นกัน เมื่อทั้งเทพและเทพีมาอยู่ในคนคนเดียวกัน คำว่า hermaphrodite จึงหมายถึง กะเทย หรือ ผู้ที่มีทั้งอวัยวะเพศชายและเพศหญิงอยู่ในคนเดียวกัน นั่นเอง นอกจากนี้ ชื่อของเทพี Aphrodite ยังถูกนำมาใช้ในความหมายว่า "สิ่งที่กระตุ้นความต้องการทางเพศ" ด้วย คือคำว่า "aprhodisiac"
Mercury: หลายคนทราบว่า mercury เป็นชื่อของธาตุปรอท แต่อาจจะนึกไม่ออกว่ามีที่มาอย่างไร Mercury เป็นชื่ออีกชื่อหนึ่งของเทพเจ้า Hermes ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งการสื่อสารและโทรคมนาคม ว่ากันว่้าพระองค์สามารถเดินทางไปไหนๆได้ไวเพียงความคิดทีเดียว จึงถูกนำมาเรียกเป็นชื่อปรอท ซึ่งเป็นธาตุที่ไวต่อการเกิดปฏิกิริยามาก
Vulcan: ชื่อเทพเจ้า Vulcan อาจจะฟังดูไม่คุ้นหู แต่ถ้าพูดถึงเทพเจ้า Hephaestus เชื่อว่าคงเคยได้ยินกันมาบ้าง เทพเจ้า Vulcan เป็นบุตรของเทพ Zeus เป็นสามีของเทพี Aphrodite และเป็นเทพเจ้าแห่งการหลอมโลหะและสร้างสรรค์อาวุธต่างๆ ซึ่งพระิองค์มักอาศัยอยู่ในภูเขาไฟเพื่อทำการหลอมอาวุธต่างๆ คำว่า vulcanize จึงหมายถึง "การหลอมโลหะ" และมักหมายถึงการหลอมที่เกี่ยวข้องกับกำมะถันซึ่งเป็นธาตุที่พบในภูเขาไฟด้วย
Bacchus: หรือเทพเจ้า Dionysus เป็นเทพแห่งไวน์และความรื่นเริง คำว่า bacchanal จึงหมายถึง ผู้ที่ชื่นชอบการดื่มสุรามากๆ และมักจะเมาแล้วโวยวายหรือใช้ความรุนแรงอีกด้วย
Helios: เป็นเทพเจ้าในกลุ่ม titan ซึ่งเป็นเทพแห่งดวงอาทิตย์มาก่อนที่จะถึงยุคของเทพ Apollo คำว่า helio จึงให้ความหมายเกี่ยวกับ พระอาทิตย์ เช่นคำว่า heliograph หมายถึง เครื่องมือที่ใช้ถ่ายภาพดวงอาทิตย์
Saturn: เป็นเทพประจำดาวเสาร์ ซึ่งคนในสมัยโบราณคิดว่าเป็นดาวที่อยู่ไกลจากโลกที่สุด อ้างว้าง หนาวเย็นที่สุด คำว่า saturnine จึงหมายถึง ความหงอยเหงา เซื่องซึม โศกเศร้า
Cupid: หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ กามเทพ นั่นเอง คำว่า "กาม" ในภาษาบาลีหมายถึง ความใคร่ ดังนั้น คำว่า cupidity จึงหมายถึง ความละโมบ ความตะกละ หรือความอยากได้
Psyche: Psyche เป็นภรรยาของกามเทพในตำนานของกรีก กามเทพกำชับ Psyche ว่าไม่ให้มองหน้าตนเองแต่ Psyche ไม่เชื่อ แอบมองหน้ากามเทพขณะหลับ กามเทพตื่นขึ้นแล้วกล่าวว่า "ความรักจะดำรงอยู่ได้อย่างไรหากปราศจากความไว้ใจกัน" คำว่า psyche จึงหมายถึง จิตใจ หรือ เกี่ยวกับจิตใจ เช่น psychology หมายถึง จิตวิทยา
