คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Os. UnTouchable [01] (namjoon x yoongi)
Os. UnTouchable [01] (namjoon x yoongi)
ถ้าความรักคือสิ่งต้องห้ามสำหรับใครหลายๆคน
การสัมผัสกับสิ่งต่างๆก็คงจะเป็นสิ่งต้องห้าม...ไม่ซิมันคือคำสาปสำหรับผมตังหาก
ในยามคำคืนที่แสงสีจากสิ่งยั่วยุต่างๆกำลังสาดส่องผู้คนที่เดินขวักไขวกันอยู่เต็มท้องถนนมีคนๆนึงได้แต่ทำหน้าเบื่อหนายอยู่เพียงลำพัง คิมนัมจุนผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งกำลังนั่งปรายตามองผู้คนด้วยสายตาว่างเปล่าจากขอบหน้าต่างของบ้านพักแห่งหนึ่งของเขาในย่านใจกลางเมือง เด็กชายที่อายุน่าจะราวๆ20ปีคนนี้กำลังนั่งมองดูผู้คนที่กำลังพลุกพล่านอยู่เบื่องล้างด้วยสายตาที่เหม่อลอยถึงเขาจะดูเหมือนเด็กอายุ20เพียงใดแต่ใครเล่าจะรู้ว่าจริงๆแล้วคิมนัมจุนคนนี้หน่ะอายุหลายร้อยปีแล้วตังหาก
"ถึงเราจะดูเหมือนมนุษย์เพียงใดแต่เราก็ไม่ใช่มนุษย์ เฮ้ออออ ชีวิตนิรันด์มันช่างน่าเบื่อดีแท้"
นัมจุนละสายตาจากผู้คนแล้วทอดสายตามองตามร่างกายตัวเองก่อนจะโอดควรออกมาเหมือนเดิมซ้ำๆเป็นครั้งที่ล้าน ใช่เขาไม่ใช่มนุษย์เขาคือแวมไพร์ผู้ถูกสาปให้มีชีวิตที่เป็นนิรันด์ตอนแรกมันก็สนุกดีสำหรับเขาแต่ตอนนี้มันช่างน่าเบื่อเสียจริงๆ นัมจุนลุกออกจากขอบหน้าต่างและเตรียมตัวที่จะออกไปหาอะไรใส่ท้องเสียหน่อย เขาก็เหมือนแวมไพร์ทั่วไปที่ต้องกินเลือดเพื่อลดความหิวกระหายแต่วิธีการกินของเขาอาจจะแปลกประหลาดกว่าแวมไพร์ปกติไปเสียหน่อยก็ตรงที่ว่าเขาไม่สามารถสัมผัสหรือแตะต้องเหยื่อของตัวเองได้เลยแม้แต่น้อยเพราะถ้าเขาสัมผัสถูกตัวเหยื่อคนไหนคนๆนั้นก็จะตายทันทีและเขาก็ไม่สามารถกินเลือดของคนที่ตายด้วยน้ำมือเขาได้ เพราะงั้นเวลาที่เขาจะออกไปข้างก็มักจะสวมถุงมืออยู่เสมอเพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่คั่นกลางระหว่างมือเขากับสิ่งต่างๆและก็เป็นสิ่งเดียวที่ช่วยซ่อนเร้นความลับของเขาเอาไว้ด้วย
"วันนี้ขอเจอสาวๆหน่อยเถอะ เบื่อเลือดผู้ชายจะแย่แล้ว"
นัมจุนพูดออกมาลอยๆอยู่คนเดียวก่อนจะเดินไปหยิบถุงมือกับเสื้อโค้ดมาสวมใส่แล้วเริ่มออกล่าเหยื่อทันที ในยามคำคืนที่แสงสีเสียงสาดส่องแบบนี้มันง่ายต่อการหาอาหารเสียจริงๆ นัมจุนเป็นแวมไพร์ประเภทไม่กินเลือดเหยื่อจนตายแต่จะชอบชิมๆเสียมากกว่าถ้าคนไหนไม่ถูกใจเขาก็จะปล่อยไปพร้อมกับลบความทรงจำ คนที่เกิดมาพร้อมกับคำสาปแบบเขาก็มีความสามารถหลายอย่างแบบที่แวมไพร์คนอื่นไม่มีก็คือ การลบความทรงจำ
