ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SNSD] `` Can't Do Better '' [JeTi x SunSic][Yuri]

    ลำดับตอนที่ #2 : SHOT - 2

    • อัปเดตล่าสุด 28 พ.ย. 54


    SHOT 2







    สีเทา - อดีต

     




    เธอก็รู้ว่านังนั่นมันแอบชอบเธออยู่ แล้วเธอทำแบบนี้ทำไม!”


     

    เสียงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดดังลั่นไปทั่วห้องรับแขกในตัวบ้าน

    ใบหน้าของลี ซันนี่แดงก่ำไปด้วยโทสะ เธอกัดฟันและกำหมัดแน่น

    หญิงสาวกำลังโกรธอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนหลังจากที่แฟนสาวที่อยู่ตรงหน้าได้บอกอะไรบางอย่างกับเธอ


     

    ฉันกำลังคบอยู่กับทิฟฟานี่ เราเป็นแฟนกัน

     




    เธอไม่มีสิทธ์มาพูดแบบนี้กับฉัน...ซันนี่...

     

    เจสสิก้าว่าเสียงเรียบขณะที่ลากกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่มาไว้ข้างตัว

    นัยน์ตาสวยคมภายใต้แว่นกันแดดสบสายตากับแววตาเจ็บปวดไม่แพ้กันของอีกฝ่าย

    ถึงเวลาที่เธอจะออกจากบ้านที่เป็นอดีตรังรักของเราเสียที

     

    คนที่ไม่เคยสนใจความรู้สึกของฉันอย่างเธอ...ไม่มีสิทธิ์....

     


    ฉันไม่ใช่ฝ่ายที่ต้องทนรับความเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว

     

    .




    .



    อืม~”



    ทิฟฟานี่ครางเสียงหวานในลำคอขณะเอียงใบหน้าให้จูบของเธอกับเจสสิก้าดูดดื่มมากขึ้นกว่าเดิม

    ย้อนกลับไปเมื่อ5นาทีก่อนสาวหน้าหวานเดินเข้ามาในห้องทำงานของเจสสิก้าพร้อมกับเอกสารที่เตรียมมาให้อีกฝ่ายเซ็นต์

    แต่ในขณะที่กำลังบอกรายละเอียดงานต่างๆเธอก็โดนคนรักประเคนจูบที่แสนจะเร่าร้อนให้อย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

     

    ยิ่งอยู่ในที่ลับตาคนอย่างในห้องทำงานส่วนตัวแบบนี้ด้วยแล้ว...เจสสิก้าคงยิ่งไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆ...

     

    เป็นอะไรไปคะ?”

     

    ทิฟฟานี่เอ่ยถามคนรักท่ามกลางเสียงหอบหายใจของเธอทั้งคู่หลังจากผละออกมาจากอีกฝ่ายได้สำเร็จ

    ปกติเจสสิก้าจะไม่ค่อยแสดงออกถึงสถานะของเราซักเท่าไหร่...ยิ่งอยู่ในเวลางานแบบนี้แล้วด้วย

     

    ปลายนิ้วเกลี่ยริมฝีปากบางที่แดงช้ำจากแรงบดเบียดเมื่อครู่ของคนที่ยังหลับตาอยู่อย่างแผ่วเบา

    เจสสิก้าส่ายหน้าปฏิเสธก่อนจะยกยิ้มกับท่าทางแปลกใจของแฟนสาว

     

    เปล่าหรอก....ไม่ได้เป็นอะไร

     

    หญิงสาวตอบเสียงแผ่วพร้อมกับจับมือของอีกฝ่ายขึ้นมาแนบใบหน้าพร้อมกับถอนหายใจยาว

    หารู้ไม่ว่าท่าทางแบบนั้นทำให้ทิฟฟานี่คนนี้เป็นห่วงมากขึ้นยิ่งกว่าเก่า

     

    คุณดูเหนื่อยๆนะคะ เดี๋ยวฉันไปชงกาแฟมาให้ดีกว่า

     

    ว่าพลางจูงมือคนรักให้ไปนั่งรอที่โต๊ะทำงานไม้ตัวใหญ่ของเจ้าตัว

    แตะจูบเบาบางข้างขมับหวังให้เจสสิก้าได้ผ่อนคลาย...ถึงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังหนักใจเรื่องอะไรก็เถอะ

     



    เฮ้อ....