Ceres: หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อเทพี Demeter เทพี Ceres เป็นเทพีที่ควบคุมการเกษตรกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมัยกรีกนิยมบริโภคข้าวโพดเป็นธัญพืชหลัก จึงถือว่า Ceres เป็นเทพีครองข้าวโพด คล้ายๆกับพระแม่โพสพของบ้านเรา ไปๆมาๆ คำว่า cereal จึงแปลว่า ธัญพืช ตามชื่อของพระองค์นั่นเอง
Vesta: หรือ Hestia ชื่อนี้อาจจะไม่เป็นที่รู้จักมากนัก เนื่องจากพระองค์เป็นเทพีแห่งเตาผิงซึ่งประเทศไทยไม่มี พระองค์ยังเป็น 1 ใน 3 เทพีพรหมจรรย์ของกรีกอีกด้วย เหตุนี้เอง คำว่า vestal จึงแปลว่า บริสุทธิ์ หรือ พรหมจรรย์ ได้ด้วย
คราวต่อไปเราจะมารู้จักกับชื่อที่เกิดจากวีรบุรุษ สัตว์ประหลาด ดินแดนกรีก และบุคคลอื่นๆกันครับ
Titan: คำนี้น่าจะเป็นที่คุ้นหูคุ้นตาที่สุด เหล่า titan เป็นเทพเจ้าในตำนานกรีกในยุคก่้อนที่เทพเจ้า Zeus จะเรืองอำนาจ โดยเป็นเทพที่มีร่างกายใหญ่โตมโหฬารมากๆ คำว่า titan จึงมีความหมายว่า ยิ่งใหญ่ ใหญ่โต
Chronos: เทพเจ้า Chronos เป็นหนึ่งในเทพเจ้าในกลุ่ม titan ด้วยเช่นกัน โดยเป็นเทพที่ควบคุมกาลเวลา ทั้งยังเป็นบิดาของเทพเจ้า Zeus ด้วย ดังนั้น คำว่า chrono- จึงเป็น prefix ที่สื่อถึงกาลเวลานั่นเอง ตัวอย่างเช่นคำว่า anachronism มากจากคำว่า an- ที่แปลว่า ไม่ รวมกับ chrono ที่แปลว่าเวลา คำนี้จึงหมายถึง "ผิดกาละเทศะ" เป็นต้น
Hermaphrodite: คำนี้มาจากเทพเจ้าสององค์ คือ Hermes ซึ่งเป็นเทพผู้ชายที่มีรูปงามมาก และ Aphrodite ซึ่งเป็นเทพีที่มีความงดงามมากเช่นกัน เมื่อทั้งเทพและเทพีมาอยู่ในคนคนเดียวกัน คำว่า hermaphrodite จึงหมายถึง กะเทย หรือ ผู้ที่มีทั้งอวัยวะเพศชายและเพศหญิงอยู่ในคนเดียวกัน นั่นเอง นอกจากนี้ ชื่อของเทพี Aphrodite ยังถูกนำมาใช้ในความหมายว่า "สิ่งที่กระตุ้นความต้องการทางเพศ" ด้วย คือคำว่า "aprhodisiac"
Mercury: หลายคนทราบว่า mercury เป็นชื่อของธาตุปรอท แต่อาจจะนึกไม่ออกว่ามีที่มาอย่างไร Mercury เป็นชื่ออีกชื่อหนึ่งของเทพเจ้า Hermes ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งการสื่อสารและโทรคมนาคม ว่ากันว่้าพระองค์สามารถเดินทางไปไหนๆได้ไวเพียงความคิดทีเดียว จึงถูกนำมาเรียกเป็นชื่อปรอท ซึ่งเป็นธาตุที่ไวต่อการเกิดปฏิกิริยามาก
