คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : SHOT - 2
SHOT 2
สีเทา - อดีต
“เธอก็รู้ว่านังนั่นมันแอบชอบเธออยู่ แล้วเธอทำแบบนี้ทำไม!”
เสียงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดดังลั่นไปทั่วห้องรับแขกในตัวบ้าน
ใบหน้าของลี ซันนี่แดงก่ำไปด้วยโทสะ เธอกัดฟันและกำหมัดแน่น
หญิงสาวกำลังโกรธอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนหลังจากที่แฟนสาวที่อยู่ตรงหน้าได้บอกอะไรบางอย่างกับเธอ
‘ฉันกำลังคบอยู่กับทิฟฟานี่ เราเป็นแฟนกัน’
“เธอไม่มีสิทธ์มาพูดแบบนี้กับฉัน...ซันนี่...”
เจสสิก้าว่าเสียงเรียบขณะที่ลากกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่มาไว้ข้างตัว
นัยน์ตาสวยคมภายใต้แว่นกันแดดสบสายตากับแววตาเจ็บปวดไม่แพ้กันของอีกฝ่าย
ถึงเวลาที่เธอจะออกจากบ้านที่เป็น’อดีต’รังรักของเราเสียที
คนที่ไม่เคยสนใจความรู้สึกของฉันอย่างเธอ...ไม่มีสิทธิ์....
“ฉันไม่ใช่ฝ่ายที่ต้องทนรับความเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว”
.
.
“อืม~”
ทิฟฟานี่ครางเสียงหวานในลำคอขณะเอียงใบหน้าให้จูบของเธอกับเจสสิก้าดูดดื่มมากขึ้นกว่าเดิม
ย้อนกลับไปเมื่อ5นาทีก่อนสาวหน้าหวานเดินเข้ามาในห้องทำงานของเจสสิก้าพร้อมกับเอกสารที่เตรียมมาให้อีกฝ่ายเซ็นต์
แต่ในขณะที่กำลังบอกรายละเอียดงานต่างๆเธอก็โดนคนรักประเคนจูบที่แสนจะเร่าร้อนให้อย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
ยิ่งอยู่ในที่ลับตาคนอย่างในห้องทำงานส่วนตัวแบบนี้ด้วยแล้ว...เจสสิก้าคงยิ่งไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆ...
“เป็นอะไรไปคะ?”
ทิฟฟานี่เอ่ยถามคนรักท่ามกลางเสียงหอบหายใจของเธอทั้งคู่หลังจากผละออกมาจากอีกฝ่ายได้สำเร็จ
ปกติเจสสิก้าจะไม่ค่อยแสดงออกถึงสถานะของเราซักเท่าไหร่...ยิ่งอยู่ในเวลางานแบบนี้แล้วด้วย
ปลายนิ้วเกลี่ยริมฝีปากบางที่แดงช้ำจากแรงบดเบียดเมื่อครู่ของคนที่ยังหลับตาอยู่อย่างแผ่วเบา
เจสสิก้าส่ายหน้าปฏิเสธก่อนจะยกยิ้มกับท่าทางแปลกใจของแฟนสาว
“เปล่าหรอก....ไม่ได้เป็นอะไร”
หญิงสาวตอบเสียงแผ่วพร้อมกับจับมือของอีกฝ่ายขึ้นมาแนบใบหน้าพร้อมกับถอนหายใจยาว
หารู้ไม่ว่าท่าทางแบบนั้นทำให้ทิฟฟานี่คนนี้เป็นห่วงมากขึ้นยิ่งกว่าเก่า
“คุณดูเหนื่อยๆนะคะ เดี๋ยวฉันไปชงกาแฟมาให้ดีกว่า”
ว่าพลางจูงมือคนรักให้ไปนั่งรอที่โต๊ะทำงานไม้ตัวใหญ่ของเจ้าตัว
แตะจูบเบาบางข้างขมับหวังให้เจสสิก้าได้ผ่อนคลาย...ถึงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังหนักใจเรื่องอะไรก็เถอะ
เฮ้อ....
