คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : มารู้จักกับ 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกนั้นไม่ได้มีเพียงแค่เจ็ดอย่างอย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจ แท้จริงแล้ว มันมีถึง “สามยุค” ด้วยกัน นั่นก็คือ ยุคใหม่ ยุคกลางและยุคโบราณนั่นเอง แต่ก็มีสถานที่ที่สวยงามหรือธรรมชาติอันน่าอัศจรรย์อีกหลายแบบที่ถูกกำหนดให้เป็นเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกประจำแต่ละประเทศ
เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก (Seven Wonders of the World) คือ สิ่งก่อสร้างที่มีความยิ่งใหญ่และโดดเด่น ทั้งหมด 7 แห่งด้วยกัน โดยมีการกล่าวถึงครั้งแรกในงานของเฮโรโดตุส เมื่อราว 5 ศตวรรษก่อนคริสตกาล ในที่นี้หมายความว่า “มันได้ถูกกล่าวขานมาก่อนแล้วในอดีต”
เรื่องประวัติของเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยังไม่เป็นที่แน่ชัดนัก แต่ก็ได้มีการจัดตั้งองค์กรของสวิตซ์The New Open World Corporation (NOWC) และทำการบัญญัติเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคใหม่ ซึ่งผลสรุปสุดท้ายได้ประกาศเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ที่สนามเฟนิกา สเตเดียม ณ กรุงลิสบอน นครหลวงของประเทศโปรตุเกส โดยไม่เรียงตามลำดับคะแนน อย่างไรก็ตามเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ชุดนี้ไม่ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก
ซึ่งมีดังนี้
1. ซีเซนอิตซา เมืองยูกาตัน ประเทศเม็กซิโก - การบวงสรวง ความรู้
2. รูปปั้นพระเยซูคริสต์ เมืองริโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล - การต้อนรับ การเปิดกว้าง
3. กำแพงเมืองจีน ประเทศจีน - ความมานะ ความคงทน
4. บาชูบิกชู เมืองกุสโก ประเทศเปรู - อารยธรรมชุมชน การอุทิศ
5. เปตรา ประเทศจอร์แดน - วิศวกรรมศาสตร์ การรักษา
6. โคลอสเซียม กรุงโรม ประเทอิตาลี - ความสนุก ความทุกข์
7. ทัชมาฮัล เมืองอัคระ ประเทศอินเดีย - ความรัก ความหลงใหล
โดยสถานที่ที่ประกาศไปข้างต้นนั้น คือ “เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคใหม่”
ก็จบไปแล้วกับที่มาของเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์พันธุ์ลึกที่เกิดขึ้นในครั้งล่าสุด (ค.ศ.2007) แต่ในอดีตนั้นก็ได้มีการก่อตั้งเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกเช่นกัน
สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลาง เป็นสิ่งก่อสร้าง อายุตั้งแต่ คริสตศตวรรษที่ 5 - คริสตศตวรรษที่ 16 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกสมัยกลาง ถูกจัดขึ้นมาและเป็นที่ยอมรับกันแพร่หลาย หลังจากมีการตั้งข้อสังเกตว่า 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกสมัยโบราณแทบทั้งหมด ยกเว้นพีระมิด ล้วนแต่เสื่อมโทรมเสื่อมสลายไปหมดสิ้น เหลือเพียงร่องรอยหลักฐาน หรือแบบจำลองเท่านั้น สิ่งมหัศจรรย์ของโลกสมัยกลาง จึงล้วนแต่ยังดำรงอยู่เป็นหลักฐานให้ศึกษากันในปัจจุบัน ถึงแม้จะเสื่อมโทรมไปบ้างตามกาลเวลา ซึ่งมีดังต่อไปนี้
1.หอเอนเมืองปิซา
2.สนามกีฬากรุงโรม
3.สุสานแห่งอเล็กซานเดรีย
4.สุเหร่าเซ็นโซเฟีย
5.กำแพงเมืองจีน
6.เจดีย์กระเบื้องเคลือบนานกิง
7.กองหินประหลาดสโตนเฮนจ์
โดยสถานที่ที่ประกาศไปข้างต้นนั้นคือ “เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลาง”
เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ( Seven Wonders of the World ) คือสิ่งที่ก่อสร้างที่ได้รับการยอมรับว่าเป็น
สิ่งยิ่งใหญ่และมีความโดดเด่น สำหรับสิ่งก่อสร้างที่มหัศจรรย์สมัยโบราณ อายุตั้งแต่ 5,000 ปีก่อนคริสต์กาล
- ค.ศ. 500 ประมวลและจัดโดยนักปราชญ์กรีก ชื่อ แอนติเพเตอร์( Antipater ) แห่งไซดอน ( Sidon ) ใน
ศตวรรษที่สอง ก่อนคริสตกาล สิ่งมหัศจรรย์เหล่านี้ล้วนเป็นอาคารหรืออนุสาวรีย์ขนาดมโหฬาร และที่จัดใว้
7 อันดับ ก็เพราะ เลข 7 นั้นกรีกถือว่าเป็นเลขที่ศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง
สิ่งมหัศจรรย์ของโลก 7 อย่าง สมัยโบราณเป็นผลงานของมนุษย์ทางด้านวิศวกรรม สถาปัตยกรรมและ
ศิลปะชวนพิศวง จากยุคสมัยแรกเริ่มอารยธรรมของโลกในแถบลุ่มแม่น้ำไนล์ ในอียิปต์ ถึงยุคความรุ่งเรืองของ
อารยธรรมกรีกโบราณ และยุคสมัยอาณาจักรโรมันเรืองอำนาจ สิ่งมหัศจรรย์ของโลกดึกดำบรรพ์นั้น บัดนี้เหลือ
ให้เห็นเพียงแค่พีระมิดของอียิปต์ แต่อีก 6 สิ่งนั้น ไม่มีปรากฎให้เห็นแล้ว สิ่งมหัศจรรย์ของโลกสมัยโบราณ ได้แก่
1.พีระมิดแห่งเมืองกิซา
2.มหาวิหารอาร์เทมีส
3.สุสานของกษัตริย์โมโซรุส
4.สวนลอยแห่งกรุงบาบิโลน
5.เทวรูปเทพเจ้าซีอุส
6.เทวรูปเทพเจ้าเฮลิออส
7.หอประภาคารโรส
โดยที่ประกาศไปข้างต้น คือ “เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคโบราณ”
ความคิดเห็น