ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ชีวประวัตินักวิทยาศาสตร์

    ลำดับตอนที่ #16 : หลุยส์ ปาสเตอร์ [ผู้ให้กำเนิดวิชาจุลชีววิทยา,ประดิษฐ์ผลึก,กำจัดโรคพิษสุนัขบ้า]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.36K
      6
      11 ต.ค. 52



                 

    ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ เป็นพุทธภาษิตบทหนึ่งของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพราะโรคภัยไข้เจ็บเป็นตัวมหาภัยอย่างหนึ่งที่บั่นทอนชีวิตจิตใจ  และร่างกาย  แต่คนเราก็หนีโรคร้ายไปไม่พ้น   มันคอยแทรกแซงเบียดเบียนอยู่เสมอ  จึงต้องป้องกัน   ถ้าป้องกันไม่ได้ก็ต้องเยียวยารักษากัน   แพทย์ทั่วโลกก็พยายามค้นคว้าหาทางพิชิต หรือกำหลาบให้อยู่มือ  แต่ก็ยังมีบางโรคที่ยังไม่อาจจะพิชิตมันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์  คือ  มะเร็ง     แต่ปัจจุบันก็สามารถรักษาได้แล้วเมื่อพบในระยะแรกๆ

     

    หลุยส์  ปาสเตอร์  เป็นนามของนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ชาวฝรั่งเศส  เขาเป็นผู้ที่ทำให้ชาวโลกรอดพ้นจากโรคระบาดร้ายแรงต่างๆ ด้วยการทุ่มเทชีวิตและจิตใจให้กับงานด้านนี้จนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก  มรดกที่เขาทิ้งไว้ก็คือ ทางแก้และป้องกันโรคระบาด  และโรคร้ายบางชนิด

     

    เขาเกิดเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม  ..1822 (พ..2365) ที่ตำบลจูรา  เมืองโดล  ประเทศฝรั่งเศส   เขาเป็นบุตรชายคนเดียวของ จัง  โจเซฟ  ปาสเตอร์   ช่างฟอกหนัง   เขาได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดีจากบิดา  โดยเฉพาะในด้านการศึกษาจากโรงเรียนมีชื่อ  และเมื่อเรียนจบวิชาสามัญ   เขาก็ถูกส่งไปเรียนฝึกหัดครู    กรุงปารีส   วิชาที่เขาสนใจมากที่สุดก็คือ  เคมี  วิทยาศาสตร์   และคณิตศาสตร์เมื่อเรียนสำเร็จแทนที่เขาจะโดดไปเป็นครู   เขากลับไปเป็นผู้ช่วยนักเคมีในห้องทดลอง  เพื่อทำปริญญาดุษฎีบัณฑิตทางวิชาเคมีและฟิสิกส์  แล้วเขาก็ทำสำเร็จในปี ค..1847  (พ..2390)

     

    ..1848 (พ..2391) ได้เป็นศาสตราจารย์สอนวิชาเคมีอยู่  ณ มหาวิทยาลัย ที่เมืองซอร์มอนน์

    ..1852 (พ..2395) ได้เป็นผู้อำนวยการสถาบันอีโคเลนนอร์มาล  ที่กรุงปารีส

    ..1867 (พ..2410) ได้เป็นศาสตราจารย์สอบอยู่ที่ซอร์บอนนี

     

    ทางด้านประดิษฐ์คิดค้น  หลุยส์ปาสเตอร์  ได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองด้วยการประดิษฐ์วัตถุทางเคมีคือ  ผลึก  และผลงานชิ้นนี้ทำให้เขาได้รับเหรียญเกียรตินิยม   ได้รับรางวัลอื่นๆและเงินทองอีกมาก   พร้อมกันนี้เขาก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นศาสตราจารย์ทางวิชาเคมีในมหาวิทยาลัยสตาสบูร์ก    จากห้องทดลองของมหาวิทยาลัยแห่งนี้   เขาได้ค้นพบสาเหตุที่ทำให้วัตถุบูด   แล้วเขาก็ประกาศความสำเร็จให้ชาวโลกรับรู้

     

    หลุยส์  ปาสเตอร์  จึงได้ชื่อว่า  เป็นผู้ก่อกำเนิดวิชาจุชีววิทยา   เขาเป็นผู้ค้นพบจุลินทรีย์ทั้งที่เป็นภัยและเป็นประโยชน์  ส่วนที่เป็นภัยก็ได้แก่   เชื้อโรคต่างๆ ส่วนที่เป็นประโยชน์ก็คือ  เชื้อบูดที่เรียกว่า   ยีสต์  ที่ทำให้ขนมปังฟู  หรือทำเบียร์ทำเหล้า

     

    เกี่ยวกับเชื้อโรคต่างๆ หลุยส์  ปาสเตอร์  ได้จำแนกลักษณะการแพร่พันธ์  รูปร่าง  และพิษร้ายของมัน   เช่น  อหิวาตกโรค   วัณโรค  บาดทะยัก   โรคคอตีบ(มักเป็นกับเด็ก)   โรคกลัวน้ำ (พิษสุนัขบ้า)      นอกจากนี้ยังคิดหาวิธีป้องกันและรักษาโรคระบาดที่เกิดกับสัตว์เลี้ยง

     

