คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Sf. ไม่มี SUGA X MONSTER
จะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี...
ภายในร้านกาแฟแห่งหนึ่งร่างสูงโปรงดูภูมิฐานกำลังนั่งจิบกาแฟดำเข้มอย่างอเมริกาโน่อยู่ในมุมอัพซักมุมของที่ร้าน
กาแฟดำแก้วโปรดของคนตัวเล็กที่ไม่ว่าจะไปร้านไหนก็มักจะสั่งประจำสั่งจนเขาจำได้และอยากจะลองชิมมันซักครั้งวันนี้เขาเลยตั้งใจสั่งมันบ้างแต่พอได้ลองดื่มลงไปแล้วอึกหนึ่งก็ค้นพบว่ามันไม่ใช่ทางของเขาเลยซักนิด
กาแฟแก้วนี้มันขมปี๋ขมเกินไปสำหรับเขา
ผู้ชายที่ชอบของหวานอย่างเขากินอะไรแบบนี้ไม่ได้จริงๆ
“ขมฉิบ
กินไปได้ไงวะเนี่ย”
กาแฟแก้วโปรดของคนตัวเล็กที่เขาดื่มไปได้แค่อึกหนึ่งก็ถูกวางไว้บนโต๊ะคืนที่เดิม
ทั้งความเย็นและความขมของมันยังคงติดอยู่ที่ปลายลิ้นของเขาอยู่เลย
คิมนัมจุนได้แต่นั่งมองแก้วกาแฟที่อยู่ตรงหน้าด้วยความเหม่อลอยวันนี้เขามีเรื่องสำคัญที่จะต้องคุยกับคนตัวเล็กให้รู้เรื่องอะไรๆใจในของเขามันจะได้ชัดเจนเสียที
แต่ยิ่งคิดไปถึงเรื่องที่จะคุยนัมจุนก็เริ่มรู้สึกมือเท้าเย็นเฉียบขึ้นมาทันที
ไม่แน่ใจเลยว่าความรู้สึกของตัวเองตอนนี้มันคือตื่นเต้นหรือว่ากลัวกันแน่
เมื่อสมองคิดอะไรไม่ออกคนตัวสูงก็ฉวยเอาแก้วกาแฟตรงหน้าขึ้นมาดื่มอึกใหญ่ไปอีกรอบนึง
อึกก!
“อ่า ขมชะมัด”
หลังจากนั่งคิดทบทวนอยู่ดีแล้ว
เสียงแจ้งเตือนจากแอพพลิเคชั่นยอดนิยมก็ดังขึ้นจากโทรศัพท์ของเขาหน้าจอปรากฏข้อความจากคนตัวเล็กที่เขากำลังนั่งรออย่างใจจดใจจ่ออยู่นานแสนนาน
ฮยองตัวน้อย : อีก 10 นาทีจะไปถึงนะ
ข้อความสั้นๆแต่ได้ใจความจากคนตัวเล็กที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอมันทำให้คนตัวสูงยกยิ้มขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
ถึงข้อความมันจะดูสั้นๆห้วนๆตามสไตล์ของคนตัวเล็กแล้วแต่เขาก็สัมผัสมันได้ถึงความรีบของคนตัวเล็กเพราะวันนี้มันเป็นวันหยุดของเขาแต่ไม่ใช่ของ
มินยุนกิ ยุนกิเข้าไปบริษัทไปเคลียงานตั้งแต่เช้าและโดยส่วนตัวแล้วนิสัยของคนตัวเล็กของเขาหน่ะมักจะชอบทำงานหามรุ่งหามค่ำงานไม่เสร็จไม่กลับห้องอยู่แล้ว
ขนาดวันนี้ที่เขานัดให้ออกมาทานเข้าเที่ยงด้วยกันยังบังคับขู่เข็ญแทบตายกว่าคนตัวเล็กจะยอมลุกออกจากเก้าอี้ทำงานเพื่อออกมาทานข้าวกับเขา
“รอนานไหม”
เสียงทุ้มต่ำของคนตัวเล็กตรงหน้าทำให้นัมจุนหลุดออกจากภวังค์ความคิดของตัวเอง
ผู้ชายตัวเล็กๆผิวขาวซีดที่ใส่เสื้อโค้ตตัวใหญ่กับผ้าพันคอที่พันเอาไว้ลวกๆจนดูเหมือนเป็นก้อนกลมๆอยู่ที่คอทำให้ร่างสูงหลุดหัวเราะออกมาเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วคลายปมผ้าพันคอออกให้
“ไม่นานหรอก
ว่าแต่รีบออกมาขนาดนั้นเลยหรอถึงได้พันผ้าพันคอแบบนี้”
“ใครรีบ
ไม่ได้รีบซักหน่อย”
“ฮึ”
คนตัวโตเอื้อมมือออกไปคลายปมผ้าพันคอแล้วถอดมันออกจากคอคนตัวเล็ก