เจสสิก้าถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อีกครั้งหลังจากที่ทิฟฟานี่เดินออกจากห้องไปแล้ว
หญิงสาวฟุบหน้าลงกับโต๊ะทำงานอย่างคนหมดแรง
เหนื่อย....เหนื่อยเหลือเกิน...
ความรู้สึกผิดที่มีต่อทิฟฟานี่คับแน่นเต็มอกทำให้เธอไม่อยากจะรับรู้อะไรอีกต่อไปแล้ว
ไม่อยากจะนึกถึงอะไรแต่ใบหน้าของคนที่อยู่กับเธอตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงรุ่งเช้าวันนี้ก็ผุดขึ้นมาในความคิด
ใบหน้าของคนที่ทำให้เธอต้องทรมานใจอยู่ในตอนนี้...
ลี ซันนี่ คนรักผู้หญิงคนแรกของเจสสิก้า จอง
เธอยอมรับว่าที่เธอตกลงคบกับทิฟฟานี่เมื่อปีก่อนนั้นเพียงแค่ต้องการที่จะประชดซันนี่
ประชดคนรักหลายใจที่ไม่เคยสนใจความรู้สึกของเธอ
ไม่คิดว่าความคิดกับการกระทำเพียงแค่ชั่ววูบนั้นจะทำให้เธอตกหลุมรักทิฟฟานี่จริงๆ
ทิฟฟานี่ที่ช่างเอาอกเอาใจ
ทิฟฟานี่ที่คอยเทคแคร์เธออยู่เสมอ
ทิฟฟานี่ที่ให้สิ่งที่เธอไม่เคยได้รับจากซันนี่...
แต่ถึงยังไงเธอก็ยัง...
แอ๊ด....
เสียงประตูห้องที่เปิดออกนั้นทำให้เจสสิก้าที่กำลังจมอยู่ในความคิดของตัวเองนั่งยืดตัวตรงตามเดิม
ก่อนจะเอ่ยทักแฟนสาวที่กลับเข้ามาเร็วกว่าที่คิดไว้โดยที่ยังไม่ทันจะลืมตาด้วยซ้ำ
“เร็วจังฟา.....นี่”
เสียงท้ายประโยคนั้นแผ่วเบาราวกับถูกกลืนหายไปในลำคอเมื่อเจสสิก้าลืมตาขึ้นมาและพบว่าคนที่ยืนอยู่ที่ประตูนั้น...
ไม่ใช่ ‘ทิฟฟานี่’ แต่เป็น ‘ซันนี่’ คนที่เธอไม่อยากเจอมากที่สุดในตอนนี้และที่นี่...
“เลขาที่รักหน้าห้องไปไหนซะแล้วล่ะคะ? คุณผู้บริหาร”
ลี ซันนี่เอ่ยถามอย่างอารมณ์ดีแต่ก็ไม่ได้ทำให้เจสสิก้าอารมณ์ดีด้วยเลยซักนิด
หญิงสาวตวัดสายตามองอีกฝ่ายอย่างไม่เป็นมิตร
จริงสิ...ทิฟฟานี่ไปชงกาแฟให้เธอเลยคงยังไม่เห็นซันนี่ที่เดินเข้ามาเป็นแน่
“เธอมาที่นี่ได้ยังไง?”
เจสสิก้าถามเสียงขุ่นสายตาก็ยังไม่ละออกจากคนที่ทิ้งตัวลงนั่งโซฟารับแขกที่ตั้งอยู่มุมห้องโดยที่ไม่ได้ขออนุญาต
“ทำไมจะมาไม่ได้ล่ะ ในเมื่อบริษัทเราก็เป็นหุ้นส่วนกันอยู่ลืมไปแล้วหรือไงคะ?”
หญิงสาวร่างเล็กพูดด้วยน้ำเสียงยียวนก่อนจะนั่งไขว่ห้างกอดอกและเริ่มเล่นเกมจ้องตากับอีกฝ่าย
คิ้วเรียวสวยของเจสสิก้ายิ่งขมวดเข้าหากันมากกว่าเดิมราวกับกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก
ในหัวสมองตีกันไปหมด เธอควรจะทำยังไงกับซันนี่ก่อนที่ทิฟฟานี่จะเข้ามาดี...
“ออกไป...”
