ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter4: love true than fiction
ปึ๊กก!!
ลู่หานรับรู้ว่าชนกับใครสักคน รับรู้ถึงเเผ่นอกกว้างที่เนบชิดกับตัวของเขาสัมผัสถึงร่างกายที่ใกล้ชิด เเละความใกล้ชิดนี้ทำให้แก้มเนียนขาวผ่องกลายเป็นสีเเดงเห่ออย่างคนที่ใกล้ชิดต้องกระตุกยิ้มมุมปาก
"ผิดคนเเล้วลู่หาน"
"อ๊ะ!"
ลู่หานถึงกับสะดุ้งสุดตัวกับเสียงที่กระซิบชิดริมหู ลู่หารีบแกะผ้าที่ปิดตาออกเเล้วมองคนที่มากระซิบและทำให้เขาเเก้มร้อนขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล เเต่พอแกะผ้าออกมาลู่หานก็อยากจะมุดดินหนีเมื่อคนที่อยู่ตรงหน้าลู่หานเป็นคนที่ไม่ควรเข้าใกล้ ก็ทำไมน่ะหรอ..
ก็เพราะสายตาดุๆแบบนั้นน่ะสิมันทำให้เขา..ใจเต้นขึ้นมาเสียดื้อๆ
"ระ..รุ่นพี่ ขอโทษนะฮะ" เขาได้เเต่พูดเสียงเบาก้มหน้าชิดอก ลู่หานที่หันไปทางเพื่อนรัก ก็เห็นคยองซูที่ทำหน้าเจื่อนแล้วกวักมือให้ลู่หานไปหา ลู่หานมองหาคนที่ีเล่นเกมส์กับเขาเเต่ก็เข้าที่นั่งกันไปแล้ว ลู่หานจึงรีบวิ่งไปหาคยองซูและแบคฮยอนอย่างไม่คิดชีวิต
"เอ่อ สงสัยประธานนักศึกษาอยากจะเข้าร่วมนะครับ ฮ่าๆ" รุ่นพี่ปีสามที่อ้วนท้วนสมบูรณ์ พูดขึ้นมาทำให้บรรยากาศน่าตรึงเครียดลดลง
"อืม แค่ลองสักเกมส์" เสียงทุ้มที่ติดสนุกเอ่ยออกมาทำให้หลายคนนึกแปลกใจที่ปีนี้ประธานนักศึกษา ลงทุนมารับน้องด้วยตัวเองถึงจะอยู่ดีๆก็เดินมาขวางทางน้องปีหนึ่งคณะนิเทศน์ก็เถอะ
รุ่นพี่ปีสามคนหนึ่งเดินมาเอาขวดน้ำให้คริสพร้อมกับรอยยิ้มหวานที่ใครๆก็มองว่ามันสดใส ยกเว้นคริสที่มองเพียงน้ำเเล้วรับมาอย่างไม่สนใจ ในตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าคริสคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ในใจ เเต่สายตาคมที่ทำเป็นมองกิจกรรมรวมๆ แต่ถ้าใครที่สังเกตดีๆสายตาคมมองเพียงร่างบางที่ร่วมทำกิจกรรมอย่างสนุกสนาน เเล้วพวงแก้มใสมักจะขึ้นสีชมพูระเรื่อเมื่อสายตาทั้งสองหยุดที่เดียวกัน
ลู่หานรับรู้ว่าชนกับใครสักคน รับรู้ถึงเเผ่นอกกว้างที่เนบชิดกับตัวของเขาสัมผัสถึงร่างกายที่ใกล้ชิด เเละความใกล้ชิดนี้ทำให้แก้มเนียนขาวผ่องกลายเป็นสีเเดงเห่ออย่างคนที่ใกล้ชิดต้องกระตุกยิ้มมุมปาก
"ผิดคนเเล้วลู่หาน"
"อ๊ะ!"