Vulcan: ชื่อเทพเจ้า Vulcan อาจจะฟังดูไม่คุ้นหู แต่ถ้าพูดถึงเทพเจ้า Hephaestus เชื่อว่าคงเคยได้ยินกันมาบ้าง เทพเจ้า Vulcan เป็นบุตรของเทพ Zeus เป็นสามีของเทพี Aphrodite และเป็นเทพเจ้าแห่งการหลอมโลหะและสร้างสรรค์อาวุธต่างๆ ซึ่งพระิองค์มักอาศัยอยู่ในภูเขาไฟเพื่อทำการหลอมอาวุธต่างๆ คำว่า vulcanize จึงหมายถึง "การหลอมโลหะ" และมักหมายถึงการหลอมที่เกี่ยวข้องกับกำมะถันซึ่งเป็นธาตุที่พบในภูเขาไฟด้วย
Bacchus: หรือเทพเจ้า Dionysus เป็นเทพแห่งไวน์และความรื่นเริง คำว่า bacchanal จึงหมายถึง ผู้ที่ชื่นชอบการดื่มสุรามากๆ และมักจะเมาแล้วโวยวายหรือใช้ความรุนแรงอีกด้วย
Helios: เป็นเทพเจ้าในกลุ่ม titan ซึ่งเป็นเทพแห่งดวงอาทิตย์มาก่อนที่จะถึงยุคของเทพ Apollo คำว่า helio จึงให้ความหมายเกี่ยวกับ พระอาทิตย์ เช่นคำว่า heliograph หมายถึง เครื่องมือที่ใช้ถ่ายภาพดวงอาทิตย์
Saturn: เป็นเทพประจำดาวเสาร์ ซึ่งคนในสมัยโบราณคิดว่าเป็นดาวที่อยู่ไกลจากโลกที่สุด อ้างว้าง หนาวเย็นที่สุด คำว่า saturnine จึงหมายถึง ความหงอยเหงา เซื่องซึม โศกเศร้า
Cupid: หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ กามเทพ นั่นเอง คำว่า "กาม" ในภาษาบาลีหมายถึง ความใคร่ ดังนั้น คำว่า cupidity จึงหมายถึง ความละโมบ ความตะกละ หรือความอยากได้
Psyche: Psyche เป็นภรรยาของกามเทพในตำนานของกรีก กามเทพกำชับ Psyche ว่าไม่ให้มองหน้าตนเองแต่ Psyche ไม่เชื่อ แอบมองหน้ากามเทพขณะหลับ กามเทพตื่นขึ้นแล้วกล่าวว่า "ความรักจะดำรงอยู่ได้อย่างไรหากปราศจากความไว้ใจกัน" คำว่า psyche จึงหมายถึง จิตใจ หรือ เกี่ยวกับจิตใจ เช่น psychology หมายถึง จิตวิทยา
Ceres: หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อเทพี Demeter เทพี Ceres เป็นเทพีที่ควบคุมการเกษตรกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมัยกรีกนิยมบริโภคข้าวโพดเป็นธัญพืชหลัก จึงถือว่า Ceres เป็นเทพีครองข้าวโพด คล้ายๆกับพระแม่โพสพของบ้านเรา ไปๆมาๆ คำว่า cereal จึงแปลว่า ธัญพืช ตามชื่อของพระองค์นั่นเอง
Vesta: หรือ Hestia ชื่อนี้อาจจะไม่เป็นที่รู้จักมากนัก เนื่องจากพระองค์เป็นเทพีแห่งเตาผิงซึ่งประเทศไทยไม่มี พระองค์ยังเป็น 1 ใน 3 เทพีพรหมจรรย์ของกรีกอีกด้วย เหตุนี้เอง คำว่า vestal จึงแปลว่า บริสุทธิ์ หรือ พรหมจรรย์ ได้ด้วย
คราวต่อไปเราจะมารู้จักกับชื่อที่เกิดจากวีรบุรุษ สัตว์ประหลาด ดินแดนกรีก และบุคคลอื่นๆกันครับ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น