เจสสิก้าว่าเสียงต่ำขณะที่มือทั้งสองที่วางอยู่บนโต๊ะบีบเข้าหากันแน่น
น่าแปลก...ทั้งที่เครื่องปรับอากาศในห้องก็กำลังทำงานอยู่แท้ๆแต่มือของเธอกลับชุ่มไปด้วยเหงื่อ
หญิงสาวพยายามเรียกสติต่อสู้กับความรู้สึกกลัวที่ประดังประเดเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน
เธอกำลังกลัวซันนี่...ไม่สิ...เธอกำลังกลัวตัวเอง
กลัวว่าตัวเองจะพลาดพลั้งเสียท่าให้กับอีกฝ่ายเหมือนกับทุกๆครั้ง...
ซันนี่เลิกคิ้วเล็กน้อยกับคำพูดของเจสสิก้าพร้อมกับกระตุกยิ้มอย่างที่ชอบทำ
หญิงสาวจัดการวางกระเป๋าถือแบรนด์ดังบนโซฟาก่อนจะลุกออกและก้าวเดินไปหาอีกฝ่ายที่โต๊ะทำงาน
“ใจร้ายจัง เมื่อเช้าก็ทิ้งฉันไว้คนเดียว”
ทันทีที่เข้าถึงตัวของอีกฝ่ายซันนี่ก็คว้ามือที่ชื้นเหงื่อของเจ้าตัวมาจับไว้ทันที
แต่เพียงแค่นั้นก็ทำให้เจสสิก้าถึงกับผงะราวกับหวาดกลัวสัมผัสของเธอเสียเต็มประดา
“ออกไป!”
เจสสิก้าตวาดลั่นอีกครั้งก่อนที่จะต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังจะทำ
ซันนี่ที่เท้าแขนข้างนึงอยู่กับพนักวางแขนส่วนมืออีกข้างที่ยังจับมือเธออยู่ก็ค่อยๆเคลื่อนสูงขึ้น
ก่อนที่มันจะมาประทับอยู่ที่ก้อนเนื้อนุ่มบริเวณหน้าอกที่เจ้าตัวภูมิใจกับมันอยู่ไม่ใช่น้อย
“เมื่อไหร่จะยอมรับซักที...”
เอ่ยเสียงแผ่วพร้อมกับก้มตัวเข้าหาคนยังคงมีท่าทางขัดขืนแม้ว่าใบหน้าจะแดงก่ำ
ขยับมือบางที่สั่นเทานาบสัมผัสกับหน้าอกของตัวเองให้แนบชิดมากยิ่งกว่าเดิม
“เธอเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจไม่ใช่หรือไง?”
เสียงกระซิบชิดติดใบหูนั้นทำให้เจสสิก้ากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
หญิงสาวตัดสินใจหลับตาลงซะเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเห็นด้านในของเสื้อคอกว้างที่อีกฝ่ายจงใจก้มลงมา
ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นเมื่อรู้สึกถึงเรียวนิ้วที่ลากไล้อยู่ตามโครงหน้า
ก่อนที่มันจะลากผ่านเสื้อสูททำงานตัวนอกต่ำลงมาเรื่อยๆ...
“ไม่...”
ฝ่ายคนถูกกระทำทำได้เพียงร้องห้ามด้วยเสียงที่เบาจนแทบจะไม่ได้ยิน
เจสสิก้านึกสมเพชตัวเองอย่างบอกไม่ถูกกับอิแค่เอ่ยห้ามคนตรงหน้าเธอยังทำไม่ได้
เพียงแค่ได้กลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคยของอีกฝ่ายก็เหมือนกับเรี่ยวแรงมันถูกดูดไปเสียนี่...
ลมหายใจของเริ่มติดขัดมากเรื่อยๆเมื่อลืมตาแล้วเห็นว่าอีกฝ่ายลงไปนั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้น
ซันนี่ยอมปล่อยมือเธอแต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องดีเลยซักนิดในเมื่อตอนนี้อีกฝ่ายกำลังลากฝ่ามือทั้งสองไปมาบริเวณชายกระโปรงทำงานของเธอ
“เธอต้องการฉัน....”