ลู่หานถึงกับสะดุ้งสุดตัวกับเสียงที่กระซิบชิดริมหู ลู่หารีบแกะผ้าที่ปิดตาออกเเล้วมองคนที่มากระซิบและทำให้เขาเเก้มร้อนขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล เเต่พอแกะผ้าออกมาลู่หานก็อยากจะมุดดินหนีเมื่อคนที่อยู่ตรงหน้าลู่หานเป็นคนที่ไม่ควรเข้าใกล้ ก็ทำไมน่ะหรอ..
ก็เพราะสายตาดุๆแบบนั้นน่ะสิมันทำให้เขา..ใจเต้นขึ้นมาเสียดื้อๆ
"ระ..รุ่นพี่ ขอโทษนะฮะ" เขาได้เเต่พูดเสียงเบาก้มหน้าชิดอก ลู่หานที่หันไปทางเพื่อนรัก ก็เห็นคยองซูที่ทำหน้าเจื่อนแล้วกวักมือให้ลู่หานไปหา ลู่หานมองหาคนที่ีเล่นเกมส์กับเขาเเต่ก็เข้าที่นั่งกันไปแล้ว ลู่หานจึงรีบวิ่งไปหาคยองซูและแบคฮยอนอย่างไม่คิดชีวิต
"เอ่อ สงสัยประธานนักศึกษาอยากจะเข้าร่วมนะครับ ฮ่าๆ" รุ่นพี่ปีสามที่อ้วนท้วนสมบูรณ์ พูดขึ้นมาทำให้บรรยากาศน่าตรึงเครียดลดลง
"อืม แค่ลองสักเกมส์" เสียงทุ้มที่ติดสนุกเอ่ยออกมาทำให้หลายคนนึกแปลกใจที่ปีนี้ประธานนักศึกษา ลงทุนมารับน้องด้วยตัวเองถึงจะอยู่ดีๆก็เดินมาขวางทางน้องปีหนึ่งคณะนิเทศน์ก็เถอะ
รุ่นพี่ปีสามคนหนึ่งเดินมาเอาขวดน้ำให้คริสพร้อมกับรอยยิ้มหวานที่ใครๆก็มองว่ามันสดใส ยกเว้นคริสที่มองเพียงน้ำเเล้วรับมาอย่างไม่สนใจ ในตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าคริสคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ในใจ เเต่สายตาคมที่ทำเป็นมองกิจกรรมรวมๆ แต่ถ้าใครที่สังเกตดีๆสายตาคมมองเพียงร่างบางที่ร่วมทำกิจกรรมอย่างสนุกสนาน เเล้วพวงแก้มใสมักจะขึ้นสีชมพูระเรื่อเมื่อสายตาทั้งสองหยุดที่เดียวกัน
---------------------------------------------
ความเหนื่อยล้าของกิจกรรมรับน้องทั้งวัน ทำให้นักศึกษาแต่ละคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้านเช่นเดียวกับร่างบางเจ้าของใบหน้าหวานทั้งสามคน ลู่หานเเละเเบคฮยอนหัวเราะคิกคักกับความขี้ลืมคยองซูที่ตอนนี้วิ่งเเล่นขอตัวกลับบ้านไปก่อนแล้ว
"ลู่หาน วันนี้กลับบ้านเองได้ใช่มั้ย เเบคไม่ได้เอารถมาอะ"
"ไม่เป็นไรหรอกเเบคฮยอน เดี๋ยวเราเดินกลับเองบ้านอยู่เเค่นี้เอง" ก็จริงนี่บ้านเขาก็ไม่ได้ไกลจากมหาวิทยาลัยสักหน่อยแค่300เมตรเอง ไม่เหมือนตอนอยู่โรงเรียนกับเพื่อนรักของเขาทั้งสอง ที่ระยะทางมันไกลพอสมควรเลยต้องพึ่งให้เเบคฮยอนเเละคยองซูมาส่งอยู่เรื่อย ลู่หานมีรถเป็นของตัวเองที่พ่อซื้อให้ของขวัญ เเต่เขาไม่กล้าขับนี่สิ..