    ในปี ค..1889 (พ..2432) หลุยส์  ปาสเตอร์  ได้จักตั้งสถาบันปาสเตอร์ (Pasteur   Institute)  ขึ้นที่กรุงปารีส   โดยมีจุดมุ่งหมายให้เป็นประโยชน์ในการค้นคว้าทางเคมีให้เจริญกว้างขวางออกไป

     

    เมื่อหลุยส์  ปาสเตอร์  ประสบความสำเร็จในด้านการค้นพบจุลินทรีย์แล้ว   เขาก็กลายเป็นบุคคลสำคัญของโรงงานผลิตเบียร์  ผลิน้ำส้ม  ผลิตเหล้าองุ่น   เพราะก่อนหน้านี้   เจ้าของโรงงานผลิตต้องประสบกับปัญหารสชาติสินค้าที่ผลิตออกมา   เช่นเหล้าองุ่นขมไปบ้าง  เปรี้ยวไปบ้าง   หลุยส์ปาสเตอร์  ต้องเป็นผู้มาแก้ปัญหาเหล่านี้ดังจะยกตัวเองให้เห็น  เช่น  :-

     

    ปัญหาเรื่องรสของเหล้าองุ่น  พระเจ้านโปเลียนที่ 3  มีรับสั่งให้หลุยส์   ปาสเตอร์มาแก้ปัญหาให้มีรสชาติถูกพระราชหฤทัย  หลุยส์    ปาสเตอร์ได้ใช้กล้องจุลทรรศน์สำรวจเหล้าองุ่น   เขาก็พบว่า  ในเหง้าองุ่นนั้นมีเชื้อโรคหรือจุลินทรีย์อยู่หลายชนิด    วิธีแก้ไขก็คือทำให้เหล้าองุ่นร้อน   55  องศาเซนติเกรต  เพื่อฆ่าจุลินทรีย์  แล้วหลุยส์    ปาสเตอร์ก็กราบทูลวิธีแก้ไข   ปรากฏว่าเหล้าองุ่นที่บรรทุกเรืออกไป  ทดลองตามกรรมวิธีของหลุยส์  ปาสเตอร์   ได้ผล   คือ เหล้าที่อุ่นตามกรรมวิธีของหลุยส์   ปาสเตอร์มีรสอร่อย   ส่วนเหล้าที่คงสภาพเดิมเสียหมด   ความสำเร็จของเขาทำให้พระเจ้านโปเลียนที่ 3   ทรงโปรดปรานเขามาก

     

    หลุยส์  ปาสเตอร์  จะได้รับความสำเร็จให้คนส่วนมากยอมรับนับถือเขา  ต้องพิสูจน์หรือทดลองให้เห็นจริงแทบทุกครั้ง   เช่นเมื่อเกิดโรคระบาดเขาต้องทำเซรุ่มฉีดป้องกันสัตว์ที่ยังไม่ป่วยและวิธีที่ทำให้ชาวบ้านเชื่อถือก็ต้องปล่อยสัตว์ที่ฉีดยาคุ้มกันโรคครึ่งหนึ่ง  กับที่ไม่ได้ฉีดครึ่งหนึ่งเข้าไปในที่ๆเกิดโรคระบาด  เพื่อให้ชาวบ้านศรัทธา  ปรากฏว่าสัตว์ที่ได้การรับการฉีดเซรุ่มไม่เจ็บป่วยล้มตาย  ส่วนตัวที่ไม่ได้ฉีดล้มตายหมด

     

    งานสำคัญของเขาอีกอย่างหนึ่งก็คือ  กำจัดโรคพิษสุนัขบ้าหรือโรคกลัวน้ำ    แต่เดิมทีนั้นเมื่อโรคระบาดนี้ไม่มีทางแก้   สุนัขที่สงสัยว่าเป็นบ้าก็จะถูกยิงทิ้ง  หลุยส์  ปาสเตอร์ได้ใช้เวลาศึกษาค้นคว้าอยู่นาน   จนถึงขั้นการทดลอง   แต่เขายังไม่แน่ใจที่จะทำการทดลอง   โชคก็เข้าข้างเขา   บังเอิญเด็กคนหนึ่งถูกสุนัขบ้ากัด   บิดาของเด็กคนนั้นยินยอมให้เขาทดลองยา    ปรากกว่าเด็กคนนั้นหายป่วยและความสำเร็จอย่างใหญ่หลวงก็ตกเป็นของเขา

     

    อันที่จริงหลุยส์   ปาสเตอร์  ไม่คิดว่าตัวเองจะแสวงหาชื่อเสียงในด้านนี้เพราะใจจริงขิงเขานั้นรักทางศิลปิน  เคยตั้งใจว่าจะสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองทางดานนี้  แต่เขากลับเปลี่ยนใจ  หันมาเอาดีทางการแพทย์

     

    เขาจึงเป็นอีกคนหนึ่งที่ เป็นแบบฉบับผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสาธารณชน   บุรุษผู้พิชิตโรคร้ายผู้นี้ได้ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 8 กันยายน   ..1895 (พ..2438)  รวมอายุได้ 73  ปี   ก่อนหน้าที่เขาจะเสียชีวิตเพียงสามปี  คือเมื่อเอามีอายุครบเจ็ดสิบปี   นักวิทยาสาสตร์ทั่วยุโรปเดินทางไปอวยพรที่ปารีส   นับเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญที่บำเพ็ญประโยชน์แก่ชาวโลกเช่นเดียวกับเขา

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×