"หนุ่มน้อยยย มาคนเดียวหรอจ๊ะสนใจไปต่อกับพี่สาวไหม"
"ก็ไปซิครับ"
นัมจุนยิ้มหวานให้กับเหยื่อสาวตรงหน้าพร้อมทั้งเดินเข้าไปโอบรอบเอวก่อนจะฉวยโอกาสแอบดมซอกคอขาวๆเพื่อสูดดมกลิ่นก่อนจะลองลิ้มชิมเลือดก่อนเล็กน้อยและพาหล่อนเดินเข้าไปยังซอกตึกข้างๆก่อนจะใช้ผละกำลังที่มีมากมายกว่ามนุษย์ธรรมดาทั่วไปผลักเจ้าหล่อนจนติดกำแพง
"อ๊ะ! แหม่เป็นวัยรุ่นใจร้องจังเลยนะสุดหล่อไม่รอให้ถึงห้องก่อนหรอเรายังมีเวลากันอีกทั้งคืน"
"ขอโทษทีครับแต่พอดีว่าผมอยากกิน(เลือด)พี่สาวแล้ว"
นัมจุนยกยิ้มร้ายใส่เจ้าหล่อนก่อนจะพุ่งเป้าเอาไปที่ซอกคอขาวๆนั่นทันทีและสูดดมกลิ่นเลือดให้พอเป็นพิธีก่อนจะฝังเขี้ยวลงไปจนจมมิดหายไปกับซอกคอนั้น ความเจ็บปวดจากการโดนฝังเขี้ยวทำให้เจ้าหล่อนดิ้นอย่างทุรนทุรายแต่ก็มิอาจหลุดพ้นจากคมเขี้ยวร้ายนี้ได้ เมื่อดื่มเลือดจนอิ่มแล้วแวมไพร์หนุ่มผู้รักสันโดดอย่างคิมนัมจุนก็ปล่อยเหยื่อทิ้งลงพื้นอย่างไม่ใยดีพร้อมทั้งลอบเลียมุมปากของตัวเองก่อนจะย่อตัวลงนั่งยองๆตรงหน้าเหยื่อที่บัดนี้ได้หมดสติไปแล้ว
"เลือดของเธอก็ใช้ได้อยู่นะแต่ว่ามันยังไม่ค่อยจะอร่อยเสียเท่าไหร่"
ปากก็บ่นว่าถึงเลือดที่พึ่งได้ลิ้มลองเข้าไปแต่มือทั้งสองข้างก็เอื้อมไปวางอยู่ที่ศรีษะของเจ้าหล่อนแล้วกำลังเริ่มทำการลบความทรงจำโดยการลบความทรงจำของเขานั้นไม่มีขีดจำกัดเขาสามารถลบความทรงจำทั้งหมดตั้งแต่เกิดของเธอยังได้แต่เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะทำแบบนั้นไปทำไมเอาเป็นว่าลบแค่ตอนช่วงที่หล่อนมาเจอเขาก็พอ
"เฮ้อออ อิ่มแล้วกลับบ้านไปอ่านหนังสือต่อดีกว่า"
นัมจุนลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูงพร้อมทั้งปัดกางเกงที่เปื้อนอยู่สองสามทีก่อนจะก้าวเดินออกไปจากบริเวณซอกตึกนั่น เขามักจะเป็นแบบนี้เสมอเขาจะกินแค่พออิ่มและจะไม่ล่าเหยื่อพร่ำเพื่อเหมือนพวกแวมไพร์ทางฝั่งตะวันตกเขาชอบอยู่เงียบๆคนเดียวท่องเที่ยวมันไปเรื่อยๆและไม่อยากให้ใครรับรู้ถึงตัวตนของเขาและมันก็มักจะมีบางครั้งที่เขาเกิดนึกสนุกอยากใช้ชีวิตแบบมนุษย์อย่างเช่นในรอบปีนี้เขาลงเรียนเหมือนมนุษย์มีเพื่อนบ้างเล็กน้อยมันก็แก้เบื่อได้ดี แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวออกจากซอกตึกดีจมูกเจ้ากรรมก็ดันได้กินเลือดหอมๆลอยมาเตะจมูกเข้าอย่างจังจนได้
ฟุดฟิด! ฟุดฟิด!