"งั้นเราไปก่อนนะ นัดพี่ซูโฮไว้อ่ะ"
"โอเค บายนะเเบคฮยอน" ลู่หานโบกมือลาเเบคฮยอน ตอนนี้คนในมหาวิทยาลัยเริ่มไม่ค่อยมีคนเเล้วเเต่ลู่หานรู้สึกว่ายังอยากนั่งเงียบๆอยู่คนเดียวสักพัก
ลู่หานเลือกที่จะเดินไปนั่งที่โต๊ะเเถวๆลานจอดรถหลังมหาวิทยาลัย มือล้วงเข้าไปในกระเป๋าเพื่อที่จะเอาไอพอดมาฟังเพลง ลู่หานใส่หูฟังเเล้วเปิดเพลงที่ตัวเองชอบ ยามนี้ใบหน้าสวยหลับตาพริ้มพร้อมกับยิ้มมุมปากลมเย็นพัดเบาๆยิ่งทำให้เขารู้สึกดี เเต่เเล้วเขาก็รู้สึกแปลกๆ เมื่อเขารู้สึกว่าเหมือนมีคนมายืนอยู่ข้างหลังลู่หานจึงค่อยๆหันหลังไปมอง
เฮือกกก!!
"หึ ทำอย่างกับเห็นผี"
เสียงทุ้มของคริสดังขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะในลำคอ เเต่ตอนนี้ร่างบางชะงักอย่างเห็นได้ชัดที่ใบหน้าคมคายที่เขาเห็นมักนิ่งเเละเย็นชา เเต่ตอนนี้ใบหน้าคมคายมีรอยยิ้มบางเบาพร้อมกับส่ายหัวไปมากับอาการตกใจของลู่หาน
มีใครเคยบอกมั้ยฮะว่ารุ่นพี่ยิ้มเเบบนี้เเล้วมันอบอุ่นมากเเค่ไหน
"ไปขึ้นรถ" ชายหนุ่มที่เริ่มรู้ตัวก็กลับมามีใบหน้าที่นิ่งตามเดิม คริสไม่ต้องการให้ใครได้เห็นรอยยิ้มที่มันได้หมดไปตั้งเเต่เเต่ชีวิตของเขาโดนบังคับจากพ่อผู้ให้กำเนิด ลู่หานที่ตกอยู่ในห้วงความคิดก็ได้เเต่พยักหน้าลงหงึกหงัก เเต่พอตั้งสติได้ลู่หานก็เบิกตากว้างอย่างตื่นตกใจ
"หะ..ห๊า" ลู่หานที่สะบัดหน้าไปมาที่คิดว่าตัวเองหูฝาดไปเเน่ๆ เเต่ประโยคที่ดังขึ้นมาอีกครั้งทำให้ลู่หานรับรู้เลยว่าเขาไม่ได้หูฝาด
"ฉันไม่ชอบพูดอะไรหลายครั้ง" ว่าจบร่างสูงก็เดินไปที่รถคันสีดำคู่ใจ
"เดี๋ยวสิฮะรุ่นพี่" ลู่หานที่ได้เเต่อ้าปากพะงาบๆ มองร่างสูงที่เดินไปที่รถเเล้วเเละเพียงไม่นานรถคันหรูก็ขับมาจอดตรงหน้าเขา กระจกรถที่ติดฟิมล์สีดำสนิทเลื่อนลงมาทำให้เห็นสายตาเด็ดขาด ที่ทำให้รู้เลยว่าถ้าเขาขัดขืนรับรองลู่หานตายอย่างน้องกบที่เเบนติดถนนเเน่
"คะ..คือ ผมไม่อยากรบกะ.."
"หรืออยากให้ฉันอุ้ม"
"ไม่นะฮะ!!" ลู่หานที่ปฏิเสธอย่างรวดเร็วก่อนจะตัดสินใจสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เเล้วเปิดประตูรถเข้าไปนั่งอย่างตัวเกร็งสุดขีด คริสเห็นท่าทางอย่างนั้นก็แอบขำในใจ มันเป็นท่าทางที่เขาคิดว่า..