ริมฝีปากร้อนจัดนั้นจูบซับผ่านถุงน่องเนื้อเนียนที่อีกฝ่ายสวมอยู่อย่างไม่รีบร้อน
เจสสิก้าทำได้เพียงจับไหล่ลาดเล็กของอีกฝ่ายไว้แน่นขณะที่กัดฟันมองชายกระโปรงของตัวเองที่ถูกเลิกขึ้นสูงเรื่อยๆตามระดับริมฝีปากไล่แตะผิวเนื้อของตน
หญิงสาวร่างเล็กยกยิ้มเมื่อพบกับรอยจูบสีเข้มตามบริเวณต้นขาด้านในที่เธอทำเอาไว้เมื่อคืนที่ยังคงปรากฏเด่นชัด
“ไม่มีใครทำได้ดีไปกว่าฉันอีกแล้ว...เจสสิก้า”
เอ่ยบอกพร้อมกับจูบซ้ำรอยเดิมขณะสบตากับคนที่เหมือนจะเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสกับเธอไปชั่วขณะ
ก่อนที่ฝ่ามือทั้งสองจะลากขึ้นไปหยุดอยู่ที่ขอบชั้นในใต้กระโปรงให้เจสสิก้าหลุดออกจากภวังค์ด้วยความตกใจ
“อะ…อย่า!”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
หญิงสาวเจ้าของนัยน์ตาหวานยกมือขึ้นเคาะประตูในขณะที่มืออีกข้างก็คอยประคองถ้วยกาแฟไปด้วย
เนื่องจากผงกาแฟในห้องพักพนักงานส่วนกลางหมดกะทันหันเธอก็เลยต้องเดินหาเมดประจำแผนกอยู่นานเพื่อที่จะขอมันเพิ่ม
กว่าจะได้กาแฟแก้วนี้มาก็ใช้เวลาอยู่พอสมควร
ไร้เสียงตอบรับใดๆจากภายในห้องแต่สำหรับทิฟฟานี่แล้วนั่นคือคำอนุญาตของเจสสิก้า
เจสสิก้าเคยบอกให้เธอไม่ต้องเคาะประตูขออนุญาตอย่างที่คนอื่นเขาทำกันแต่เธอก็ยังทำอยู่ดี
เพราะถึงจะเป็นคนรักกันแต่เธอก็ต้องให้เกียรติอีกฝ่ายที่มีศักดิ์เป็นถึงเจ้านายอยู่เสมอ
“กาแฟได้แล้วค่ะ”
ทิฟฟานี่เอ่ยบอกกับคนที่ยังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานหลังจากเดินเข้ามาในห้องทำงานของอีกฝ่ายเป็นที่เรียบร้อย
และก็ต้องเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นคนรักยังคงก้มหน้าก้มตาทำอะไรบางอย่างอยู่ใต้โต๊ะ
“เจสสิก้า?”
เอ่ยเรียกอีกครั้งให้เจ้าของชื่อต้องเงยหน้าขึ้นมาสบตาเธอด้วยแววตาที่หวั่นวิตกอย่างปิดไม่มิด
ใบหน้าแดงก่ำลามไปถึงใบหู ริมฝีปากที่เม้มเข้าหากันแน่นไหนจะเหงื่อเม็ดเล็กๆที่ผุดพรายตามใบหน้านั่นอีก
“ชะ...ช่วยวางไว้บนโต๊ะกระจกนั่นที”
เจสสิก้าว่าเสียงติดขัดขณะยกมือที่กำแน่นนั่นชี้ไปยังโต๊ะเตี้ยในชุดโซฟารับแขกบริเวณหน้าประตู
เธอพยายามอย่างมากที่จะพูดคุยตอบโต้กับอีกฝ่ายให้เหมือนปกติมากที่สุด
คิ้วเรียวสวยขมวดเกร็งกับการอดกลั้นที่จะไม่แสดงอาการและความรู้สึกที่เป็นอยู่ออกไปมากกว่านี้
หญิงสาวกลั้นลมหายใจที่หนักหน่วงด้วยการกัดริมฝีปากบางของตนจนมันแทบจะห้อเลือด
เธอจะให้ทิฟฟานี่รู้ไม่ได้เด็ดขาด...