"หอมมมม เลือดใครหอมจัง"
พอได้กลิ่นเลือดที่หอมขนาดนั้นสัญชาตญาณแวมไพร์ของนัมจุนก็ถูกปลุกขึ้นมาทันที เขาใช้ความไวของเขาในการเคลื่อนไปหาเจ้าของเลือดที่ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนใจเขาเสียเหลือเกิน และสัญชาตญาณนักล่าของเขาก็ได้นำพาเขามาพบกับผู้ชาย หรือผู้หญิงก็ไม่รู้ รูปร่างผอมบางตัวกระจิ๊ดริดแถมผิวยังขาวยั่วน้ำลายเขาอีกเสียแต่ว่าเนื้อตัวมอมแมมไปหน่อยแถมยังมานอนอยู่ข้างเพิงรกๆหลังซอกตึกที่แสนสกปรกนี่อีก 'ตายรึยังวะเนี่ย' ความคิดแวบนึงในหัวทำให้คนตัวสูงต้องนั่งยองๆตรงหน้าคนตัวเล็กก่อนจะเอื้อมมือเข้าไปหมายจะสัมผัสตัวดูแต่ก็ต้องหยุดชะงักค้างมือไว้กลางอากาศถึงเขาจะมั่นใจว่าถุงมือมันจะทำให้เขาสัมผัสสิ่งต่างๆได้แต่กับคนตรงหน้านี้เขากลับไม่มันใจเอาเสียเลยถ้าจะให้เอื้อมมือออกไปสัมผัสอาหารกลิ่นหอมหวานแบบนี้เขากลัวว่ามันจะแตกสะลายไปเสียก่อน
"นะ...นาย จะทำอะไรฉันเนี่ย"
เสียงแหบๆห้าวๆของคนตรงหน้าร้องทักขึ้นทำให้เขาได้สติและหลุดออกจากภวังความคิดของตัวเอง นัมจุนเพ่งมองคนตรงหน้าดีๆแล้วก็ต้องตะลึงเพราะหน้าหวานๆของผู้ชายตรงหน้าเขามันหวานมากหวานจนเขาละสายตาไม่ได้เลยซักนิดเดียว 'มันน่าพากลับบ้านเสียจริงๆ' ความคิดในหัวของคนเจ้าเล่ห์เริ่มฉายแววออกมาทางสายตาทำให้อีกคนที่มองร่างสูงอยู่ก่อนแล้วกลับกลัวเขามาขึ้นไปอีก
"ป่าวนิ ก็แค่ดูว่าตายหรือยัง"
"ไอบ้า ไอปากเสียใครตายกัน"
"ฮึ ไม่ตายก็ไม่ตายทำไมต้องมาขู่เป็นลูกแมวด้วย"
"อะ...ไอ้บ้านิ"
คนตัวเล็กที่อยู่ตรงหน้าเขากำลังทำหน้าโมโหเขาเต็มที่แถมยังขู่เขาฟ่อๆเหมือนลูกแมวอีกตังหาก 'ฮึ ลูกแมวน่ารักน่าเลี้ยงขนาดนี้ใครจะไปกลัววะ'
"แล้วทำไมมานอนอยู่ตรงนี้ ไม่กลับบ้านกลับช่องมันดึกแล้วนะ"
"เรื่องของฉัน...ถึงอยากกลับก็ไม่มีบ้านให้กลับอยู่ดี"
ประโยคแรกที่จงใจพูดเสียงดังกระแทกหน้าคนตัวสูงด้วยความรำคาณแต่ประโยคหลังกลับแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบในหัวของตัวเองแต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรสำหรับคิมนัมจุนคนนี้เพราะว่าแวมไพร์อย่างเขานอกเสียจากจะจมูกดีแล้วหูเขาก็ยังดีอีกต่างหากต่อให้คนตรงหน้าพูดเพียงลมออกจากปากเล็กๆนั่นเขาก็ได้ยิน
"ถ้าไม่มีบ้านงั้นไปอยู่ที่บ้านกับฉันไหมล่ะ"
"ห๊ะ! นายว่าอะไรนะ"
"ปะกลับบ้านกัน ฉันกำลังอยากเลี้ยงแมวพอดี"
#ชูก้าของซาตาน
-------------------------------------------------------------------------------------
และแล้วววก็คลอดเรื่องยาวของคู่นี้ซักทีจากทีลังเลอยู่นานว่าจะเขียนดีหรือไม่เขียนดี แนวเรื่องมันอาจจะแหวนแนวไปซักนิดแต่ก็พยายามที่จะเขียนให้ทุกคนอินไปกับมันนะคะ อ่านแล้วติชมกันได้น้า^^ แวะมาเล่นแทคหรือเม้าท์กับเราก็ได้เราเหงา 5555
ความคิดเห็น