มันน่ารักน้อยเสียเมื่อไหร่ล่ะ
"ลู่หาน วันนี้กลับบ้านเองได้ใช่มั้ย เเบคไม่ได้เอารถมาอะ"
"ไม่เป็นไรหรอกเเบคฮยอน เดี๋ยวเราเดินกลับเองบ้านอยู่เเค่นี้เอง" ก็จริงนี่บ้านเขาก็ไม่ได้ไกลจากมหาวิทยาลัยสักหน่อยแค่300เมตรเอง ไม่เหมือนตอนอยู่โรงเรียนกับเพื่อนรักของเขาทั้งสอง ที่ระยะทางมันไกลพอสมควรเลยต้องพึ่งให้เเบคฮยอนเเละคยองซูมาส่งอยู่เรื่อย ลู่หานมีรถเป็นของตัวเองที่พ่อซื้อให้ของขวัญ เเต่เขาไม่กล้าขับนี่สิ..
"งั้นเราไปก่อนนะ นัดพี่ซูโฮไว้อ่ะ"
"โอเค บายนะเเบคฮยอน" ลู่หานโบกมือลาเเบคฮยอน ตอนนี้คนในมหาวิทยาลัยเริ่มไม่ค่อยมีคนเเล้วเเต่ลู่หานรู้สึกว่ายังอยากนั่งเงียบๆอยู่คนเดียวสักพัก
ลู่หานเลือกที่จะเดินไปนั่งที่โต๊ะเเถวๆลานจอดรถหลังมหาวิทยาลัย มือล้วงเข้าไปในกระเป๋าเพื่อที่จะเอาไอพอดมาฟังเพลง ลู่หานใส่หูฟังเเล้วเปิดเพลงที่ตัวเองชอบ ยามนี้ใบหน้าสวยหลับตาพริ้มพร้อมกับยิ้มมุมปากลมเย็นพัดเบาๆยิ่งทำให้เขารู้สึกดี เเต่เเล้วเขาก็รู้สึกแปลกๆ เมื่อเขารู้สึกว่าเหมือนมีคนมายืนอยู่ข้างหลังลู่หานจึงค่อยๆหันหลังไปมอง
เฮือกกก!!
"หึ ทำอย่างกับเห็นผี"
เสียงทุ้มของคริสดังขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะในลำคอ เเต่ตอนนี้ร่างบางชะงักอย่างเห็นได้ชัดที่ใบหน้าคมคายที่เขาเห็นมักนิ่งเเละเย็นชา เเต่ตอนนี้ใบหน้าคมคายมีรอยยิ้มบางเบาพร้อมกับส่ายหัวไปมากับอาการตกใจของลู่หาน
มีใครเคยบอกมั้ยฮะว่ารุ่นพี่ยิ้มเเบบนี้เเล้วมันอบอุ่นมากเเค่ไหน
"ไปขึ้นรถ" ชายหนุ่มที่เริ่มรู้ตัวก็กลับมามีใบหน้าที่นิ่งตามเดิม คริสไม่ต้องการให้ใครได้เห็นรอยยิ้มที่มันได้หมดไปตั้งเเต่เเต่ชีวิตของเขาโดนบังคับจากพ่อผู้ให้กำเนิด ลู่หานที่ตกอยู่ในห้วงความคิดก็ได้เเต่พยักหน้าลงหงึกหงัก เเต่พอตั้งสติได้ลู่หานก็เบิกตากว้างอย่างตื่นตกใจ
"หะ..ห๊า" ลู่หานที่สะบัดหน้าไปมาที่คิดว่าตัวเองหูฝาดไปเเน่ๆ เเต่ประโยคที่ดังขึ้นมาอีกครั้งทำให้ลู่หานรับรู้เลยว่าเขาไม่ได้หูฝาด
"ฉันไม่ชอบพูดอะไรหลายครั้ง" ว่าจบร่างสูงก็เดินไปที่รถคันสีดำคู่ใจ
"เดี๋ยวสิฮะรุ่นพี่" ลู่หานที่ได้เเต่อ้าปากพะงาบๆ มองร่างสูงที่เดินไปที่รถเเล้วเเละเพียงไม่นานรถคันหรูก็ขับมาจอดตรงหน้าเขา กระจกรถที่ติดฟิมล์สีดำสนิทเลื่อนลงมาทำให้เห็นสายตาเด็ดขาด ที่ทำให้รู้เลยว่าถ้าเขาขัดขืนรับรองลู่หานตายอย่างน้องกบที่เเบนติดถนนเเน่
"คะ..คือ ผมไม่อยากรบกะ.."