ให้รู้ไม่ได้เด็ดขาดว่ามีใครบางคนกำลังหยอกล้อกับร่างกายเธอด้านใต้โต๊ะทำงานไม้ตัวใหญ่นี้อยู่อย่างเร่าร้อน...
ถึงแม้จะนึกสงสัยกับคำสั่งของเจสสิก้าอยู่บ้างแต่ทิฟฟานี่ก็ยอมทำตามแต่โดยดี
หญิงสาวก้าวยาวๆไปวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นกระเป๋าถือไม่คุ้นตาที่วางอยู่บนโซฟาข้างๆ
และยังไม่ทันที่จะได้นึกสนใจกับมันทิฟฟานี่ก็ต้องหันมองคนที่หอบหายใจเสียงแผ่วให้ได้ยิน...
‘แฮ่ก’
“คุณไม่สบายหรือเปล่าคะ?”
เพียงแค่หันกลับมาและทำท่าจะเดินเข้าไปหาคนที่ใบหน้าแดงก่ำจนน่ากลัวเพื่อแตะเนื้อตัวเช็คอุณหภูมิร่างกายให้
หญิงสาวก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อจู่ๆอีกฝ่ายใช้มือที่กำอยู่นั้นทุบโต๊ะทำงานที่นั่งอยู่ก่อนจะตวาดเสียงดัง
“อย่าเข้ามา!”
เจสสิก้าหลับตาลงพร้อมกำมือที่สั่นเทาไว้แน่นกับการกระทำของตัวเอง
ในตอนนี้เธอไม่อยากแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นไปสบตากับทิฟฟานี่ที่นิ่งเงียบไปเพราะเห็นท่าทางของเธอเลยซะด้วยซ้ำ...
ยิ่งได้เห็นริมฝีปากที่แสยะยิ้มจากคนที่อยู่เบื้องล่างนั้นแล้วด้วย...
“จู่ๆก็ไข้ขึ้นน่ะ...ฉะ...ฉัน...ไม่อยากให้เธอติด...”
น้ำเสียงที่ดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบอ่อนลงกว่าเมื่อครู่อย่างเห็นได้ชัดราวกับจะเป็นคำขอโทษกลายๆ
ทิฟฟานี่มองคนรักอย่างไม่เข้าใจก่อนจะเดินออกจากห้องไปโดยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังมองตามเธอไปด้วยแววตาที่เจ็บปวดจนยากจะอธิบาย
ขอโทษนะทิฟฟานี่....ฉันขอโทษ...
“อะ....ห๊ะ!...”
ความเสียวซ่านที่แล่นขึ้นมาอีกครั้งทันทีที่ประตูปิดลงทำให้เจสสิก้ายกมือขึ้นมาปิดปากสกัดกั้นเสียงครางเอาไว้แทบไม่ทัน
หญิงสาวก้มมองคนที่กำลังเล่นสนุกกับร่างกายเบื้องล่างของเธอด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย
ทั้งโกรธ...ทั้งเสียใจ...
“ก็บอกแล้วไง”
ลี ซันนี่ว่าน้ำเสียงเย้ายวนก่อนจะลากลิ้นขึ้นลงที่ส่วนอ่อนไหวของอีกฝ่ายอย่างเพลินเพลิน
น้ำหวานชุ่มฉ่ำที่หลั่งออกมาโดยฝีมือของตัวเธอเองนั้นทำให้อดไม่ได้ที่จะส่งลิ้นร้อนแหวกเข้าไปด้านในราวกับจะหาแหล่งกำเนิดของมัน
นึกเสียดายอยู่หน่อยที่เจสสิก้าสามารถอดทนกับการกระทำของเธอตอนที่ทิฟฟานี่เข้ามาในห้อง
เพราะไม่อย่างนั้นเธออาจจะได้เห็นอะไรสนุกๆก็เป็นได้...