    เจสสิก้าถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อีกครั้งหลังจากที่ทิฟฟานี่เดินออกจากห้องไปแล้ว

    หญิงสาวฟุบหน้าลงกับโต๊ะทำงานอย่างคนหมดแรง

     

    เหนื่อย....เหนื่อยเหลือเกิน...

     

     

    ความรู้สึกผิดที่มีต่อทิฟฟานี่คับแน่นเต็มอกทำให้เธอไม่อยากจะรับรู้อะไรอีกต่อไปแล้ว

    ไม่อยากจะนึกถึงอะไรแต่ใบหน้าของคนที่อยู่กับเธอตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงรุ่งเช้าวันนี้ก็ผุดขึ้นมาในความคิด

    ใบหน้าของคนที่ทำให้เธอต้องทรมานใจอยู่ในตอนนี้...

     


    ลี ซันนี่ คนรักผู้หญิงคนแรกของเจสสิก้า จอง

     


    เธอยอมรับว่าที่เธอตกลงคบกับทิฟฟานี่เมื่อปีก่อนนั้นเพียงแค่ต้องการที่จะประชดซันนี่


    ประชดคนรักหลายใจที่ไม่เคยสนใจความรู้สึกของเธอ

     ไม่คิดว่าความคิดกับการกระทำเพียงแค่ชั่ววูบนั้นจะทำให้เธอตกหลุมรักทิฟฟานี่จริงๆ

     


    ทิฟฟานี่ที่ช่างเอาอกเอาใจ


    ทิฟฟานี่ที่คอยเทคแคร์เธออยู่เสมอ



    ทิฟฟานี่ที่ให้สิ่งที่เธอไม่เคยได้รับจากซันนี่...




     

    แต่ถึงยังไงเธอก็ยัง...






    แอ๊ด....

     


    เสียงประตูห้องที่เปิดออกนั้นทำให้เจสสิก้าที่กำลังจมอยู่ในความคิดของตัวเองนั่งยืดตัวตรงตามเดิม

    ก่อนจะเอ่ยทักแฟนสาวที่กลับเข้ามาเร็วกว่าที่คิดไว้โดยที่ยังไม่ทันจะลืมตาด้วยซ้ำ

     

    เร็วจังฟา.....นี่

     

    เสียงท้ายประโยคนั้นแผ่วเบาราวกับถูกกลืนหายไปในลำคอเมื่อเจสสิก้าลืมตาขึ้นมาและพบว่าคนที่ยืนอยู่ที่ประตูนั้น...

     

    ไม่ใช่ ทิฟฟานี่ แต่เป็น ซันนี่ คนที่เธอไม่อยากเจอมากที่สุดในตอนนี้และที่นี่...

     

    เลขาที่รักหน้าห้องไปไหนซะแล้วล่ะคะ? คุณผู้บริหาร

     

    ลี ซันนี่เอ่ยถามอย่างอารมณ์ดีแต่ก็ไม่ได้ทำให้เจสสิก้าอารมณ์ดีด้วยเลยซักนิด

    หญิงสาวตวัดสายตามองอีกฝ่ายอย่างไม่เป็นมิตร

     

    จริงสิ...ทิฟฟานี่ไปชงกาแฟให้เธอเลยคงยังไม่เห็นซันนี่ที่เดินเข้ามาเป็นแน่

     

    เธอมาที่นี่ได้ยังไง?”

    เจสสิก้าถามเสียงขุ่นสายตาก็ยังไม่ละออกจากคนที่ทิ้งตัวลงนั่งโซฟารับแขกที่ตั้งอยู่มุมห้องโดยที่ไม่ได้ขออนุญาต

     

     

    ทำไมจะมาไม่ได้ล่ะ ในเมื่อบริษัทเราก็เป็นหุ้นส่วนกันอยู่ลืมไปแล้วหรือไงคะ?”


    หญิงสาวร่างเล็กพูดด้วยน้ำเสียงยียวนก่อนจะนั่งไขว่ห้างกอดอกและเริ่มเล่นเกมจ้องตากับอีกฝ่าย

    คิ้วเรียวสวยของเจสสิก้ายิ่งขมวดเข้าหากันมากกว่าเดิมราวกับกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก

     

    ในหัวสมองตีกันไปหมด เธอควรจะทำยังไงกับซันนี่ก่อนที่ทิฟฟานี่จะเข้ามาดี...