"หรืออยากให้ฉันอุ้ม"
"ไม่นะฮะ!!" ลู่หานที่ปฏิเสธอย่างรวดเร็วก่อนจะตัดสินใจสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เเล้วเปิดประตูรถเข้าไปนั่งอย่างตัวเกร็งสุดขีด คริสเห็นท่าทางอย่างนั้นก็แอบขำในใจ มันเป็นท่าทางที่เขาคิดว่า..
มันน่ารักน้อยเสียเมื่อไหร่ล่ะ
-------------------------------------------
ภายในรถคันหรูที่เงียบสนิทไม่มีเเม้เเต่เสียงเพลง ฟังดีๆก็มีเพียงเสียงลมหายใจของกันเเละกัน ลู่หานที่เลือกจะปัดความเกร็ง โดยการหันมองออกไปทางหน้าต่างเเล้วก็ต้องสงสัยในเมื่อทางที่รุ่นพี่ใช้เส้นทางที่เขาเดินมามหาวิทยาลัยในตอนเช้า ซึ่งถนนเส้นนี้ถ้าไม่ใช่คนในหมู่บ้านของเขาก็จะไม่รู้ว่ามีถนนเส้นนี้อยู่
"ระ..รุ่นพี่.."
"ใช้ทางนี้มาได้ยังไง"
"เอ๋? ทำไมล่ะฮะ" ลู่หานที่กำลังจะถามคำถามก็มีเสียงทุ้มเอ่ยเเทรกขึ้นมา เเต่คำถามของอีกคนทำให้ลู่หานสงสัย
"มันเปลี่ยวเเค่ไหนนายไม่เห็นหรอ" ลู่หานที่รู้คำตอบก็ค่อยๆหันไปมองทางข้างหลังที่ตอนนี้พระอาทิตย์เริ่มตกดิน ทำให้ท้องฟ้าเริ่มมืดลง ลมภายนอกเกิดขึ้นทำให้ต้นไม้เสียดสีกันอย่างน่ากลัว
อึ๋ยยย อย่างกับหนังผีเลย
ลู่หานที่ตอนนี้ลูบเเขนตัวเองไปมา ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่าทางที่เขาเดินมาตอนเช้าตอนเย็นมันจะน่ากลัวเเล้วก็เปลี่ยวขนาดนี้ ตอนเช้าอากาศก็ดีดอกไม้ก็สวยเเถมยังมีนกตัวเล็กๆให้มองเพลินอีกต่างหาก ตอนนี้รถคันสีดำเเล่นมาจอดที่หน้าบ้านของลู่หาน ดวงตาคมกริบหันไปมองร่างบางที่กอดตัวเองโดยไม่รู้ตัวว่าถึงบ้านเเล้ว
"กลัวก็ไม่ต้องไปทางนั้นอีก" ลู่หานที่หันหน้าขวับไปมองต้นเสียงเเล้วได้เเต่หัวเราะเเห้งๆ
"อ๊ะ ถึงบ้านเเล้วนี่นา ขอบคุณนะฮะที่มาส่ง"
"ไม่กลัวฉันเเล้วหรือไง"
ตึกตัก ตึกตัก
ใช่..ลู่หานลืมไปเลย ว่าคนที่มาส่งเขาตอนนี้คือคนที่ควรออกห่างเพื่อความปลอดภัยกับอาการหัวใจที่เต้นเเรงจนน่ากลัว ตอนนี้ลู่หานอยากรู้จริงๆว่าอาการเเบบนี้มันเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบรึเปล่าดวงตาหวานจึงเลือกที่จะหันไปสายตากับดวงตาคม
กึก
ตอนนี้ดวงตาหวานกำลังจ้องมองเขาอยู่ คริสไม่รู้ว่าตอนนี้ร่างบางต้องการจะสื่ออะไรเเต่ใบหน้าสวยหวานที่เขาเห็นครั้งเเรกก็ทำเอาคนที่ไม่สนใจใคร ต้องเรียกจงแดมาค้นหาประวัติอย่างละเอียดของร่างบางตรงหน้า ใบหน้าน่ารักรับกับริมฝีปากน่าสัมผัสของร่างบางที่ชวนหลงใหล ทำให้ริมฝีปากได้รูปเลื่อนเข้าไปใกล้ เเต่เเล้ว..