เจสสิก้าใช้มือข้างที่ว่างจากการปิดปากตัวเองเคลื่อนลงไปดึงเสื้อคอกว้างของอีกฝ่ายจนมันยับยู่ยี่
กระโปรงทำงานถูกเลิกขึ้นมากองที่เอวพร้องกับถุงน่องและกางเกงชั้นในที่ถูกรูดมากองอยู่ที่ปลายเท้า
เรียวขาอ้าออกอย่างลืมตัวเปิดช่องให้คนที่อยู่ด้านล่างได้แทรกใบหน้าแนบชิดยิ่งขึ้น
สะโพกเปลือยเปล่าบดเบียดกับเก้าอี้ทำงานหนังสีดำตามจังหวะเรียวลิ้นของซันนี่จนเกิดเสียงเอี๊ยดอ๊าดเบาๆ
มือทั้งสองของสาวร่างเล็กจับยึดเหนี่ยวบั้นท้ายที่พราวไปด้วยหยาดเหงื่อของอีกคนไว้แน่นเพื่อไม่ให้เจ้าตัวขยับหนีไปได้
เสียงครางที่เล็ดลอดออกมาอีกระลอกพร้อมกับอาการสะบัดหน้าไปมาทำให้ซันนี่รู้ว่าเจสสิก้าคงใกล้จะปลดปล่อยเต็มที
ริมฝีปากอวบอิ่มนั้นเคลื่อนเข้าครอบครองเนินเนื้อร้อนผ่าวตรงหน้าอีกครั้งก่อนจะแทรกเรียวลิ้นนุ่มเข้าไปอีกครา
เคลื่อนใบหน้าเข้าออกสลับกับดูดดุนจุดที่ไวต่อการถูกกระตุ้นอย่างเร่าร้อน
“อึก!...อ๊ะ...ฮะ...”
เสียงหวีดร้องพร้อมกับร่างกายที่กระตุกเกร็งปลดปล่อยของเหลวสีขาวขุ่นออกมาจากช่องทางร้อน
ให้คนกระทำได้แต่ยกยิ้มกับผลงานของตนเองก่อนที่จะโน้มใบหน้าลงไปเก็บกวาดคราบคาวนั่นอย่างอ้อยอิ่งอีกรอบ
“ไม่มีใครดีไปกว่าฉันอีกแล้ว...แม้แต่นังนั่น...”
เอ่ยบอกประโยคเดิมซ้ำๆที่เธอพร่ำบอกกับเจสสิก้าอยู่เสมอ
พร่ำบอกอยู่ตลอดกับความคิดที่ว่า....เธอดีที่สุดสำหรับเจสสิก้า
แม้แต่ทิฟฟานี่ก็เทียบเธอไม่ได้
เสียงหอบหายใจที่ค่อยๆเลือนหายไปกับความเงียบทำให้ซันนี่เงยหน้าขึ้นไปมองคนที่นิ่งเงียบไปหลังจากการปลดปล่อย
แปะ....
และก็พบกับหยาดน้ำตาที่หล่นมากระทบใบหน้าพร้อมๆกับฝ่ามือสั่นเทาที่ยกขึ้นมาทาบสัมผัสกับแก้มของเธอ
เจสสิก้ากำลัง....ร้องไห้...
จริงอยู่ที่เธอจะเห็นน้ำตาของเจสสิก้ายามเวลาที่อีกฝ่ายสุขสมแต่ครั้งนี้มันต่างออกไป
ซันนี่มองคนที่กำลังขยับริมฝีปากเพื่อพูดอะไรบางอย่างด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาที่พรั่งพรูออกมาจากดวงตาคู่สวย
“ฉัน...ไม่อยากทรมานแบบนี้อีกแล้ว”
เจสสิก้าไม่อยากทรมานกับความโลเลสองจิตสองใจของตัวเองอีกต่อไป...
ไม่อยากทรยศกับความรักบริสุทธิ์ที่ทิฟฟานี่มีให้กับเธอ...
“...ได้โปรด... ปล่อยฉันไปเถอะนะซันนี่...”
.
.
.
TBC. SHOT - 3
_____________________________________________________________
สิก้าเรื่องนี้น่าอิจฉาหรือน่างสงสารคะ? 55555
ช็อตหน้าเป็นตอนจบแล้ว ลองเดาๆกันมาได้นะคะว่าเรื่องจะจบยังไง
เจทิ? ซันสิก้า? ทูนี่?(ไม่ใช่ละ - -‘) เจอกันตอนหน้านะคะรีดเดอร์ที่รักทุกคน^w^~
ความคิดเห็น