     

    ออกไป...



    เจสสิก้าว่าเสียงต่ำขณะที่มือทั้งสองที่วางอยู่บนโต๊ะบีบเข้าหากันแน่น

    น่าแปลก...ทั้งที่เครื่องปรับอากาศในห้องก็กำลังทำงานอยู่แท้ๆแต่มือของเธอกลับชุ่มไปด้วยเหงื่อ

    หญิงสาวพยายามเรียกสติต่อสู้กับความรู้สึกกลัวที่ประดังประเดเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน


     

    เธอกำลังกลัวซันนี่...ไม่สิ...เธอกำลังกลัวตัวเอง


    กลัวว่าตัวเองจะพลาดพลั้งเสียท่าให้กับอีกฝ่ายเหมือนกับทุกๆครั้ง...


     


    ซันนี่เลิกคิ้วเล็กน้อยกับคำพูดของเจสสิก้าพร้อมกับกระตุกยิ้มอย่างที่ชอบทำ

    หญิงสาวจัดการวางกระเป๋าถือแบรนด์ดังบนโซฟาก่อนจะลุกออกและก้าวเดินไปหาอีกฝ่ายที่โต๊ะทำงาน


     

    ใจร้ายจัง เมื่อเช้าก็ทิ้งฉันไว้คนเดียว


    ทันทีที่เข้าถึงตัวของอีกฝ่ายซันนี่ก็คว้ามือที่ชื้นเหงื่อของเจ้าตัวมาจับไว้ทันที

    แต่เพียงแค่นั้นก็ทำให้เจสสิก้าถึงกับผงะราวกับหวาดกลัวสัมผัสของเธอเสียเต็มประดา


     

    ออกไป!”

     

    เจสสิก้าตวาดลั่นอีกครั้งก่อนที่จะต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังจะทำ

    ซันนี่ที่เท้าแขนข้างนึงอยู่กับพนักวางแขนส่วนมืออีกข้างที่ยังจับมือเธออยู่ก็ค่อยๆเคลื่อนสูงขึ้น

    ก่อนที่มันจะมาประทับอยู่ที่ก้อนเนื้อนุ่มบริเวณหน้าอกที่เจ้าตัวภูมิใจกับมันอยู่ไม่ใช่น้อย

     

    เมื่อไหร่จะยอมรับซักที...


    เอ่ยเสียงแผ่วพร้อมกับก้มตัวเข้าหาคนยังคงมีท่าทางขัดขืนแม้ว่าใบหน้าจะแดงก่ำ

    ขยับมือบางที่สั่นเทานาบสัมผัสกับหน้าอกของตัวเองให้แนบชิดมากยิ่งกว่าเดิม


     

    เธอเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจไม่ใช่หรือไง?”

     

    เสียงกระซิบชิดติดใบหูนั้นทำให้เจสสิก้ากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก

    หญิงสาวตัดสินใจหลับตาลงซะเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเห็นด้านในของเสื้อคอกว้างที่อีกฝ่ายจงใจก้มลงมา

    ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นเมื่อรู้สึกถึงเรียวนิ้วที่ลากไล้อยู่ตามโครงหน้า

    ก่อนที่มันจะลากผ่านเสื้อสูททำงานตัวนอกต่ำลงมาเรื่อยๆ...

     

     

    ไม่...

     

    ฝ่ายคนถูกกระทำทำได้เพียงร้องห้ามด้วยเสียงที่เบาจนแทบจะไม่ได้ยิน

    เจสสิก้านึกสมเพชตัวเองอย่างบอกไม่ถูกกับอิแค่เอ่ยห้ามคนตรงหน้าเธอยังทำไม่ได้

    เพียงแค่ได้กลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคยของอีกฝ่ายก็เหมือนกับเรี่ยวแรงมันถูกดูดไปเสียนี่...

     

    ลมหายใจของเริ่มติดขัดมากเรื่อยๆเมื่อลืมตาแล้วเห็นว่าอีกฝ่ายลงไปนั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้น

    ซันนี่ยอมปล่อยมือเธอแต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องดีเลยซักนิดในเมื่อตอนนี้อีกฝ่ายกำลังลากฝ่ามือทั้งสองไปมาบริเวณชายกระโปรงทำงานของเธอ


     

    เธอต้องการฉัน....