ส่วนคนตัวเล็กก็ได้แต่แกล้งเฉไฉด้วยการมองออกไปทางด้านนอกหน้าต่างก่อนจะถือวิสาสะคว้าแก้วกาแฟตรงหน้าขึ้นมาดื่มซะอย่างนั้นพอกาแฟแก้วนั้นถูกกลืนลงคอไปคนตัวเล็กก็ถึงกับหยุดชะงักไปทันทีก่อนจะหันกลับมามองหน้าร่างสูงตรงหน้าเขาที่บัดนี้ได้แกล้งทำเนียนมองต้นไม้ต้นเล็กๆที่โต๊ะไปแล้ว
“นี่มันอเมริกาโน่
นาย...ไม่ดื่มไม่ใช่รึไง”
“สะ...สั่งผิดหน่ะ”
“อ๋อหรอออ
งั้นแก้วนี้ฉันขอแล้วกัน”
คนตัวเล็กยกยิ้มมุมปากให้กับอาการของคนตรงหน้านอกจากคิดนัมจุนคนนี้จะโกหกไม่เนียนแล้วเขาก็ยังชอบแสดงพิรุธออกมาอีกตังหากผู้ชายคนนี้ชอบของหวานเอามากๆขนาดกาแฟของโปรดของเขาก็ยังต้องเป็นคาราเมลมัคคิอาโต้
ที่มันหวานมากซึ่งต่างกับอเมริกาโน่ที่เขามักจะดื่มมันประจำอย่างสิ้นเชิง
ถึงจะไม่รู้ว่าคนตรงหน้าคิดอะไรอยู่แต่ชัวร์ว่าเขาไม่ได้สั่งผิดแน่ๆ
มินยุนกิเหล่มองคนตรงหน้าเล็กน้อยในขณะที่ยกกาแฟดื่มไปด้วยคิมนัมจุนยังคงไม่เงยหน้าขึ้นมาจากต้นไม้ต้นเล็กนั่นซักทีทั้งๆที่ตัวเองเป็นคนบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับเขาแท้ๆ
“นัมจุน”
“หะ...ห๊ะ ว่าไง”
“ตกลงนายเรียกให้ฉันออกมาทำไมเนี่ยรู้ไหมว่างานฉันกองเต็มโต๊ะขนาดไหน”
คนตัวเล็กเริ่มบ่นขึ้นมาอย่างหัวเสียเมื่อถูกร่างสูงเรียกออกมาแต่ไม่เห็นจะคุยเรื่องสำคัญที่ย้ำนักย้ำหนานั่นซักที
งานเขามันเยอะนะเว้ยถ้าแค่จะเรียกออกมานั่งมองหน้ากันเนี่ยไปมองกันที่บ้านก็ได้ไอบ้านัมจุน
นัมจุนเงยหน้าขึ้นมาจากต้นไม้ก่อนจะสะบัดหัวเรียกสติตัวเองให้กลับมาอยู่เข้าที่เข้าทางเพราะไอกาแฟแก้วนั้นแท้ๆที่ทำให้สติสตังที่เขาอุตสาห์รวบรวมมาตั้งนานตะเลิดหายไปในพริบตา
ก็ใครมันจะไปคิดกันหล่ะว่าคนตัวเล็กจะเขินจนยกแก้วกาแฟของเขาขึ้นมาดื่ม
“ฮยอง!”
“หืม?”
“เราก็อยู่ด้วยกันมานานแล้วนะครับ
8 ปีแล้วนะฮยอง”
ยุนกิเริ่มเงียบแล้ววางแก้วกาแฟลงก่อนจะตั้งใจฟังสิ่งที่นัมจุนจะบอก
ผู้ชายคนนี้ถึงจะดูแข็งกระด้างแต่จริงๆแล้วเขาหน่ะทั้งอ่อนโยนทั้งโรแมนติกแต่การที่อยู่ดีๆก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมานี่มันอะไรกันละเนี่ย
ร่างสูงเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กตรงหน้าตั้งใจฟังในสิ่งที่เข้าจะพูดเขาก็เริ่มสูดลมหายใจเข้าเพื่อเรียกความมั่นใจขึ้นมาอีกครั้งนึงเพราะเรื่องที่เขาจะพูดออกไปนี้มันต้องใช้ความกล้าและความมันใจมหาสารเขาไม่อยากจะค้างคาอยู่แบบนี้อีกแล้ว
“ฮยองมาอยู่กับผมไหม...อยู่ด้วยกันกับผม”
“ห๊ะ”
“ผมอยากเห็นฮยองอยู่ข้างๆในทุกๆวัน
อยากเห็นหน้าฮยองตอนตื่น อยากนั่งมองหน้าเวลาฮยองหลับ
อยากจะใช้ชีวิตในทุกๆวันต่อจากนี้ไปโดยมียุนกิฮยองอยู่เคียงข้าง”
“นายหมายความว่าไงคิมนัมจุน”
คนตัวเล็กที่กำลังจะยกแก้วกาแฟขึ้นมาดื่มถึงกับมือไม้อ่อนจนแก้วกาแฟในมือเล็กๆแทบจะร่วงหล่นลงสู่พื้นกระเบื้องแต่ดีที่ว่าดึงสติกลับมาทันไม่งั้นเขาคงได้จ่ายค่าเสียหายเรื่องแก้วกาแฟแตกแน่ๆ