ก้อกๆๆ
"ระ..รุ่นพี่.."
"ใช้ทางนี้มาได้ยังไง"
"เอ๋? ทำไมล่ะฮะ" ลู่หานที่กำลังจะถามคำถามก็มีเสียงทุ้มเอ่ยเเทรกขึ้นมา เเต่คำถามของอีกคนทำให้ลู่หานสงสัย
"มันเปลี่ยวเเค่ไหนนายไม่เห็นหรอ" ลู่หานที่รู้คำตอบก็ค่อยๆหันไปมองทางข้างหลังที่ตอนนี้พระอาทิตย์เริ่มตกดิน ทำให้ท้องฟ้าเริ่มมืดลง ลมภายนอกเกิดขึ้นทำให้ต้นไม้เสียดสีกันอย่างน่ากลัว
อึ๋ยยย อย่างกับหนังผีเลย
ลู่หานที่ตอนนี้ลูบเเขนตัวเองไปมา ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่าทางที่เขาเดินมาตอนเช้าตอนเย็นมันจะน่ากลัวเเล้วก็เปลี่ยวขนาดนี้ ตอนเช้าอากาศก็ดีดอกไม้ก็สวยเเถมยังมีนกตัวเล็กๆให้มองเพลินอีกต่างหาก ตอนนี้รถคันสีดำเเล่นมาจอดที่หน้าบ้านของลู่หาน ดวงตาคมกริบหันไปมองร่างบางที่กอดตัวเองโดยไม่รู้ตัวว่าถึงบ้านเเล้ว
"กลัวก็ไม่ต้องไปทางนั้นอีก" ลู่หานที่หันหน้าขวับไปมองต้นเสียงเเล้วได้เเต่หัวเราะเเห้งๆ
"อ๊ะ ถึงบ้านเเล้วนี่นา ขอบคุณนะฮะที่มาส่ง"
"ไม่กลัวฉันเเล้วหรือไง"
ตึกตัก ตึกตัก
ใช่..ลู่หานลืมไปเลย ว่าคนที่มาส่งเขาตอนนี้คือคนที่ควรออกห่างเพื่อความปลอดภัยกับอาการหัวใจที่เต้นเเรงจนน่ากลัว ตอนนี้ลู่หานอยากรู้จริงๆว่าอาการเเบบนี้มันเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบรึเปล่าดวงตาหวานจึงเลือกที่จะหันไปสายตากับดวงตาคม
กึก
ตอนนี้ดวงตาหวานกำลังจ้องมองเขาอยู่ คริสไม่รู้ว่าตอนนี้ร่างบางต้องการจะสื่ออะไรเเต่ใบหน้าสวยหวานที่เขาเห็นครั้งเเรกก็ทำเอาคนที่ไม่สนใจใคร ต้องเรียกจงแดมาค้นหาประวัติอย่างละเอียดของร่างบางตรงหน้า ใบหน้าน่ารักรับกับริมฝีปากน่าสัมผัสของร่างบางที่ชวนหลงใหล ทำให้ริมฝีปากได้รูปเลื่อนเข้าไปใกล้ เเต่เเล้ว..
ก้อกๆๆ
-------------------------------------------------
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น