     


    ริมฝีปากร้อนจัดนั้นจูบซับผ่านถุงน่องเนื้อเนียนที่อีกฝ่ายสวมอยู่อย่างไม่รีบร้อน

    เจสสิก้าทำได้เพียงจับไหล่ลาดเล็กของอีกฝ่ายไว้แน่นขณะที่กัดฟันมองชายกระโปรงของตัวเองที่ถูกเลิกขึ้นสูงเรื่อยๆตามระดับริมฝีปากไล่แตะผิวเนื้อของตน

     


    หญิงสาวร่างเล็กยกยิ้มเมื่อพบกับรอยจูบสีเข้มตามบริเวณต้นขาด้านในที่เธอทำเอาไว้เมื่อคืนที่ยังคงปรากฏเด่นชัด

     


    ไม่มีใครทำได้ดีไปกว่าฉันอีกแล้ว...เจสสิก้า

     

    เอ่ยบอกพร้อมกับจูบซ้ำรอยเดิมขณะสบตากับคนที่เหมือนจะเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสกับเธอไปชั่วขณะ

    ก่อนที่ฝ่ามือทั้งสองจะลากขึ้นไปหยุดอยู่ที่ขอบชั้นในใต้กระโปรงให้เจสสิก้าหลุดออกจากภวังค์ด้วยความตกใจ

     


    อะอย่า!”

     




    ก๊อก ก๊อก ก๊อก


     

    หญิงสาวเจ้าของนัยน์ตาหวานยกมือขึ้นเคาะประตูในขณะที่มืออีกข้างก็คอยประคองถ้วยกาแฟไปด้วย

    เนื่องจากผงกาแฟในห้องพักพนักงานส่วนกลางหมดกะทันหันเธอก็เลยต้องเดินหาเมดประจำแผนกอยู่นานเพื่อที่จะขอมันเพิ่ม

    กว่าจะได้กาแฟแก้วนี้มาก็ใช้เวลาอยู่พอสมควร

     

    ไร้เสียงตอบรับใดๆจากภายในห้องแต่สำหรับทิฟฟานี่แล้วนั่นคือคำอนุญาตของเจสสิก้า

    เจสสิก้าเคยบอกให้เธอไม่ต้องเคาะประตูขออนุญาตอย่างที่คนอื่นเขาทำกันแต่เธอก็ยังทำอยู่ดี

    เพราะถึงจะเป็นคนรักกันแต่เธอก็ต้องให้เกียรติอีกฝ่ายที่มีศักดิ์เป็นถึงเจ้านายอยู่เสมอ

     

    กาแฟได้แล้วค่ะ

     

    ทิฟฟานี่เอ่ยบอกกับคนที่ยังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานหลังจากเดินเข้ามาในห้องทำงานของอีกฝ่ายเป็นที่เรียบร้อย

    และก็ต้องเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นคนรักยังคงก้มหน้าก้มตาทำอะไรบางอย่างอยู่ใต้โต๊ะ

     

    เจสสิก้า?”

     

    เอ่ยเรียกอีกครั้งให้เจ้าของชื่อต้องเงยหน้าขึ้นมาสบตาเธอด้วยแววตาที่หวั่นวิตกอย่างปิดไม่มิด

    ใบหน้าแดงก่ำลามไปถึงใบหู ริมฝีปากที่เม้มเข้าหากันแน่นไหนจะเหงื่อเม็ดเล็กๆที่ผุดพรายตามใบหน้านั่นอีก

     

    ชะ...ช่วยวางไว้บนโต๊ะกระจกนั่นที

    เจสสิก้าว่าเสียงติดขัดขณะยกมือที่กำแน่นนั่นชี้ไปยังโต๊ะเตี้ยในชุดโซฟารับแขกบริเวณหน้าประตู

    เธอพยายามอย่างมากที่จะพูดคุยตอบโต้กับอีกฝ่ายให้เหมือนปกติมากที่สุด

    คิ้วเรียวสวยขมวดเกร็งกับการอดกลั้นที่จะไม่แสดงอาการและความรู้สึกที่เป็นอยู่ออกไปมากกว่านี้

    หญิงสาวกลั้นลมหายใจที่หนักหน่วงด้วยการกัดริมฝีปากบางของตนจนมันแทบจะห้อเลือด

     


    เธอจะให้ทิฟฟานี่รู้ไม่ได้เด็ดขาด...