ไอบ้าคิมนัมจุนมาพูดเรื่องบ้าอะไรเนี่ย
“มาอยู่เป็น Soulmate ของผมนะยุนกิ”
“นัมจุน นายยย”
“ถึงผมจะไม่มีแหวนสวยๆให้ใส่
ไม่มีงานแต่งเหมือนคนอื่น ไม่มีการ์ดอวยพรอะไรจากใคร แต่ผมมีใจ
ใจที่รักมันคงแต่ยุนกิแค่คนเดียว ผมมีให้แค่นี้ยุนกิจะมาอยู่กับผมไหม”
คำพูดไม่หวานแต่ถูกกลั่นออกมาจากใจของคิมนัมจุนทำเอาคนตัวเล็กตรงหน้าถึงกับอึ้งจนไปไม่เป็นไม่ชั่วขณะแต่ก็ยังไม่สติกลับมาเมื่อร่างสูงถามคำถามเดิมย้ำแล้วย้ำอีกให้เขาฟังมันอีกครั้ง
‘มาอยู่เป็น Soulmate ของผมนะยุนกิ’ ไอบ้าเอ้ยจะเอาให้จำคำนี้จนขึ้นสมองเลยรึไง
“ฮยองงงงง”
เสียงคนตัวโตเริ่มแผ่วลงจนคล้ายๆกับจะติดอ้อนนิดๆเมื่อไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบจากคนตัวเล็กตรงหน้าร่างสูงก็เริ่มใจแป้วไปเล็กน้อยนี่อย่าบอกนะว่าคิมนัมจุนคนนี้จะต้องนกอะ
ไม่เอานะเว้ยจะนกเรื่องไหนก็ได้แต่ไม่เอาเรื่องนี้
“ก็อยู่กันมาตั้งขนาดนี้แล้วยังจะต้องมาขออะไรแบบนี้อีกรึไงไอบ้านัมจุน”
“ฮยอง งั้นก็แปลว่า”
“อืม”
คนตัวเล็กครางตอบในลำคอก่อนจะก้มหน้าก้มตายกกาแฟแก้วโปรดขึ้นมาดื่มเพื่อกลบความเขินอายแต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่มิดเท่าไหร่เพราะว่าร่างสูงตรงหน้าหน่ะเอาแต่นั่งมองหน้าเขาแล้วก็ยิ้มเป็นคนบ้าอยู่ได้
รอยยิ้มที่เหมือนพระจันทร์เสี้ยวแบบนั้น อ่า รอยยิ้มที่เป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว
“อืมอะไรอ่ายุนกิ”
“อืมก็อืมไงไอบ้า”
“โหไม่เอาดิ
พูดออกมาให้มันมั่นใจเหมือนตอนเถียงกันหน่อยดิ”
ร่างสูงแกล้งยกยิ้มกวนๆส่งไปให้คนตรงหน้าพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆร่างเล็กที่กำลังปั่นหน้านิ่งตีหน้าตายที่แก้มทั้งสองข้างกลับแดงระเรื่อจนเขาอดใจไม่ไหวอยากจะจับมาฟัดเสียจริงๆแต่ยังก่อนอดเปรี้ยวไว้กินหวานดีกว่าขอได้ยินคำที่อยากได้ยินก่อนแล้วเขาสัญญาเลยว่าจะจัดหนักแน่ๆ
“ก็ตกลงไงไอบ้า
เอาหน้าออกไปห่างๆเลยนะเว้ย”
“ฮึ เรื่องอะไร”
ผ้าพันคอของคนตัวเล็กที่อยู่ในมือร่างสูงถูกหยิบขึ้นมาใช้เพื่อเป็นอาวุธในการรวบคนตัวเล็กให้เข้ามาอยู่ใกล้ๆ
ผ้าพันคอสีเข้มถูกเหวี่ยงพาดคอของคนตัวเล็กอย่างพอดิบพอดีก่อนที่คนตัวโตจะออกแรงดึงปลายผ้าพันคอผืนนั้นเพื่อให้คนตรงหน้าขยับใบหน้าเข้ามาใกล้ชิดกันก่อนจะบรรจงจูบเบาๆที่ริมฝีปากของคนตัวเล็กเพื่อเป็นการยืนยันว่าเรื่องทั้งหมดนี่คือเรื่องจริงหรือจะให้พูดง่ายๆกว่านั้นก็คือ
เขาหน่ะก็แค่อยากจะจูบคนตัวเล็กตรงหน้าก็เท่านั้นเอง....
“ตั้งแต่วันนี้ไปยุนกิหน่ะเป็นของผมแล้วนะ”
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เขียนเองเขินเองจะผีบ้าไปไหนนนน โอ๊ยๆๆๆ ในเมื่อเขาไม่บอกรักกันซักทีเราเลยมาเขียนเองแม่ม 555 คอมเม้นติชมกันได้ตามสะดวกนะภาษาอาจไม่สวยเท่าที่ควรแต่ก็เต็มที่แล้วนะ
ความคิดเห็น