     

    ให้รู้ไม่ได้เด็ดขาดว่ามีใครบางคนกำลังหยอกล้อกับร่างกายเธอด้านใต้โต๊ะทำงานไม้ตัวใหญ่นี้อยู่อย่างเร่าร้อน...

     

     

    ถึงแม้จะนึกสงสัยกับคำสั่งของเจสสิก้าอยู่บ้างแต่ทิฟฟานี่ก็ยอมทำตามแต่โดยดี

    หญิงสาวก้าวยาวๆไปวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นกระเป๋าถือไม่คุ้นตาที่วางอยู่บนโซฟาข้างๆ

    และยังไม่ทันที่จะได้นึกสนใจกับมันทิฟฟานี่ก็ต้องหันมองคนที่หอบหายใจเสียงแผ่วให้ได้ยิน...


     

    แฮ่ก

     


    คุณไม่สบายหรือเปล่าคะ?”

    เพียงแค่หันกลับมาและทำท่าจะเดินเข้าไปหาคนที่ใบหน้าแดงก่ำจนน่ากลัวเพื่อแตะเนื้อตัวเช็คอุณหภูมิร่างกายให้

    หญิงสาวก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อจู่ๆอีกฝ่ายใช้มือที่กำอยู่นั้นทุบโต๊ะทำงานที่นั่งอยู่ก่อนจะตวาดเสียงดัง

     


    อย่าเข้ามา!”



    เจสสิก้าหลับตาลงพร้อมกำมือที่สั่นเทาไว้แน่นกับการกระทำของตัวเอง

    ในตอนนี้เธอไม่อยากแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นไปสบตากับทิฟฟานี่ที่นิ่งเงียบไปเพราะเห็นท่าทางของเธอเลยซะด้วยซ้ำ...

     

    ยิ่งได้เห็นริมฝีปากที่แสยะยิ้มจากคนที่อยู่เบื้องล่างนั้นแล้วด้วย...


     


    จู่ๆก็ไข้ขึ้นน่ะ...ฉะ...ฉัน...ไม่อยากให้เธอติด...

     

    น้ำเสียงที่ดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบอ่อนลงกว่าเมื่อครู่อย่างเห็นได้ชัดราวกับจะเป็นคำขอโทษกลายๆ

    ทิฟฟานี่มองคนรักอย่างไม่เข้าใจก่อนจะเดินออกจากห้องไปโดยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังมองตามเธอไปด้วยแววตาที่เจ็บปวดจนยากจะอธิบาย

     


    ขอโทษนะทิฟฟานี่....ฉันขอโทษ...

     

     




    อะ....ห๊ะ!...

     

    ความเสียวซ่านที่แล่นขึ้นมาอีกครั้งทันทีที่ประตูปิดลงทำให้เจสสิก้ายกมือขึ้นมาปิดปากสกัดกั้นเสียงครางเอาไว้แทบไม่ทัน

    หญิงสาวก้มมองคนที่กำลังเล่นสนุกกับร่างกายเบื้องล่างของเธอด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย

     

    ทั้งโกรธ...ทั้งเสียใจ...

     

    ก็บอกแล้วไง

    ลี ซันนี่ว่าน้ำเสียงเย้ายวนก่อนจะลากลิ้นขึ้นลงที่ส่วนอ่อนไหวของอีกฝ่ายอย่างเพลินเพลิน

    น้ำหวานชุ่มฉ่ำที่หลั่งออกมาโดยฝีมือของตัวเธอเองนั้นทำให้อดไม่ได้ที่จะส่งลิ้นร้อนแหวกเข้าไปด้านในราวกับจะหาแหล่งกำเนิดของมัน


     

    นึกเสียดายอยู่หน่อยที่เจสสิก้าสามารถอดทนกับการกระทำของเธอตอนที่ทิฟฟานี่เข้ามาในห้อง


    เพราะไม่อย่างนั้นเธออาจจะได้เห็นอะไรสนุกๆก็เป็นได้...

     



    เจสสิก้าใช้มือข้างที่ว่างจากการปิดปากตัวเองเคลื่อนลงไปดึงเสื้อคอกว้างของอีกฝ่ายจนมันยับยู่ยี่

    กระโปรงทำงานถูกเลิกขึ้นมากองที่เอวพร้องกับถุงน่องและกางเกงชั้นในที่ถูกรูดมากองอยู่ที่ปลายเท้า

    เรียวขาอ้าออกอย่างลืมตัวเปิดช่องให้คนที่อยู่ด้านล่างได้แทรกใบหน้าแนบชิดยิ่งขึ้น


    สะโพกเปลือยเปล่าบดเบียดกับเก้าอี้ทำงานหนังสีดำตามจังหวะเรียวลิ้นของซันนี่จนเกิดเสียงเอี๊ยดอ๊าดเบาๆ

    มือทั้งสองของสาวร่างเล็กจับยึดเหนี่ยวบั้นท้ายที่พราวไปด้วยหยาดเหงื่อของอีกคนไว้แน่นเพื่อไม่ให้เจ้าตัวขยับหนีไปได้

     

    เสียงครางที่เล็ดลอดออกมาอีกระลอกพร้อมกับอาการสะบัดหน้าไปมาทำให้ซันนี่รู้ว่าเจสสิก้าคงใกล้จะปลดปล่อยเต็มที

    ริมฝีปากอวบอิ่มนั้นเคลื่อนเข้าครอบครองเนินเนื้อร้อนผ่าวตรงหน้าอีกครั้งก่อนจะแทรกเรียวลิ้นนุ่มเข้าไปอีกครา

    เคลื่อนใบหน้าเข้าออกสลับกับดูดดุนจุดที่ไวต่อการถูกกระตุ้นอย่างเร่าร้อน

     

    อึก!...อ๊ะ...ฮะ...

     

    เสียงหวีดร้องพร้อมกับร่างกายที่กระตุกเกร็งปลดปล่อยของเหลวสีขาวขุ่นออกมาจากช่องทางร้อน

    ให้คนกระทำได้แต่ยกยิ้มกับผลงานของตนเองก่อนที่จะโน้มใบหน้าลงไปเก็บกวาดคราบคาวนั่นอย่างอ้อยอิ่งอีกรอบ




    ไม่มีใครดีไปกว่าฉันอีกแล้ว...แม้แต่นังนั่น...

     


    เอ่ยบอกประโยคเดิมซ้ำๆที่เธอพร่ำบอกกับเจสสิก้าอยู่เสมอ



    พร่ำบอกอยู่ตลอดกับความคิดที่ว่า....เธอดีที่สุดสำหรับเจสสิก้า

     


    แม้แต่ทิฟฟานี่ก็เทียบเธอไม่ได้




     

    เสียงหอบหายใจที่ค่อยๆเลือนหายไปกับความเงียบทำให้ซันนี่เงยหน้าขึ้นไปมองคนที่นิ่งเงียบไปหลังจากการปลดปล่อย

     


    แปะ....

     


    และก็พบกับหยาดน้ำตาที่หล่นมากระทบใบหน้าพร้อมๆกับฝ่ามือสั่นเทาที่ยกขึ้นมาทาบสัมผัสกับแก้มของเธอ

     



    เจสสิก้ากำลัง....ร้องไห้...

     


    จริงอยู่ที่เธอจะเห็นน้ำตาของเจสสิก้ายามเวลาที่อีกฝ่ายสุขสมแต่ครั้งนี้มันต่างออกไป

    ซันนี่มองคนที่กำลังขยับริมฝีปากเพื่อพูดอะไรบางอย่างด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาที่พรั่งพรูออกมาจากดวงตาคู่สวย

     



    ฉัน...ไม่อยากทรมานแบบนี้อีกแล้ว

     

     

     

    เจสสิก้าไม่อยากทรมานกับความโลเลสองจิตสองใจของตัวเองอีกต่อไป...

     

     

    ไม่อยากทรยศกับความรักบริสุทธิ์ที่ทิฟฟานี่มีให้กับเธอ...

     

     

     

     


    ...ได้โปรด... ปล่อยฉันไปเถอะนะซันนี่...







    .



    .



    .



    TBC. SHOT - 3


    _____________________________________________________________


    สิก้าเรื่องนี้น่าอิจฉาหรือน่างสงสารคะ? 55555


    ช็อตหน้าเป็นตอนจบแล้ว ลองเดาๆกันมาได้นะคะว่าเรื่องจะจบยังไง


    เจทิ
    ? ซันสิก้า? ทูนี่?(ไม่ใช่ละ - -) เจอกันตอนหน้านะคะรีดเดอร์ที่รักทุกคน^w^~

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×